เรื่องที่เผลอลืมไป

1316 Words
“ม๊ารักส้มเช้งกับป๊าใช่มั้ยคะ” อาเจาหันมองคนทั้งคู่แล้วตอบแบบไม่ต้องคิด “อื้ม..ใช่” หันกลับมามองนมข้นแล้วทำหน้าเหวอ “คุณ..มันล้นแล้วๆๆ ทำไงดี!” ทิวไผ่ตกใจรีบเดินมานั่งยองๆ ข้างโต๊ะแล้วหยิบหลอดนมออกจากมือขาวที่เปื้อนไปหมดมาปิดฝา “มันก็แค่นมหวานหน่า” จับมือบางมาเลียนมข้นออก “หวานเจี๊ยบ” มองหนุ่มหน้าสวยแล้วยิ้ม ดวงตาพราวระยับยิ่งเห็นอีกฝ่ายเขินก็ยิ่งชอบใจ “เลียทำไมเนี่ย” หน้าแดง ดึงมือกลับแล้วยกมือตัวเองมาเลียต่อ มองเห็นพยาบาลที่เดินเร็วๆ ออกนอกห้องไป “บ๊ายบาย” ส้มเช้งโบกมือตามก้น “ม๊ารักส้มเช้งกับป๊าใช่มั๊ยคะ” ถามย้ำแบบจริงจัง ทิวไผ่ที่ยืนล้างมือเหลือบมองทำหูผึ่ง “อืม.มม..ก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่ามันยังไง ก็ใช่ละมั้งไม่ได้เกลียดนี่นา” ก้มมองส้มเช้งแล้วหอมแก้มหนึ่งที ฟอด!! ดด “ไม่เกลียด…รักจะตายเด็กอ้วนไม่งั้นจะหอมบ่อยๆ รึ” ทั้งสองกอดกันกลมหัวเราะคิกคัก ทิวไผ่ยืนหัวเราะไปกับภาพนั้น “งั้น..ถ้าหอมป๊าแล้วจะรักเหมือนส้มเช้งมั้ยคะ??” ส้มเช้งสนับสนุนป๊า ที่ยังยืนสะดุ้งอยู่ตรงอ่างล้างมือ “ไม่รู้สิ..ไม่เคยหอม” หันมองทิวไผ่นิ่ง ‘หอมแล้วจะรักเหรอ..อืมม..เหมือนกันมั้ยน้าา’ อาเจาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่อ่างล้างมือ ทิวไผ่มองคนตัวบางเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆอย่างตื่นเต้น “เย้ๆๆ …หอมเลยๆ หอมเลยๆๆ” ส้มเช้งตบมือแปะๆ “ก้มหน้าลงหน่อยครับ ผมหอมไม่ถึง” ด้วยความอยากรู้ก็ต้องลองดูสินะ องค์รัชทายาทยังมีคู่รักเป็นบุรุษก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ทิวไผ่ก้มลงยกแขนค้ำที่ล้างจาน นึกแปลกใจที่ตนเองก็บ้าจี้ไปตามส้มเช้งกับอาเจา โน้มหน้าลงให้เท่ากับอีกคน ‘เด็กผู้ชายอะไรหน้าจะสวยขนาดนี้’ ฟอดด!!! ดดดด คนหอมกระพริบตาปริบๆ “เอ่อ..หอมไปแล้ววว” อาเจาหน้าแดงหันไปบอกส้มเช้งที่ตบมือรัวๆ “พี่ใจเต้นแปลกๆ ด้วยล่ะนะส้มเช้ง” คนหอมยกมือขึ้นกุมหน้าอก.. แล้วความอดทนของป่ะป๊าก็หมดลง “ส้มเช้งปิดตา!!” ทิวไผ่บอกลูกสาวจบก็รวบคนตัวบางเข้าสู่อ้อมกอดจับปลายคางอาเจาหันมา ก้มลงแนบริมฝีปากหนาลงไปทันที จ๊วบบๆๆ จุ๊บบ ๆ ใช้ฟันขบกัดริมฝีปากสีสดจนคนตัวบางอ้าปากออก ก็สอดเรียวลิ้นเข้าไปด้านใน ดูดดึงลิ้นเล็กอย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกับเหล็กดัดฟัน “อื้มมม..มม” ตุ่บๆๆ ๆๆ อาเจาทุบไหล่อีกฝ่าย จนอีกคนคลายออก “แฮ่กๆๆ ..คุณไผ่จุมพิศ” หน้าแดงไปถึงใบหู “จูบผมอ่ะ!!” ปิดปากหน้าแดง “อืม..อีกหน่อยก็ชิน” ทำหน้าเฉยแต่ตอบรับเลียริมฝีปาก ‘อร่อยเป็นบ้า’ หันมองลูกสาวที่แง้มนิ้วมือดูแล้วหัวเราะ “หึหึ..มานี่เด็กอ้วน” เดินหันหลังไปอุ้มส้มเช้งขึ้นนั่งตัก “มานี่อาเจา” ตบที่ข้างๆ ตัว “คุณจูบผมอ่ะ” นี่มันจูบแรกนะคิดในใจแต่ไม่พูดออกไป “ค่อยไปเคลียกันที่บ้านไร่..ตอนนี้เก็บของก่อน ส้มเช้งจะกลับวันนี้แล้ว” ปล่อยส้มเช้งที่วิ่งไปรอบห้องถอดชุดออกจ้าละหวั่นไปแล้วก้มลงกระซิบคนตัวขาวแก้มแดง “ฉันจะรับผิดชอบเราเองดีมั้ย” จมูกเฉียดแก้มนิ่มไปนิดนึง “ยังไงครับ ผมเป็นผู้ชาย..ฮึ่ยย!!” ลุกขึ้นเดินหนีไป “นั่นสินะ..เป็นผู้ชายแต่ทำฉันมีอารมณ์” หึ &&&& ไร่ทิวไผ่งาม “เราก็นอนด้วยกันในห้องใหญ่ยังไงล่ะคะไม่เห็นจะยากเลย พออายุเจ็ดขวบป๊าก็ให้ส้มเช้งแยกห้อง ป๊าก็นอนกับม๊าปกติ” ผงกหัวแบบเดิม อาเจาส่ายหัว “ผมนอนคนเดียวดีกว่าครับ..ห้องใกล้ๆนี่ก็ได้จะให้ไปนอนกับเจ้านายมันไม่ถูกต้อง” อ “ใช่..นอนห้องข้างๆ ก็ถูกแล้ว” ทิวไผ่ชี้ไปที่ห้องด้านข้าง “เอาไว้ถ้าส้มเช้งอยากนอนกับพี่ก็เข้ามานอนด้วยได้นี่ครับ” อาเจาลูบหัวเด็กน้อยและเกลี้ยกล่อมจนอีกฝ่ายยอมตกลง “งั้นลงไปย้ายของขึ้นมากันเถอะ” และแล้วความชุลมุนกับความสุขก็เกิดขึ้นตั้งแต่คืนนั้น วันเวลาผ่านไปนับได้หนึ่งเดือนแล้วที่อาเจาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านไร่ พนง.ในบริษัทต่างพากันร้อนรนโทรมาสอบถามความคืบหน้าของอาเจาตลอดโดยไม่ให้อีกฝ่ายสงสัยเพราะเวลาลุ้น..เหลือแค่เดือนกว่าๆ ยามเช้าตรู่ของวันทำงานปกติ ตึ่กๆๆ ตึ่กๆๆ เสียงวิ่งลงส้นเท้าดังมาจากด้านบนตามมาด้วยเสียงร้องดังลั่น “ม๊าาขาาาา” พุ่งเข้ามากอดเอวบางที่กำลังทำอาหารหอมฉุย อาเจารีบยกแขนที่จับทัพพีร้อนขึ้นสูง “อย่าวิ่งพุ่งมาแบบนี้สิครับถ้าชนใส่หม้อร้อนจะทำยังไง” วางทัพพีแล้วนั่งลงกอดหอมเด็กอ้วนขี้อ้อนอย่างหมั่นเขี้ยว ฟอด!! ดด “น่ารักจังเลยยย…ลูกสาวใครเอ่ยย??” “ลูกสาวม๊างายยย” เด็กอ้วนถูกยกจนตัวลอยและฟัดพุงจนต้องหัวเราะคิกคัก “ฮ่าๆๆๆ” ทิวไผ่ยืนมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เขารู้ว่าตั้งแต่อาเจาเข้ามาอยู่ที่นี่ จากบ้านที่เงียบสงบก็มีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นในทุกวัน แม่บ้านที่จ้างมารายอาทิตย์ก็ต้องยกเลิกไปเพราะอาเจาทำงานนี้ด้วยตัวเองทั้งหมด ทำอาหารก็อร่อยกลมกล่อมแม้จะหน้าตาแปลกๆ แต่ทุกอย่างที่ทำออกมารสชาติดีเยี่ยมยิ่งกว่าภัตตาคารในเมืองบางที่ซะอีก ความคิดเขาในตอนนี้ เด็กหนุ่มหน้าสวยก็มีดียิ่งกว่าผู้หญิงบางคนด้วยซ้ำ “อ้าวคุณ..ไปยืนทำอะไรตรงนั้นครับ” อาเจายิ้มหวานก่อนจะปลอยมือจากส้มเช้งที่ขอตัวไปเก็บกระเป๋านักเรียน “เปล่า..แค่คิดได้ว่าเราอยู่กันแบบนี้ก็แล้วดีนะสิ” ทิวไผ่เดินเข้ามาในครัวมองดูหม้อน้ำซุปหอมๆ “น่ากินจัง” มองหน้าพ่อครัวตัวบางแล้วทำตาหวาน อาเจาหันหน้าหนี ‘ช่วงนี้เขามีอาการใจสั่นแปลกๆ เวลาคุณไผ่มองมา’ ก่อนจะคิดเลยเถิดไปไกล เขาก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องเมื่อคืน “เอ๊ะ..คุณ ผมลืมบอกไป อีกสองวันแฟนผมจะมา” จากที่เขารับโทรศัพท์เมื่อคืน เขาได้ยินเสียงของผู้หญิงที่บอกว่าเป็นแฟนเขาจะมาหาและจับชู้ให้ได้ ซ้ำยังบ่นอะไรไม่รู้ยาวเหยียดเขาก็ไม่ได้ฟังให้จบเพราะวางโทรศัพท์เอาไว้ด้านข้างแล้วดูทีวี ‘ใช่..เขาติดละครจีนน่ะ’ ทิวไผ่หน้าตึง 'นั่นสินะ' เขามีความสุขจนลืมไปว่า ‘อาเจามีแฟนอยู่ที่กรุงเทพ’ อาเจาที่ปิดเตาแก๊สได้ ก็กลับมามองเจ้านายตัวเอง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปจึงโบกมือเรียก “คุณ!..เป็นอะไรน่ะ” “หืม อะ อืม เอาล่ะ..ฉันจะถามตรงๆ นะอาเจา” อาเจาพยักหน้าพร้อมตั้งใจฟัง “อื้ม” "ระหว่างฉะ" ตรู้ดดๆๆ ตรู้ดๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ของอาเจาดังขึ้นขัดจังหวะ เจ้าตัวเหลือบมองก็เห็นได้ชัดว่าเป็นแฟนสาว –ใบหม่อน-รอสาย--ตรู้ดดๆๆ แน่นอนว่าเจ้าของบ้านเองก็คงเห็นแบบเดียวกัน “จะโทรมาทำไมอีกเนี่ย..คุยอะไรก็ไม่รู้เรื่อง” อาเจาบ่นน้ำเสียงติดรำคาญ ทิวไผ่ได้ยินจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับและเปิดสปีกโฟน ติ่ด!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD