บทที่ 7 -1/2

1355 Words
หลังจากหมดงานพิธีกรแล้ว ชีวิตของอันอันก็กลับเข้าสู่โหมดวุ่นวายเต็มตัวอีกครั้ง ทั้งเรียน ทั้งช่วยงานที่บ้าน เรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลานั่งเฉยเลยสักวัน นอกจากเรียนในมหาวิทยาลัย เธอยัง “หารายได้พิเศษ” ด้วยการช่วยป๊าแม่ดูแลร้านเกี๊ยวของครอบครัว เช้าไปเรียน บ่ายหรือเย็นมาช่วยรับออเดอร์ ล้างจาน ปิดร้าน วนลูปชีวิตที่ทั้งเหนื่อยแต่ก็อบอุ่นใจอย่างมีความสุข บางครั้งก็มีลูกค้าขาจรที่จำเธอได้จากรายการ เพลงเพลินบันเทิงใจ พอเห็นหน้าเท่านั้นก็ร้องเสียงดังอย่างตื่นเต้น “นั่นน้องอันอันใช่ไหมคะ!? ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม~” อันอันยิ้มแป้นทันที “ได้เลยค่า~ ช่วยรีวิวว่าเกี๊ยวร้านอันอร่อยที่สุดในประเทศด้วยนะคะ!” เรียกได้ว่าไม่เสียชื่อพิธีกรสายฮา เพราะเธอไม่พลาดจะใช้ทุกจังหวะโปรโมตร้านไปในตัว ลูกค้าหลายคนก็เลยกลายเป็นขาประจำ บางคนถึงกับพูดขำ ๆ ว่า “มากินเกี๊ยวเพราะหิว หรือเพราะอยากถ่ายรูปกับน้องอันอันก็ไม่รู้~” อันอันหัวเราะร่า “จะเหตุผลข้อไหนก็ได้ค่ะ~ ร้านเกี๊ยวของอันอันยินดีต้อนรับเสมอ!” และในขณะที่ชีวิตกลับมาเรียบง่ายอีกครั้ง เธอก็ยังคงยิ้มได้เสมอ เพราะไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือหลังเคาน์เตอร์ร้านอาหาร อันอันก็ยังคงเป็น “อันอันคนเดิม” หญิงสาวที่เต็มไปด้วยพลัง สดใส และพร้อมสร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้างเสมอ แต่ถึงจะยุ่งแค่ไหน... พอถึงวันศุกร์ทีไร หัวใจเธอก็อดรู้สึก “ตงิด ๆ” ไม่ได้ เพราะปกติ... วนศุกร์คือวันที่เธอจะได้ “กัด แซะ และแกล้ง” เจ้าชายมาดนิ่งตัวโย่งนั่น! “ชักจะคิดถึงแล้วสิ...ปกติวันนี้ต้องได้ฝึกสมองแผนแกล้งนายเพนกวินนี่นา~” พูดจบก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคนเดียว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์ไลน์หาเจ๊หวานทันที อันอันนางฟ้าที่สวยที่สุดในจักรวาล: เจ๊หวานนนนนนนนนคะ เจ๊หวานนางจักรวาลที่สวยที่สุดบนฟ้า: ว่าไงอัน มีอะไรหรือเปล่า อันอันนางฟ้าที่สวยที่สุดในจักรวาล: เจ๊มีไลน์ของคุณภูผาไหมคะ? เจ๊หวานนางจักรวาลที่สวยที่สุดบนฟ้า: แน่ะ จะเอาไปทำอะไร? สุดหล่อคนนี้เจ๊หวงนะ! แต่เอาเถอะ เจ๊หวงอันมากกว่า...เราเป็นผู้หญิงยิงเรือ จะทักผู้ชายก่อนแบบนี้ได้ยังไงกันยะ~ อันอันนางฟ้าที่สวยที่สุดในจักรวาล: อันแค่จะถามเขาเฉย ๆ ค่ะ ว่าอาหารที่ร้านอันอร่อยไหม เห็นเขามาทานบ่อย ๆ แล้วช่วงนี้หายไปเลย กลัวว่าเขาเจออะไรไม่ถูกปาก... เจ๊หวานนางจักรวาลที่สวยที่สุดบนฟ้า: หืม...เหตุผลฟังขึ้นอยู่นะเนี่ย~ โอเค เดี๋ยวเจ๊ถามคุณโชคให้นะ แป๊บนึง อันอันนางฟ้าที่สวยที่สุดในจักรวาล: ขอบคุณค่ะ เจ๊หวาน~ สาวสวยที่สุดในอวกาศ! เจ๊หวานนางจักรวาลที่สวยที่สุดบนฟ้า: คำชมมันทะแม่ง ๆ นะอัน...ขอแค่ “สวยสุดบนฟ้า” ก็พอแล้วจ้ะ และถ้ามีเทวดาหล่อ ๆ ห้อมล้อมเยอะ ๆ ด้วยก็ยิ่งดี! อันอันหัวเราะออกมาลั่นร้านทันที ลูกค้าบางโต๊ะถึงกับหันมามองด้วยความสงสัย เธอยกมือป้องปากหัวเราะเบา ๆ พลางพึมพำกับตัวเอง ‘ขอให้เจ๊หวานสมใจค่ะ’ ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้น ติ๊ง! เจ๊หวานนางจักรวาลที่สวยที่สุดบนฟ้า: นี่เลยจ้ะ ไอดีคุณภูผาที่อันอยากได้~ อิอิ ไว้เจ๊จะส่งไลน์ไปเต๊าะภูผาสุดหล่อบ้างเหมือนกัน 😘 อันอันอ่านจบแล้วยิ้มขำ เธอมองไอดีไลน์ที่เพิ่งได้รับบนหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง นิ้วเรียวเลื่อนแตะที่ชื่อ “ภูผา” แต่ก็ชะงัก... หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล “จะทักดีไหมนะ...” ในหัวมีเสียงเจ๊หวานลอยวนอยู่ “ผู้หญิงยิงเรือจะไปทักผู้ชายก่อนได้ยังไง!” แต่ขณะเดียวกัน อีกเสียงในใจก็แย้งกลับเบา ๆ “ก็แค่ถามเรื่องอาหารเฉย ๆ เองนี่นา ไม่ได้คิดอะไร...สักหน่อย” อันอันสูดหายใจลึก ก่อนหลับตาแล้วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ‘เอาวะ...แค่ทักถามธรรมดา ๆ’ เธอพิมพ์ข้อความลงไปอย่างช้า ๆ อันอัน: สวัสดีค่ะ คุณภูผา นิ้วของเธอลอยเหนือปุ่ม ส่ง อยู่นานจนใจเต้นตุ้บ ๆ สุดท้าย...ก็แตะส่งไปจนได้ ข้อความถูกส่งแล้ว เธอจ้องหน้าจออย่างลุ้นระทึก 1 นาที...3 นาที...5 นาทีผ่านไป ยังไม่มีการตอบกลับ อันอันถอนหายใจเบา ๆ แล้ววางมือถือลงเพื่อไปทำเรื่องอื่น ‘สงสัยคุณเจ้าชายจะไม่ว่างล่ะมั้ง~’ ... ภูผานั่งนิ่งอยู่พักใหญ่ มองข้อความบนหน้าจอมือถือที่เพิ่งเด้งขึ้นมา อันอัน: สวัสดีค่ะ คุณภูผา นิ้วของเขาแตะหน้าจอเบา ๆ แต่กลับไม่พิมพ์อะไรต่อ สายตายังคงจับจ้องชื่อของเธออยู่อย่างนั้น ความจริงแล้ว...เขาได้ไอดีไลน์ของเธอจากพี่โชคมาสักพักแล้ว แต่เพราะตารางงานที่เริ่มแน่นขึ้นจากการเตรียมตัวถ่ายละครเรื่องแรก และ...ความไม่กล้าบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจ เขาก็เลยยังไม่เคยกล้าทักไปเลยสักครั้ง ภาพหญิงสาวในชุดเจ้าสาวจากวันสุดท้ายของรายการผุดขึ้นมาในหัว เธอยิ้มตาเป็นประกาย เสียงใสจนเขาเผลอยิ้มตามทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาด เขาเลื่อนนิ้วแตะที่หน้าจออีกครั้ง...แล้วหยุด “จะตอบว่าอะไรดีนะ...” เพียงประโยคสั้น ๆ จากเธอ กลับทำให้ความเงียบเหงาในใจที่มีมาหลายวันมลายหายไปทันที เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สูดลมหายใจลึก แล้วพิมพ์ตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง ภูผา: สวัสดีครับคุณอันอัน สบายดีนะครับ เขามองข้อความอยู่นานก่อนจะกด ส่ง หัวใจเต้นแรงกว่าตอนอ่านบทละครเสียอีก ไม่นานนัก เสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น อันอัน: อันสบายดีค่ะ~ เห็นคุณภูผากับพี่โชคไม่มาทานที่ร้านเลย อันกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาด จนเสียลูกค้าขาหญ่ายยยยยยยยอย่างคุณภูผาไปซะแล้วค่ะ~ 😣 ภูผาเผลอยิ้มออกมาทันที เสียงหัวเราะเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างขบขัน ภูผา: เรียกผมว่าซันก็ได้ครับ ช่วงนี้ผมกำลังเริ่มถ่ายละคร ส่วนพี่โชคก็ยุ่งเรื่องงานนิดหน่อย เลยยังไม่มีเวลาแวะไปที่ร้านของคุณอันเลย...แต่คิดถึงขนมเปี๊ยะต้นหอมมากครับ :) อันอัน: งั้นอันขอเรียกว่าพี่ซันนะคะ~ แล้วพี่ซันก็เรียกอันว่า “อันอัน” เฉย ๆ ก็ได้ ไม่ต้องมีคุณแล้วน้า~ หญิงสาวยิ้มกริ่มหลังพิมพ์ข้อความจบ พร้อมหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง “อิอิ ต้องเจอสกิลเต๊าะขั้นเทพของอันอันซะหน่อย~” ฝั่งภูผาอ่านข้อความนั้นจบ ก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนตอบกลับ ภูผา: ได้เลยครับ...อันอัน :) เพียงแค่ข้อความสั้น ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนต้องกุมหน้าไว้ และในคืนนั้น บนหน้าจอเล็ก ๆ ที่สว่างอยู่ในห้องเงียบ ๆ ของทั้งคู่ บทสนทนาเริ่มจาก “เรื่องอาหาร” ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น “เรื่องงาน” และสุดท้ายกลายเป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วไป แต่ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไร... เสียงแจ้งเตือน “ติ๊ง” จากอีกฝ่ายก็ทำให้ทั้งสองเผลอยิ้มออกมาเหมือนกันทุกครั้ง บทสนทนาสั้น ๆ ในคืนนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบางอย่าง บางอย่างที่อุ่นกว่าชาอู่หลงในร้านเกี๊ยวของเธอซะอีก ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD