Intro… ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก

1299 Words
Intro… “....” กูทำเหี้ยอะไรลงไปเนี่ย ผมเอามือลูบหน้าตัวเอง เดินตัวเบาโหวงออกจากห้องที่ไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองหรือย้อนกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง หลังจากได้สัมผัสกับประสบกามเอ๊ยประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง ถึงจะรู้สึกดีแต่ก็กระดากใจที่จะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติ พอผมตั้งสติได้ก็มานึกเสียใจเอาทีหลัง เอาแต่ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆ ว่าทำไมปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ทำไมไม่ยับยั้งชั่งใจ ทำไมต้องหน้ามืดไปมีเซ็กส์กับผู้ชายทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้อดอยากปากแห้งอะไรขนาดนั้น ปึ้ก! ผมเตะผนังลิฟต์อย่างอารมณ์เสีย ทีแรกก็ว่าจะใช้หมัดต่อยแต่กลัวเจ็บเลยใช้เท้าแทน ออกจากลิฟต์ ผมเดินกระฟัดกระเฟียดมารอแท็กซี่ที่หน้าคอนโด อารมณ์คุกรุ่นไม่ได้ลดลงเลย ผมเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดไล่ดูข้อความของแฟนอย่างรู้สึกผิดแกมเคว้งที่แอบนอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น แถมคนอื่นที่ว่ายังเป็นเพศผู้เหมือนกันอีก แม่งเอ๊ย แค่คิดก็โกรธตัวเองจนไม่รู้จะโกรธยังไงแล้ว ถ้า ‘บีบี’ แฟนผมรู้เข้าจะมองผมด้วยสายตายังไง ไม่อยากนึกภาพเลย ระหว่างที่ผมกำลังใจลอย โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทีแรกนึกว่าบีบี... พอดูดีๆ กลับเป็นชื่อเพื่อน >> เอิร์ธ ไอ้เวรนั่นโทรมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ วะ ผมขมวดคิ้ว กดรับสายด้วยความรู้สึกไม่ชอบมาพากล “เออ ว่าไงเอิร์ธ” [...กูอยู่หน้าคณะ มึงมาหากูที] ได้ยินแบบนั้นผมถึงกับชะงัก “มึงไปทำไรตรงนั้นตอนตีสองวะ ไม่กลัวผีหลอกหรือไง” [สัส กูไม่เล่น] มันตอบกลับมาเสียงขุ่น ผมหน้าหงาย อุตส่าห์จะเปลี่ยนบรรยากาศที่กำลังขมุกขมัวนี่สักหน่อยแต่ปลายสายกลับเครียดกลับมาซะนี่ “แล้วมึงไปทำอะไรที่คณะเอาดีๆ” ผมปรับน้ำเสียงจริงจัง [มาแล้วเดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง] “....” พูดจบมันก็วางสายไปเลย อะไรของแม่งวะทำเป็นมีลับลมคมใน ผมหัวเสียนิดหน่อยแต่เพราะรู้สึกตงิดๆ ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับไอ้เอิร์ธแน่ๆ ไม่งั้นมันไม่โทรมาเอาป่านนี้หรอก ผมนั่งแท็กซี่มาที่มหาลัย ถึงจะดึกดื่นค่อนคืนแต่มหาลัยก็ยังมีคนอยู่ประปราย ผมเดินเข้ามาในตึก กวาดสายตามองหาเป้าหมายไม่นานก็เจอ ไอ้เอิร์ธนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ ข้างตัวมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ผมครุ่นคิดพลางสะกิดมันให้ตื่น “เฮ้ย! เอิร์ธ... ตื่น!” “หือ... ตะวัน? มาแล้วเหรอ” มันงัวเงีย ลืมตาขึ้นมองด้วยสายตาปรือๆ ผมชะงัก... เห็นหน้ามันตอนเบลอๆ แบบนี้แล้วมันแปลบๆ ที่ใจยังไงไม่รู้ว่ะ มะไม่หรอกน่า ผมรีบไล่ความรู้สึกที่เกือบๆ จะเรียกว่าหวั่นไหวออกจากใจแล้วมองหน้ามันด้วยสายตาจริงจังกว่าเดิม “แล้วนี่มึงไปไหนมา” ระหว่างที่ผมกำลังสับสนกับอารมณ์ของตัวเองไอ้เอิร์ธก็ยิงคำถามใส่ “กูไปกินเหล้ากับบีบี” ผมมองตอบสายตามันอย่างลนลาน ไม่รู้ละอายใจเรื่องที่แอบไปมีอะไรกับผู้ชายหรือเรื่องที่เห็นหน้าไอ้เอิร์ธแล้วรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้ แต่เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับมันเลยนะ สาบานได้ หรือนี่จะเป็นผลพวงจากที่ผมไปเอากับผู้ชายมา แบบนี้ก็ฉิบหายสิ “รถมึงล่ะ?” เอิร์ธถามด้วยสีหน้าที่ยังไม่ตื่นดี เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าสายตามันเซ็กซี่ขนาดไหน อึก... กูเป็นเชี่ยอะไรอีกแล้วเนี่ย “กูให้บีบีเอาไปใช้” ผมตอบตามจริง เพราะก่อนจะไปตกล่องปล่องชิ้นที่คอนโดไอ้เวรนั่น ผมไปเที่ยวผับกับบีบีแล้วบังเอิญเข้าไปพัวพันกับเรื่องทะเลาะวิวาทของคนอื่นก็เลยเอากุญแจรถให้บีบีกลับไปก่อน จากนั้นผมก็ไหลยาวจนมาอยู่ตรงหน้าไอ้เอิร์ธนี่แหละ “ว่าแต่มึงมาทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่นกระเป๋าอะไร” ผมยิงคำถามกลับไป “กู...” ไอ้เอิร์ธทำหน้าเลิ่กลั่ก ท่าทางอึกอักเหมือนไม่รู้จะตอบผมยังไงดี “ทะเลาะกับพี่กันต์อีกแล้วเหรอ” พอเห็นมันกระบิดกระบวนไม่ยอมบอกผมก็โพล่งออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก แต่ไอ้เอิร์ธกลับทำหน้าเหือดแห้งเหมือนปลาขาดน้ำขึ้นมาทันที “....” ดันเดาถูกซะงั้น ผมมองท่าทางเงียบนิ่งของไอ้เอิร์ธแล้วก็รู้สึกผิดตงิดๆ เหมือนยิ่งพูดยิ่งทำมันสะเทือนใจ แต่ว่าก็ว่าเถอะ พี่น้องทะเลาะกันถึงขั้นต้องเก็บกระเป๋าออกจากห้องเลยเหรอวะ หลังจากถามไถ่จนรู้เรื่องราวคร่าวๆ ผมพาไอ้เอิร์ธกลับมาที่ห้องตามระเบียบ ทำไงได้ มีแต่ต้องหนีบมันกลับห้องเท่านั้นแหละ ดึกป่านนี้จะให้ผมไล่มันไปไหนอีก แถมไอ้เพื่อนรักคนนี้ยังหอบกระเป๋ามาด้วย เห็นชัดๆ ว่าหนีออกจากบ้าน เฮ้อ ถึงผมจะหนักใจที่จู่ๆ ก็ต้องเปิดห้องให้เพื่อนเข้ามาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ถึงกลับแย่ซะทีเดียวเพราะผมสามารถใช้มันเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับบีบีได้ เนื่องจากว่าตอนนี้จิตใจผมยังไม่เข้าที่เข้าทาง (หลังจากไปทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายมา) การให้ไอ้เอิร์ธมาอยู่ด้วยถือว่าผมเองก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน ทว่าผมคิดแบบนั้นได้ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ เพราะยังไม่ทันข้ามวัน ไม่สิ ต้องพูดว่าตดยังไม่ทันหายเหม็น ก็มีไอ้บ้า เอ๊ย! พี่กันต์ (พี่ชายไอ้เอิร์ธ) บุกมาตามหาคนถึงห้อง แถมยังสารภาพรักกันแบบไม่อายฟ้าดิน เล่นเอาผมเสียวไปทั้งไขสันหลัง ขนหัวลุกยุบยับ แม้แต่ยืนเฉยๆ ยังขาทรุดแล้วทรุดอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มีบุญหรือบาปไม่แน่ใจเป็นสักขีพยานรักให้กับพี่น้องต่างสายเลือดคู่นี้ [1] เป็นคืนที่มีแต่เรื่องจริงๆ ปัญหาของผมจิ๊บจ๊อยไปเลยเมื่อเทียบกับสองคนนี้ หลังจากพี่กันต์ซมซานกลับห้องเพราะง้อไอ้เอิร์ธไม่สำเร็จ ผมถึงได้มองสำรวจมันด้วยความตั้งอกตั้งใจเป็นครั้งแรก อืม... จะว่าไปหุ่นมันก็... ช่างเถอะ ผมหยุดความคิดตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอน เหม่อมองเพดานคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตวัดมองไอ้เอิร์ธที่ยังนั่งกอดเข่าซึมอยู่มุมห้อง ไหวไหมวะนั่น ผมอดเป็นห่วงมันไม่ได้แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากกลัวทำให้มันรู้สึกแย่กว่าเดิม เลยได้แต่เอ่ยเตือนๆ บอกให้มันรีบนอน มีอะไรเอาไว้ค่อยคิดต่อพรุ่งนี้ แน่นอนว่าประโยคหลังผมบอกตัวเองด้วย เฮ้อ... หรือผมจะเล่าเรื่องที่เพิ่งไปฟัดกับผู้ชายให้มันฟังดีวะ มันจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมาก แต่คิดอีกทีไม่เล่าดีกว่า... เพราะยังไงซะคนที่ผมเพิ่งกอดมาก็เป็นเพื่อนพี่กันต์ เดี๋ยวจะยุ่งยากใจกันเปล่าๆ ทางที่ดีอย่าให้ใครรู้เลย ผมเองก็ตั้งใจจะลืมอยู่แล้ว ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นไปแหละดีแล้ว [1] รายละเอียดเต็มๆ ของเอิร์ธกับพี่กันต์อยู่ในเรื่อง Bro.น้องครับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD