บทที่ 9.3 ต่างหูทองคำขาว

1593 Words
ณ ลานจอดรถผู้บริหาร สุทธาทร กรุ๊ป – เวลา 11:30 น. ภาคินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเป็นครั้งที่สามด้วยความหงุดหงิดใจ วันนี้เขามีนัดทานข้าวกลางวันกับ พิมพ์ลดา ซึ่งไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา แต่เกิดจาก "คำสั่งประกาศิต" ของคุณหญิงนภา มารดาของเขา ที่โทรมากำชับตั้งแต่เช้าตรู่ว่าให้พาคู่หมั้นไปเปิดหูเปิดตาและกระชับความสัมพันธ์ "เฮ้อ..." ภาคินถอนหายใจยาว ถึงแม้จะหมั้นกันมานาน เเต่เวลาก็ไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกสนใจในตัวของพิมพ์ลดาได้เลยเเต่ เพียงเพราะการหมั้นหมายทางธุรกิจที่เขายากที่จะปฏิเสธ เมื่อรถสปอร์ตสีดำมันวาวแล่นมาจอดเทียบท่า พิมพ์ลดาในชุดเดรสสีพาสเทลแบรนด์หรูราคาแพงระยับ ก็ก้าวขึ้นรถมาพร้อมรอยยิ้มหวานหยดย้อย กลิ่นน้ำหอมราคาแพงฟุ้งกระจายไปทั่วห้องโดยสาร ทับกลิ่นอ่อนๆ ของดอกไม้ป่าที่ภาคินคุ้นเคยจางๆ "รอนานไหมคะพี่คิน พิมพ์ตื่นเต้นจังเลยค่ะ นานเเล้วนะคะที่เราไม่ได้ทานข้าวกัน ตั้งแต่พี่คินรับตำแหน่งรองประธานก็ไม่ค่อยมีเวลาให้พิมพ์เลย" พิมพ์ลดาเอื้อมมือมาเกาะแขนภาคินอย่างออดอ้อน แสดงความเป็นเจ้าของทันทีที่ประตูรถปิดลง "ไม่นานครับ" ภาคินตอบตามมารยาท พยายามดึงแขนออกเบาๆ เพื่อจับพวงมาลัย "คุณแม่บอกว่าพิมพ์อยากทานอาหารอิตาเลียน พี่จองร้านประจำไว้ให้แล้ว" "น่ารักที่สุดเลยค่ะ" พิมพ์ลดาขยับตัวจัดท่านั่งให้สง่างามที่สุด เธอตั้งใจจะใช้มื้อเที่ยงนี้ในการหว่านล้อมภาคินเรื่องงานแต่งงานที่เธอกำลังเร่งรัด ในจังหวะที่รถเลี้ยวโค้งออกจากบริษัท พิมพ์ลดาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าคลัทช์ที่วางไว้บนตัก แต่ด้วยความไม่ระวัง ลิปสติกแท่งหรูของเธอกลิ้งตกลงไปที่พื้นรถฝั่งคนนั่ง "อุ๊ย!" พิมพ์ลดาร้องเบาๆ "เดี๋ยวพี่จอดเก็บให้" ภาคินกำลังจะชะลอรถ "ไม่เป็นไรค่ะพี่คิน ขับไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพิมพ์เก็บเอง" พิมพ์ลดาไม่อยากให้เสียจังหวะการเดินทาง เธอก้มตัวลงต่ำ เอื้อมมือลงไปควานหาลิปสติกที่กลิ้งเข้าไปใต้เบาะ มือเรียวสวยที่ทำเล็บมาอย่างดีสัมผัสเข้ากับวัตถุเย็นๆ บางอย่างที่แข็งและเล็กกว่าลิปสติก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับลิปสติกของเธอ เมื่อเธอยืดตัวขึ้นมานั่ง และแบมือออกดู... เลือดในกายของพิมพ์ลดาก็เย็นเฉียบลงทันที บนฝ่ามือของเธอ... คือ ต่างหูทองคำขาว ดีไซน์เรียบหรูแต่มองปราดเดียวก็รู้ว่ามีราคา ไม่ใช่ของตลาดนัด และที่สำคัญ... มันไม่ใช่ของเธอ ความเงียบเข้าปกคลุมรถชั่วขณะ พิมพ์ลดาจ้องมองต่างหูข้างนั้นเขม็ง สมองของเธอประมวลผลอย่างรวดเร็ว นี่รถส่วนตัวของภาคิน... เขาหวงรถคันนี้มาก แทบไม่ให้ใครขึ้นนอกจากคนในครอบครัว แล้วต่างหูผู้หญิงมาตกอยู่ในซอกหลืบแบบนี้ได้อย่างไร? ภาพใบหน้าของ ลลิน ลอยเข้ามาในความคิดเป็นคนแรก นังเลขาหน้าห้อง... ความโกรธพุ่งพล่านขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอย พิมพ์ลดาอยากจะกรีดร้อง อยากจะปาต่างหูใส่หน้าภาคินแล้วตะคอกถามว่า "เอามันขึ้นรถมาทำไม!" หรือ "ไปทำอะไรกันมาถึงทำต่างหูหลุด!" แต่ทว่า... สัญชาตญาณของนักล่าบอกให้เธอหยุด เธอเหลือบมองภาคินที่ยังคงขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูเหมือนเขาจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ถ้าฉันโวยวายตอนนี้... พี่คินก็จะแค่แก้ตัว หรือไม่ก็ปกป้องมัน แล้วฉันก็จะกลายเป็นนางมารร้ายขี้หึงที่ไร้เหตุผลในสายตาเขาอีก... ไม่ได้ ฉันจะพลาดไม่ได้ พิมพ์ลดากำต่างหูข้างนั้นแน่นจนคมเพชรบาดฝ่ามือ เธอสูดหายใจลึก ข่มความโกรธไว้ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอแอบหย่อนต่างหูข้างนั้นลงในกระเป๋าคลัทช์ของตัวเองอย่างเงียบเชียบ แกทิ้งร่องรอยไว้ประกาศศักดาเหรอนังลลิน... ได้... ถ้าแกอยากเล่นเกมใกล้ชิดนัก ฉันก็จะลงไปเล่นด้วย! "พี่คินคะ..." พิมพ์ลดาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ แต่แฝงความจริงจังบางอย่าง "ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งมากไหมคะ?" "ก็ยุ่งครับ ช่วงนี้กำลังเตรียมดีลใหญ่กับต่างชาติ" ภาคินตอบโดยไม่ละสายตาจากถนน "พิมพ์เห็นพี่คินทำงานหนัก พิมพ์เป็นห่วงจังเลยค่ะ คุณแม่เองก็บ่นกับพิมพ์ว่ากลัวพี่คินจะเครียดเกินไป" พิมพ์ลดาเริ่มปูทาง "พิมพ์เลยคิดว่า... พิมพ์อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระพี่คินบ้างน่ะค่ะ" ภาคินเลิกคิ้ว "พิมพ์เนี่ยนะ? พิมพ์ไม่เคยทำงานออฟฟิศนี่ครับ จะมาลำบากทำไม" "แหม พี่คินก็... พิมพ์จบบริหารมาเหมือนกันนะคะ ถึงจะไม่ได้เก่งเท่าพี่คิน แต่พิมพ์ก็อยากเรียนรู้งานของสุทธาทรไว้บ้าง อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตของเราไงคะ" พิมพ์ลดาเอื้อมมือไปลูบต้นแขนภาคินเบาๆ "ให้พิมพ์เข้าไปช่วยงานพี่คินเถอะนะคะ เป็นผู้ช่วยเลขา หรือผู้ประสานงานก็ได้ พิมพ์แค่อยากอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลเรื่องอาหารการกิน เรื่องจุกจิกให้พี่คิน จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณลลินเขามากเกินไป รายนั้นเขาทำงานหนักจะแย่แล้ว เดี๋ยวจะลาออกไปซะก่อน" ภาคินชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยินชื่อลลิน เขาลังเล "แต่ในออฟฟิศมันไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านนะพิมพ์ พี่กลัวเราจะเบื่อ" "ไม่เบื่อหรอกค่ะ เพื่อพี่คิน พิมพ์ทนได้... นะคะพี่คิน ให้พิมพ์ไปช่วยนะคะ" "เอาไว้พี่ลองปรึกษาคุณแม่ก่อนแล้วกันครับ" ภาคินตอบแบ่งรับแบ่งสู้ หวังว่าแม่จะห้าม แต่หารู้ไม่ว่า... นั่นคือเข้าทางพิมพ์ลดาพอดี คฤหาสน์สุทธาทร – ช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังจากมื้ออาหารที่แสนอึดอัด (สำหรับพิมพ์ลดาที่ต้องปั้นหน้ายิ้มทั้งที่ในกระเป๋ามีหลักฐานชิ้นสำคัญ) เธอรีบบึ่งรถกลับมาที่คฤหาสน์เพื่อพบกับ คุณหญิงนภา ทันที "คุณแม่ขา..." พิมพ์ลดาเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ คุณหญิงนภาที่กำลังจิบน้ำชายามบ่าย สีหน้าของเธอดูเศร้าสร้อยและกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด จนคุณหญิงต้องวางแก้วชาลง "เป็นอะไรไปหนูพิมพ์ ไปทานข้าวกับตาคินมาไม่ใช่เหรอ ทะเลาะกันหรือไง?" "เปล่าค่ะ... พี่คินน่ารักมาก" พิมพ์ลดาถอนหายใจ "แต่พิมพ์... พิมพ์ไม่สบายใจเรื่องงานของพี่คินน่ะค่ะ" "ทำไม?" พิมพ์ลดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปถ่ายใบหนึ่งให้คุณหญิงดู เป็นรูปแอบถ่าย (ที่เธอจ้างคนถ่ายไว้ก่อนหน้า) เห็นลลินเดินตามหลังภาคินถือแฟ้มเอกสารกองโต ดูใกล้ชิดและเป็นภาระหน้าที่ที่หนักหนา "พิมพ์เห็นพี่คินทำงานหนักมากเลยค่ะ แล้วเลขานุการคนนั้น... คุณลลินน่ะค่ะ ถึงเธอจะเก่ง แต่เธอก็เป็นแค่เด็กจบใหม่ พิมพ์กลัวว่าเธอจะดูแลพี่คินได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว เรื่องการเข้าสังคม หรือการต้อนรับลูกค้าผู้ใหญ่ที่ต้องใช้มารยาททางสังคมสูงๆ... เด็กอย่างนั้นอาจจะทำขายหน้าได้นะคะ" พิมพ์ลดาพูดด้วยน้ำเสียงหวังดีประสงค์ร้าย "คุณแม่คะ... พิมพ์อยากขออนุญาตคุณแม่ เข้าไปทำงานที่บริษัทค่ะ" "หืม? หนูพิมพ์จะไปทำอะไร งานหนักนะลูก" "พิมพ์อยากเข้าไปเป็น 'เลขาผู้ช่วย' หรือ 'เลขาประสานงานส่วนตัว' ของพี่คินค่ะ" พิมพ์ลดาจับมือคุณหญิงแน่น สายตาอ้อนวอน "พิมพ์อยากเข้าไปช่วยดูความเรียบร้อย อยากเข้าไปเรียนรู้งานเคียงข้างพี่คิน... และที่สำคัญ..." เธอลดเสียงลง ทำท่าทางเหมือนจะกระซิบบอกความลับ "พิมพ์อยากเข้าไปช่วย 'สอดส่อง' ด้วยค่ะ พิมพ์สังเกตว่าคุณลลินดูจะมีอิทธิพลกับการตัดสินใจของพี่คินมากเกินไป พิมพ์กลัวว่าพี่คินจะโดนชักจูงไปในทางที่ผิด หรือโดนคนไม่หวังดีมาหาผลประโยชน์ ถ้ามีพิมพ์อยู่ด้วย พิมพ์จะช่วยกันท่า และคอยรายงานคุณแม่ได้ทุกเรื่องเลยนะคะ" คุณหญิงนภาฟังแล้วดวงตาเป็นประกาย เธอระแวงเรื่องลลินอยู่เป็นทุนเดิม และการที่มี "สายลับ" ที่ไว้ใจได้และเป็นว่าที่ลูกสะใภ้เข้าไปประกบลูกชาย ย่อมดีกว่าปล่อยให้ลูกชายอยู่กับเลขาหน้าห้องตามลำพัง "ความคิดดีมากหนูพิมพ์" คุณหญิงนภายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ "แม่เห็นด้วย... การที่หนูเข้าไป มันจะช่วยประกาศให้คนในบริษัทรู้ด้วยว่าใครคือ 'นายหญิง' ตัวจริง เด็กนั่นจะได้รู้ที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง" "เดี๋ยวแม่จะโทรสั่งฝ่ายบุคคลเดี๋ยวนี้ ให้เขาจัดโต๊ะทำงานให้หนู... เอาไว้ ในห้อง ของตาคินเลย จะได้ดูแลกันใกล้ชิด" "ขอบพระคุณค่ะคุณแม่!" พิมพ์ลดาไหว้สวยๆ ซ่อนรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสะใจ เตรียมตัวไว้เถอะนังลลิน... เธอสัมผัสต่างหูทองคำขาวในกระเป๋าอีกครั้งด้วยความเคียดแค้น ฉันจะเข้าไปนั่งเฝ้าพี่คินถึงในห้อง ฉันจะเข้าไปรื้อค้นโต๊ะทำงานของแก ฉันจะจับตาดูทุกฝีก้าว... และถ้าแกเผลอเมื่อไหร่ ฉันจะเหยียบแกให้จมดิน! คราวนี้แหละ แกจะไม่มีทางได้อยู่กับพี่คินสองต่อสองอีกแม้แต่วินาทีเดียว!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD