เป็นให้หน่อยสิ

1334 Words
[เดือนหนาว] ขากลับเราสองเดินออกมาก็เจอร้านดอกไม้ตรงประตูทางออกพอดี ร้านนี้เป็นดอกไม้สด จัดเป็นซุ้มเล็ก ๆ แยกพันธุ์ดอกไม้ให้ลูกค้าได้เดินดูและได้เลือกเอง “ดอกไม้ร้านนี้สวยดีเนอะ” เดินไปตีกันไปได้สักพักก็มองเข้าไปในร้านด้วยความสนใจ “แวะไหมล่ะ เราไม่ได้ไปไหนต่อมีเวลาเยอะแยะ” คนข้าง ๆ ชวนซึ่งฉันก็พยักหน้าให้ “อื้ม งั้นเราขอแวะแป๊บหนึ่งนะ ไม่ได้ซื้อดอกไม้ไปใส่แจกันนานแล้ว” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในร้านด้วยกัน “ร้านดอกไม้xxxยินดีต้อนรับค่ะ คุณลูกค้าเลือกดอกไม้แล้วนำมาให้พนักงานจัดช่อด้านนี้ได้เลยนะคะ” เสียงสดใสของพนักงานสาวเอ่ยทักทายเราสองคนทันทีที่เดินเข้าไป ไวน์กับฉันก้มหัวทักทายกลับหน่อย ๆ ก่อนจะเดินไปยังซุ้มดอกกุหลาบหลังร้าน ซึ่งเป็นซุ้มที่ใหญ่ที่สุด “หนาวอยากได้แบบไหนเลือกเลยนะ เดี๋ยวเราซื้อให้” ไวน์หันมาบอกฉันขณะเดินดูดอกไม้ด้วยกัน มือใหญ่แตะดอกไม้ดอกนั้นดอกนี้เบา ๆ ราวกับว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ “งั้นไม่เกรงใจนะ” ฉันฉีกยิ้มให้เขา อันที่จริงก็พูดไปงั้นแหละ ฉันจ่ายเองได้เพราะตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว “ไวน์ว่าดอกนี้สวยไหม กลีบหนาดีนะ” เดินดูไปได้สักพักฉันก็หยิบดอกกุหลาบสีขาวขึ้นมาถามคนที่ยืนเอ๋ออยู่ “ก็สวยหมดนะ เหมือน ๆ กันอะ” ไม่ว่าเปล่าแต่ใช้นิ้วจิ้มดอกไม้ที่ฉันถืออยู่ราวกับว่ามันเป็นตัวอะไร ผู้ชายนี่คงจะไม่รู้เรื่องดอกไม้สินะ ดูจากท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ แล้วก็พอเดาออกอยู่หรอก “อย่าจิ้มน้องแรงสิ เดี๋ยวน้องช้ำหมด” ฉันตีมือเขาไปทีหนึ่งจนคนถูกตีรีบชักมือกลับ “ไวน์นี่ไม่ได้เรื่องเลย แบบนี้จะซื้อดอกไม้ให้สาวได้ยังไง” “ก็เพราะแบบนี้ไง เลยต้องให้มาเลือกเอง จะได้ถูกใจ” “…” คำพูดเมื่อครู่ทำให้ฉันเงยหน้าไปสบตากับเขา หมายความว่ายังไงอะ? ไม่ได้พูดถึงฉันหรอกใช่ไหม? คนถูกมองอมยิ้มให้หน่อย ๆ ก่อนจะเดินไปดูออกไม้อีกด้าน ปล่อยให้ฉันยืนเอ๋ออยู่ “ก็เพราะแบบนี้ไง เลยต้องให้มาเลือกเอง จะได้ถูกใจ” แล้วทำไมฉันต้องใจสั่นกับคำพูดเมื่อกี้ของเขาด้วยนะ นี่ไวน์ไม่ได้จะจีบฉันหรอกใช่ไหม “แล้วปกติไวน์จีบสาวยังไง” แล้วฉันจะตามไปถามคำถามบ้า ๆ นี้กับเขาทำไมล่ะเนี่ย “จีบไม่เป็นหรอกสาวอะ” คนถูกถามหันมาตอบขณะถือดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งไว้ในมือ ใบหน้าของไวน์ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่เหมือนกับทุกครั้ง แน่ล่ะว่าทำให้คนมองอย่างฉันต้องยิ้มกลับด้วย “ถามจริง?” ฉันว่าเสียงสูงพลางเลิกคิ้วใส่เขาเพราะไม่เชื่อ ประวัติของไวน์ไม่ธรรมดา เขาเป็นผู้ชายที่สาว ๆ หมายตาไว้มาก “เราจีบไม่เป็นจริง ๆ ถ้าเป็นก็เป็นแต่แอบชอบเขานี่แหละ” ตอบแล้วมองหน้าฉัน แล้วก็อมยิ้มใส่ แบบนี้จะไม่ให้ฉันยิ้มตามได้ยังล่ะ บ้าจริง! “อย่างคุณไวน์นี่นะจะมีโมเมนท์แอบชอบสาวที่ไหน” ฉันแซวเขา “สาว ๆ วิ่งชนกันล่ะสิไม่ว่า” “แต่สาว ๆ พวกนั้นไม่มีคุณเดือนหนาวนี่นา” คนโดนแซวเปรยออกมาทีเล่นทีจริง สายตาที่เขามองมาเริ่มทำให้ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้น ไหนจะเรียวปากของเขาที่อมยิ้มอยู่ตลอดเวลานั่นก็ทำก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาแค่แกล้งเถอะ นี่ฉันคิดอะไรเนี่ย “แน่นอนสิคะ เพราะสเปคของเดือนหนาวต้องใส่เสื้อกาวน์สีขาวเท่านั้น เสื้อช็อปสิน้ำเงินไม่ใช่สเปคเลยค่ะ” ฉันพูดติดตลก เมื่อเขาแหย่มาฉันก็ขอแหย่กลับละนะ “ว้า อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยแฮะ” คนบางคนพ่นลมหายใจออกมาหน่อย ๆ ก่อนจะปักดอกกุหลาบสีแดงที่เขาถือไว้ลงในช่อที่ฉันถืออยู่ “ไวน์ว่าอะไรนะ “เปล่านี่ ไม่มีอะไร” คำตอบทีเล่นทีจริงของเขาเมื่อครู่ทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ นี่ฉันไม่ได้คิดอะไรเข้าข้างตัวเองหรอกใช่ไหม “หนาวว่าปะ การได้เป็นแฟนกับคนที่เราแอบชอบมันโคตรดีเลยนะ” ประโยคถัดมาของไวน์ทำให้ฉันนึกถึงใครบางคนขึ้นมา ‘หมอภาค’ “อื้ม มันก็ต้องดีอยู่แล้วน่ะสิ” ฉันตอบเขา เพราะฉันเองก็มีคนที่แอบชอบอยู่เหมือนกัน “ใช่มันต้องดีแน่ ๆ เลย” “ว่าแต่วันนี้แฟนไวน์ไม่ว่างเหรอ ทำไมไม่ชวนมาด้วยล่ะ” ฉันถามเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าพาผู้หญิงคนอื่นมาเดินห้างแบบนี้แฟนเขาจะเข้าใจผิดไหมนะ แถมมาเลือกของขวัญให้แม่ไวน์อีก “แฟนเหรอ ไม่มี” คนถูกถามทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบออกมา “ถามจริง?” “อื้ม ไม่มี มาเป็นให้หน่อยสิ” “…” แล้วทำไมฉันต้องช็อคกับอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย “ถ้าเราเป็นคนที่หนาวแอบชอบคงดีเนอะ เพราะเราก็แอบชอบหนาวเหมือนกัน” แต่แล้วประโยคต่อมาของเขาก็ทำให้ฉันช็อคคูณสองเข้าไปอีก นี่เขาเอาจริงเหรอเนี่ย ไวน์นี่นะชอบฉัน? บ้าบอ… “คบกันนะ” แล้วก็มีเรื่องให้ฉันช็อคเพิ่มขึ้นอีก “…” ฉันได้แต่ยืนมองคนตรงหน้านิ่ง ๆ อันที่จริงก็เอ๋ออยู่แหละ ไม่เคยมีใครมาพูดแบบนี้กับฉันตรง ๆ เลยนะ ที่ผ่านมาก็เข้ามาของแลกช่องทางการติดต่อ แต่ฉันก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด “เอาจริงดิ” ฉันถามอย่างอึ้ง ๆ เมื่อตั้งสติได้ “เฮ้ย ยังไม่เอา ต้องเป็นแฟนกันก่อนถึงจะเอาได้” “ไวน์!” ฉันฟาดท่อนแขนแกร่งไปแรง ๆ หนึ่งทีเมื่อคำพูดติดตลกของเขาทำฉันหน้าแดงขึ้นมา “เดี๋ยวเถอะ!” ไม่ว่าเปล่าแต่เดินหนีไปยังซุ้มดอกไม้ชนิดอื่นที่อยู่ข้างกัน “หนาวจะไม่คบกับเราจริง ๆ เหรอ นี่เพิ่งหัดจีบสาวก็จะอกหักซะแล้ว สงสารตัวเองจังเลย” คำพูดราวกับออดอ้อนของคนที่เดินตามมาทำให้ฉันอดยิ้มออกมาไม่ได้ สรุปผู้ชายคนนี้พูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย เดาไม่ออกเลยแฮะ “นี่ไวน์ เราไม่ตลกนะ” ฉันถลึงตาใส่เขา “เราก็ไม่ได้บอกว่าตลกนี่ ความรักไม่ใช่เรื่องตลกนะ” “…จีบเราจริงดิ” ฉันกลั้นใจถามออกไปทั้งหัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด “จริงสิ เนี่ยอยากมีแฟนจะแย่แล้ว มาเป็นให้หน่อย” ไม่ว่าเปล่าแต่ทำตาปริบ ๆ ใส่ฉันด้วย “ขอกันง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ” ฉันมุ่ยหน้าใส่ทว่าเรียวปากกลับอมยิ้มไม่หุบเมื่อได้สบตากับเขา “แล้วต้องทำยังไงล่ะ” “อืมม…” ฉันทำท่าครุ่นคิดพลางงึมงำให้เขาได้ยิน “จริงจังนะเนี่ย” “ทำให้เรายิ้มได้ทุกวันสิ แล้วจะบอกอีกทีว่าผ่านไหม” ว่าจบฉันก็ขยิบตาให้เขาราวกับท้าทาย “รับทราบครับนายหญิง” ฉันแค่อยากรู้ว่าตอนเป็นแฟนกันเขาจะทำให้ฉันยิ้มได้มากแค่ไหน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเขายังทำให้ฉันยิ้มได้ทุกวันเลย >>> ฝากติดตามผลงานฉบับอีบุ๊กในเมพด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD