ตอน: ♡꒱ ˎˊ˗ “หัวใจในวันธรรมดา” 𖦹꙳࡛࣪⋕

1939 Words
❁ ในช่วงที่เอริน และซีลอน เริ่มดำเนินชีวิตร่วมกันในช่วงวัยมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีปืน ไม่มีโต๊ะเจรจา ไม่มีรหัสชีพจรแฝง ❁ มีแค่หัวใจสองดวงของคนที่เติบโตมาในโลกของเงา แต่กล้าพากันออกมา “ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา” เท่าที่จะทำได้ ▰ หัวใจในวันธรรมดา / The Days We Steal Back ꕤ เด็กสองคนจากโลกที่ไม่ปกติ ❁ เอริน เดอลาเซ่ หญิงสาวผู้เติบโตมาในฐานะทายาทของระบบชีพจร และมาเฟียหญิงแห่งเอเชีย ❁ ซีลอน เวสเตเรีย ลูกชายมาเฟียฮ่องกงผู้ปฏิเสธอำนาจ และเลือกเรียนกฎหมายแทนแผนยึดโลกใต้ดิน ❁ พวกเขาไม่ได้บอกรักกันเสียงดัง ไม่มีคำสัญญา ไม่มีดอกไม้ มีแค่การ “อยู่ด้วยกันในชีวิตจริง” ในห้องเรียน ห้องสมุด ร้านราเมงริมถนน หรือวันหยุดธรรมดาๆ ที่กลายเป็นความทรงจำไม่ธรรมดา ꕤ พากันเรียน: วิชาของใจ กับกฎหมายของโลก ❁ เช้าวันจันทร์ – ชั้นเรียนรัฐศาสตร์เปรียบเทียบ • เอรินนั่งจดข้อความจากอาจารย์ • ซีลอนนั่งข้างๆ พิมพ์โน้ตลงแท็บเล็ตเงียบๆ • พวกเขาไม่พูดกันเลยตลอดคาบแต่ “เลื่อนปากกาพร้อมกัน” เหมือนสัญญาณชีพจรกลายเป็นหนึ่งเดียว บ่ายวันพุธ – คาบแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนักศึกษานานาชาติ • เอรินนำเสนองานวิจัยเรื่อง “การส่งต่อความกลัวทางวัฒนธรรม” • ซีลอนทำวิจัยเรื่อง “ระบบกฎหมายใต้ดินในประเทศไม่เป็นทางการ” • เมื่ออาจารย์ถามว่า “ระบบใดควบคุมคนได้ดีที่สุด?” ❁ ซีลอนมองหน้าเอริน แล้วตอบว่า “ระบบใดก็ตามที่ยังมี ‘หัวใจของคน’ อยู่ข้างในมัน” ꕤ พากันเที่ยว: กรุงเทพฯ แบบไม่มีบอดี้การ์ด ❁ วันศุกร์ – ตลาดกลางคืน • ซีลอนพาเอรินไปซื้อของกินริมถนน • เธอสอนเขากินไข่เจียวแบบราดซอสพริก • เขาสอนเธอเล่นหมากรุกจีนไม้เล็ก ๆ ที่ซื้อมาจากลานคนเดิน “ซีลอน นายเคยใช้ชีวิตแบบนี้มาก่อนไหม?” “ไม่เคยเลย แต่มันทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่ต้องรอดจากศัตรูทุกวันก็ได้ แค่รอดจากความเงียบในใจตัวเองก็พอ” ❁ วันอาทิตย์ – ทริปสั้นนอกเมือง • พวกเขาเช่ามอเตอร์ไซค์ไปเชียงคาน • เอรินถือกล้องฟิล์มไว้ตลอดทาง • ซีลอนจดบันทึกทุกเมืองที่ผ่านในสมุดที่เขาเรียกว่า “คู่มือการใช้ชีวิตไม่ให้กลายเป็นเหมือนพ่อ” ꕤ พากันสร้างพื้นที่เล็กๆ : “ห้องเรียนของเรา” ❁ ในตึกแถวเล็กย่านอารีย์ พวกเขาเปิดพื้นที่ทดลองชื่อ “Co-Heart” เป็นเหมือนคาเฟ่ + ห้องแลกเปลี่ยนความรู้ เปิดให้คนมาแชร์ “คำถามที่ไม่มีคำตอบ” ทั้งด้านจิตใจ กฎหมาย สังคม หรือชีวิต ❁ มีป้ายเล็กๆ เขียนไว้ว่า “เรายินดีฟังแม้คุณจะไม่พูดออกมา” ลงชื่อ: E & C ꕤ บทสนทนายามค่ำคืน – บนดาดฟ้า ❁ หลังกลับจากวันเหนื่อยๆ ❁ เอรินนั่งกอดเข่ามองดาว ซีลอนนั่งข้างๆ เขาหยิบหูฟังมาแบ่งให้เธอ เปิดเพลงคลาสสิกที่ไม่มีเนื้อร้อง “นายกลัวอนาคตไหม?” ❁ เอรินถาม “กลัวเพราะผมไม่รู้ว่าเราจะมีวันธรรมดาแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน” ❁ ซีลอนตอบ “แต่ก็เพราะมันไม่แน่นอน มันถึงมีค่านี่นา” ❁ เธอยิ้ม แล้วพิงไหล่เขา ꕤ ความรักที่ไม่มีคำสัญญา..แต่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ❁ พวกเขาอาจไม่รู้ว่าอนาคตจะพาไปสู่สงคราม, โต๊ะเจรจา, หรือวันที่ต้องเลือกข้าง แต่ทุกวันในมหาวิทยาลัย คือวันที่ทั้งสองได้ เลือกกันซ้ำๆ โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากระบบใด และในโลกที่ซับซ้อนแบบนี้ ❁ บางครั้ง แค่มีใครสักคนให้ฟังหัวใจเราเงียบๆ ก็เพียงพอแล้ว ❁ เอริน เดอลาเซ่ และซีลอน เวสเตเรีย ในช่วงชีวิตปี 4 ของมหาวิทยาลัย ปีสุดท้ายที่เต็มไปด้วยการ “เลือกทางเดิน” หลังจากใช้ชีวิตเรียบง่ายมาด้วยกัน ทั้งในห้องเรียนและในชีวิตจริง ❁ แต่ปีนี้จะไม่มีอะไร “เรียบง่าย” อีกต่อไป เพราะทั้งความรัก อนาคต และอดีตที่หลบหนีมานาน กำลังเดินเข้าหาพวกเขาในเวลาเดียวกัน ▰ ปีสุดท้ายในโลกที่ยังไม่สงบ / Fourth Year, Final Heartbeat ꕤ ต้นเทอม ปี 4 – ชีวิตที่ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยน • เอรินรับหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยวิจัย” ให้กับโครงการวิจัยระดับชาติในหัวข้อ Trauma and Social Rebuilding • ซีลอนได้ทุนแลกเปลี่ยนระยะสั้นจากองค์การความร่วมมือทางกฎหมายเอเชีย ไปทำงานที่โตเกียว • พวกเขาใช้ชีวิตต่างเมืองกันครั้งแรก..และนั่นคือ “บททดสอบเงียบ” ของความสัมพันธ์ 📩 ข้อความเสียงที่เอรินส่งไปในคืนหนึ่ง “นายรู้ไหม มันแปลกมากเลยนะ ที่ฉันกลัวคำว่า ‘คิดถึง’ มากกว่าคำว่า ‘ลาก่อน’” 📩 ข้อความที่ซีลอนตอบกลับ “เพราะคำว่า ‘คิดถึง’ มันยังแปลว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่อรอกันอยู่..ไม่เหมือน ‘ลาก่อน’ ที่จบไปแล้ว” ꕤ กลางเทอม – ภารกิจที่ไม่อยากให้มี ❁ ในช่วงที่เอรินกำลังเตรียมงานวิจัยปริญญานิพนธ์ เธอได้รับการติดต่อจากลินา เจ้าสัวชาญเดช ล้มป่วย และถูกคุกคามจากเครือข่ายใหม่ในตลาดสีเทาแห่งเอเชีย ❁ และสิ่งที่เลวร้ายกว่าคือ กลุ่มเวสเตเรีย (เครือญาติของซีลอน) กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง มีการเสนอสร้าง “ระบบชีพจรเงา” ขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ “W-Pulse” และซีลอนเองก็ได้รับ “คำเชิญ” ให้กลับไปเป็นผู้นำฝั่งใหม่ในฐานะ “เลือดเวสเตเรียที่บริสุทธิ์ที่สุด” ꕤ เผชิญหน้ากันอีกครั้ง ❁ ค่ำคืนหนึ่ง ซีลอนกลับมาหาเอรินที่บ้านเงียบๆ หลังหายไปจากการติดต่อหลายวัน เธอยังอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวเก่า ใส่แว่นและนั่งอ่านวิจัยอยู่ที่โต๊ะ “นายคิดจะบอกฉันไหม?” ❁ เธอถามโดยไม่หันมามอง “ว่าฉันถูกขอให้เลือกระหว่างโลกของเธอ กับเลือดของฉัน?” ❁ เขาถามกลับ “ไม่..ฉันถามว่านายยังอยากอยู่กับฉัน หรือเปล่า ไม่เกี่ยวกับโลกไหนเลย” ❁ พวกเขาเงียบไปนาน ก่อนที่ซีลอนจะวางเอกสารฉบับหนึ่งบนโต๊ะมันคือ “โครงการร่วม” ระหว่างเขากับเอริน ข้อเสนอจัดตั้งศูนย์บำบัดหัวใจเงาในระดับสากล “ฉันจะไม่หนีจากตระกูลเวสเตเรีย” “แต่ฉันจะไม่เป็นแบบเขาถ้าฉันมีเธออยู่ข้างๆ” ꕤ เทอมสุดท้าย – งานวิจัยสุดท้าย และคำขอแต่งงานที่ไม่เหมือนใคร ❁ วันสอบวิทยานิพนธ์ ❁ เอรินนำเสนอหัวข้อ: “Silent Codes: ความรุนแรงที่ไม่ถูกบันทึกในชีพจร” เธอใช้เรื่องราวจริงของผู้คนที่ไม่มีระบบใดเคยบันทึกหัวใจของพวกเขา และในช่วงท้าย เธอพูดว่า.. “มีหัวใจบางดวงที่เลือกจะไม่เต้นตามระบบ” “แต่กลับเต้นเพื่ออีกหัวใจหนึ่ง จนกลายเป็นเสียงที่เปลี่ยนโลกได้” ❁ หลังเธอกล่าวจบ ❁ ซีลอนเดินเข้ามาในห้องประชุม ยื่นกล่องเล็กๆ ให้ไม่มีแหวน ไม่มีเพชร มีเพียง “ชิ้นส่วนชีพจรรุ่นต้นแบบ” ที่เขาดัดแปลงเป็นจี้เล็กๆ พร้อมข้อความสลักไว้: If I am still me without the blood, will you still be you without the system? ❁ เอรินยิ้ม ไม่ตอบอะไร แต่สวมมันไว้ทันที ▰ ปี 4 กับคำว่า “เริ่มต้น” • ทั้งคู่สำเร็จการศึกษา • เอรินได้ข้อเสนอเข้าทำงานในองค์กรสหประชาชาติ ด้านมนุษยธรรมและสันติภาพ • ซีลอนได้รับสิทธิ์เลือก “นำเวสเตเรียไปในทิศทางใหม่” ผ่านการเจรจาโดยไม่ใช้ความรุนแรง ❁ แต่พวกเขายังไม่แต่งงาน ยังไม่เปิดเผยสถานะ เพราะสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการตอนนี้คือ เวลา ที่ได้มีชีวิตร่วมกัน โดยไม่ต้องอธิบายให้โลกฟัง ❁ เอริน และ ซีลอน ในช่วง “ชีวิตหลังเรียนจบ” ที่พวกเขาก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 20+ ชีวิตที่พ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยแต่ยังต้องตัดสินใจทุกวันว่าจะเป็นใคร, ใช้ชีวิตแบบไหน และจะรักกันในเงา..หรือในแสง ❁ นี่คือความสัมพันธ์ของสองคนที่เติบโตมาจากโลกแห่งอำนาจ แต่เลือกจะสร้าง “บ้าน” ❁ จากความเข้าใจ ไม่ใช่โครงสร้างอำนาจหรือระบบชีพจรอีกต่อไป ▰ ชีวิตจริง ไม่มีคู่มือ / No Map, Just Us ꕤ ปีที่ 1 หลังเรียนจบ – บ้านเช่าหลังแรก ❁ เอรินและซีลอนย้ายมาอยู่ด้วยกันในบ้านไม้ชั้นเดียว ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ไม่มีรั้วสูง ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ❁ มีแค่กลิ่นกาแฟยามเช้า, ชั้นหนังสือขนาดใหญ่, และกระดานไวท์บอร์ดที่เต็มไปด้วยโพสต์อิทธิโครงการที่ยังไม่เสร็จ “เราไม่ได้อยู่ในฐานะทายาทมาเฟียอีกต่อไป…” “แต่เราอยู่ในฐานะคนที่กำลังเรียนรู้จะใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นเขา” • เอรินทำงานให้กับองค์กรด้านเยียวยาผู้ลี้ภัยและเหยื่อระบบการกดขี่ • ซีลอนเริ่มตั้งเครือข่ายที่ปรึกษากฎหมายลับสำหรับผู้ที่ไม่มีตัวตนในระบบโลก ❁ พวกเขาทำงานหนัก แต่กลับบ้านมาดึกแค่ไหนก็ยังมี “มื้อเย็นอุ่นๆ และผ้าห่มผืนเดียวกัน” ꕤ ความสัมพันธ์แบบ 20++ ❁ พวกเขาเริ่มเรียนรู้ “รูปแบบความรักที่ไม่มีชื่อ” ไม่ต้องเรียกว่าแฟน หรือคู่หมั้น หรือสามีภรรยาแต่มีภาษาเฉพาะที่เข้าใจกัน เช่น • การยื่นกาแฟให้กันตอนที่ยังพูดไม่รู้เรื่อง • การฟังกันทั้งคืนโดยไม่แทรก • การขอพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่รู้สึกว่ากำลังห่างกัน และบางคืน เสียงหัวใจของกันและกันยังเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้รู้ว่า “ฉันยังอยู่ตรงนี้ แม้วันนี้จะหนักขนาดไหน” คืนหนึ่ง…ฝนตกหนัก พวกเขาต่างกลับมาจากภารกิจ เอรินนั่งซักเสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่นดิน ส่วนซีลอนนั่งซ่อมกาน้ำร้อน ไฟในบ้านดับ เสียงฝนค่อยๆ กลบเสียงโลกทั้งใบ “ฉันคิดว่าเราไม่มีวันได้ใช้ชีวิตแบบนี้…” “แบบที่เงียบ เฉย และไม่ต้องอธิบายตัวเองทุกวินาที” ❁ ซีลอนเดินเข้ามา กอดเธอจากด้านหลัง กลิ่นสบู่ธรรมดาบนคอเธอยังเหมือนเดิม เขาก้มจูบข้างแก้ม ไม่เร่ง ไม่เร้า ❁ เธอหันมากอดเขากลับ ช้าๆ แน่นๆ ปล่อยให้ทุกสัมผัส เป็นคำตอบของความรักที่ไม่ต้องใช้คำพูด ❁ ห้องมืดเงียบ มีแค่เสียงลมหายใจ และพวกเขาเรียนรู้ว่า “ความสัมพันธ์ในวัยผู้ใหญ่ไม่ต้องเร่าร้อนเสมอไป ❁ บางทีมันแค่นิ่งพอ ให้อีกคนกล้าพักใจ” ꕤ ชีวิตที่มากกว่าความรัก: การสร้างพื้นที่ให้คนอื่น ❁ หลังจากใช้เวลาปีแรกเรียนรู้กัน พวกเขาร่วมก่อตั้งองค์กรใหม่ชื่อว่า “Pulse Haven” ศูนย์บำบัดที่ไม่ใช้เครื่องมือเทคโนโลยี แต่ใช้ “มนุษย์” และ “หัวใจ” เป็นเครื่องมือหลัก • เปิดอบรมให้เจ้าหน้าที่ NGO ทั่วโลกเรื่องการฟังอย่างไม่ตัดสิน • มีคลินิกเล็กๆ ที่ภาคินช่วยออกแบบให้ พร้อมห้องพักใจ “เงียบ” สำหรับผู้รอดชีวิตจากความรุนแรง ꕤ บทสนทนากลางสวน ❁ เย็นวันหนึ่ง ขณะนั่งจิบชากันที่ระเบียง ❁ เอรินถามขึ้น “นายคิดว่าเราจะรักกันไปนานแค่ไหน?” ❁ ซีลอนยิ้ม ตอบเบาๆ “นานเท่าที่เรายังฟังกันอยู่โดยไม่ต้องรีบตอบ” ▰ ชีวิตในเงา ที่กลายเป็นแสง ❁ พวกเขาอาจจะไม่ได้รักกันแบบละคร หรือแบบฝัน แต่ในโลกแห่งการเอาตัวรอด พวกเขาเลือก “อยู่ด้วยกัน” และ “เติบโตไปพร้อมกัน” ❁ แบบที่คนในโลกใต้ดินแทบไม่มีใครเคยทำได้ และนั่น คือการปฏิวัติที่เงียบที่สุด แต่ทรงพลังที่สุดในชีวิตของพวกเขา ✩ 🎀°.❀⋆⸜ 🌷 ✩♬ ₊.🎧⋆☾⋆⁺₊✧ ୭ 🧷 ✧
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD