Chapter 1

1290 Words
ความร้อนวูบๆ วาบๆ ลามเลียไปทั่วใบหน้า คล้ายดังว่าเลือดลมเดินผิดปกติ ทั้งที่ตอนนี้เจ้าของใบหน้านวลเนียนใสนั่งอยู่ในห้องที่เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความรู้สึกแปลกๆ แบบอธิบายไม่ได้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับร่างกายเลยสักครั้ง หากในยามนี้รติรสกำลังรู้สึกแบบนั้น และเธอเริ่มหงุดหงิดกับอาการแปลกของตัวเองเพราะมันกำลังทำให้เธอไม่มีสมาธิในการฟังรายละเอียดของใครต่อใครที่กำลังถกกันถึงนโยบายการส่งออกและนำเสนอแนวทางการลงทุนในตลาดการลงทุนแห่งใหม่นี้ หญิงสาวตวัดดวงตาคู่งามสานสบกับดวงตาคมกล้า อันเป็นต้นเหตุของที่มาของอาการแปลกประหลาดที่เธอกำลังเป็น เรียวปากอิ่มเม้มเข้าหากัน ดวงตาหวานวาวดุ อย่างจะบอกให้คนมองรู้ว่าเจ้าตัวไม่พอใจ และแทนที่คนมองจะรู้ เจ้าของดวงตาคมกล้ากลับยิ้มกลับมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา ราวกับไม่รู้ว่าหญิงสาวกำลังโกรธกับการมองอย่างเสียมารยาทแบบนั้น รติรสสะบัดหน้าพรืดใส่ อาการนั้นกลับอยู่ในสายตาของไพรัชที่หันมาเห็นเข้าพอดี “เป็นอะไรไปรส” “ปละ... เปล่าค่ะลุง” ผู้เป็นลุงพยักหน้าให้เล็กน้อย แล้วหันไปสนใจกับการสนทนาที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น หญิงสาวถึงกับถอนใจยาวเบาๆ เอ็ดตัวเองในใจ ไม่ให้ทำอะไรที่จะเป็นการขายหน้าตัวเองและลุงอีก เพราะในงานนี้ไม่ได้มีแค่เธอกับลุงไพรัชเท่านั้น รอบๆ โต๊ะ ที่จัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยังมีเจ้าหน้าที่จากประเทศเกษตรกรรมหลายประเทศในแถบเอเชีย นักลงทุน นักส่งออก และเจ้าหน้าที่ภาครัฐจากประเทศนั้นๆ ด้วย สำหรับประเทศไทย นอกจากไพรัชและรติรสก็ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐชื่อบัณฑูร และผู้ค้านักส่งออกอีกหลายรายเข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้ที่ว่าด้วย เรื่องการส่งออกข้าวมายังประเทศในแถบตะวันออกกลาง นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศเกษตรกรรม เมื่อประเทศในแถบนี้ต้องการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรหลายอย่าง แต่ที่เป็นหัวใจสำคัญคือเรื่องข้าว และมีผลไม้แปรรูปอีกหลายชนิด การประชุมในคราวนี้ถือเป็นบันไดขั้นแรก หากว่าใครหรือประเทศไหนมีข้อเสนอที่ดีก็จะได้รับเลือกให้เป็นผู้ส่งสินค้ามายังกลุ่มประเทศนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของหลายประเทศในแถบตะวันออกกลางเข้าร่วมเช่นกัน อาทิ ตัวแทนจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับออมิเรตส์ ดูไบ ตุรกี อียิป และที่สำคัญคือ บันดัร ซึ่งเป็นประธานในการจัดการประชุมในครั้งนี้ บันดัร ประเทศน้องใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะแม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่มีธุรกิจที่ทำรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำอย่างน้ำมันและแร่มีค่า บันดัรเป็นประเทศที่มีส่วนหนึ่งเป็นทะเลทราย และอีกด้านติดกับทะเล เมืองหลวงของบันดัรจึงเป็นเมืองท่าสำคัญในการขนถ่ายสินค้า รติรสพบว่าประเทศนี้เจริญมากๆ อาจจะเรียกได้ว่าดูไบแห่งที่สองกันเลยทีเดียว รติรสละจากความคิดเมื่อเสียงทุ้มๆ ของประธานในที่ประชุมเอ่ยขึ้นทางหัวโต๊ะ ร่างสูงสง่าในชุดประจำชาติดูโดดเด่น ใบหน้าคมเข้มครึ้มเครา ศีรษะคลุมด้วยผ้าคลุมสีขาวและมีรัดเกล้าสีน้ำตาลเข้มสวมทับไว้อีกชั้น เรือนร่างใหญ่ภายใต้เสื้อดิชดาชาสีขาวคลุมทับด้วยบริชด์สีดำสนิท สาบเสื้อเป็นผ้าปักลายสีทอง ตรงแขนมีดิ้นทองเล็กๆ ยาวจรดข้อมือ ชีคเบนจามิน อิลยาส มูฮัมดาน ซาอิด ชีคหนุ่มรัชทายาทของบันดัร ซึ่งประเทศนี้ยังปกครองในแบบระบอบกษัตริย์ดังเช่นหลายประเทศในตะวันออกกลาง พอมองไปทางประธานในที่ประชุมแล้ว รติรสก็อดมองไปทางซ้ายมือไม่ได้ ร่างผึ่งผายของใครอีกคน เจ้าของดวงตาที่สร้างความรู้สึกแปลกๆ ให้กับตัวเธอ ครั้งนี้หญิงสาวพบว่าเขาไม่ได้มองมาที่เธอ แต่กวาดตามองผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ขณะที่เขากำลังกล่าวต่อจากชีคเบนจามิน จากข้อมูลที่เธอศึกษาก่อนเดินทางมาบันดัรบอกว่า ชายผู้นี้เป็นนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของที่นี่ หญิงสาวลอบมองใบหน้าที่รกครึ้มด้วยหนวดและเครา เขาก็เหมือนชายชาวทะเลทรายคนอื่นๆ แต่งชุดคลุมยาวสีขาว ซึ่งมีชื่อเรียกต่างๆ กันออกไป เช่นในแถบอาหรับเหนือเรียกว่าดิชดาชา (dishdasha) ยูเออีเรียก กันดูร่า (Kandura) ส่วนในซาอุดีอาระเบียเรียก โต๊ป (Thobe) ส่วนที่บันดัรเรียกว่าดิชดาชาและเรียกเสื้อคลุมสีดำว่าบริชด์ นั่นเพราะแต่แรกเริ่มเดิมที ผู้สร้างหรือผู้สถาปนาประเทศนี้อพยพมาจากแถบอาหรับเหนือจึงยังยึดถือปฏิบัติและเรียกขานเสื้อผ้าอย่างที่เคยเรียก แม้นว่าบันดัรจะอยู่ต่ำลงมาทางอ่าวเปอร์เซีย มีผ้าคลุมศีรษะ คาดทับด้วยรัดเกล้า เผยให้เห็นเพียงใบหน้าและดวงตาคมกล้าคู่นั้น และโดยไม่คาดฝัน ดวงตาคู่นั้นหันมาสบตากับเธออีกครั้ง รติรสหน้าร้อนวาบ เมื่อถูกจับได้ว่าเป็นฝ่ายแอบมองเขา แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนัก เวลานี้เขาเป็นผู้อภิปราย ผู้ฟังทุกคนก็ย่อมต้องจับจ้องไปที่คนพูดอยู่แล้ว ทว่า... ดวงตายิ้มๆ คู่นั้นสิ ที่มันทำให้เธอรู้สึกเสียหน้า และหงุดหงิดใจ ภาวนาให้การประชุมเสวนาครั้งนี้จบลงเร็วๆ เสียที “ข้อเสนอของเราดูมีภาษีมากกว่าประเทศอื่น งานนี้เรามีลุ้นแล้วและเพื่อน” บัณฑูร รัฐมนตรีช่วยด้านการส่งเสริมการส่งออกพูดยิ้มๆ พร้อมตบไหล่ไพรัชเบาๆ อย่างสนิทสนม คนทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีมานาน การประชุมจบลงด้วยดี คราวนี้รอเพียงสัญญาณตอบรับจากประเทศโลกในแถบตะวันออกกลางว่าจะตัดสินใจเลือกนำเข้าสินค้าจากประเทศใด ไพรัชยิ้มกว้าง เขาเองก็พอมองเห็นความสดใสในเส้นทางนี้ คุณภาพข้าวของไทยยังคงเป็นหนึ่งในตลาดโลก ถึงแม้คู่แข่งอย่างเวียดนามจะตีคู่ขึ้นมาเรื่อยๆ ทว่าคุณภาพนั้นยังสู้ไทยไม่ได้ “ฉันก็หวังว่าเราจะได้รับข่าวดีในเร็ววันนี้” “แน่นอนไพรัช นายเองก็เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ แล้วงานนี้เราไม่ได้ค้าขายแค่ข้าว หรือสินค้าทางการเกษตร แต่ยังมี อัญมณี กับพวกชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์อีก” รติรสยืนสำรวมอยู่ห่างๆ พอควร ได้ยินการสนทนาแว่วๆ ระหว่างลุงของเธอกับบัณฑูร ขณะที่คนอื่นๆ ต่างทยอยกันกลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวไปงานเลี้ยงเย็นนี้ที่พระราชวังของชีคเบนจามิน หลังการประชุมเสวนาเสร็จสิ้น พวกเธอยังมีกำหนดพักอยู่ที่บันดัรอีกหลายวัน ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย รติรสตั้งใจว่าจะออกตระเวนเที่ยวรอบๆ เมืองนี้ให้หนำใจ ที่นี่สวยงามไม่แพ้ดูไบที่เคยเห็นทางทีวี หญิงสาวคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้ทำงานกับไพรัช ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ ของเธอเอง หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต ไพรัชรับเธอมาอุปการะ ตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่หนึ่ง พอเรียนจบได้ทำงานเป็นเลขาของลุงที่บริษัท ทำให้ไม่ต้องไปดิ้นรนหางานทำเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD