บทที่ 9 - 1/2

983 Words
เจ๊หวานยืนเท้าสะเอว มือหนึ่งถือโทรศัพท์ไถฟีดข่าวอย่างเอาเป็นเอาตาย พอเห็นรูปอัญชันยืนแนบชิดภูผาในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้เท่านั้นแหละ “โอ๊ยยยย! ยืนชิดน้องซันสุดหล่อของฉันจนแทบจะสิงเข้าไปอยู่ในร่างแล้วนะ ยัยอัญชรา!!” เสียงบ่นดังแหลมจนอันอันที่นั่งปอกแอปเปิ้ลอยู่ข้าง ๆ ถึงกับสะดุ้งตาม เจ๊หวานไม่หยุด ยังไถสกรีนให้ดูอีกรอบพร้อมทำหน้าฟึดฟัด “ดูสิอัน! หน้าด้านสุด ๆ! แบบนี้ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยเหรอเนี่ย!? ดูก็รู้ว่าเป็นข่าวปลอมทั้งนั้น ค่ายน้องซันก็ทำกันลง…โอ๊ยย เจ๊โมโห!” จากนั้นเจ๊หวานก็ยกมือขึ้นมากุมอก ทำท่าเหมือนจะเป็นลม “เดี๋ยวนี้ไม่เห็นซันยิ้มเลย เจ๊แทบจะใจสลายแล้วนะลูก… ฮือออ น้องซันของเจ๊~~~” อันอันได้แต่หันไปยิ้มอ่อน ไม่อยากรับรู้ข่าวของ “เขา” อีกต่อไป เพียงได้ยินชื่อ…หัวใจของเธอก็กระตุกวาบ ทั้งที่คิดว่าผ่านมาเกือบเดือน ความรู้สึกน่าจะสงบลงแล้วแท้ ๆ เพื่อเบนความคิดตัวเอง เธอรีบยิ้มสดใสใส่เจ๊หวาน “วันนี้เจ๊มาพอดีเลย อันเพิ่งคิดสูตรเกี๊ยวใหม่ได้ เดี๋ยวทำให้ชิมน้า~” เจ๊หวานตาโตทันที “ดีเลย! เจ๊จะได้กินดับโมโหเนี่ย! เจ๊โทรไปถามตาโชคมาแล้ว ตานั่นก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บอกว่า ‘เป็นข่าวจริง’ เจ๊แทบจะอยากบุกไปเขย่าคอมันให้ไขมันหลุดออกมาทีเดียว!” อันอันหลุดหัวเราะเบา ๆ ภาพเจ๊หวานไปเขย่าพี่โชคจนไขมันสั่นดึ๋ง ๆ ลอยเข้ามาในหัวทันที ตอนนี้ “คุณโชคของเจ๊หวาน” กลายเป็น ‘ตาโชค’ ไปเรียบร้อยแล้ว ดูท่าแล้ว…สองคนนั้นคงคุยกันบ่อยจนสนิทระดับตั้งชื่อเล่นกันเองได้แล้วล่ะ หลังบ่นหนึ่งยก เจ๊หวานก็กลับไปฟึดฟัดใส่โทรศัพท์อีกรอบ ไถฟีดโซเชียลไปพร้อมเสียงบ่นกระปอดกระแปดที่ดังเป็นจังหวะ ๆ “โอ๊ยยย ช่วงนี้ฟีดเจ๊มีแต่ข่าวน้องซัน! ยิ่งมีละครออนแอร์ กลุ่มชิปเปอร์ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ชิปฯ อัญ–ซันอีก! ทำไม๊~ ทำไมยัยอัญชราต้องมีชื่อพ้องกับน้องอันของเจ๊ด้วยนะ” เจ๊หวานทำหน้างอใส่มือถืออย่างกับมือถือเป็นคนผิด “ชิปเปอร์ ‘อันอัน–ซันซัน’ ของเจ๊น่ะ ดีต่อใจที่สุดแล้ว! แล้วนี่อะไร...ชิปฯ อัญ–ซัน โผล่มาเต็มหน้า เจ๊ละคันมืออยากลบโพสต์ให้หมด!” อันอันได้แต่ยิ้มเจื่อน แม้พยายามไม่ให้ใครสังเกตเห็นความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเอง เธอรู้สึกซาบซึ้งที่เจ๊หวานคอยเข้าข้างและปกป้องเธอแทบทุกลมหายใจ แต่ลึกลงไปในหัวใจ…มันก็ยังเจ็บหน่วงขึ้นมาอีกครั้งแบบห้ามไม่ได้ เธอถอนหายใจเบา ๆ พยายามกลืนความรู้สึกขมไว้ในอก อันอันได้แต่หวังว่า “เวลา” จะเป็นยาวิเศษ ช่วยเยียวยาหัวใจที่เจ็บนิด ๆ หน่วงหน่อย ๆ ของเธอให้ค่อย ๆ ดีขึ้น เพราะความจริงที่ต้องยอมรับก็คือ รักแรกของเธอ…รักข้างเดียว...มันสลายไปแล้ว และเธอต้องเรียนรู้ที่จะเก็บความทรงจำนั้นไว้ เหมือนบทหนึ่งในชีวิตที่สวยงาม…แม้จะจบลงเร็วกว่าที่คิดก็ตาม ... อันอันตัดสินใจหันมาโฟกัสเรื่องเรียนอย่างจริงจัง เธออยากเรียนให้จบภายในสี่ปีตามที่ตั้งใจไว้ และเพื่อไม่ให้การเรียนสะดุด เธอจึงลดรับงานแสดงลง แม้จะเคยไต่บันไดจนได้บทนางรองมาแล้วก็ตาม ตอนนี้เธอเลือกจะรับแค่บทตัวประกอบเบา ๆ พอให้ไม่ลืมกล้อง ไม่ลืมกองถ่าย เพราะสิ่งหนึ่งที่เธออยากเห็นที่สุด… คือรอยยิ้มภูมิใจของป๊ากับแม่ในวันรับปริญญา นอกจากเรื่องเรียน อันอันยังแอบวางแผนเล็ก ๆ ในใจ เธออยากร้องเพลง ตั้งแต่เด็กเธอเรียนร้องเพลงเพราะเป็นความฝันของป๊า ที่หวังลึก ๆ ว่าจะมีลูกสักคนร้องเพลงได้เพราะ ๆ เธอไม่ได้ต้องการจะออกอัลบั้มใหญ่โตหรือโปรโมทให้วุ่นวาย แค่อยากมี “เพลงของตัวเอง” เพลงเบา ๆ ใส ๆ ที่คนอยากฟังกดเปิดในวันสบาย ๆ ก็พอแล้ว แต่ติดอยู่อย่างเดียว…เธอไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เขียนเพลงก็ยาก แต่งทำนองก็ยิ่งยากกว่า กระทั่งวันหนึ่ง เจ๊หวานก็โผล่เข้ามาพร้อมสีหน้าลุ้นระทึก ในมือมีกระดาษโน้ตเพลงกับไฟล์ทำนองที่เพิ่งได้รับมา “อัน! เจ๊หาเพลงมาให้อันร้องได้แล้วนะ!” อันอันทำตาโตทันที “เอ๊ะ? จากใครเหรอคะเจ๊?” เจ๊หวานยิ้มกว้าง “เจ๊รู้จักคนแต่งเพลงคนนึง เขาเป็นแฟนคลับของอันด้วย เจ๊เลยลองเอ่ยปากขอให้เขาทำเพลงให้เล่น ๆ…ที่ไหนได้ เขาแต่งให้อันแบบเต็มใจเลยน้า~” เพลงพร้อม ทำนองพร้อม ส่วนเรื่องดนตรีและการอัด เจ๊หวานก็เตรียมคอนเนกชันไว้ให้เรียบร้อย ทั้งวงและห้องอัดมีพร้อมสรรพ อันอันดีใจจนยิ้มแก้มปริ แต่ก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่าอยากจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้คนแต่งเพลง เพราะไม่อยากเอาเปรียบใคร แต่สุดท้าย…แฟนคลับปริศนาคนนั้นกลับปฏิเสธไม่รับเงินแม้แต่บาทเดียว โดยบอกว่าแค่ให้อันอันขึ้นชื่อเขาในเครดิตเพลงก็พอแล้ว เขาใช้ชื่อในเครดิตว่า “นางฟ้ามีปีก” อันอันยิ้มเขินกับชื่อที่ดูอบอุ่นและน่ารักจนหัวใจพอง เธอไม่ทันเอะใจเลยว่า…ทำไมทุกอย่างถึงประจวบเหมาะเสียจนเหมือนพรหมลิขิตกำลังช่วยผลักเธอให้ก้าวต่อไปอย่างงดงาม …
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD