เปื้อนฝุ่นก็อุ่นเหมือนกัน

1213 Words
วันต่อมา… [เดือนหนาว] “แกไปรอฉันที่ห้องสมุดเลยก็ได้ จองที่ไว้เดี๋ยวฉันตามไป” ฉันบอกยัยโฟร์ที่กำลังเก็บกระเป๋าหลังจากที่สิ้นสุดชั่วโมงเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้ “แกจะไปไหนอะ” “ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวจะรีบตามไป” “เค ๆ งั้นฉันรีบไปจองที่ไว้นะ ชั่วโมงนี้หลายคณะเลยอะที่ไม่มีเรียน โต๊ะเต็มแน่ ๆ” ยัยโฟร์ว่าก่อนจะเดินออกไป ส่วนฉันก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของอาคาร ปวดฉี่ตั้งแต่อาจารย์สอนแล้วแต่ไม่กล้าลุกสักที วันนี้เป็นอีกวันที่ยัยก้อยไม่ได้มาเรียนเพราะแม่นางอาการยังไม่ดีขึ้น ทำให้ฉันกับยัยโฟร์ต้องมานั่งฟังรายละเอียดโปร์เจ็คจบแล้วก็หาข้อมูลรอนาง ครื้นน! ซ่าา! ‘เหี้ยฝนตก!’ ‘กรี๊ดด!’ เสียงนักศึกษาหลายคนที่เดินออกจากตึกพร้อมฉันร้องโวยวาย จู่ ๆ ฟ้าที่มืดครึ้มเป็นเวลานานก็รั่ว ฝนเม็ดใหญ่เทลงมาเป็นสายโดยไม่เกริ่นนำก่อน “บ้าเอ้ย อีกแค่ไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องสมุดแล้วแท้” ฉันบ่นกับตัวเองขณะรีบวิ่งตรงไปยังตึกหอสมุดตรงหน้า มือสองข้างกอดกระเป๋าไว้แน่น พอเข้ามาในตึกได้ก็รีบตรงไปยังห้องน้ำทันที เพราะปวดฉี่จะแย่ แถมยังตัวเปียกไปหมด “อ้าวหนาว เธอก็เปียกเหมือนกันเหรอ” เพื่อนคนหนึ่งที่เรียนด้วยกันกับฉันทักขึ้นทันทีที่ฉันวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “อ้าวริน” ฉันทักเธอกลับ “อยู่ ๆ ก็เทลงมา กางร่มไม่ทันเลย” เราสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นสภาพของกันและกัน “งั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” “อื้ม” คนตรงหน้าส่งยิ้มมาให้ก่อนจะหยิบร่มในกระเป๋าออกมาแล้วเดินออกไป รินเองก็คงกางร่มไม่ทันเหมือนฉันนี่แหละ ตัวถึงได้เปียกแบบนั้น “ว่าแต่ฝนตกแบบนี้ยัยโฟร์จองโต๊ะทันไหมเนี่ย ไม่ใช่เข้าไปหลบฝนในนั้นกันหมดแล้วโต๊ะเต็มหรอกนะ” ฉันพึมพำก่อนจะรีบเข้าไปจัดการธุระส่วนตัว ไม่นานก็ขึ้นไปชั้นบนของหอสมุด @หอสมุด “ยัยหนาว ๆ ทางนี้” เสียงยัยโฟร์เรียกฉันอยู่ไกล ๆ พร้อมโบกมือให้ แต่กลุ่มคนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันก็ทำให้ฉันต้องเลิกคิ้วมอง สามคนนั้น… “อ้าว? ข้างนอกฝนตกเหรอ ทำไมเปียกมาแบบนั้น” ทิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยัยโฟร์ถามขึ้นทันทีที่ฉันเดินเข้าไป “ใช่ อยู่ ๆ ก็เทลงมา เราเปียกหมดเลย” ฉันยิ้มให้ทิวก่อนจะหันไปยิ้มให้แทนและไวน์เพื่อเป็นการทักทายโดยที่ยังกอดกระเป๋าไว้แนบอกอยู่ เพราะตอนนี้เสื้อนักศึกษาของฉันก็น่าจะเปียกด้วย “ว่าแต่ทำไมมานั่งด้วยกันได้ล่ะ” ฉันถามยัยโฟร์ก่อนจะนั่งลงที่ว่างข้างนาง “โต๊ะเต็มน่ะสิแก ทิวเจอฉันพอดีก็เลยชวนมานั่งด้วย” เพื่อนรักหันมาตอบฉันก่อนจะช่วยฉันหยิบแล็ปท็อป ออกจากกระเป๋า “ขอบใจพวกนายมากนะที่ให้พวกเรานั่งด้วย” ฉันยิ้มให้สามหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามเมื่อเห็นว่าทุกคนเอาแต่นั่งเงียบกันทั้งที่ไม่มีใครอ่านหนังสือหรือทำอะไรเลย “ไม่เป็นไรคนกันเอง” ทิวตอบ “พวกนายสองคนไม่คิดจะคุยกันเลยหรือไงเนี่ย ไวน์ แทน” ยัยโฟร์ที่เปิดแล็ปท็อปเงยหน้าไปมองสองหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่นั่งเงียบเป็นป่าช้าตั้งแต่ฉันเดินเข้ามา “ไอ้แทนมันเป็นแบบนั้นแหละโฟร์ วัน ๆ สนใจแต่เกม ส่วนไอ้ไวน์วัน ๆ ก็เอาแต่นั่งยิ้มเหมือนคนบ้า มันเป็นผู้ฟังที่ดีน่ะ ใครพูดอะไรมันก็นั่งฟังแล้วก็ยิ้ม” ทิวหันไปว่าเพื่อน “ห้องสมุดเราแอร์เย็นมากเลยแก โคตรหนาว” ฉันหันไปกระซิบกับเพื่อนรักขณะนั่งกอดอกเอาไว้ “แอร์ไม่เย็นหรอกย่ะ แต่แกตัวเปียกมากกว่า”ยัยโฟร์ว่าพลางเปิดหนังสือตรงหน้าออก ตาก็มองจอแล็ปท็อปไปด้วย สงสัยนางจะหาข้อมูลรอฉันก่อนแล้ว “งั้นเดี๋ยวฉันไปหาหนังสือที่เราจะใช้นะ ส่วนแกก็คีย์ข้อมูลรอแล้วกัน” ฉันบอกเพื่อนรักก่อนจะลุกขึ้น ในใจคือไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้เท่าไหร่ เพราะเสื้อฉันมันเปียกและเห็นเนื้อหนังจนหมด อย่าลืมสิที่นั่งฝั่งตรงข้ามอะผู้ชายทั้งนั้น “หนาว เอาช็อปเราไปใส่ก่อนไหม” แต่แล้วไวน์ก็ทำให้ฉันต้องเลิกคิ้วมองเขา คนตรงหน้าลุกขึ้นถอดเสื้อช็อปตัวที่สวมทับเสื้อยืดออกพร้อมยื่นมาให้ฉัน “เอ่อ…จะดีเหรอ มันจะเปียกนะ” ฉันถาม แต่ก็อยากได้แหละ หนาวขนาดนี้ใครจะปฏิเสธน้ำใจล่ะ แถมเสื้อฉันก็บางด้วย “ไม่เป็นไร เธอใส่เถอะ” ไวน์ตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมานิดหนึ่งแล้วคลุมเสื้อให้ฉันที่ยืนนิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา “…ขอบคุณนะ” ฉันส่งยิ้มให้คนตรงหน้า ทั้งในใจก็สั่นไหวแปลก ๆ แถมใบหน้ายังรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งที่เนื้อตัวรู้สึกหนาว “แต่มันอาจจะเปื้อนฝุ่นนิดหน่อยนะ เราไปมุดห้องเก็บของมา” ไวน์ว่ายิ้ม ๆ คำพูดของเขาทำให้ฉันอมยิ้มตาม “อื้ม ไม่เป็นไร เปื้อนฝุ่นก็อุ่นเหมือนกันแหละ” แล้วทำไมฉันต้องยิ้มตลอดเวลาที่คุยกับไวน์ด้วยเนี่ย! “โอ๊ย…จะจีบกันทั้งทีก็ช่วยดูด้วยครับว่าเพื่อนนั่งอยู่เต็มโต๊ะ” ทิวที่นั่งข้างไวน์แซวขึ้นทำเอาฉันกับไวน์รีบหุบยิ้มแทบไม่ทัน “เออใช่ เมื่อวานสวมเกียร์ให้กัน วันนี้สวมช็อปให้กัน งั้นพรุ่งนี้ก็ปิดจ๊อบเป็นแฟนกันไปเลยสิ” แทนที่นั่งเงียบพูดขึ้นทำเอาฉันอึ้งจนพูดอะไรออก ทั้งก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็เต้นรัวขึ้นจนกลัวว่ามันจะกระดอนออกมา จีบเหรอ…ไม่หรอกน่า “ฉันเขินอ่าแก ฟิน ~” ยัยโฟร์เพ้อพลางยกมือสองข้างกุมหน้าตัวเองเอาไว้ ราวกับเจอฉากสวีทในซีรีย์แล้วทนดูไม่ได้เพราะเขินอาย “เงียบไปเลยยัยโฟร์ ทำงานของแกได้แล้วน่า” ฉันจิ๊ปากใส่เพื่อนรักที่เอาแต่แซวฉันอยู่ได้ “เขินก็บอกเขินสิ” นางกระซิบพร้อมขยิบตาใส่ฉัน “ฉันไม่คุยกับแกแล้ว” ฉันว่าก่อนจะรีบเดินออกมาจากตรงนั้น “อ๋อ ไม่คุยกับฉันแต่จะคุยกับไวน์ว่างั้น” เพื่อนรักพูดขึ้นตามหลัง “ตามไปเลยไวน์ ตามไป ๆ” นางบอกใครบางคนที่เอาแต่อมยิ้มอยู่ ซึ่งคนคนนั้นก็บ้าจี้เดินตามฉันมา “ฮิ้วว” เสียงโห่ไม่ดังแต่ก็ไม่เบามากดังตามหลังฉัน ทำให้ฉันต้องรีบก้าวขายาว ๆ ไปหลบมุมตามชั้นหนังสือ “ยัยเพื่อนบ้า แทนที่จะหวงฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD