พรึ่บ!
"ปล่อย!!"
"..."
"ปล่อยหนามนะทร็อต!"
ฉันดิ้นไปมาเพื่อขัดขืนเต็มแรงเมื่อทร็อตคว้าข้อมือฉันพร้อมกับลากให้ฉันเดินตามเขาไปข้างล่างซึ่งมันเป็นทางไปที่จอดรถ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปไหนแต่ตอนนี้ฉันไม่อยากไปกับเขา ฉันไม่อยากจะคุยกับคนไร้เหตุผลแบบนี้!
ฟึ้บ! ปั่ง!
"..."
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองพร้อมกับมองทร็อตที่เดินอ้อมมาขึ้นรถอย่างไม่ล่ะสายตา เขาก้าวขึ้นรถพร้อมกับสตาร์ทและถอยออกจากโรงรถอย่างเร็วและไม่สนว่าจะชนใคร ฉันจับสายคาดมาคาดพร้อมกับจับมันไว้แน่นเมื่อเขาเหยียบคันเร่งรถตัวเองออกจากสนามแข่งของวูฟ ทร็อตขับออกมาเร็วมากเร็วจนฉันเริ่มจะกลัว...ฉันรู้ตอนนี้ทร็อตโกรธซึ่งมันก็ไม่ต่างจากฉันที่กำลังโกรธเขาเช่นกันฉันไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปไหนแต่ต่อมาทร็อตก็ทำให้ฉันรู้ว่าที่ที่เขาพาฉันมาก็คืออู่ของเขาซึ่งมันทำให้ฉันรู้เลยว่าทร็อตยังไม่อยากจบเรื่องนี้และเขาจะคุยกับฉันอีก แต่เพื่ออะไรในเมื่อตอนนี้เราสองคนกำลังโมโหทั้งคู่แล้วหากคุยมันจะมีอะไรดีขึ้นงั้นหรอ?
"ลงมา"
"ให้กลับบ้านเถอะ คุยวันนี้ไงก็ไม่รู้เรื่อง"
"ลงมา!"
พรึ่บ!!
ฉันสบัดแขนออกจากทร็อตพร้อมกับจ้องตากับเขาอย่างไม่พอใจหลังจากโดนเขาดึงลงมาจากรถ ฉันสบสายตากับทร็อตเกือบนาทีจนเป็นเขาเองที่เบี่ยงสายตาหนีพร้อมกับถีบรถตัวเองเสียงดังจนโครงมันเกือบยุบเข้าไปฉันยกมือตัวเองขึ้นเสยผมพร้อมกับเดินหนีออกจากทร็อต
"กูฝากมิล่าด้วย กูกับหนามออกมาก่อน เออๆไม่มีเหี้ยไรแค่นี้ก่อน"
ฉันเหลือบตามองทร็อตที่เดินตามมานิดๆก่อนจะหันกลับมาทางเดิมเมื่อเห็นว่าเขาคุยโทรศัพท์เสร็จดูเหมือนเขาจะคุยกับวูฟเพื่อฝากเพื่อนรักของเขาน่ะ ฉันแสยะยิ้มคนเดียวก่อนจะหยุดยืนที่กลางอู่เพื่อคุยกับทร็อต ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ขึ้นไปข้างบนอ่ะรีบคุยรีบเสร็จและในเมื่อเขาอยากจะคุยมากฉันก็จะคุย...ฉันก้มลงมือข้อมือตัวเองที่มันขึ้นสีแดงจ้ำๆด้วยสายตานิ่งเรียบ
"ที่ทำเมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย"
"อ่อ...ก็ดีที่ไม่ตั้งใจเพราะถ้าตั้งใจกูคงไม่ได้มายืนตรงนี้"
"เลิกประชดสักที มึงกูด้วยอย่าแทนตัวเองแบบนี้"
"ไม่อ่ะ ทีมึงยังพูดได้แล้วทำไมกูพูดบ้างมันผิด?"
"หนาม ตอนนั้นทร็อตไม่ได้ตั้งใจ"
"งั้นเวลามึงไม่มีสติมึงจะเรียกกูว่าไงก็ได้ถูกไหม?"
"..."
"กูบอกไว้เลยนะทร็อต กูไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่มึงคิดเพราะกูก็มีด้านที่เป็นแบบนี้เหมือนกันมันคือการป้องกันตัวของกูถ้ากูไม่แข็งบ้างกูคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงหน้ามึงในตอนนี้"
ใช่...ฉันมันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอ่อนให้ใครตลอดเพราะหากฉันต้องแข็งฉันก็ต้องแข็ง สังคมที่ฉันอยู่มันสอนฉันมาหมดแล้วว่าหากฉันอ่อนฉันก็จะถูกกำจัดและด้านนี้ของฉันมันก็อาจจะทำให้ทร็อตผิดหวังซึ่งฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว ทร็อตสบสายตาฉันนิ่งซึ่งฉันก็ไม่หลบอะไรและตอนนี้ฉันรู้ว่าอารมณ์ทร็อตกำลังอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"งั้นตอนนี้หนามกลัว กลัวทร็อตใช่ไหม?"
"...ต้องถามอีกหรอ จำเป็นต้องถามไหมว่ากูกลัว...กูต้องบอกมึงรึป่าวว่ากูกลัวมึงที่เป็นแบบนี้มากขนาดไหน?"
"..."
"รู้ไหมว่าคนแบบไหนที่กูกลัวที่สุด" ฉันถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสบสายตาคมกริบตรงหน้านิ่ง "คนแบบมึงไงที่กูกลัว เพราะกูไม่มีวันรู้ได้เลยว่าวันไหนมึงจะลุกขึ้นมาทำร้ายกู"
"แต่ทร็อตไม่เคยคิดจะทำร้ายหนาม...ไม่เคย"
"มึงไม่คิดแต่มึงทำเลยไง มึงทำเพราะการขาดสติของมึง!"
"ทร็อตไม่ได้ขาดสติ แต่หนามมาประชดทร็อตแบบนั้นทร็อตควรรู้สึกแบบไหนว่ะ...แค่ทร็อตเห็นหนามคุยกับมันทร็อตก็คิดแล้ว!"
"คิดว่ากูจะเลิกกับมึงเพื่อไปหาปัตย์ คิดว่ากูจะหักหลังมึงไปหาคนอื่นเหมือนที่เคยมีคนทำกับมึง!?"
"หมายความว่ายังไง?"
ฉันเหยียดยิ้มออกมาช้าๆพร้อมกับหัวราะออกมาเบาๆมองทร็อตที่เบิกตากว้างมองฉัน ถึงปากเขาจะพูดแบบนั้นแต่มันกลับทำให้ฉันมั่นใจว่าเรื่องที่ฉันคิดมันถูกเรื่องที่เขาคิดกับอีกคนมากกว่าเพื่อน...ฉันไม่รู้ว่าใครที่ไหนจะมีเพื่อนที่ยอมทำและเป็นห่วงเพื่อนอีกคนมากมายขนาดนี้แต่ทร็อตกับเป็นเพื่อนแบบนั้นแต่สายตาเวลาเขามองมิล่ามันกลับมีอะไรที่มากกว่านั้น ถึงเขาจะพยายามปิดมันแต่ฉันกลับเห็น
"มันไม่มีอะไรเหมือนที่หนามกำลังคิด ทร็อตกับมิล่าแค่เพื่อน"
"แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่าคนที่กูพูดถึงคือมิล่า...กูว่ากูยังไม่ได้พูดชื่อนี้นะ"
"หนามเตย!"
"บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่งคุย เพราะสุดท้ายมันก็มาจบที่เราคุยกันไม่รู้เรื่อง...พอเถอะกูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว"
"ถึงแม่งจะคุยไม่รู้เรื่องแต่ทร็อตก็ไม่ยอมให้หนามกลับ!"
"แล้วแต่มึงสิ"
"แม่งเอ้ย!"
ติ๊ดๆๆ!
ฉันเหลือบมองทร็อตที่ตวาดขึ้นอย่างหัวเสียก่อนที่เสียงโทรศัพท์เขาจะดังขึ้นขัดการปะทุในครั้งนี้ ทร็อตหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันมากขึ้น
"อะไรกูบอกแล้วไงว่ากูฝากมิ...ห๊ะ!แล้วมึงปล่อยให้มันไปคนเดียวได้ไง มึงหามิล่าให้เจอเลยนะไอ้วูฟเดียวกูตามไป!"
"..."
ทร็อตสบถอีกครั้งพร้อมกับยกมือตัวเองขยี้ผมอย่างหัวเสีย เขาถอนหายใจออกมาเสียงดังและหันมาหาฉันอีกครั้งอย่างคิดหนักก่อนจะตัดสินใจก้าวขามาหาเตรียมจะคว้ามือฉันไปกุม ฉันที่รู้ทันถอยออกห่างทันที
"กูไม่ใช่ตุ๊กตาที่จะมาลากไปนู้นนี้ได้ตามใจ ถ้าอยากจะไปก็ไปคนเดียวกูจะกลับ!"
"อย่ามาดื้อหนาม คิดว่ากี่โมงกี่ยามแล้ว!?"
"มึงรีบไปหาเพื่อนมึงเถอะ กูหาทางกลับเองได้"
พรึ่บ!
"หนาม!!"
ฉันพลักทร็อตออกห่างและวิ่งออกมาจากอู่ทร็อตทันทีพร้อมกับมองถนนตรงหน้าอย่างหนักใจก่อนจะโบกมือเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านมาพอดี ดีนะที่อู่ทร็อตมันติดถนนใหญ่และเป็นถนนที่คนผ่านไปมาเยอะมันจึงไม่ยากที่จะหารถ ฉันเปิดประตูพร้อมกับเข้าไปนั่งและบอกที่ๆจะไปทันทีก่อนจะหันมองทร็อตที่วิ่งตามมาด้วยสายตานิ่งเรียบ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะหัวเสียขนาดไหน...และวันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทร็อตจะรับนิสัยของฉันแบบนี้ได้ไหม แต่ฉันในตอนนี้มันคิดมากไปหมดไหนเขาเคยบอกฉันว่ามีอะไรให้พูดแล้วทำไมพอฉันพูดเขาถึงไม่ฟังและไม่ยอมให้ฉันแตะเพื่อนตัวเองเลยแม้แต่นิด
16/11/20xx
14.36 น.
"เฮ้อ...เสร็จสักที"
ฉันยิ้มออกมาช้าๆพร้อมกับมองงานตัวเองที่เพิ่งทำเสร็จอย่างภูมิใจ ในที่สุดก็ทำเสร็จสักทีหลังจากที่ทำมาครึ่งวันฉันลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายอย่างคลายเมือยก่อนจะทิ้งตัวนอนที่เตียงอย่างเหนื่อยๆ ฉันพลิกตัวไปมาอย่างอารมณ์ดีก่อนที่ริมฝีปากตัวเองมันจะค่อยๆหยุดยิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน...ให้ตายรู้งี้เก็บงานไว้ทำเยอะๆดีกว่าจะได้ไม่ต้องมีเวลาว่างมาคิดเรื่องอื่น ฉันพลิกตัวนอนคว่ำหน้าไปกับที่นอนอย่างเบื่อๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองมากดเล่นฉันเลื่อนดูข้อความที่ทร็อตส่งมาด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนจะปัดทิ้งไม่คิดจะกดเข้าไปอ่านในไลน์เพราะมันจะขึ้นว่าอ่านแล้วไงฉันไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันเห็นข้อความเขา ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะคุย
ก๊อกๆๆ
ฉันเหลือบตาไปมองที่ประตูห้องตัวเองช้าๆก่อนจะขมวคิ้วเข้าหากันอย่างงงๆว่าใครที่เคาะประตูคือหากเป็นปกติสองแม่ลูกนั้นจะไม่เคาะนะ ฉันเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดมันออกช้าๆ...ไอ้ไตตั้ล?
"ไง ^^"
"..."
ฉันมองไตตั้ลอย่างไม่เข้าใจเมื่อมันทักฉันขึ้นแบบนั้พร้อมกับส่งยิ้มมาให้อย่างอารมณ์ดี มันหัวเราะขึ้นเบาๆพร้อมกับมองฉันที่อยู่ในชุดเล่นด้วยสายตากวนๆของมัน
"มีอะไร?"
"ช่วงนี้อยู่บ้านดีนี่..."
"มีอะไรก็พูดมาเถอะอย่าอ้อมเลย"
"หึ"
ไตตั้ลหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ มันมองฉันอย่างกวนๆพร้อมกับดันลิ้นใส่กระพุ้งแก้มตัวเอง
"เมื่อวานมึงไปที่สนามไอ้วูฟมาใช่ไหม?"
"ใช่...แล้วทำไม?"
"งั้นมึงก็รู้แล้วดิว่ามิล่าเป็นเพื่อนไอ้ทร็อต"
"รู้"
"แล้วมึงรู้ไหม...ว่ามันไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดาๆ แต่กูว่าหน้าแบบนี้ไม่น่าจะรู้ ^^"
"..."
ฉันนิ่งเงียบมองไตตั้ลด้วยแววตานิ่งเรียบ มันยกยิ้มมุมปากนิดๆ
"เมื่อวานมันกลับไปที่สนามอีกครั้งเพื่อไปรับมิล่ากลับ แล้วตอนนั้นมึงอยู่ไหนล่ะหนาม...มันมาส่งมึงที่บ้านรึยัง?"
"ที่พูดนี่ต้องการมาเย้ยกู? โถ่กูก็นึกว่ามีอะไรสำคัญ"
ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบก่อนจะหันหลังตรียมปิดห้องหากไตตั้ลไม่กระชากประตูให้เปิดไว้ซะก่อน ฉันสบัดหน้าไปมองมันอีกครั้งและพบว่ามันขยับตัวเข้ามาใกล้ฉันพร้อมกับโน้มใบหน้าตัวเองลงมาใกล้
"กูไม่ได้มาเย้ยมึงหนาม แต่มึงอย่าเชื่อใจไอ้ทร็อตมันมาก...มึงไม่เคยได้ยินหรอว่าถ่านไฟเก่าน่ะมันติดง่าย ^^"
"เอาเวลาที่มาเสือกเรื่องคนอื่นไปเอาตัวเองให้รอดก่อนไหม"
"ปากดีต่อไปเถอะหนาม แต่ระวังหน่อยนะตัวจริงเขามาแบบนี้เดียวจะเป็นหมาหัวเน่าเอา ^^"
ปั่ง!
ฉันหลับตาแน่นพร้อมกับกำลูกบิดประตูไว้แน่นเช่นกัน ปกติคำพูดของไตตั้ลมันไม่เคยเข้าสมองฉันหรอกแต่คร่าวนี้ฉันยอมรับจริงๆว่ามันทำให้ใจฉันกระตุกอย่างห้ามไม่ได้ จะให้โกหกตัวเองเหมือนเคยว่าไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้มันก็ไม่ได้แล้วเพราะสิ่งที่ฉันคิดมันจริงทุกอย่าง...และมันก็เป็นเรื่องจริงที่พวกเขาเคยเป็นมากกว่าเพื่อนกัน
17.32 น.
"หนาม ลูกค้าๆ"
"โอ๊ะ ขอโทษนะคะ รับอะไรดีคะ ^^"
"เอาลาเต้ปั่นกับโกโก้ปั่นค่ะ"
"ค่ะรอสักครู่นะคะ ^^"
ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับโค้งให้ลูกค้าเป็นเชิงขอโทษอีกครั้งเพราะฉันที่เหมอจนไม่เห็นว่าลูกค้ามายืนรออยู่ ฉันหันไปหาพี่เก่งพร้อมกับขอโทษพี่แกด้วยซึ่งพี่เก่งก็ไม่ได้อะไรแถมยังให้ฉันเข้าไปพักข้างหลังอีก
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เก่งหนามโอเค"
"หน้าตาเหมือนไม่ได้กินข้าวเลยนะหนาม กินข้าวมายังเนี้ย"
"คือพอดีหนามไม่หิวน่ะค่ะเลยไม่ได้ทานมาก่อน ^^"
"กินก่อนไหมพี่ว่า พี่ทำข้าวไว้ข้างหลังไปกินซะนะ"
"แต่..."
"ดีกว่าเป็นลมเป็นแล้งไปวันนี้ดูท่าจะมีลูกค้าเยอะด้วย"
"ค่ะ เดียวหนามรีบกินแล้วจะกลับมานะคะ"
"จ้า"
ฉันเดินไปหลังร้านทันทีพร้อมกับกินอาหารที่พี่เก่งพูดถึง คือฉันไม่เคยหิวจริงๆนะจนตอนนี้ฉันก็ยังไม่หิวและฉันรู้ว่าฉันเป็นอยู่ในตอนนี้มันเป็นเพราะอะไร เสียงถอนหายใจของฉันดังขึ้นเบาๆพร้อมกับมือฉันที่จับช้อนค้างไว้ไม่ยอมเอามันใส่ปากตัวเอง อารมณ์ฉันในตอนนี้มันกำลังแย่และรู้สึกไม่ดีสุดๆฉันอยากจะหนีออกจากอารมณ์นี้ของตัวเองแต่ฉันก็ยังไม่กล้าพอฉันยังไม่พร้อมที่จะรับรู้เรื่องของทร็อตในตอนนี้...ฉันยอมรับเลยว่าใจฉันมันยังไม่แข็งพอ
"เฮ้อ...เป็นแบบนี้มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นนะหนาม แกควรจะตั้งสติ"
ฉันเอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติและเริ่มทานอาหารตรงหน้าอีกครั้ง ฉันต้องสร้างกำลังใจใหม่ให้ตัวเองก่อนอย่างน้อยฉันก็ไม่ควรจะเอาเรื่องส่วนตัวของตัวเองมาปนกับเรื่องงานแบบนี้
19.09 น.
"กลับบ้านดีๆล่ะ"
"ค่ะ กลับก่อนนะคะพี่เก่ง ^^"
พี่เก่งโบกมือบายๆ ฉันที่ยิ้มให้พี่เก่งอยู่จึงโบกมือตอบและเดินออกมาจากร้านเมื่อทำงานสร็จ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดเลือกเพลงและเอาหูฟังที่พวงกับโทรศัพท์อยู่มาใส่ที่หูพร้อมกับเพิ่มเสียงให้มันดังขึ้น ฉันกระซับเสื้อแขนยาวของตัวเองเข้าหากันเมื่อลมเย็นๆของฤดูหนามมันลอยมาปะทะร่าง รู้นะว่ามันเป็นฤดูหนาวมันก็ต้องหนาวเป็นธรรมดาแต่ทำไมวันนี้ฉันกลับรู้สึกว่ามันหนาวกว่าปกติ
ฟึ้บ...
"โอ๊ะ...?!"
ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อจู่ๆก็มีคนเอาเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำมาคลุมไหล่ของฉัน ฉันถอดหูฟังออกทางนึงพร้อมกับหันกลับไปมองว่าใครเป็นคนทำแบบนี้ก่อนจะพบว่าทร็อตกำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันเงยหน้าสบสายตากับคนที่ฉันไม่ได้เจอมาเกือบวันด้วยสายตานิ่งเรียบไม่ต่างจากทร็อตที่กำลังจ้องมาที่ฉันนิ่งเช่นกัน ฉันเอื้อมมือขึ้นเพื่อที่จะดึงเสื้อเขาที่คลุมอยู่ไหล่ตัวเองออกแต่ทร็อตกับเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้แน่นมันจึงทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้มือเขาเย็นขนาดไหน...ขับมอไซค์มาสินะ
"มันหนาวใส่เถอะ"
"..."
"เหนื่อยไหม คนที่ร้านเยอะรึป่าว?"
ฉันหันหน้าหนีทร็อตทันทีเมื่อรู้สึกว่าขอบตาตัวเองมันกำลังร้อนขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ทร็อตเงียบไปเมื่อฉันไม่ตอบต่อมาเขาจึงจับมือฉันแล้วออกแรงดึงให้ฉันเดินตามเขาไปที่รถเบาๆ มันไม่ใช่การดึงแบบบังคับเหมือนเมื่อคืนฉันไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ฉันคิดแบบนี้แต่มันเป็นความรู้สึก...เพราะทร็อตด้วยที่ใช่สายตาดำขลับของเขามองมาที่ฉันทุกการเคลื่อนไหวเขามองมาจนมันทำให้ฉันรู้สึกประหม่า
"..."
"กินข้าวรึยัง?"
"กินแล้ว"
"แต่ทร็อตยังไม่กินเลย ไปกินข้าวกับทร็อตหน่อยได้ไหม?"
"ถ้าบอกว่าไม่ไปจะว่าไง?"
"..."
"ถ้ามาหาหนามเพราะอยากคุย ไม่ต้องอ้อมค้อมหรอกทร็อตพูดๆมาเถอะหนามจะได้กลับไปพักสักที"
"อย่าน้อยก็ไปที่ที่มันอุ่นกว่านี้ไม่ได้หรอหนาม"
ฉันกรอกตาไปมาช้าๆพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ ฉันสบสายตากับทร็อตอีกแวบนึงจึงเดินไปที่รถของทร็อตพร้อมกับมองเขานิ่งซึ่งทร็อตก็คงดูจะเข้าใจเพราะฉันมองแค่นั้นเขาก็เดินมาขึ้นรถตัวเองทันที ทร็อตจับมือฉันให้ไปกอดเอวเขาไว้เหมือนอย่างเคยเมื่อฉันขึ้นไปนั่งแต่ฉันกลับไม่ได้สบสายตาเมื่อเขามองมาอย่างเคยทร็อตจึงค่อยๆหันกลับไปพร้อมกับค่อยๆขับออกมาจากตรงนั้น ฉันมองไปที่ข้างทางด้วยใจที่มันรู้สึกหน่วงๆมันมีอะไรมากมายที่อยากจะถามเขา แต่อีกด้านมันกลับถามฉันตลอดเวลาว่าหากฉันรู้แล้วฉันจะยังเหมือนเดิมรึป่าว...ถ้าฉันรู้แล้วความระแวงที่มันมีอยู่ภายในใจมันจะเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง
"กินอะไรไหม?"
"ไม่"
"งั้นเอาแค่นี้ครับ"
"ค่ะ รอสักครู่นะคะ ^^"
ฉันมองพนักงานที่มารับอาหารที่ยิ้มให้ทร็อตเกินจริงด้วยใบหน้านิ่งเรียบก่อนที่ฉันจะเท้าคางไปกับโต๊ะอาหารและมองออกไปนอกร้านอย่างเบื่อๆ อันที่จริงบรรยากาศร้านนี้มันก็ดีแหละแต่คงเป็นฉันเองที่เป็นซะแบบนี้
"ขอโทษ ขอโทษที่เมื่อวานงี่เง่าใส่หนามขนาดนั้นแถมยังรุนแรงกับหนามอีก...ทั้งๆที่ทร็อตเป็นคนที่บอกหนามเองว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับเรา"
"สักวันมันก็ต้องเกิดแค่มันเร็วกว่าที่คิดเท่านั้นเอง"
"หนาม..."
"หนามมีเรื่องที่อยากจะพูดและถามทร็อต"
ทร็อตที่กำลังจะพูดต่อเงียบไปทันทีที่ฉันพูดขึ้นแบบนั้น เขามองมาที่ฉันอย่างไม่เข้าใจเมื่อยังเห็นว่าฉันยังคงจ้องมองเขาอยู่...ฉันเพียงแค่กำลังรวบรวมความกล้าของตัวเองน่ะฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เรื่องแรก...หนามกับปัตย์เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันและต่อไปถ้าทร็อตยังหาเรื่องหนามเพราะคนคนนี้อีกเราคงต้องเลิกกัน"
"หนาม!"
"หนามถามทร็อตรึยัง?...ถ้าไม่ก็หุบปากไป"
ฉันเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับมองเขาเชิงข่มขู่ ทร็อตกัดริมฝีปากตัวเองพร้อมกับมองมาที่ฉันนิ่งๆแม้ภายในแววตาเขาจะไม่นิ่งเลย ที่ฉันพูดแบบนี้เพราะทร็อตหาเรื่องฉันเพราะปัตย์มาสามครั้งแล้ว สามครั้งสำหรับฉันมันถือว่าเกินพอและแต่ล่ะครั้งฉันก็บอกเขาไปทุกครั้งว่าไม่มีอะไร
"หนามเบื่อเบื่อที่ต้องมาคอยตอบคำถามเดิมๆจากเรื่องเดิมๆที่มันไม่มีอะไร และหากการที่จะเชื่อใจใครสักคนมันยากเราคงไม่ต้องคบกันต่อหรอกถ้าจะอยู่ด้วยความระแวงแบบนี้"
"..."
"เมื่อคืนมันทำให้หนามได้เห็นหลายๆอย่างจากทร็อต หนามพยายามจะไม่คิดแต่สุดท้ายมันก็ห้ามความคิดบ้าๆของตัวเองไม่ได้หนามรู้ว่าทร็อตกับมิล่าเป็นเพื่อนกันเพราะทร็อตบอกหนามมาแค่นั้น...แต่สิ่งที่หนามรู้สึกมันไม่ใช่แค่นั้น"
"..."
ทร็อตมองมาที่ฉันนิ่ง ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดเบาๆเมื่อมันถึงเวลาที่ฉันต้องถามเขาเพราะหากฉันไม่ถามและอยู่ด้วยความรู้สึกแบบนี้ฉันคงแย่..
"ระหว่างทร็อตกับมิล่ามันไม่ใช่แค่เพื่อนใช่ไหม?"
"..."
ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่นเมื่อฉันถามทร็อตออกไปแบบนั้น หัวใจของฉันมันบีบเข้าหากันอย่างที่ไม่เคยเป็นถึงจะพยายามทำเหมือนไม่เป็นไรแต่ฉันก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกตัวเองได้หรอก...ฉันกลัวกลัวคำตอบจากเขา ทร็อตที่โดนฉันถามออกไปแบบนั้นเบี่ยงสายตาหนีสายตาฉันช้าๆแต่นั้นมันกลับทำให้ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจตัวเองมากขึ้น
"ใช่...ระหว่างทร็อตกับมิล่ามันไม่ใช่แค่เพื่อน"
ฉันหลับตาลงแน่นพร้อมกับใบหน้าตัวเองที่มันก้มลงแทบจะมุดโต๊ะหนีฉันกลืนน้ำลายตัวเองช้าๆพร้อมกับกำมือตัวเองแน่น ฉันหัวเราะออกมาเบาๆอย่างทำอะไรไม่ถูก
"..."
"แต่นั้นมันเมื่อก่อน...เรื่องทร็อตกับมิล่ามันจบไปนานแล้วหนาม"
ฉันลืมตามองทร็อตอีกครั้งเมื่อเขาพูดต่อ ทร็อตเอื้อมมือตัวเองมากุมมือฉันไว้พร้อมกับออกแรงบีบมันเบาๆ
"พวกเราไม่ได้คบกัน ทร็อตถอยออกมาเพราะรู้ว่าโจชัวมันชอบมิล่าและความรู้สึกที่ทร็อตมีให้มิล่ามันก็จบลงตรงนั้นแล้ว...และมันไม่มีวันที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะตอนนี้ทร็อตรักหนาม ทร็อตมีแค่หนามและทร็อตมันงี่เง่าเองที่เทำตัวแบบนั้นแถมยังชวนหนามทะเลาะ ทร็อตหวงหนามและมันหึงจนไม่คิดถึงความรู้สึกของหนาม ทร็อตขอโทษ"
"..."
ฉันเงียบไปนานนับนาทีพอดีกับพนักงานที่เอาอาหารที่ทร็อตสั่งมาเสริฟซึ่งเจ้าตัวก็ดูไม่ได้อยากจะกินมันหรอกเพียงแต่สั่งมาเฉยๆ ทร็อตยังคงมองฉันต่างจากฉันที่มองจานอาหารตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ เรื่องที่ทร็อตพูดมันทำให้ฉันรู้แล้วว่าเรื่องระหว่างเขากับมิล่าป็นยังไง...ถึงว่าทำไมถึงเป็นห่วงขนาดนั้น ก็เพราะเคยรักสินะ
"เรื่องนี้...ถ้าหนามไม่ถามทร็อตก็คงไม่บอกสินะ"
"มันไม่ใช่ ทร็อตแค่..."
"จนหนามรู้สึกถึงมันได้เองทร็อตถึงพูด ไหนบอกมีอะไรจะไม่ปิดบังไงแต่นี้เหมือนหนามต้องมารู้ทีหลังคนอื่น"
"หนาม...ทร็อตแค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ"
"ใช่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างน้อยมันก็ควรบอก ไม่ใช่ให้มารู้เองและสุดท้ายเราก็มีปัญหากันแบบนี้"
ทร็อตไม่ตอบ เขาไม่เถียงกลับมาแล้วแต่กลับเงียบไปเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองโดนฉันเพิ่มความผิดให้อีกเรื่อง ถึงเรื่องนี้ใครจะเห็นว่ามันไม่สำคัญแต่สำหรับฉันมันสำคัญมาก
"ทร็อตกลัวว่าหนามจะทิ้งทร็อตไปหาใครแล้วทร็อตไม่คิดบ้างหรอว่าหนามก็กลัวเพราะตอนนี้หนามรักทร็อตจนคิดไม่ออกว่าวันที่หนามไม่มีทร็อตวันนั้นมันจะเป็นยังไง"
"หนามเตย..."
"หนามพยายามจะไม่คิดอะไรเรื่องทร็อตกับมิล่าแล้วนะแต่บางครั้งทร็อตก็ควรนึกถึงใจหนามบ้างถ้ายังรู้สึกเหมือนเดิมกับหนาม คงไม่ใช่เริ่มที่ร้อยแล้วลดลงมาเรื่อยๆหรอกนะเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นหนามคงจะแย่"
"บ้ารึไง! มันไม่เคยน้อยลงเลยหนาม" ฉันสบสายตากับสายตาดุดันตรงหน้าด้วยแววตานิ่งเรียบ ทร็อตจับมือฉันไว้แน่นพร้อมกับมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกลัว "เรื่องอื่นทร็อตยอมรับผิดทุกเรื่องแต่อย่าพูดว่าทร็อตรักหนามน้อยลงเลย...มันไม่เคยน้อยลงหนามมันมีแต่เพิ่มมากขึ้น"
"..."
ถ้าคำพูดที่ทร็อตพูดมันจริงฉันก็คงไม่ต้องคิดมากในเรื่องนี้แล้วล่ะ...ฉันคงกลับมาเชื่อใจเขาได้และมันคงไม่มีอะไรที่เราต้องมาคุยกันอีกเพราะเราคุยกันและเคลียร์กันทุกอย่างแล้วสำหรับเรื่องนี้ฉันรู้ว่าสักวันเราต้องมีเรื่องที่ต้องมาทะเลาะกัน และฉันยอมรับว่าฉันคงตัดทร็อตไม่ขาดถึงฉันจะโกรธเขาแต่ยังไงเขาก็คือคนที่ฉันรัก มันไม่ใช่เรื่องแย่หากเราจะให้โอกาสเขาได้แก้ตัวในเรื่องที่มันผิดเพราะมันเป็นสิ่งที่คนรักกันควรทำ และฉันจะให้โอกาสทร็อตให้โอกาสเขาทำให้ฉันมั่นใจว่าที่เขาพูดนั้นมันเชื่อได้เชื่อว่าเขาไม่รักฉันน้อยลงเหมือนที่ฉันรู้สึก