♤ เช้าวันถัดมา – กระท่อมกลางหิมะ แสงแดดยามเช้าค่อยๆ ทาบลงบนแผ่นหลังของลินา
♤ เธอนอนตะแคง ห่มผ้าผืนบาง ร่างกายเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มที่อุ่นจากไออ้อมกอดของคนข้างหลัง
♤ ภาคินนอนกอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบแน่น
ปลายจมูกเขาซุกอยู่ตรงซอกคอของเธอ ลมหายใจสม่ำเสมอรินไล้ผิวอย่างแผ่วเบา
♤ มือของเขายังคงโอบเอวเธอไว้ ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปจากวงแขนนี้
♤ ลินาขยับตัวนิดหน่อย ก่อนจะรู้สึกได้ว่ามีเสียงกระซิบแผ่วเบา..
“เช้านี้เธอสวยกว่าทุกครั้งที่ฉันเคยตื่นมาเจอ”
เธอยิ้มโดยไม่หันไปมอง
“เพราะเมื่อคืนคุณทำให้ฉันละลายทั้งร่างหรือเปล่า”
♤ เขาหัวเราะเบาๆ มือที่กอดแน่นกระชับขึ้นอีกนิด
“เมื่อคืน..ฉันไม่ได้แค่ สัมผัสเธอ แต่ฉัน..จำเธอไว้ด้วยหัวใจทั้งดวง”
♤ ลินาหันกลับมาสบตาเขา เธอยกมือแตะปลายคางเขาเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว
“ภาคิน..”
“เมื่อคืนฉันไม่ได้รู้สึกแค่ถูก ‘รัก’
♤ แต่ฉันรู้สึกเหมือนได้ กลับบ้าน”
♤ เขาโน้มหน้าลงมากดจูบเบาๆ ที่ปลายจมูกเธอ
♤ ก่อนจะพึมพำกับผิวแก้มของเธอว่า
“งั้นอยู่ที่นี่กับฉัน..นานๆ”
“ไม่ต้องรีบหนีไปไหนอีกแล้ว”
♤ เธอยิ้ม รอยยิ้มที่ไร้เกราะ ไม่มีหน้ากาก ไม่มีฐานะมาเฟีย
♤ แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ตื่นมาในอ้อมแขนของผู้ชายที่เธอไว้ใจที่สุดในชีวิต
“แต่คุณต้องสัญญานะ..”
♤ ภาคินเลิกคิ้ว “สัญญาว่าอะไรครับ บอส?”
“ว่าทุกเช้าหลังจากนี้ คุณจะยังเรียกฉันว่าสวย..แม้ฉันจะไม่ได้แต่งหน้า ผมยุ่ง และขี้เซา”
♤ เขาแกล้งทำท่าคิด ก่อนจะโน้มตัวลงจูบที่ริมฝีปากเธออย่างอ่อนโยน
“ถ้าเธอยังอยู่ให้ฉันกอดแบบนี้ทุกเช้า..ถึงผมจะยุ่ง ริมฝีปากบวม หรือแม้แต่หายใจเสียงดัง..ฉันก็จะยังเรียกเธอว่า ‘ผู้หญิงของฉัน’ อยู่ดี”
♤ เธอหลุดหัวเราะ แล้วพลิกตัวขึ้นไปนอนทับเขาเบาๆ
♤ ผ้าห่มร่วงลงข้างเอวเผยแผ่นหลังเปลือยเปล่า แต่เขาไม่สนใจอะไรเลย
♤ นอกจากผู้หญิงตรงหน้า ที่ตอนนี้ไม่ใช่
“มาเฟีย” ไม่ใช่ “ความลับ”
♤ แต่เป็น คนที่เขาจะใช้ชีวิตด้วย
♤ เช้านั้น..ไม่มีภารกิจ ไม่มีเสียงวิทยุ ไม่มีข่าวด่วน มีแค่ “เรา” ในห้องไม้กลางหิมะ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่หลบภัย
♤ แต่วันนี้..กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “บ้าน” จะเลือก “รักในโลกสงบ” หรือ “จับมือฝ่าพายุ”
♤ แต่..ในเรื่องของ ลินา กับ หมอภาคิน นั้น ความรักของเขาไม่ได้เกิดในโลกสงบ และมันคงไม่จบลงง่ายๆ ด้วยเช่นกัน
♤ เข้าสู่ตอนใหม่ ที่ “ความรักกำลังเติบโต”..แต่โลกยังไม่หยุดทดสอบพวกเขา และพวกเขา..จะต้อง “จับมือกันแน่นขึ้น” ไม่ใช่ปล่อยมือเพื่อความปลอดภัย
=> พายุไม่เคยจบ..แต่เราจะไม่ปล่อยกันอีก
♤ สองวันต่อมา – กระท่อมหลังเดิม แต่ใจของทั้งคู่..ไปไกลกว่าเดิม
♤ ภาคินนั่งอยู่ตรงม้านั่งริมหน้าต่าง สวมเสื้อไหมพรมคอเต่า ข้างตัวคือแฟ้มเอกสารบางๆ
♤ ลินานอนเหยียดยาวบนโซฟา ผ้าห่มคลุมถึงเอว มือกำลังถ้วยชาอุ่น และสายตาเหม่อไปยังวิวขาวโพลนด้านนอก
♤ เงียบ..อบอุ่น..แต่แฝงความกังวลที่ยังไม่มีใครพูด
“คุณกำลังคิดอยู่ใช่ไหม”
♤ ลินาถามโดยไม่หันมา
♤ ภาคินวางปากกาลง “เธอก็เหมือนกัน”
♤ พวกเขาหัวเราะเบาๆ พร้อมกัน โดยไม่ต้องนัดแล้วความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันคือความเงียบที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ข้อมูลในแฟลชไดรฟ์..”
♤ ภาคินเริ่มก่อน “เรายังไม่ตัดสินใจจะทำยังไงกับมันเลยนะ”
♤ ลินาหลับตา “ฉันอยากจะฝังมันไว้ใต้หิมะ..แล้วใช้ชีวิตกับคุณให้ไกลจากทุกอย่าง..แต่ฉันก็รู้ ว่ามันไม่ใช่เรา”
♤ ภาคินมองเธอ สบตาผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเป็นศูนย์กลางของขั้วอำนาจ
♤ แต่วันนี้..กลายเป็นศูนย์กลางหัวใจของเขาแทน
“ถ้าเราปล่อยให้ความลับนี้จางหาย โลกจะไม่เปลี่ยน
♤ แต่ถ้าเรากล้าเปิดมัน..เราอาจเปลี่ยนชีวิตของใครหลายคน
♤ แม้ต้องแลกกับ ‘ชีวิตสงบ’ ที่เราเพิ่งเริ่มสร้าง” ลินานิ่งไป แล้วพูดช้าๆ
“ฉันกลัว..ไม่ใช่กลัวถูกล่า แต่กลัวว่าถ้าฉันกลับไปสู้ คุณจะต้องเลือกอีกครั้ง”
♤ ภาคินเดินมาหาเธอ นั่งลงข้างๆ จับมือเธอแน่น
“ฉันไม่เลือกแล้ว ฉันจะไปกับเธอ ทุกเส้นทาง
จะฝ่าพายุ จะเปิดความจริง หรือจะหนีไปอยู่กลางป่า..ก็ต้องมีเธอ”
“เราไม่แยกกันอีกแล้ว”
♤ เธอมองเขา รอยยิ้มจางแต้มมุมปาก แม้ดวงตาจะวูบไหวด้วยน้ำใสๆ
“งั้นเราจะเปิดความจริง.. แต่ครั้งนี้ เราไม่ใช่เป้าหมายอีกต่อไป เราคือ ผู้เปิดเกมเอง”
=> สองคนจับมือ..วางแผนเปลี่ยนโลก บนโต๊ะไม้ยาวกลางห้องปรากฏแผนการ จุดติดต่อของนักข่าวสายลับ ช่องโหว่ของระบบ Ashthorn รายชื่อผู้บริสุทธิ์ที่อาจตกเป็นเหยื่อถ้าแผนยังไม่ถูกเปิดโปง
♤ ลินาและภาคินทำงานเคียงกัน ทั้งเอกสาร ทั้งคำพูด ทั้งลมหายใจ
♤ ไม่มีใครเหนื่อยล้า เพราะตอนนี้..พวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองอีกต่อไป
“ความรักของเรา..ไม่ได้เกิดมาเพื่อนอนกอดกันเฉยๆ ในหิมะ”
“แต่มันเกิดมาเพื่อ ยืนข้างกัน แม้ในวันที่พายุถล่มโลกทั้งใบ”
♤ ต่อจากการตัดสินใจอันกล้าหาญของลินาและภาคิน..ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะ “ลุกขึ้นมาเป็นฝ่ายรุก” เปิดเกมเอง ด้วยแผนลับที่ไม่มีใครคาดคิด
♤ ภารกิจนี้ไม่ใช่แค่เรื่องข้อมูล แต่เป็นการทวงคืนความจริงจากเครือข่ายที่เคยสร้างสงคราม
♤ เปลี่ยนความรักที่รอดมาให้กลายเป็น พลังที่ล้มทั้งระบบเงา
=> ปฏิบัติการเปิดโปง – Zero Pulse
♤ สถานที่: ฐานข้อมูลกลางของเครือข่าย
Ashthorn – ณ เมืองหนึ่ง ในสวิตเซอร์แลนด์
♤ อาคารสำนักงานสีเทาทึบกลางเมือง ซึ่งภายนอกคือศูนย์การแพทย์เอกชน
♤ แต่ชั้นใต้ดินที่ลึกกว่าระบบสาธารณูปโภคทั่วไป คือที่ซ่อนของระบบประมวลผลรหัสชีพจรระดับโลก >> ชื่อรหัส: Zero Pulse การหลบหนี
♤ เสียงเตือนกึกก้อง ขณะทั้งสองวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟ
♤ ลินาหอบหายใจ ใบหน้าเธอเปื้อนเหงื่อ แต่นัยน์ตากลับเปล่งประกายของ “ชัยชนะ”
♤ ภาคินกุมมือเธอแน่นตลอดทาง ไม่มีใครพูด
เพราะรู้ว่า..นี่คือจังหวะสุดท้ายของภารกิจ
♤ เมื่อพวกเขากระโดดพ้นจากหลังคาด้านหลังอาคาร
♤ เสียงระเบิดเล็กๆ ก็ดังขึ้นจากระบบที่พวกเขาปิดไว้ เพื่อไม่ให้ใครย้อนรอยมาได้อีก
♤ พวกเขาหายลับไปในความมืดของเมือง..
แต่แสงจากข้อมูลที่ถูกปล่อยออกไป กำลังเริ่มจุดไฟให้โลกทั้งใบ
♤ พวกเขาไม่ใช่เหยื่ออีกต่อไป แต่คือ “ต้นเพลิงแห่งการเปลี่ยนแปลง”..และทั้งหมดนี้ เริ่มจากความรักของหมอคนหนึ่ง ที่ยอมรักษาหัวใจของมาเฟียหญิงอย่างสุดหัวใจ
♤ เมื่อข้อมูลของ แฟ้มลับ Ashthorn ถูกปล่อยออกไปสู่โลก ความเงียบก็พังทลาย
♤ คลื่นแห่งความจริงเริ่มไหลเชี่ยว และความรักของ “ลินา” กับ “หมอภาคิน” ไม่อาจหลบอยู่ในมุมสงบได้อีกต่อไป
♤ เพราะวันนี้..พวกเขาไม่ใช่แค่ผู้รอดชีวิต
แต่คือ ตัวจุดระเบิด ของความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
=> ความจริงที่ปล่อยออกไป..ไม่อาจหวนคืน
=> 72 ชั่วโมงหลังการเปิดเผยข้อมูล – ทั่วโลก
♤ เสียงพิธีกรข่าวจากหลายช่อง..ภาษาแตกต่าง แต่เนื้อหากลับสะท้อนกันอย่างชัดเจน
“..มีการพบข้อมูลลับระดับสูงรั่วไหลจาก ศูนย์กลางการแพทย์ ณ เมืองหนึ่ง…”
“แฟ้มลับ Ashthorn โครงการลับที่ใช้ชีพจรของบุคคลสำคัญเพื่อเข้าถึงระบบควบคุมอาวุธและเศรษฐกิจ..”
“..มีรายงานว่า หนึ่งใน ‘คีย์ชีพจร’ คือ ลินา เดอลาเซ่ ทายาทกลุ่มมาเฟียระดับโลกที่หายตัวไป..”
“..และบุคคลที่ปรากฏเคียงข้างเธอ คือ ‘หมอภาคิน ธาราพิสุทธิ์’ บุตรชายของหนึ่งในนักวิจัยดั้งเดิม..”
=> ที่ซ่อนชั่วคราว – ลานเงียบในเมืองชายแดนแถบเทือกเขา ณ ประเทศหนึ่ง
♤ ลินานั่งเงียบอยู่ในห้องไม้เล็กๆ
♤ ภาคินยืนอยู่ข้างหน้าต่าง กำลังฟังรายงานจากอุปกรณ์แฮก
“กลุ่มพันธมิตรที่เคยให้การสนับสนุน แฟ้มลับ Ashthorn กำลังถอนตัวและปฏิเสธความเกี่ยวข้อง”
“แต่กลุ่มเงาอีกฝั่งหนึ่ง..ยังตามหาตัวพวกคุณอยู่ พวกเขาเรียกคุณว่า ‘พยานหลักฐานมีชีวิต’”
♤ ภาคินปิดอุปกรณ์ ก่อนหันมาหาเธอ
“เราดูข่าวแล้ว..” เขาพูดเสียงนิ่ง
♤ ลินาพยักหน้า เธอไม่แปลกใจ เพราะเธอรู้ดีว่าความจริงไม่เคยปลอดภัย
“แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเราหนีไปไหนใช่ไหม?” เธอถาม
“ยัง” ภาคินตอบ “แต่มีคนเริ่มตามรอยดีเอ็นเอจากสถานที่ ที่เราทิ้งไว้แล้ว”
♤ ลินาหัวเราะในลำคอ
“ฉันเคยเป็นเป้าหมายของศัตรูในวงการมาเฟีย
♤ แต่ตอนนี้..ฉันกลายเป็นเป้าหมายของ ‘องค์กรที่โลกไม่รู้จัก’”
♤ เธอหยิบแฟ้มรายชื่อเหยื่อจาก แฟ้มลับ Ashthorn ขึ้นมาดู ชื่อคนบริสุทธิ์นับสิบ บางคนเป็นนักข่าว บางคนเป็นแพทย์ บางคนเป็นแค่พลเมืองที่เคยขัดผลประโยชน์ของใครบางคน
♤ ภาคินเดินมาหาเธอ คุกเข่าลงตรงหน้า
“ลินา..ฉันต้องถามอีกครั้ง”
“เรายังจะสู้ต่อไหม?”
♤ เธอวางมือบนใบหน้าเขา ไม่ใช่การปลอบ แต่เป็นการยืนยัน
“ตอนแรกฉันคิดว่าเราเปิดโปงเพื่อ ‘ปิดเกม’”
“แต่ตอนนี้ฉันรู้ว่า…มันคือ ‘การเปิดศึก’ ที่แท้จริง”
♤ ภาคินพยักหน้า ช้าแต่มั่นคง
♤ เขาหยิบไฟล์เอกสารที่เก็บไว้ขึ้นมา เป็นโค้ดสำรองเข้าระบบหลักของเครือข่ายโลกด้านความมั่นคง
“ฉันเคยกลัวว่าสิ่งที่เราทำจะพาเธอไปสู่จุดจบ”
“แต่ตอนนี้ฉันแค่กลัวว่า..ถ้าเราไม่ทำให้สุด คนอื่นจะต้องตายแทนเรา”
=> – เบื้องหลังฉากข่าวและการเมือง
♤ ในห้องประชุมมืดของกลุ่มลับไม่ปรากฏชื่อ
บุคคลในเงาเฝ้ามองภาพของลินาและภาคินจากกล้องวงจรปิด
“พวกเขายังมีสำเนาข้อมูล.. และพวกเขายังมี ‘ใจ’ ที่พร้อมจะเผาเรา”
♤ เสียงใครบางคนในห้องพูดเย็นเยียบ
“งั้นก็อย่าเผาให้ลามไปไกล..”
“ส่งหน่วย พิฆาต ลงพื้นที่เลย เราจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”
=> ตัดกลับ – ลินาและภาคิน เตรียมการใหม่
♤ แผนต่อไปของทั้งสองไม่ใช่แค่การหนี
แต่คือการ เปิดหน้า ต่อสายตาสาธารณะ พร้อมคำสารภาพ
“ถ้าโลกจะรู้ความจริง..ก็ให้เขารู้จากปากเรา ไม่ใช่จากศพของเรา”
♤ ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่ “คู่รักกลางหิมะ” อีกต่อไป
♤ แต่คือ ผู้จุดไฟกลางพายุการเมือง-อำนาจ-ความจริง..และความรักของเขา จะไม่ใช่เพียงที่พักพิง แต่จะกลายเป็น “แรงระเบิดลูกสุดท้าย” ที่เขย่าโลกทั้งใบให้ตื่น
(((º> ・✿.。. *.:。✿*゚ <º))))