เสี่ยสาม ทอล์ค
"เธอ เธอเป็นใครว่ะ!!!!!" ทันทีที่ผมตัดสินใจเป็นแฟลชมือถือเพื่อดูร่างที่นอนนิ่งไม่ตอบโต้ใดๆ ผมถึงกับอุทานด้วยความตกใจ ผมหลับตาแล้วลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้งเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะตาฝาดเพราะฤิทธิ์ยา
"ฉะ...ฉัน อึกๆๆ ฮื้อๆๆ พี่เลี้ยงคนใหม่ อึกๆๆ ฮื้อๆๆ"' ภาพตรงหน้าผมคือเด็กสาวคนหนึ่งในสภาพเปลื้อยเปล่าเธอใช้สองมือของเธอพยายามจะปิดสองเต้าเต้งตึงของเธอไว้แต่เพราะความใหญ่โตของอกอิ่มทำให้ปิดยังไงก็ไม่มิด
"พระเจ้า!!! บ้าเอ้ย ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าเธอไม่ใช่ศศิโอ้วพระเจ้าบ้าจริง เธอทำไมไม่ขัดขืน!!!!" ผมตกใจมากจนสร่างเมายาทันทีเพราะเด็กสาวข้างหน้าเธอดูเด็กๆมากๆ
"ฉันพยายามบอกแล้วแต่คุณไม่ฟัง คุณจับฉันมัดคุณลืมแล้วหรอ อึกๆๆ ฮื่อๆๆๆ" อ้า ให้ตาย มันเธอจริงอย่างเธอว่าทุกอย่างผมถึงกับสำนึกผิดแทบไม่ทัน
"ฉันขอโทษนะ ฉันขอโทษจริงๆฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครบอกฉันเลยว่ารับพี่เลี้ยงใหม่มา ขอโทษเธอนะ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ"' ผมคุกเข่าขอโทษเด็กสาวที่สะอึกสะอื้นอยู่ตรงหน้าทันทีเพื่อแสดงความจริงใจว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเธอ ไม่รู้ว่าเธออายุถึง18รึยังด้วยซ้ำเพราะหน้าเธอดูเด็กมากๆ
"เธอ อย่าร้องเลยนะ ฉันยินดีรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายให้ แต่ขอร้องอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่ๆฉันเลยนะ ไม่งั้นฉันตายแน่นๆ "
"อึกๆ ฮื้อๆๆ คุณ คุณออกไปเถอะค่ะ ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร คุณก้อห้ามบอกใครเหมือนกันนะ ฉันพึ่งมาทำงานวันแรกฉันยังไม่อยากถูกไล่ออก อึกๆๆ ฮื้อๆๆ"'
"เสื้อผ้าเธอฉันฉีกขาดหมดแล้ว เธอมีชุดมาเปลี่ยนรึป่าว"
เธอส่ายหน้าแทนคำตอบและไม่มองหน้าผม
"งั้นเธอใส่เสื้อฉันก่อน เธอพักที่เรือนหลังใช่มั๊ย รีบไปแต่งตัวเธอให้เรียบร้อยแล้วมานอนเฝ้าหลานฉันต่อเถอะ คนอื่นจะได้ไม่สงสัย"
ผมเดินกลับห้องซึ่งอยู่ไม่ไกลมากเอาเสื้อของผมมาให้เธอใส่พร้อมกับเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
"เธอรับเงินนี้ไป ถือว่าเป็นคำขอโทษจากฉัน"ผมยัดซองสีน้ำตาลที่ในนั้นมีเงินอยู่ห้าแสนบาทใส่มือเธอ
เธอส่ายหน้าอีกครั้งและยัดซองใส่เงินกลับใส่มือผม
"ทำไม มันน้อยไปหรอเธอยังไม่เปิดดูเลยด้วยซ้ำนะ ถ้ามันน้อยไปเดียวฉันเอาให้อีกก็ได้แต่เงินสดหมดแล้วนะเอาเลขบัญชีเธอมาสิ"ผมบอกอย่างชักจะลำคาญอีกทั้งกลัวจะมีคนมาเห็นโดยเฉพาะพี่ๆผม ถ้าบังเอิญดันกลับมาบ้านกันตอนนี้ผมโดนบ่นหูชาแน่น
"ฉันรับไว้ไม่ได้ค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น ฉันไม่ได้ ไม่ได้ขายตัวแลกเงิน อึกๆๆ ฮื้อๆๆ"'อยู่เด็กนี้ก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกซึ่งนั้นยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปอีกเพราะฤิทธิ์ยาในร่างกายยังมีอยู่
"เอ่อ ไม่เอาก็อย่าเอา แล้วถ้าไม่เอาก็หยุดร้องได้แล้ว ฉันลำคาญ รีบไปแต่งตัวจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเลยนะถ้ามีคนมาเห็นเธอกับฉันในสภาพนี้เราจะซวยกัน ไป ไปแต่งตัวให้เรียร้อยซะ!!!" ผมตะคอกเธอเบาๆให้พอได้ยินกันสองคนเพราะกลัวหลานจะตื่น เด็กนั้นตัวสั่นงันงกรีบใส่เสื้อที่ผมเอามาให้และเก็บเศษเสื้อผ้าเธอที่ผมฉีกขาดออกไปด้วย ผมกลัวเธอจะเก็บไม่หมดแล้วทิ้งหลักฐานอะไรไว้จึงเปิดแฟลชโทรศัพท์อีกครั้งเพื่อช่วยเธอดูว่าเธอลืมอะไรไว้รึป่าว แต่สิ่งที่ผมเห็นบนที่นอนที่ปูอยู่บนพื้นทำเอาผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายให้ได้
"ฉิบหายแล้วกู ไปเปิดซิงลูกใครว่ะเนี๊ย!!!!!"เลือดสีแดงเปื้อนเต็มที่นอนสีขาว บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าผมไม่ได้พี้ยาเกินขนาดจนคิดไปเอง ที่มันฟิตๆเข้ายากๆเพราะมันเป็นครั้งแรกของเธอ เด็กสาวเมื่อเห็นที่นอนเปื้อนเลือดเธอก้อตกใจมาก
"ฉะ ฉันจะรีบเอาไปซักค่ะ "เสียงเล็กสั่นเทาจนฟังแทบไม่ออก
"ซักตอนนี้คนจะได้รู้ทั้งบ้านสิว่าฉันเปิดซิงเธอ เธอรีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะเดียวฉันจัดการเอง!!!" เด็กคนนั้นรีบออกจากห้องไปทันทีผมจึงจัดการเอาที่นอนปิคนิกชุดนั้นไปไว้ที่ห้องผมแทนแล้วเอาที่นอนปิคนิกชุดใหม่ออกมาแทนอันเก่า พรุ่งนี้ผมค่อยให้แม่บ้านเอาไปซักให้ถ้าพี่ๆผมสงสัยผมก็แค่โกหกไปว่าเอาสาวมานอนที่บ้านแล้วเผลอเล่นท่ายากกันเลยมีเลือดออกก็ได้ เพราะปกติมันก็มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอยู่แล้ว
มีนา ทอล์ค
ฉันรีบพาร่างกายที่บอบช้ำช่วงล่างกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องของตัวเองพยายามจะทำเสียงให้เงียบที่สุด ดีที่สิงหาหลับสนิท เมื่อจัดการตัวเองเสร็จฉันก็รีบกลับมานอนเป็นเพื่อนน้องสโนวส์ พบว่าที่นอนซึ้งเคยเลอะไปด้วยเลือดของฉันถูกเปลี่ยนเป็นที่นอนอันใหม่ ฉันจึงล้มตัวลงนอนและพยายายมจะไม่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ชายใจร้ายคนนั้นเขาน่ากลัวและดูร้ายกาจ ฉันจะไปทำอะไรได้ ถ้าฉันโวยวายไปฉันอาจจะตกงาน น้องจะไม่มีที่ซุกหัวนอน และอดที่จะได้เรียนหนังสือ ฉันทำได้อย่างเดียวคืออดทน ไม่ว่าเจออะไรฉันจะอดทน กว่าจะข่มตาหลับลงได้ฉันก้อร้องไห้ไปหลายยก จนเผลอหลับไปทั้งน้ำตา อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ความฝันจัง
ฉันตื่นเช้ามาด้วยอาการไข้ขึ้นแต่พยายามจะฟื้นตัวเองให้เป็นปกติ
"มีนา วันนี้สโนวส์อยากดูผีเสื้อ มีนาเสกผีเสื้อให้สโนวส์ได้มั๊ย" เสียงเล็กของเด็กน้อยเอ่ยถามขึ้นในตอนที่ฉันกำลังช่วยเธอแต่งตัวน้องสโนวส์ดูไม่เห็นเหมือนเด็กร้ายกาจเหมือนที่ใครๆว่าเลย ทำไมนะถึงไม่มีใครทนอยู่กับเด็กน้อยแสนน่ารักคนนี้ได้ หรือจริงๆแล้วเพราะทุกคนถูกล่วงละเมิดแบบที่ฉันโดนเมื่อคืน
"มีนา มีนา มีนาาาาาาาาาาาาาาาาาา"เด็กน้อยแผดเสียงตะโกนเรียกชื่อฉันดั้งลั้นเรียกสติที่เหม่อลอยของฉันให้กลับเข้าร่างทันที
"ค่ะ....คะ คุณสโนวส์ เมื่อกี้ว่ายังไงนะคะ?ฉันถามพร้อมกับมองใบหน้าทมึงถึงของเด็กน้อยวัยสามขวบที่ตอนนี้ดูท่าทางไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย เธอทำจมูกย่น ดวงตากลมโตจ้องหน้าฉันเขม็งผ่านกระจกบานใหญ่ที่กำลังส่องอยู่ สองแขนเล็กๆกอดอกมองจ้องฉันอย่างคาดโทษ
"ทำไมไม่สนใจที่สโนวส์พูด!!!!! สโนวส์บอกว่าวันนี้จะดูผีเสื้อ เสกผีเสื้อให้หน่อย เสกตอนนี้ตอนนี้เลย!!!!"
"ตะ....ตอน ตอนนี้เลยหรอ?"
"ใช่สิ สโนวส์จะดูตอนนี้เสกมา"
"อ่ะ เอ่อ คือ"ฉันอ้ำอึงเพราะยังคิดคำแก้ตัวไม่ออก ฉันไม่สามารถเสกผีเสื้อเธอได้ตอนนี้หรอกนะเพราะยังไม่ได้เตรียมการอะไรเลย แต่ขณะที่ฉันกำลังถูกเด็กน้อยไล่ต้อนให้จนมุมนั้นก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
"สายป่านนี้แล้วผีเสื้อไม่ออกมาแล้วนะลูก " ชายหนุ่มหน้าตาดีคล้ายพวกนักร้องเคป็อปเอ่ยขึ้น ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ร่างสูงเดินเข้ามานั้งย่อตัวอยู่ตงหน้าเด็กสาวตัวน้อย
"พ่อสาม หนูคิดถึงพ่อสามจังค่ะ"เด็กน้อยเอ่ยพร้อมกับโน้มตัวลงสวมกอดผู้ชายตรงหน้า ใจฉันเต้นตึกตักทันทีที่ได้ยินชื่อที่น้องสโนวส์เรียกผู้ชายคนนั้น ใช่แล้ว เขาคือคนที่ทำเรื่องน่าอายกับฉันเมื่อคืน คนใจร้ายที่พรากความบริสุทธิ์ฉันไป ฉันมือสั่น เหงือเย็นซึ่มออกมาตามฝ่ามือ อาการไข้ที่เป็นอยู่เดิมตอนนี้กำลังจู่โจมฉันมากขึ้น ฉันก้มหน้าไม่กล้ามองทั้งสองคน
"พ่อสามก็คิดถึงหนูค่ะ ป่ะ ไปกินข้าวกัน พ่ออุ้มน๊า"เขาอุ้มน้องสโนวส์ขึ้นและเดินออกจากห้องไปทันทีฉันไม่รู้ว่าเขามองฉันรึป่าวเพราะฉันทำตัวไม่ถูกไม่รู้จริงๆควรทำตัวยังไง
บนโต๊ะอาหาร ฉันพบว่าวันนี้ทุกคนอยู่กันครบพร้อมหน้าพร้อมตา ฉันเดินไปยืนสงบนิ่งอยู่ใกล้ๆตรงเดียวกันกับที่พวกคนรับใช้ยืนอยู่
'"มีนาไปยืนตรงนั้นทำไม มานั้งนี้สิมาทานข้าวด้วยกัน"พี่หมอเรียกฉัน พร้อมกับลุกขึ้นขยับเก้าอี้ข้างๆเขาออกให้ฉัน
"เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่หมอเดี๋ยวหนูจะรอกินพร้อมสิงหาค่ะ"
"ฉันให้คนไปตามสิงหาแล้ว มีนามานั้งเถอะ ถือว่ามื้อนี้คือการเลี้ยงต้อนรับเธอนะ มาสิ" พี่ีหมอเอ่ยอีกครั้งฉันจึงต้องเดินไปนั้งร่วมโต๊ะกับทุกคนอย่าเลี่ยงไม่ได้
เสี่ยสาม ทอล์ค
ผมแอบยืนมองหลานสาวของผมกับพี่เลี้ยงคนใหม่ของเธอคุยกันขณะกำลังแต่งตัว ให้ตายเถอะถึงเด็กนั้นจะดูสวยน่ารักมากแค่ไหนแต่ยิ่งเห็นชัดๆในตอนกลางวันแบบนี้ผมโคตรจะมั้นใจเลยว่าเธอคงจะอายุไม่ถึง18แน่นๆ ไม่รู้คุยอะไรกันจนได้ยินเสียงสโนวส์ตะโกนเหมือนไม่พอใจและยัยเด็กนั้นทำสีหน้าอึดอัดเหมือนจะร้องไห้ผมจึงรีบเดินเข้าไปอุ้มหลานลงมาเพื่อกินข้าว ตอนนี้เรากำลังร่วมโต๊ะกินข้าวกันดูท่าทางเฮียสองจะใส่ใจพี่เลี้ยงคนนี้เป็นพิเศษถึงพี่ผมจะเป็นคนใจดีแต่เขาไม่เคยใจดีถึงขั้นให้พี่เลี้ยงหรือคนที่ไม่สนิทมาร่วมโต๊ะกินข้าวด้วย รวมถึงเฮียหนึ่งด้วย ไม่เห็นคัดค้านอะไรเลย นั้งนิ่งกดโทรศัพท์อย่างเดียว ผิดปกติสุดๆ
"พี่มีนา สวัสดีครับทุกคน "เสียงเล็กๆของเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับหลานผมดังขึ้น พร้อมกับเด็กน้อยยกมือไหว้อย่างน้อบน้อมและส่งยิ้มสดใสมาให้
"พี่สิงหา มานั้งกับสโนวส์สิคะ ทานข้าวกันค่ะ"หลานสาวผมกวักมือเรียกเด็กคนนั้นผมกับส่งยิ้มหวานหยดให้ หวานหยดชนิดที่ผมไม่เคยเห็นเลยล่ะ อย่าบอกนะว่าหลานผมชอบไอ้เด็กน่าหล่อคนนี้ ผมจ้องเขม็งเด็กคนนั้นทันที แต่เด็กนั้นไม่มองหน้าผมสักนิด เจ้าเด็กนั้นเดินไปนั้งที่นั้งซึ่งเป็นเก้าอี้เสริมสำหรับเด็ก ก่อนจะทำบางอย่างที่ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว.............