เป็นได้แค่เพื่อน

3431 Words
คฤหาสน์ชโยดม เช้านี้คุณนายใหญ่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ภายในห้องรับแขกและรอบๆตัวรายล้อมไปด้วยบริวารและเลขาคนสวยซึ่งกำลังพยายามหาข้อยุติเกี่ยวกับเรื่องสำคัญบางเรื่องกันอยู่ ณดล เดินเข้าบ้านมาอย่างสะบายอารมณ์เสียงผิวปากดังมาแต่ไกล เขากำลังจะเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปนอนพักผ่อนตามปกติแต่ก้อต้องหยุดเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงคุณย่าของเขาเรียกไว้ "ตาดล มาหาย่าก่อน" เสียงทรงอำนาจของท่านเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มจำใจต้องเดินย้อนกลับไปหาผู้เป็นย่าอย่างไม่เต็มใจนัก "คุณย่ามีไรรีบพูดนะครับผมง่วงจะไปนอน"บอกผู้เป็นย่าแล้วเดินไปนั่งพาดขาตามความยาวของโซฟาอย่างสะบายใจ บรรดาบ่าวไพร่สาวๆต่างส่งสายตาให้นายหนุ่มกันเป็นแถวรวมทั้งเลขาสาวของคุณนายใหญ่ด้วย "ย่าว่าเรามีเรื่องคุยกันยาวนะคงรีบไม่ได้หรอก" ผู้สูงวัยมองหลานชายอย่างไม่ค่อยพอใจนัก "งั้นคุณย่าก้อว่าเรื่องของคุณย่าไปเลยครับผมจะนอนฟังตรงนี้"พูดแล้วก้อเอนตัวลงนอนหน้าตาเฉย "ตาดล!!นี่ย่าพูดเรื่องจริงจังอยู่นะ" คุณนายใหญ่เริ่มจะทนไม่ไหว "ก้อพูดไปสิครับผมกำลังฟัง" ปิดตาหลับไปอีก "ตาดล!!นี่เรายังไม่รู้ตัวรึไงว่ากำลังจะโดนคุณปู่ตัดหางปล่อยวัดน่ะ" คุณย่าใหญ่ถามอย่างร้อนรน "รู้แล้วครับ" "แล้วยังไง รู้แล้วทำไมยังทำตัวเกเรเที่ยวยันสว่างงานการก้อไม่ยอมไปทำ..ฮึ!!"ถามไปอีก "ผมก้อเป็นของผมงี้ตั้งนานแล้วรึเปล่าครับคุณย่า ยังไม่ชินกันเหรอครับ" ตอบกลับมาหน้าตาเฉย "ย่าอ่ะชินแต่คุณปู่เราน่ะท่านไม่ชินด้วยหรอกนะ นี่ก้อคาดโทษไว้แล้วว่าถ้ายังไม่ปรับปรุงตัวภายในปีนี้ท่านจะตัดหางแกปล่อยวัดแล้วนะ"พยายามกล่อมหลานชาย "ถ้าการที่ผมทำตัวแบบนี้มันทำให้ท่านไม่สะบายใจจนต้องตัดหางปล่อยวัดผมๆก้อคงทำไรไม่ได้หรอกครับ" "แล้วแต่คุณปู่ละกัน" "ไม่ได้นะตาดล คุณปู่แกจะยกสมบัติให้การกุศลนะแกจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีสมบัติไม่มีเงินทอง" "ถ้าอยากยกให้การกุศลก้อยกให้ไปเลยครับผมไม่สน สมบัติของแม่ผมก้อกินทั้งชาติไม่หมด" พูดอย่างไม่แคร์ "ตาดล!!ไม่ได้นะลูกแกจะคิดอย่างงั้นไม่ได้นะ" ยังพยายามจะกล่อม "ทำไมจะไม่ได้ละครับทีคุณปู่ยังคิดยกสมบัติให้การกุศลได้เลย" "แกอย่าทำอย่างงี้ได้มั๊ยตาดลแกเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลนะแกต้องสืบทอดสมบัติของตระกูลสิ" คุณย่าใหญ่ยังไม่ละความพยายาม "แกอยากให้ย่าหัวใจวายตายไปรึไง..ฮึ!!" "แกไม่รักย่าแล้วใช่มั๊ย" ทำท่าจะเป็นลมไปอีกจนสาวใช้ต้องวิ่งหายาลมยาดมยาหม่องกันจ้าละหวั่น แต่หลานชายคนเดียวนอนกระดิกเท้าเฉย "คุณย่าแข็งแรงจะตายไม่มีโรคหัวใจด้วยไม่มีทางหัวใจวายหรอกครับ" "ตาดล!!" เรียกชื่อหลานชายอย่างอ่อนใจ "มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั๊ยครับผมจะไปนอน" ทำท่าจะลุกออกไป "เดี๋ยว!!ยังไม่หมด" บอกเสียงเฉียบ ณดลนั่งลงที่เดิมอีก ถอนหายใจแรงๆออกมาอย่างเซ็งๆ "รีบๆปิดจ๊อบเหอะครับคุณย่าผมง่วง!!" "ย่ามีทางออกให้แก"คุณนายใหญ่เริ่มเอ่ยขึ้น "ว่ามาครับ" "ตอนนี้ที่แกเป็นงี้อาจเพราะแกยังไม่มีครอบครัวเลยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี"เริ่มเข้าเรื่อง "แล้ว.." "ย่าจะให้แกแต่งงาน" บอกออกไปเสียงเฉียบ "ห๊ะ!!แต่งงาน!!" ณดลตกใจถึงกับลุกขึ้นมาทำหน้าเหรอหรา "แต่ง..กับใคร..ผมยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ"รีบทักท้วง "ไม่มีก้อหาเข้าสิ" ยังพยายามหว่านล้อม "มันไม่ได้หากันง่ายๆเหมือนหาเลขารึหาคนรับใช้นะครับ" "หาไม่ง่ายแต่ก้อไม่ได้หายาก" "ผมจะหามาจากไหนครับคุณย่า" ยังแย้งไปอีก "ผมไม่มีปัญญาหามาให้คุณย่าหรอกครับ ถ้าหาพริตตี้เด็กอ๊อฟผมพอหาให้ได้" ชายหนุ่มพูดขำๆ "จะบ้าเหรอตาดลจะเอามาทำไมพวกผู้หญิงแบบนั้นน่ะ" "เอางี้ถ้าแกไม่มีใครหาใครไม่ได้จริงๆงั้นย่าจะหาให้" ท่านทำท่าคิด "ก่อนจะหาผมอยากรู้ว่าเอาความคิดนี้มาจากไหนครับ" เขาถามผู้เป็นย่าออกไป บรรดาบ่าวไพร่พากันหลบตาอย่างพร้อมเพรียงรวมทั้งเลขาคนสวยด้วย "คุณย่าเอาความคิดประหลาดๆนี่มาจากคนพวกนี้เหรอครับ คุณย่าเชื่อคำพูดของคนพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ" ณดลทำท่าเสียอารมณ์ไปอีก "แต่มันก้อเป็นความคิดที่ดีนะลูก" ผู้เป็นย่าหันมาพูดยิ้มๆ "ดีบ้าบอไรล่ะครับ ผมไม่ได้อยากแต่งงานผมยังรักชีวิตโสดของผมอยู่" เขารีบบอก "อีกอย่างคนที่เหมาะกับผมและทนผมได้มันไม่มีหรอกครับในโลกนี้น่ะ" "มีสิคะคุณดล" เลขาคนสวยเอ่ยขึ้นยิ้มหวานส่งไปอีก อยากบอกว่า ...ก้อนั่งอยู่ตรงนี้ไงคะ...เลขาคนสวยคิด ณดลหันมามองคนพูดทำสีหน้าไม่พอใจและมองอย่างเหยียดๆไปอีก "ย่าเห็นมีอยู่คนนึงนะที่เหมาะกับเรา" คุณนายใหญ่ทำท่าคิดออก "ใครครับ" ณดลถาม "ใครคะ" เลขาถาม คุณนายใหญ่หันมามองหน้าเลขาสาวอย่างสงสัย "แกจะอยากรู้ไปทำไมยัยกุล" "ออ..เอ่อ..ก้ออยากรู้น่ะค่ะว่าใครจะเป็นผู้โชคดี" ยิ้มอย่างเขินๆ "แล้วตกลงใครครับคุณย่า" ณดลถามอีก "คนนี้แกก้อรู้จักตาดล"บอกยิ้มๆ "ใคร..ผมรู้จักด้วย" ยังสงสัย ทำท่าคิดไปอีก "คนกันเอง หนูดิวอี้ไง" "ห๊ะ!!ดิวอี้!!"ณดลอุทานออกมา "เหมาะสุดๆเหมาะทุกอย่างทั้งฐานะการศึกษาอีกอย่างย่าเคยเกริ่นๆกับพ่อ-แม่น้องไว้นานแล้วด้วย"พูดอย่างภูมิใจ "ทายาทคนเดียวของห้างชื่อดังของเมืองไทยรวยติดอันดับประเทศเชียวนะ"พูดชื่นชมไปอีก "ผมว่าคุณย่าไม่น่าต้องเหนื่อยอารัมภบทเลยนะครับ คุณย่าบอกซะตั้งแต่แรกว่าจะให้ผมแต่งกับดิวอี้ก้อสิ้นเรื่อง"ณดลถอนหายใจอย่างเซ็งๆ "คุณย่าจับคู่ผมกับยัยนั่นมาแต่แรกแถมยังปล่อยข่าวหมั้นกันอีกต่างหาก" "แกรู้"..คุณนายใหญ่ ทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกจับไต๋ได้ยิ้มเจื่อนๆให้หลานชาย "งั้นก้อตกลงแต่งกันเลยละกันหลานไม่มีปัญหาใช่มั๊ย!!"รวบรัดตัดตอน "ผมไม่แต่ง ผมไม่ได้ชอบยัยนั่น"ปฏิเสธทันที "ไม่ได้นะตาดลข่าวหมั้นออกมาหลายเดือนละต้องแต่งแล้ว"ยังพยายาม "แค่ข่าวลวงใครใช้ให้ปล่อยข่าวล่ะครับ"ณดลทำไม่สนใจ "แต่หลานก้อไปดูงานกับน้องจนไปถึงไหนๆกันแล้วไม่ใช่เหรอ" ยังไม่ยอม "แผนของคุณย่าทั้งนั้น ยัยนั่นนอนแบให้ผมเองผมไม่แต่งกับคนที่ไม่รักหรอกครับ"ยังปฏิเสธ "คุณย่าอยากแต่งก้อแต่งเองเลยผมไม่เอาด้วยหรอกผมไม่ชอบของรีเมค...เสียเวลา!!"พูดจบก้อเดินขึ้นห้องไปเฉย "ไม่ได้นะลูก..ตาดล!!" คุณนายใหญ่พยายามเรียกไว้แต่ไม่เป็นผลได้แค่ถอนหายใจแรงๆอย่างหนักใจกับหลานชายตัวดี "เอ..รึคุณดลจะกำลังคบใครอยู่รึเปล่าคะคุณท่าน"กุลนรีทำท่าสงสัย "เธอคิดงั้นเหรอ...แล้วใคร มันเป็นใคร" สงสัยไปอีก "ต้องเป็นคนที่ไม่ดีรึไม่ก้ออาจเป็นผู้หญิงพวกนั้นที่คุณดลชอบไปมั่วกันที่ผับก้อได้นะคะ" กุลนรีตั้งข้อสงสัย "ก้ออาจเป็นไปได้นะ "ทำท่าคิดตามไปอีก "มิน่าล่ะพักนี้ไม่ค่อยกลับบ้านรึพอกลับก้อกลับเช้า ต้องใช่แน่ๆนังพวกปลิงทั้งหลาย ชั้นไม่ยอมให้พวกมันมาเป็นหลานสะใภ้ชั้นหรอกนะ..ฝันไปเถอะ" พูดอย่างโกรธเกรี้ยว "ชั้นต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร"พูดอย่างมุ่งมั่น "กุลจะให้คนไปสืบให้ค่ะ"เสนอไปอีก "ดีมากกุลนรีชั้นเลือกคนไม่ผิดเธอช่วยชั้นได้ทุกเรื่องจริงๆ" กุลนรียิ้มอย่างดีใจที่ได้รับคำชม มหาลัย นาราในชุดนักศึกษากำลังนั่งทำงานกลุ่มเพื่อส่งอาจารย์อยู่กับเพื่อนๆข้างตึกคณะ "พี่นารา!!" เสียงหวานของนิรินเรียกพี่สาวมาแต่ไกล นาราเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มหวานให้น้องสาว "มาทำไรแถวนี้นิริน" นาราทักถามก่อนน้องสาวคนสวยจะเดินมาทรุดนั่งลงข้างๆ "มาหาพี่นาราแหละ" บอกพลางยกมือไหว้เพื่อนของพี่สาว "สวัสดีค่ะพี่โยพี่ทับทิมพี่มินนี่" ไหว้กราดทีเดียวรอบวง โย หรือ ศตวรรษ พลพานิชกุล หนุ่มดาวคณะบริหารสุดหล่อโปรไฟล์เลิศเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้น้องสาวเพื่อนอย่างเอ็นดู มินนี่ หรือ เหนือบุรุษ เดชเดโช หนุ่มน้อยลูกชายเจ้าของสวนผลไม้ทางภาคเหนือผู้มีรูปร่างสะโอดสะองค์แถมมีใจเป็นหญิงส่งยิ้มแสนหวานให้ ทับทิม หรือ มัลลิกา ทิพยา เด็กสาวลูกชาวนาที่สอบได้ทุนมาเรียนและยังเป็นเพื่อนร่วมงานของนาราอีกด้วย "พี่ๆอยู่กันพร้อมหน้าเลยนะคะ "นิรินยิ้มหวานส่งให้พี่ๆแต่หยุดสบตาโยโดยเฉพาะอย่างตั้งใจ "พี่โย ไม่เจอหลายวันยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะ" ทักออกไปตรงๆตามที่ใจคิด "โหวว..นิริน ไม่แผ่วเลยนะจ๊ะน้อง" มินนี่หนุ่มหัวใจหญิงต่อว่าอย่างไม่จริงจังนัก เขารีบกอดแขนเพื่อนชายแล้วแสดงตัวเป็นเจ้าของทันที "เกรงใจพี่มั่งละไม่มี" หยอดคำหยอกไปอีก "พี่มินนี่อ่ะ มีของดีต้องแบ่งกันเต๊าะนะคะ" นิรินพูดติดตลกกลับไปอีก "พอๆรีบบอกมาว่ามาหาถึงคณะพี่มีไร" "หนูจะมาบอกว่าวันนี้จะกลับช้าหน่อยน่ะค่ะ" นิรินบอกพี่สาว "จะไปไหนอีกล่ะ" ถามอย่างห่วงๆ "ก้อเรื่องประกวดเฟรชชี่ไงคะ หนูได้รับเลือกให้เป็นดาวคณะค่ะ" บอกพลางทำหน้าเซ็งๆ "อ้าวได้เป็นดาวคณะแล้วทำไมทำหน้าเซ็งขนาดนั้นละลูก" มินนี่ถามอย่างสงสัยพอเห็นน้องสาวเพื่อนมีสีหน้าไม่สู้ดี "ก้อหนูไม่ได้อยากเป็นนี่คะ" บอกออกไปตรงๆ "ทำไมล่ะ เราออกจะสวยน่ารักพี่ว่าถ้าเราลงประกวดดาวมหาลัยปีนี้ต้องได้คณะแพทย์แน่ๆ" "พี่ก้อว่านิรินเหมาะนะต้องได้ตำแหน่งแน่ๆ ปีนี้พี่ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงด้วยดีเลยจะได้คอยช่วยนิริน" โยเห็นด้วยกับเพื่อนๆ "จริงเหรอคะพี่โย...ดีจัง" สาวน้อยแสดงความดีใจออกหน้าออกตา "ดีๆงั้นชั้นฝากแกด้วยนะโย ชั้นคงไม่มีเวลาไปดูแลน้องอ่ะมีแกดูแลจะได้ไม่ต้องห่วง"นาราหันมาบอกเพื่อน ชายหนุ่มหันมายิ้มนัยน์ตาพราวกับนารา โยเป็นเพื่อนกับนารามา 2 ปีตั้งแต่เรียนปี 1 คอยตามจีบมานานแต่นาราก้อให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนตลอดมา แต่เขาก้อไม่ละความพยายามยังตั้งหน้าตามจีบต่อไป "นาราไม่ต้องห่วงนะโยจะดูแลนิรินให้ดีที่สุด" เขาบอกจากใจจริง "ได้โอกาสทำคะแนนแล้วนะแกไอ้โย"ทับทิมหันมาแซวเพื่อน นิรินมองโยกับนาราสลับกันอย่างงงๆ "พี่โยชอบพี่สาวหนูเหรอคะ..ว้าา..แย่จัง"บ่นอย่างเสียดาย "อืม..แต่พี่สาวเราเค้าไม่ได้ชอบพี่" ตอบเศร้าๆ "โอ๋ๆอย่าเศร้าไปค่ะ พี่นาราไม่ชอบก้อมาชอบหนูแทนสิคะ หนูอ่ะชอบพี่" บอกออกไปตรงๆ "ห๊ะ!!" โยทำหน้าตกใจ ไม่คิดว่าน้องสาวเพื่อนจะพูดออกมาตรงๆ "แรงนะยัยนิรินข้ามศพชั้นไปก่อนป่ะ" มินนี่ทำท่าไม่ยอม เกิดการแย่งชิงกันเล็กๆขึ้น เพื่อนๆต่างหัวเราะชอบใจกับท่าทางของทั้งสอง "งั้นเย็นนี้พี่กลับก่อนนะ นิรินกลับคนเดียวระวังด้วยล่ะ แล้วก้ออย่ากลับดึกมากด้วย" สั่งน้องสาวไปอีก "เดี๋ยวเราไปส่งเองไม่ต้องห่วงนะนารา" โยเสนอตัว "ดีค่ะพี่โย" "อย่าไปรบกวนพี่โยเลยนิริน"นาราบอกน้องสาว "ไม่ได้รบกวน เราเต็มใจไปส่งน้องสาวนาราก้อเหมือนน้องสาวเราแหละ" "เราเกรงใจแกน่ะบ้านแกกับคอนโดเราอยู่คนละทางด้วย" "แกจะต้องเกรงใจทำไม เราเพื่อนกันนะถึงโยจะอยากเป็นมากกว่าเพื่อนก้อเหอะ"ยังหยอดไปอีก "งั้นตามใจแกละกันฝากด้วยนะ"นาราบอกอย่างเกรงใจ "ว่าแต่ทำไมจู่ๆนิรินถึงยอมรับตำแหน่งดาวคณะล่ะ ไหนทีแรกบอกไม่อยากเป็นไง" ทับทิมหันมาถาม "ก้อหนูอยากได้รางวัลน่ะสิคะพี่ๆที่คณะบอกว่าถ้านิรินยอมลงประกวดจะซื้อไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดให้ค่ะ" สาวน้อยบอกยิ้มๆ "ออเห็นแก่ของนี่เอง" ทับทิมขำกับความงกของน้องสาวเพื่อน "พอดีของเก่ามันเจ๊งนะค่ะ" "พี่ก้อบอกแล้วไงว่าจะเก็บเงินมาซื้อให้ไม่เห็นต้องไปประกวดเลย"นาราบอกน้องสาว "พี่นาราทำงานกว่าจะได้ก้อคงหลายเดือนหนูมีความจำเป็นต้องใช้ค่ะ อีกอย่างพี่ควรเก็บเงินไว้ซื้อของที่พี่อยากได้ดีกว่านะคะ" หันมาบอกพี่สาว "ที่จริงถ้าจำเป็นพี่ซื้อให้ก่อนก้อได้นะนิรินเอามั๊ยเดี๋ยวพี่พาไปซื้อวันนี้!!" โยเสนอ "ไม่เอาค่ะไม่ใช่เครื่องบาทสองบาท ไว้พี่โยเป็นแฟนหนูค่อยซื้อให้นะคะ" ยังหยอดไปอีก "โอ๊ะ..เบาลูกเบา "มินนี่ทำท่าไม่ค่อยชอบใจ "นาราเอาน้องแกไปเก็บไป ไม่ไหวเต๊าะผู้ขนาดนี้ ชั้นก้ออดสิยะ" พูดติดตลกไปอีก "หนูเต๊าะขนาดนี้พี่โยยังไม่แลเล้ยพี่มินนี่" "นิรินจะไปไหนก้อไปสิพี่จะกลับห้องละ"นาราบอกน้องสาว "อยู่นานเดี๋ยวอาจจะมีตบแย่งผู้ขึ้นมาก้อได้นะ" มินนี่พูดเสียงดังทำเบะปากมองบนอย่างน่าเอ็นดู "งั้นโยไปพร้อมนิรินเลยละกัน ไหนๆก้อต้องไปละ" โยลุกขึ้นตามนิรินแล้วคว้าหนังสือเรียนของนิรินมาถือให้ "กรี๊ดๆๆต่อหน้าต่อตาเลย" มินนี่ทำท่าหึงหวง "555 ไปแล้วนะคะพี่มินนี่" นิรินควงแขนไปอีก พอสองหนุ่มสาวเดินจากไป "น้องสาวแกไม่ธรรมดาจริงๆนารา" มินนี่หันมาบอกเพื่อนยิ้มๆ "ยัยนิรินน่ะแกล้งแกไปงั้นแหละอย่าไปถือสาล่ะ" "ชั้นจะต้องไปถือมันทำไม ชั้นรู้อยู่เต็มอกว่าโยมันหายใจเข้า-ออกเป็นแก"มินนี่ย้ำให้เพื่อนได้คิด "ชั้นน่ะไม่อยากให้โยคิดแบบนั้นเลย ชั้นไม่มีอะไรคู่ควรไอ้โยมัน" พูดอย่างน้อยใจ "ไอ้โยมันชอบแกจริงๆมันไม่คิดเรื่องคู่ควรไม่คู่ควรหรอกแกน่าจะลองคบมันดูนะนารา"ทับทิมช่วยชงเพื่อนไปอีก "ไม่อ่ะ ชั้นไม่อยากคบใครตอนนี้ ชั้นไม่อยากให้ความหวังมัน มันดูเห็นแก่ตัวเกินไป " พูดปลงๆ "แล้วแต่แกละกัน"ทับทิมถอนหายใจแรงเหนื่อยหน่ายกับเพื่อนรัก หน้าคอนโด โยขับรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ของเขามาจอดหน้าคอนโดโดยมีสาวน้อยนิรินนั่งซ้อนท้ายมาด้วย "ขอบคุณนะคะพี่โย"นิรินยิ้มหวานหน้าบานได้นั่งซ้อนท้ายคนที่เธอปลื้ม "ไม่เป็นไรครับขึ้นห้องพักผ่อนได้แล้วนะเด็กดี" พูดพลางลูบหัวอย่างเอ็นดู นิรินยิ้มเขินก่อนจะเดินจากไป โยขับรถออกไป ลีโอที่นั่งอยู่ในล็อบบี้ของคอนโดมองจ้องภาพสองหนุ่มสาวอยู่อย่างไม่ค่อยพอใจนัก พอนิรินเดินเข้าล็อบบี้มาเขาก้อแกล้งหลบไม่ให้เห็นแต่ค่อยๆเดินตามหลังไปจนพ้นจากระยะสายตาของคนอื่นๆก้อเดินไปคว้ามือสาวเจ้าไว้ "เดี๋ยวนิริน!!"ลีโอเรียกเสียงดังก่อนถึงประตูลิฟท์ "ว๊าย!!"นิรินอุทานเสียงดัง เธอตกใจสะบัดมืออีกข้างใส่แก้มคนที่บังอาจถือดีมาจับมือถือแขนเธอสุดแรง "เพี๊ยะ!!" "โอ๊ย!!" ร้องแต่ไม่ยอมปล่อยมือ "อะไรของลุงเนี่ยมาจับมือเค้าทำไม ปล่อยนะ" ตวาดแหวไปอีก "แค่นี้ถึงกับต้องตบเลยเหรอวะ"เขาตวาดกลับหน้าตาดุดันแสดงถึงอารมณ์โกรธ "ใครใช้ให้มาจับมือเค้าล่ะ..ปล่อย!!" พยายามแกะมือ "แค่จับมือทำเป็นเล่นตัวไปได้ทีตะกี้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์กอดผู้ชายแทบจะสิงร่างกัน" เขาต่อว่าออกไปเสียงเข้ม "ลุง!!มาแอบส่องเค้า..ว่างมากรึไง" "ไม่ว่าง!!" "ไม่ว่างแล้วมาทำไม โรคจิตเหรอถึงได้มาตามติดชีวิตคนอื่นแบบนี้" "อ๋อ..รึว่าจะเป็นโจรโรคจิตที่แอบเข้ามาขโมยกางเกงในที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ ต้องใช่แน่ๆ ช่วยด้วยๆ" ตะโกนหาคนช่วย ลีโอรีบปิดปากไว้ด้วยมืออีกข้างทันที เขาล็อคตัวนิรินไว้แล้วลากพาเข้าไปในลิฟท์ "จะบ้าเหรอตะโกนแบบนั้น เดี๋ยวก้อเป็นข่าวหรอก โจรโรคจิตอะไรของเธอดูให้ดีๆโจรหล่อขนาดนี้มีเหรอ แล้วโจรไรแต่งตัวแบรนด์ขนาดนี้แล้วยังขับรถสปอร์ตที่ทั้งโลกมีอยู่แค่20คันด้วย" โม้ไปอีก นิรินแกะมือเขาออกพอลิฟท์ปิดลง "ของปลอมรึเปล่า..ก๊อปรึเปล่า..รถก้ออาจจะยืมใครรึเช่ามาก้อได้" "หน้าตาเสื้อผ้าแบบไหนก้อเป็นโจรได้ทั้งนั้นแหละ" "ปล่อยมือได้แล้วลุง..เจ็บนะ" ลีโอยอมปล่อย "ชั้นไหน" หันมาถาม "อะไรชั้นไหน"หันมาถามงงๆ "ก้อห้องเราน่ะชั้นไหน" "เฮ้ย!!เรื่องไรจะบอก อะไรจะตามถึงห้องเลยเหรอ" ทำท่ากลัวๆ "ก้อขึ้นลิฟท์มาแล้วอ่ะก้อต้องไปแล้วป่ะ" "ใครให้ไป" นิรินกดเปิดแล้วก้าวออกมาทันที "ลุงจะไปห้องสาวคนไหนก้อเชิญก่อนเลย"บอกพลางจะเดินหนี "ก้อจะไปห้องสาวคนนี้ไง"ก้าวไปยืนขวางไว้ สาวเจ้ามองอย่างไม่ไว้ใจ "จะไปทำไมห้องเค้า" "ก้อเอาของมาให้ไง เมื่อเช้าก้อไม่ยอมเอาลงรถไปด้วยต้องเอาตามมาให้ถึงที่เนี่ย" รีบอธิบาย "แล้วไหนของ" "อยู่.." ทำท่าคิดได้ "บนรถ" บอกยิ้มๆ "ก้อตะกี้พี่รีบเดินตามนิรินเลยลืมหิ้วมา" "อยากให้เค้ามาก เงินเหลือว่างั้น เป็นคนรวยนี่มันดีงี้เองอยากให้ก้อต้องได้ให้" กระแนะกระแหนไปอีก "มันก้อต้องให้ป่ะ พี่ทำของเราเสียหายแล้วพี่ก้อรู้ว่าเราคงไม่มีเงินไปซื้อใหม่หรอก" พูดอย่างเข้าใจ "ผิดเหรอที่เค้าไม่ได้รวยอย่างคนอื่นน่ะ" ตวาดแหวกลับไปทันที "เอาอีกละ โกรธอีกละ พี่แค่พูดความจริงป่ะ" "เออเค้ามันจน เอามาจะเอาอะไรให้ก้อเอามา" ประชดไปอีก "งั้นรอตรงนี้เดี๋ยวไปเอามาให้" เดินดุ่มๆออกไป ไม่นานก้อหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามา นิรินรับเอาของมาถือเองทั้งหมด "รับแล้วเชิญกลับแล้วต่อไปก้อหวังว่าจะไม่ได้เจอกันอีกนะ คงไม่ต้องขอบคุณเพราะก้อบอกอยู่ว่าแค่ชดเชยให้" พูดจบก้อหอบของพะรุงพะรังเข้าลิฟท์ไป ลีโอมองตามหลังหญิงสาวไปทำอะไรไม่ถูกอยากตามขึ้นไปก้อทำไม่ได้..ทำได้แค่เดินกลับไปขึ้นรถแบบงงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD