ตัวประกัน​

1500 Words
เช้าวันต่อมา “ อื้อ………” หนูนิดที่นอนหลับสนิททั้งคืน แต่เธอไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนนี้เธอนอนอยู่กับใคร ด้วยความเหนื่อยล้าจากการร้องไห้แล้วก็คิดหนักเรื่องที่เกิดขึ้น หนูนิดที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแบบที่เธอไม่ทันได้ลืมตา แต่ความรู้สึกแปลกๆของหนูนิดที่เธอคิดว่ากอดหมอนข้างที่ห้องนอนของเธอนั้น มือน้อยๆนิ้วเรียวสวยของเธออยู่ๆก็ไปจับเข้าอับอะไรที่แข็งๆเป็นแท่งใหญ่ๆเท่าแขน หนูนิดที่จับของบางอย่างอยู่นั้นอาเธอร์ที่หลับตายอมให้เธอหนูนิดนอนกอดทั้งคืนเขาก็พูดออกมาทั้งที่ตายังหลับอยู่ “ จะจับอีกนานไหม “ อาเธอร์ พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา หนูนิดที่ได้ยินเสียงผู้ชายที่เธอไม่คุ้นเคย หญิงสาวเธอก็ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจแต่มือของเธเอกับไม่ปล่อย “ ว๊าย….. ค / คุณ คุณ คุณมาทำอะไรที่นี้คะ “ หนูนิดเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาเธอก็ทำหน้าตาตื่นตกใจพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอ้าปากค้างพร้อมกับช๊อกตาตั้ง อาเธอร์ที่เห็นสีหน้าแบบนั้นของเธอเขาก็มองหน้าเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะพูดออกมาว่า “ ปล่อยได้แล้ว อย่าบอกนะว่าอยากมากเห็นมันใหญ่กว่าไอ้เจ้าของผับนั้นก็เลยไม่ยอมละสิ “ อาเธอร์ พูดออกมาด้วยน้ำสเียงเรียบนิ่ง พร้อมกับสายตามองมาที่เธอสลับกับใต้ผ้าห่ม หนูนิดเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็มองไปที่สายตาของเขาที่มองต่ำลงมาบวกกับความรู้สึกของมือน้อยๆของเธอที่ตอนนี้มีอะไรบางอย่างกระดุกกระดิ่กบวกกับแข็งอย่างกับท่อนไม้ หนูนิดค่อยๆเปิดผ้าห่มออกจากนั้นเธอก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ “ ว๊าย….” พรึบ หนูนิดที่รู้แล้วว่ามือของเธอที่จับอะไรดุกดิกและก็แท่งใหญ่เท่าแขน หนูนิดเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ตื่นตกใจร้องว๊ายออกพร้อมกับปล่อยมือแล้วก็กระโดดลงเตียงด้วยความตกใจ “ จะตกใจอะไรนักหนา ฉันปล่อยให้เธอนอนลวนลามฉันทั้งคืนแท้ๆ “ อาเธอร์ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับลุกขึ้นมานั่งเอาหลังพิงที่เตียง โดยที่ไม่มีผ้าห่มปกปิดร่างกายที่ไม่มีเสื้อจนเผยให้เห็นซิกแพกเป็นลูกๆแล้วก็รอยสักที่เต็มตัวอย่างกับหนังสือพิมพ์ หนุนิดเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ถึงกับตกใจอ้าปากค้างยิ่งคำพูดของเขาที่บอกว่าเธอนอนกอดเขาทั้งคืน นั้นหมายความว่าเธอกับเขานอนกันทั้งคืน อาเธอร์ที่เห็นหญิงสาวยืนหน้าตาตื่นแล้วก็ตัวของเธอก็แข็งทื่ออย่างกับว่าเธอโดนมนต์สะกด พลึบ “ ทำไม ทำอย่างกับว่าเธอ เพิ่งเคยจับเป็นครั้งแรกอย่างนั้นแหละ // ทำไมมันใหญ่กว่าทุกคนที่เธอเคยเจอเหรอ หึหึหึ “ อาเธอร์ เดินลงมาจากเตียงพร้อมกับเดินเข้ามากระซิบข้างหูของเธอ หนูนิดที่ยืนอ้าปากค้างอยู่นั้นเมื่อพอเธอได้ยินชายหนุ่มพูดบวกกับสายตาและก็รอยยิ้มที่กวนแล้วก็ดูถูกเธอเล่นเอาหนูนิดยิ่งตกใจมองหน้าเขาด้วยสายตาตกตะลึง เวลาต่อมา พรึบ พรึบ พรึบ “ ขึ้นไปอย่าชักช้าเธอรู้ไหมว่าฉันเสียเวลากับเธอนานแค่ไหน “ อาเธอร์ผลักหลังของหนูนิดให้ขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัวของตน หนูนิดที่ยืนอยู่เธอก็มองมาด้านหลังด้วยความลังเลทั้งน้ำตา เมื่ออาเธอร์เห็นว่าเสียเวลามากแล้วเขาก็รีบดันหลังของหนูนิดให้รีบขึนเครื่องบินไป จากหนูนิดก็หันหน้ามาทางเครื่องบินพร้อมกับปาดน้ำตาแล้วก็เดินขึ้นเครื่องบินไป “ อึก อึก อึก กระซิก กระซิก “ หนูนิด เมื่อขึ้นมาถึงเครื่องบินเธอก็มานั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างแล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยความรู็สึกอัดอั้นตันใจ ความรู้สึกกลัว ความรู้สึกอึดอัด และก็โกรธ ความรู้สึกกดดันต่างๆที่มากมายมันวิ่งเข้ามาในหัวของเธอ จนเกินที่เธอจะทนต่อไปได้อีก “ ทำไม ฉันเอาเธอไปเป็นตัวประกันไม่ได้เอาเธอไปฆ่าซะหน่อย แล้วอีกอย่างเธอไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทำอะไรเธอ เพราะฉันไม่ชอบเด็กใจแตก “ อาเธอร์ เมื่อเดินเข้ามาในตัวเครื่องเขาก็เลือบตามองไปยังหญิงสาวก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งว่าเขาจะไม่ยุ่งกับเธอแล้วอีกอย่างเพื่อทำให้เธอสบายใจได้เขาก็บอกเธอไปอีกว่าไม่ต้องกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอ ที่เขาเอาเธอมาเป็นเพราะหนี้ที่อาของเขาติดเอาไว้เท่านั้น หนูนิดเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็มองค้อนชายหนุ่มด้วยความรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่โดนดูถูดว่าเธอเป็นเด็กใจแตก แต่เธอก็ไม่ได้พูดและก็ไม่อยากอธิบายอะไรให้เขาฟังเพราะเธอคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรเท่ากับตอนนี้เขาจะเอาเธอไปไว้ที่ไหนกันแน่ ผลึบ ผลึบ ผลึบ เวลาต่อมา ประเทศอเมริกา หลังจากที่ผ่านมานานมากว่า14ชั่วโมง หนูนิดและก็มาเฟียใหญ่ก็บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงประเทศอเมริกาหนูนิดที่หลับแล้วหลับอีก ตื่นแล้วตื่นอีกก็มาถึงคฤหาสน์หรูของอาเธอร์ “ ลงมา “ อาเธอร์เดินเข้ามาเอาเท้าสะกิดที่ขาของหนูนิดปลุกเพื่อให้เธอตื่น หนูนิดที่นอนหลับอยู่นั้นเมื่อมาถึงเธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าด้วยความที่การเดินทางยาวนานแสนนาน พอเธอโดนปลุกให้ตื่นจากการนอนเธอก็งัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อโดนปลาวยเท้าสะกิดเบาๆ “ นี้คุณ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ “ หนูนิดเธอพูดออกมาด้วยความรู้สึกโกรธเมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วก็มาเจอเข้ากับวิธิการปลุกของอาเธอร์ นั้นเลยทำให้หนูนิดโกรธเป็นอย่างมาก อาเธอร์เมื่อโดนพูดแบบนั้นเขาไม่สนใจอะไรเธอเลย แถมเขายังเดินออกมาจากตัวเครื่องทันที “ ไอ้บ้าเอ้ย “ หนูนิดเมื่อเห็นว่าอาเธอร์เดินเชิดหน้าหนีเธอโดยที่เธอไม่สนใจอะไร นั้นเลยทำให้หนูนิดโกรธมากจนเธอด่าเขาออกมาด้วยเสียงเบาจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินตามเขาออกมา “ นายครับ คุณรูซี่มารอแล้วครับ “ เมื่ออาเธอร์เดินลงมาถึงลูกน้องที่รอรับอยู่ก็ลงมารับ พร้อมกับบอกเจ้านายว่าใครมารอพบ อาเธอร์เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็เดินตรงไปยังคฤหาสน์หรูตัวเอง ส่วนหนูนิดที่เดินตามหลังมา เธอก้ต้องหยุดเมื่อลูกน้องของอาเธอร์ผ่ายมือออกให้เธอเดินมาอีกทางหนึ่ง “ เชิญทางนี้ครับ “ ลูกน้องของอาเธอร์ ผ่ายมือออกบอกให้หญิงสาวที่เป้นตัวประกันไปตามทางที่เขาได้จัดไว้เพื่อเธอ หนูนิดที่อยู่ในชุดธรรมดาเมื่อเดินลงมาวจากเครื่องบินเธอก็สัมผัสได้กับความเย็นความหนาวเล่นเอาเธอถึงกับยืนสั่นเอามือขึ้นมากอดอกเพื่อให้ตัวเองอบอุ่นพร้อมกับเดินตามชายชุดสูทสีดำไป แก๊ก “ นี้ห้องพักของคุณครับ “ คนของอาเธอร์เดินเข้ามาเปิดประตูของห้องที่ดูคลายๆกับบังกะโลหลังเล็กเหมือนกับบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวตามชายหาด เมื่อประตูเปิดออกหนูนิดเธอก็เดินเข้าไปเธอก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจเพราะด้านในมันดูดีมาก…..มีเตียงนอนขนาดคิงไซต์ เตาผิงไฟ ห้องน้ำ ห้องแต่งตัวและที่สำคัญมันสวยมากอบอุ่นมาก แค่เธอเข้ามาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลย “ ตามสบายนะครับ “ แก๊ก เมื่อชายชุดสูทเดินเข้ามาสั่งหนูนิดเขาก็ปล่อยให้หญิงสาวพักผ่อนตามอัธยาศัยก่อนจะเดินออกมาปล่อยให้เธออยู่ตามลำพัง ครื้ด……. ด้วยความเหนื่อยถึงแม้ว่าเธอจะตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอเห็นแต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาที่นี้นั้นเลยทำให้เธออยากอาบน้ำชำระร่างกายแล้วก็นอน นั้นเลยทำให้หนูนิดเดินเข้ามาเปิดน้ำร้อนลงที่อ่างเธออยากลงไปแช่เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD