บทที่ 5.5 ดาวที่ร่วงหล่น

1384 Words
ลลินมองตัวเองในกระจกบานเล็กของห้องพักอีกครั้ง เสื้อนักศึกษาที่เธอรีดจนเรียบกริบ แม้จะเก่าแต่ก็ดูสะอาดตา เธอพยายามแต่งหน้าเพียงเล็กน้อยเพื่อปกปิดความเหนื่อยล้าจากการอดนอนเตรียมงานเมื่อคืน วันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งกว่าวันที่ต้องนำเสนอโปรเจกต์ หรือวันที่ต้องสู้กับโจร วันนี้... ลลินจะไป สารภาพความรู้สึก กับพี่ภาคิน งาน Starry Night Charity เพิ่งจบลงเมื่อคืน และพี่ภาคินกำลังจะรับปริญญาในสัปดาห์หน้า นี่คือโอกาสสุดท้ายที่เธอจะได้บอกความในใจทั้งหมด ก่อนที่แสงสว่างดวงนี้จะหายไปจากชีวิตของเธอตลอดกาล ลลินยกมือขึ้นแตะ กิ๊บติดผมรูปดาว ที่ติดอยู่บนผมเบาๆ มันเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความหวังที่ภาคินมอบให้เธอ ในกระเป๋าเป้เก่าๆ ของเธอ ไม่ใช่มีเพียงตำราเรียน แต่มีของขวัญชิ้นเล็กๆ ที่เธอทำเองซ่อนอยู่ มันคือสมุดบันทึกเล่มเล็กที่เธอออกแบบปกเองอย่างประณีต เธอตั้งใจจะมอบมันให้เขาพร้อมกับคำพูดที่เธอเตรียมไว้เป็นอย่างดี “ไม่ว่าอนาคตพี่ภาคินจะเป็นยังไง ลินอยากอยู่ตรงนี้... ข้างๆ พี่ค่ะ” ลลินเดินไปตามระเบียงทางเดินของคณะบริหารธุรกิจด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง เธอรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กสาวที่เพิ่งรู้จักความรักเป็นครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์และใสสะอาด จนกระทั่งเธอเลี้ยวเข้าสู่โถงทางเดินอันเงียบสงบหน้าห้องสโมสรนักศึกษา ลลินหยุดกึก เหมือนถูกแรงกระชากที่มองไม่เห็นดึงร่างไว้ พิมพ์ลดา ยืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่ได้บังเอิญผ่านมา แต่เธอ ยืนรอ ลลินอยู่ตรงนั้นอย่างชัดเจน พิมพ์ลดาในชุดเดรสทำงานของดีไซเนอร์ชื่อดัง ดูสูงเด่นและสง่างามจนน่าเกรงขาม แสงไฟนีออนสาดลงบนเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่ถูกจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน และที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ... แหวนเพชรเม็ดงาม ที่ส่องประกายเย็นชาตัดกับความหวังที่กำลังลุกโชนในใจลลิน “ไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะ” พิมพ์ลดาเริ่มต้นด้วยรอยยิ้มสุภาพ แต่ไม่เชื้อเชิญ “ฉันตั้งใจมารอเธอที่นี่... ลลิน จันทรัตน์” ลลินรู้สึกเหมือนเลือดทั้งตัวเย็นเฉียบลงไปถึงปลายเท้า ชื่อที่ถูกเรียกอย่างชัดเจนราวกับตอกย้ำถึงอดีตที่เธออยากหนี “คุณ... คุณเป็นใครคะ” ลลินพยายามรวบรวมความกล้าถามกลับไป น้ำเสียงของเธอยังคงสั่นเทาเล็กน้อย พิมพ์ลดายกมือขึ้นมาสัมผัสสร้อยคอเพชรที่ระยิบระยับของตัวเองอย่างเนิบช้า เป็นการแสดงออกถึงอำนาจโดยไม่ต้องใช้คำพูด “ฉันคือ พิมพ์ลดา คู่หมั้นของภาคิน และกำลังจะเป็นภรรยาของเขาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” เปรี้ยง!!! โลกทั้งใบของลลินแตกสลายลงในพริบตา ภาพของพี่ภาคินที่ยิ้มให้เธอ ภาพที่เขาลูบผมเธอ ภาพที่เขามอบกิ๊บรูปดาวให้ ทุกอย่างกลายเป็นฉากลวงตาที่ฉายซ้ำอย่างรวดเร็วในสมอง “ไม่จริง...” ลลินส่ายหน้าอย่างรุนแรง พยายามปฏิเสธความจริงที่เจ็บปวด “พี่ภาคินไม่เคย... พี่ภาคินไม่เคยพูดเรื่องนี้” “แน่นอนสิคะ” พิมพ์ลดาก้าวเข้ามาใกล้หนึ่งก้าว น้ำเสียงของเธอเบาลง แต่หนักแน่นยิ่งกว่าการตะคอก “ทำไมเขาต้องพูด? เพราะเขาไม่ได้คบกับเธอ เขาแค่ ช่วยเหลือ เธอ” พิมพ์ลดาเหลือบมองกิ๊บรูปดาวบนผมของลลินอย่างเหยียดหยาม “โอ้... กิ๊บรูปดาวอันนี้เอง เขาบอกว่าเขาจะเอาไปแจกเด็กๆ ที่สถานสงเคราะห์ในงานจบการศึกษาด้วยนะ แต่บังเอิญมันเหลือพอดี เธอคงตีความ ความบังเอิญ เป็น ความตั้งใจ ไปแล้วสินะ” “ไม่!” ลลินกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า “พี่ภาคินไม่เคยโกหก! เขาจริงใจกับลิน! พี่ภาคินไม่เหมือนคนอื่นๆ” “จริงใจเหรอคะ? หรือว่า ใจอ่อน กันแน่?” พิมพ์ลดาใช้สายตาที่เหนือกว่ามองสำรวจลลินตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนมองสิ่งของที่ไร้มูลค่า “เธอรู้ใช่ไหมลลิน... ว่าผู้ชายอย่างภาคิน เขาเกิดมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ การเลือกคู่ชีวิตของเขาไม่ใช่เรื่องความรักแบบเด็กๆ แต่มันคือ การรวมตระกูล ของเรา” พิมพ์ลดาใช้คำพูดที่ตั้งใจจะบดขยี้จุดอ่อนของลลินโดยเฉพาะ “ส่วนเธอล่ะ? เธอคิดว่าตัวเองมีอะไรที่คู่ควรจะยืนเคียงข้างเขาคะ? ชื่อเสียงที่สะอาดเหรอ? ฐานะทางการเงินเหรอ? หรือศักดิ์ศรีที่เธอพยายามดิ้นรนจะรักษาไว้?” คำว่า ‘ศักดิ์ศรี’ และ ‘ฐานะ’ แทงทะลุหัวใจของลลินโดยตรง ภาพกองเงิน 100 ล้านบาทที่ได้รับมาอย่างน่าอับอายผุดขึ้นมาในสมอง ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก “ฉันขอพูดตรงๆ นะ” พิมพ์ลดาเดินเข้ามาประชิดตัว “ภาคินเป็นคนดีมาก เขาชอบช่วยเหลือคนอ่อนแอ ชอบเก็บหมาข้างถนนมาเลี้ยง เธอคือ หมาหลงทาง ตัวนั้นของเขา” “หยุดนะ!” ลลินตะคอกกลับไปอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า แต่เธอไม่ยอมให้มันไหลออกมา “พี่ภาคินไม่ได้มองลินแบบนั้น!” “แล้วเธอมองตัวเองแบบไหนล่ะ?” พิมพ์ลดายิ้มเยาะ “อย่าทำให้ตัวเองดูน่าสมเพชไปกว่านี้เลยนะ ก่อนที่เธอจะถลำลึกจนกลายเป็น ข่าวฉาว ที่จะทำลายชื่อเสียงของครอบครัวฉัน” พิมพ์ลดาชี้ไปที่แหวนเพชรบนนิ้วนางของเธอ แล้วพูดอย่างชัดเจนทุกคำ “สิ่งที่เธอได้จากภาคิน คือความเมตตาและกิ๊บราคาถูกอันนั้น แต่สิ่งที่ฉันมี คือนามสกุลของเขา และที่ยืนในสังคมของเขา” “ฉันแนะนำให้เธอ ตัดใจ และ ตัดขาด จากเขาซะ เพราะถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ฉันไม่รับประกันว่าอนาคตของนักศึกษาทุนอย่างเธอ จะยังสามารถจบการศึกษาไปได้อย่างสงบสุขหรือไม่” นี่คือการข่มขู่ที่สมบูรณ์แบบ ลลินทรุดตัวลงพิงผนังด้วยความอ่อนแรง พิมพ์ลดาไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอ แต่คำพูดของเธอทำลายจิตใจของลลินอย่างย่อยยับพิมพ์ลดาเห็นลลินเงียบไป ก็รู้ว่าเธอเป็นฝ่ายชนะแล้ว “ดีแล้วค่ะ... เธอเป็นเด็กฉลาด ฉันเชื่อว่าเธอจะเข้าใจ ความแตกต่าง ระหว่างความเมตตากับความรักได้” เธอเดินจากไปอย่างสง่างาม ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองซากความหวังที่เธอเพิ่งทำลายทิ้ง ... ลลินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานจนกระทั่งขาของเธอไม่มีแรงพยุงตัวอีกต่อไป เธอค่อยๆ เลื่อนตัวลงนั่งกองกับพื้นอย่างเงียบเชียบ ความเจ็บปวดในวันนี้รุนแรงกว่าวันที่พ่อแม่ตาย รุนแรงกว่าวันที่ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกคนโกง และรุนแรงกว่าค่ำคืนที่ถูกผู้ชายคนนั้น ‘ซื้อ’ เพราะครั้งนี้... เธอถูกทำลายด้วย ความหวัง ที่เธอสร้างขึ้นมาเอง เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเป้ แล้วหยิบ สมุดบันทึก ที่ทำด้วยความรักออกมา... แล้วขยำมันทิ้งอย่างไม่ไยดี จากนั้น เธอดึง กิ๊บติดผมรูปดาว ออกจากผม แล้วกำมันไว้แน่นจนบาดเนื้อ แสงสว่างดวงนั้นดับลงแล้วจริงๆ ลลินปาดน้ำตาที่เพิ่งไหลออกมาอย่างเกรี้ยวกราด แววตาที่ว่างเปล่ากลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีความเย็นชาและมุ่งมั่นแฝงอยู่มากกว่าเดิม เธอจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นอีกแล้ว โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้น เธอตัดสินใจแล้ว... “ฉันจะตัดใจ” เธอพึมพำกับตัวเองเสียงแหบพร่า “แต่... ฉันจะไปร่วมงานรับปริญญาของพี่ภาคิน” ไม่ใช่ในฐานะคนรักที่สารภาพความรู้สึก... แต่ในฐานะคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่ไปยืนมองดู แสงสว่าง ที่ครั้งหนึ่งเคยเอื้อมเข้ามาใกล้ชีวิตเธอ... เป็นครั้งสุดท้าย และหลังจากนั้น... ลลิน จันทรัตน์ จะไปตามทางของเธอทิ้งทุกอย่างไว้เป็นเพียงความทรงจำดีๆ และไปเรียนต่อญี่ปุ่นเพื่อหายไปจากชีวิตของทุกคน ลืมอดีตเดิมๆ เธอจะไม่มีทางให้ใครมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอได้อีกแล้ว เธอจะไม่มีทางยอมให้ใครมาเรียกว่า ‘หมาหลงทาง’ หรือ ‘ของราคาถูก’ อีกต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD