ตอนที่ 1 อดีต

1481 Words
6 เดือนก่อน… เตยหอมอายุ 15ย่าง16ปี เรียนจบ ม.ต้นแล้วกำลังขึ้น ม.ปลาย วันนี้เป็นวันที่ฉันสูญเสียคนที่รักและเคารพไปอย่างไม่มีวันกลับ ท่านคือพ่อบุญธรรมของฉันเองค่ะ และฉันเป็นคนเดียวที่เห็นและรับรู้ว่าท่านตายยังไง แต่ก็ทำอะไรคนพวกนั้นไม่ได้เลย เพราะอะไรน่ะเหรอเพราะฉันก็กลายเป็นคนเสียชีวิตไปพร้อมกับพ่อบุญธรรมด้วยนะสิ 1 อาทิตย์ต่อมา… “นี่เป็นชื่อใหม่ของแก ในนี้มีใบเกิด,บัตรประชาชนและเอกสารต่างๆที่แกต้องใช้ ต่อไปนี้แกคือเตยหอม กชกร เอื้อวงศ์พันธ์ อายุ18ปี ไม่ใช่ไออุ่น ไอรดา กิตพิรัตน์อีกต่อไป ฉันกับแกไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เงินนี้เก็บไว้ใช้ฉันช่วยแกได้แค่นี้แหละ” ปลายฟ้าเอ่ยพร้อมทั้งยื่นเอกสารทุกอย่างให้กับอดีตลูกบุญธรรมเสร็จกำลังจะเดินจากไป แต่เตยหอมเรียกไว้ซะก่อน “คุณทำได้ยังไง…เอกสารปลอมพวกนี้มันผิดกฎหมายแล้วถ้าหนูเอาไปใช้จะไม่ถูกจับได้หรือคะ” เตยหอมถามอย่างเป็นกังวล “ฉันก็ไม่รู้…แต่แกคิดว่ามีทางเลือกที่ดีกว่านี้รึไงเล่า เอกสารพวกนี้ไม่มีใครจับได้หรอก เพราะฉันก็ทำมา10กว่าปีแล้วเหมือนกันไม่เห็นเจอกับอะไรหรือถ้าแกไม่ทำแบบนี้ฉันก็ไม่ได้บังคับหรอกนะ อยากกลับไปเจอกับอาสุดที่รักของแกฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร” ปลายฟ้าตอบคำถามอย่างไม่ใส่ใจกับลูกบุญธรรมที่เธอนึกอิจฉาใบหน้าสวยใสนั้นตลอดเวลาขณะที่เด็กสาวนั้นแตกเนื้อสาว ตอนนี้ทุกคนคิดว่าฉันเป็นคนฆ่าพ่อบุญธรรมแล้วหนีไปแต่หนีไม่รอดโดนรถบรรทุกชนจนตายคาที่ ถ้าฉันกลับไปอาจจะต้องเจอข้อหาฆ่าคนตายและยังต้องเจอกับน้องชายพ่อบุญธรรมขมขืนอีก เอาว่ะเป็นไงเป็นกันสู้ไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกันกลับบ้านไปก็ตายทั้งเป็น “ขอบคุณนะคะ…ถ้าไม่ได้คุณฉันคงแย่ แล้วคุณไม่ไปกับฉันเหรอคะอยู่ที่นั้นคุณก็ไม่มีใครแล้ว” เตยหอมยกมือไหว้ขอบคุณและถามขึ้นเพราะเป็นห่วง “ไม่ต้อง ฉันดูแลตัวเองได้…” ปลายฟ้าพูดจบก็เดินออกไปทันที พอพ้นสายตาของเตยหอมก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์น่ากลัว พลางคิดว่าจะทำงานใหญ่ทั้งทีเธอต้องทำให้ตัวล่อไว้ใจซะก่อน งานจะได้สำเร็จลุล่วง หึ หึ อิเด็กโง่ ทางด้านเตยหอมตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อไป จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี จึงเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย รู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่ที่สาธารณะแห่งหนึ่งในใจกลางกรุงเทพ ตอนนี้ก็เป็นเวลาพบคล่ำไฟข้างทางหรือตามตึกสูงต่างก็ทยอยกันไฟติดขึ้นทีละดวงสองดวง เตยหอมนั่งมองไฟด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย เธอมองเห็นคนเร่ร่อนที่นอนอยู่ตามฟุตบาทบ้าง นอนตามม้านั่งบ้าง และยังเห็นคนที่กำลังคุ้ยขยะเพื่อหาอาหารประทังชีวิต มองไปอีกทางก็เห็นคนพิการตาบอดกำลังนั่งพัก สงสัยคงพึ่งกลับมาจากการขายลอตเตอรี่ แล้วเธอหล่ะมีร่างกายที่สมบูรณ์ครบถ้วน มีเงินที่ถือว่าเยอะพอสมควรเพราะพ่อบุญธรรมของเธอได้ฝากไว้ให้โดยไม่ได้บอกใคร เธอยังมีโอกาสและทางเลือกเยอะกว่าคนเหล่านี้เสียอีก เธอต้องสู้สิห้ามยอมแพ้ ขนาดคนพิการเขายังสู้และไม่คิดจะยอมแพ้เลย เอาว่ะ!!… สู้ๆไออุ่นคนสวย เอ๊ะ!!ไม่ใช่สิ สู้ๆเตยหอมคนสวย เมื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก่อนอื่นเลยเธอต้องหาที่พักก่อน แล้วค่อยหางานและหาโรงเรียน…ไม่ใช่สิตอนนี้เธอต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยแล้วนี่น่า เตยหอมเดินมาสักพักเธอสังเกตเห็นว่าที่นี้ส่วนมากจะมีนักศึกษามหาลัยเยอะพอสมควร แสดงว่าแถวๆนี้ต้องมีมหาลัยอยู่แน่นอน ดีเลยเธอจะได้ไม่ต้องไปไกลลองสอบถามคนแถวนี้ดูดีกว่า เอ๊ะ! นั่นใครมานอนอยู่ตรงนี้ ดูจากการแต่งตัวแล้วก็ไม่น่าจะใช่คนเร่ร่อน เขาอาจจะกำลังลำบากแบบเราอยู่ก็ได้ ลองเข้าไปดูหน่อยดีกว่า เตยหอมเดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงกับตกใจร้องเสียงหลง เพราะคนตรงหน้าเธอกำลังได้รับบาดเจ็บเลือดไหลออกเต็มหน้าไปหมดและยังมีเลือดไหลออกบริเวณท้องที่เขากำลังใช้มือกดไว้อยู่นั้นอีก “คุณ…คุณ…ได้ยินที่ฉันเรียกไหม…เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ” เตยหอมนั่งลงถามคนที่ได้รับบาดเจ็บอยากจะเขย่าตัวถามแต่ก็ไม่กล้า “ชะ…ช่วยด้วย…โทรศัพท์ผม…โทรหา…เบอร์สุดท้าย” เวหาชี้ไปที่โทรศัพท์และพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา เพราะเขาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว เตยหอมพอเข้าใจที่คนเจ็บกำลังจะบอกกับเธอ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่พอจะกดเข้าไปกลับกดไม่ได้เพราะต้องใส่รหัสผ่าน “คุณ…ขอโทษนะคะพอดีต้องใส่รหัสผ่านด้วย…คุณพอจำรหัสได้ไหมคะ” เตยหอมถามอย่างไม่เต็มเสียงเพราะเหมือนไปละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเขา แต่เธอก็ต้องทำเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง “800808…” เวหามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอคนนั้น…ทว่ามองแค่แปปเดียวเวหาก็ทนต่อความเจ็บที่แผลไม่ไหวก่อนทุกอย่างก็ดับมืดลง ทางด้านเตยหอมที่พอรู้รหัสผ่านแล้วก็กดเข้าไปอย่างเร็วแล้วเลื่อนหาเบอร์ล่าสุดที่โทรเข้าหรือโทรออก พอเจอแล้วเธอจึงรีบโทรออกหาทันที “สวัสดีค่ะ…คุณรู้จักกับเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ใช่ไหมคะ” พอมีคนรับเตยหอมก็รีบพูดออกไปทันที เพราะคนบาดเจ็บได้หมดสติไปแล้ว “ครับ ผมเป็นพี่ขายเขาแล้วคุณเป็นใคร…” ไต้ฝุ่นยังพูดไม่ทันจบเตยหอมก็พูดแทรกทันที “อย่าพึ่งพูดหรือถามอะไรตอนนี้เลยนะคะ ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัสมากและได้สลบไปแล้ว ฉันไม่รู้จะทำยังไง….” เตยหอมบอกกับคนปลายสายเสียงสั่นเพราะกลัวว่าคนที่สลบไปจะตาย เธอคงรับไม่ไหวแน่ถ้าได้เห็นคนตายต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง “คุณใจเย็นๆก่อนแล้วค่อยๆตั้งสติ บอกผมมาว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนผมจะได้ส่งรถพยาบาลให้ไปรับ” ไต้ฝุ่นถามขึ้นอย่างใจเย็น ทั้งที่ตอนนี้ในใจเข้ามันร้อนยิ่งกว่าไฟ เขาอยากรู้จริงๆว่าใครมันกล้ามาทำร้ายน้องชายของเขา สงสัยมันคงไม่อยากอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป จากนั้นเตยหอมก็ใช้โทรศัพท์คนเจ็บแชร์โลเคชั่นไปให้พี่ชายของเขา รอไม่ถึง5นาทีก็มีรถพยาบาลและรถสปอร์ตหรูอีก3คันขับตามกันมา เธอคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วจึงแยกตัวเดินออกมา แต่ยังเดินไม่ถึงไหนก็มีคนเรียกเธอไว้ซะก่อน “คุณ…คุณครับอย่าพึ่งไป…” ไต้ฝุ่นเรียกคนที่คิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงที่โทรไปหาเขาไว้ก่อน “คะ!…เรียกฉันเหรอคะ…” เตยหอมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงงๆ “ครับ…คุณใช่คนที่โทรหาคนมาช่วยน้องชายผมรึเปล่า” ไต้ฝุ่นถามสาวน้อยตรงหน้า “อ๋อ!! ถ้าหมายถึงคนที่บาดเจ็บก็ใช่ค่ะ แต่ฉันไม่ได้เป็นคนทำเขานะฉันแค่เดินผ่านไปเจอเท่านั้น คุณเชื่อฉันนะคะ ฉันไม่ได้เป็นคนทำให้เขาเจ็บ” เตยหอมตอบกลับไต้ฝุ่นโดยไม่ได้คิดอะไร แต่อยู่ดีๆก็คิดว่าเขาคงคิดว่าเธอเป็นคนทำร้ายน้องชายเขารึเปล่าเหมือนกับเหตุการณ์ของพ่อบุญธรรม จึงบอกออกไปอีกครั้งอย่างร้อนรน “ครับ ผมขอ…” ไต้ฝุ่นยังพูดไม่จบเธอก็พูดขึ้นมาก่อนเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง “คุณ ใจเย็นก่อนผมไม่ได้สงสัยอะไรคุณ แค่จะมาขอบคุณที่ช่วยน้องชายผมไว้ก็เท่านั้น นี่เป็นนามบัตรของผมนะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็อย่าเกรงใจติดต่อมาได้ตลอดเลย ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือ ผมคงต้องขอตัวก่อน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD