ตอนที่ 2

1188 Words
“โอเคค่ะ ฉันต้องขอโทษด้วย แต่พอดีว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องเข้ามาขัดจังหวะตอนนี้” “อะไรของหล่อนยะ?” “มีคนมาขอพบคุณรีสค่ะ” นุชนารถรีบหันมาและย่นคิ้ว “ใครกันคะมาขอพบฉันตอนนี้ เขาได้แจ้งผู้จัดการส่วนตัวของฉันไว้หรือเปล่าคะ” “เห็นผู้จัดการของคุณบอกว่าเขาแจ้งเธอไว้แล้วค่ะ” “เขาเหรอ?...ใครน่ะ...เขาชื่ออะไร?” สวีทเลิฟแทรกขึ้น “เขาให้บอกคุณรีสว่า...เขาชื่อเมมฟิสค่ะ” คำตอบนั้นยิ่งทำให้คนฟังงุนงงหนักขึ้นไปอีก นุชนาถเหลือบมองเข็มนานาฬิกาติดผนังที่ใกล้ถึงเวลาเดินทางไปงานเลี้ยงใหญ่ของเหล่าดาราในอีกไม่ถึงชั่วโมง โดยปกติแล้วเวลาเร่งด่วนแบบนี้ผู้จัดการส่วนตัวของเธอจะไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบ แล้วคนคนนั้นเป็นใครกันถึงทำให้ผู้จัดการส่วนตัวของเธอยินยอมได้ “แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนยะ?” สวีทเลิฟที่ทำหน้ายุ่งเป็นฝ่ายถาม “เขารออยู่ที่ห้องสวีทชั้นเดียวกันนี่ล่ะค่ะ” “โอเค...หล่อนเอาหน้าบื้อ ๆ ของหล่อนออกไปจากห้องนี้ได้แล้วไป” “ค่า...สวีทตี้” สต๊าฟสาวคนสวยรับคำพร้อมกลอกตาไปมาก่อนออกไปจากห้องนั้น นุชนาถลุกจากเก้าอี้ สวีทเลิฟลุกขึ้นตามและทำสีหน้าครุ่นคิด “หวังว่าคงไม่ใช่พวกมหาเศรษฐีงี่เง่าที่ชอบมาติดต่อดาราสาว ๆ หน้าใหม่ไปรับเลี้ยงหรอกนะ” “ถ้าใช่ฉันก็แค่ปฏิเสธเท่านั้น” “รีส...” สวีทเลิฟเรียกหญิงสาวที่กำลังจะหันหลังเดินไปที่ประตู นุชนารีหยุดชะงักและหันกลับไปมองช่างแต่งหน้าหนุ่ม “มีอะไรเหรอคะสวีทตี้” “ฉันแค่อยากบอกว่า...ถ้าคืนนี้เธอได้พบกับ...นีล ที่งานเลี้ยงพรมแดง เธอควรต้องอยู่ห่าง ๆ เขา ไม่อย่างนั้นพวกนักข่าวต้องพากันรุมยำเธอแน่ ๆ” หญิงสาวยิ้มจาง ๆ ให้กับคำพูดแสดงความหวังดีนั้นแม้ตัวเธอเองจะหวั่นใจในสิ่งที่เขาพูดก็ตาม ร่างบอบบางเดินไปหยุดที่ประตูโดยที่สวีทเลิฟหันกลับไปก้มหน้าก้มตาเก็บอุปกรณ์แต่งหน้าบนโต๊ะเครื่องแป้ง แต่เมื่อนุชนาถก้าวออกมายังห้องด้านนอกก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าภายในห้องที่ก่อนหน้านี้มีเหล่าสไตลิสต์จัดเสื้อผ้าและช่างภาพนั้นบัดนี้ไม่เห็นเงาของคนเหล่านั้น มีก็เพียงแต่บุรุษร่างใหญ่สองคนในชุดสูทสีดำสนิทยืนอยู่ และเมื่อพวกเขาเห็นเธอก้าวออกมาจากห้องแต่งตัว หนึ่งในสองคนก็เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหญิงสาว “สวัสดีครับคุณรีส” ชายร่างใหญ่กล่าวขึ้น นุชนารีเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “เอ้อ...ขอโทษนะคะ พวกคุณเป็นใคร” “ผมสองคนจะมารับคุณไปพบคุณเมมฟิส” “รับฉันเหรอคะ?...ฉันกำลังจะออกไปพบเขาพอดี แล้วนี่...ผู้จัดการส่วนตัวของฉันอยู่ที่ไหน” ดาราสาวเอ่ยถามพลางกวาดสายตาไปรอบห้องขณะเริ่มเกิดความลังเลไม่แน่ใจ ผู้จัดการส่วนตัวของเธอไม่อยู่ มีก็เพียงชายแปลกหน้าสองคนที่ดูไม่น่าไว้วางใจ แต่แล้วชายคนนั้นก็กล่าวขึ้น “เธอออกไปแล้วครับ...เชิญทางนี้ครับคุณรีส เบคเลอร์” “ฉันยังไม่ทราบเลยนะคะว่า...คุณเมมฟิส...คนที่มาขอพบฉันเขามีธุระสำคัญอะไร อย่างน้อยฉันควรต้องได้พบผู้จัดการส่วนตัวของฉันก่อนนะคะ” “เราได้แจ้งให้เธอทราบแล้วครับ...ผมขอรับรอง” เขาพยายามยืนยัน นุชนาถจ้องหน้าคนพูดชั่วอึดใจก่อนที่เขาและชายอีกคนจะเดินไปเปิดประตูราวกับจะบอกว่าเธอต้องออกไปจากห้องเดี๋ยวนั้น ร่างแน่งน้อยเริ่มรู้สึกอึดอัดเพราะทุกอย่างดูไม่ปกติหากก็ต้องเดินตามชายทั้งสองไปยังอีกห้องซึ่งอยู่ด้านสุดของโถงทางเดินบนชั้นที่ห้าสิบของโรงแรมดัง และเมื่อไปถึงหญิงสาวจึงหยุดยืนที่หน้าห้องนั้นและหันไปมองชายแปลกหน้าที่พาเธอมา “เชิญครับ” หนึ่งในนั้นเปิดประตูให้ หญิงสาวยังยืนนิ่งอยู่อีกไม่ถึงนาทีและตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้อง บานประตูถูกปิดลงและชายทั้งสองก็ไม่ได้ตามเข้ามา ในห้องนั้นเป็นห้องพักแบบสวีทหรูหราและมีขนาดใหญ่โตโอ่โถงมาก นุชนารีกวาดสายตาไปทั่วห้องพักเลิศหรูกระทั่งไปหยุดที่ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขก และเมื่อเขาเห็นว่าใครเข้ามาก็เปลี่ยนท่าเป็นนั่งหลังตรงและประสานมือไว้ด้านหน้า “สวัสดี...คุณรีส เบคเลอร์” เสียงทักทายที่ดังขึ้นนั้นทุ้มกังวานแต่หนักหน่วง หญิงสาวมองไปรอบห้องอีกครั้งก็ไม่เห็นว่ามีใคร มีเพียงเธอและ ใครคนนั้น ที่ไม่แน่ใจเลยว่าเขามีจุดประสงค์อันใดถึงได้มาขอพบเธอที่นี่ ร่างแน่งน้อยก้าวเข้าไปหยุดที่ชุดเก้าอี้รับแขกที่ซึ่งร่างสูงใหญ่ของชายอเมริกันผิวสีแทนจัดภายใต้ชุดสูทสีนิลนั่งอยู่ และเมื่อเข้าไปใกล้เธอจึงได้เห็นใบหน้าคร้ามเข้มนั้นชัด ๆ เขาเป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาดีมาก หล่อเหลาถึงขั้นที่ทำให้เธอนึกถึงเหล่านายแบบโลก รูปร่างนั้นสูงสง่าแม้ขณะนั่งก็ประมาณได้ว่าเขาน่าจะสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรเลยทีเดียว นุชนาถเผลอจ้องหน้าคมคายที่สันกรามแกร่งรกด้วยขนเคราสั้นและจมูกโด่งยาวรับกับริมฝีปากหยักหนาโดยไม่รู้ตัว โครงหน้าใต้กรอบเรือนผมสีบรูเน็ตนั้นคมเข้มดิบดัน และเธอก็เผลอจ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลหม่นทรงอำนาจคู่นั้นกระทั่งเขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นั่งสิ...คุณรีส เบคเลอร์” “เอ้อ...คุณคือ...” “เมมฟิส...ผมชื่อเมมฟิส แคเมอรอน” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงฟังดูเหมือนราบเรียบขณะโน้มตัวไปหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นมาจิบเบา ๆ โดยไม่ได้มองสีหน้าของอีกฝ่ายว่าเปลี่ยนไปแทบจะในทันทีที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามนั้น นุชนาถนิ่งอึ้งและยืนนิ่งงัน เธอเอามือประสานกันไว้เบื้องหน้าและมองบุรุษร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มทว่าเยือกเย็นที่วางแก้วไวน์ลงพร้อมทั้งเหลือบมองเธออีกครั้ง นุชนาถจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยยิ้มเหยียดขึ้นแว่บหนึ่ง หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอที่เริ่มแห้งผาก เธอจ้องมองเขาเหมือนเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่สุดในโลก “ว่าไงล่ะ...ทำไมไม่นั่ง” เขาถามอีกหนแต่เสียงนั้นหน่วงมากกว่าเดิม นุชนาถเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนตอบ “ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับดิฉันหรือคะ คุณ...แคเมอรอน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD