ได้รับคำสั่งก็เร่งถือแฟ้มเอกสารเข้ามาที่ห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ เมื่อเข้ามาแล้วก็เห็นว่าเขากำลังพ่นบุหรี่ออกมาจากปากจนกลิ่นของมันคละคลุ้งห้องไปหมด
"คุณครามสูบบุหรี่อีกแล้วนะคะ"
"หากไม่อยากได้กลิ่น วันหน้าก็ใส่แมสเข้ามาสิ" พูดจบก็บี้บุหรี่มวนนั้นลงที่รองกระถางอันเล็ก แล้วเอื้อมมือรับแฟ้มเอกสารกับเลขาสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ใบหน้าคมคิ้วเข้มพาดเฉียงจดจ้องมองที่ตัวหนังสืออย่างพิจารณา ก่อนที่เขาจะตวัดปากกาลงเป็นลายอักษร จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองแพรพิไลพร้อมสีหน้าที่เรียบเฉย
"เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ"
"อืม" แม้บุคลิกของเขาจะดูนิ่ง ๆ แต่แท้จริงแล้วเจ้าเล่ห์เสน่หา แววตาลิงโลดแค่เห็นสิ่งที่พึงพอใจตรงหน้า
"เด็กใหม่ที่มาช่วยงานชื่ออะไรละ"
แพรพิไลชะงักไปเล็กน้อย เธอเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารแต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบคำถามเจ้านาย
"แก้วรุ้งค่ะ"
ดูเหมือนว่าเขาจะเงียบ แต่ความเงียบนี้มันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสียเมื่อไหร่ ใบหน้าคมเข้มเริ่มนิ่งสนิทและนั้นมันก็ยิ่งเดาทางได้ยาก กระทั่งเป็นเสียงแพรพิไลที่พูดขึ้นอีกครั้ง
"คุณคราม! คนนี้ไม่ได้นะคะ คนนี้เด็กแพรหากทำให้เด็กกลัวแล้วไม่มาทำงานมีหวังแพรได้นั่งหัวฟูแน่ ๆ "
"พูดอะไรของเธอ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็แค่ถามชื่อเฉย ๆ อีกอย่างเธอมาทำงานกับเราจะไม่ให้ฉันรู้จักชื่อหน่อยเหรอ"
"รู้จักได้ค่ะ แต่ทำอย่างอื่นไม่ได้นะคะ แพรหวง"
แพรพิไลพูดเสียงสั่น ก็กลัวเหลือเกินว่าเจ้านายของตัวเองจะยุ่งกับเด็กมาใหม่ ทีแรกก็ไม่คิดว่าแก้วรุ้งจะสวยสะดุดตาขนาดนี้ แต่พอมาเห็นจัง ๆ เธอเองก็ยังแอบคิดในใจเลยว่ากลัวท่านประธานจะสอยไปกินเหมือนเด็กคนอื่น ๆ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้
แพรพิไลเดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัวของเขาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งเล็กน้อย จนแก้วรุ้งที่นั่งทำงานอยู่ต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"พี่แพรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ท่านประธานดุเหรอ หรือว่าหนูทำงานพลาดตรงไหน"
"ไม่ใช่ทั้งสอง" พอหย่อนก้นลงนั่งก็รีบพูดขึ้นทันที จากนั้นก็ถอนหายใจยาวออกมา พร้อมทั้งหันมามองหน้าแก้วรุ้งด้วย
"นี่แก้วรุ้งพี่อยากเตือนอะไรหน่อย เอ่อ คุณครามเขาเป็นเสือผู้หญิงยิ่งเราหน้าตาดีขนาดนี้ระวังตัวหน่อยแล้วกัน"
แก้วรุ้งเลิกคิ้วขึ้นสูง ก็พอเข้าใจได้ว่าเสือผู้หญิงคืออะไร แต่ที่เธอต้องเลิกคิ้วเหมือนเป็นคำถามก็เพราะมันไม่น่าเกิดกับเธอน่ะสิ
"หนูว่าระดับท่านประธานไม่มาสนใจเด็กพนักงานอย่างหนูหรอกค่ะ อีกอย่างหนูก็ไม่ได้สวยขนาดนั้นสักหน่อย"
คำพูดของแก้วรุ้งก็เหมือนจะถ่อมตนอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือหลายต่อหลายรายที่เล่นกับไฟสุดท้ายก็ออกไปแต่ตัว แทนที่จะได้ทำงานที่ดีมีเงินเดือนใช้ แต่ดันเป็นของเล่นหวังสูง สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรจากเขาอยู่ดี
"นั่นแหละพี่เตือนไว้"
"ค่ะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอกหนูไม่ใช่คนแบบนั้น เจ้านายก็คือเจ้านายค่ะ"
ทำงานมาจนจะครึ่งวันแล้ว เอกสารที่ช่วยแพรพิไลทำก็เหมือนจะเบาบางลงบ้าง ไม่ได้มีอะไรที่หนักหนาเท่าที่คิดไว้ ตอนนี้ก็คงเป็นช่วงพักเที่ยงของพนักงาน และอย่างที่บอกว่าแก้วรุ้งเธอพึ่งมาทำงานใหม่ อะไร ๆ ที่นี่ก็ใหม่ไปหมดเธอเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงอาหารอยู่ที่ไหน ส่วนมากเขาไปทานข้าวที่ไหนกัน
"พี่แพรค่ะ พนักงานที่นี่เขาไปทานข้าวกันที่ไหนหรือคะ"
"พี่ก็ลืมบอกไปเลย มัวแต่ใช้งานเธอจนลืมแนะนำ เอางี้เที่ยงนี้ไปทานข้าวกับพี่แล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะ"
หลังจากที่เก็บเอกสารทุกอย่างให้เข้าที่ แพรพิไลก็พาน้องลงมาที่ชั้นล่างของอาคาร เดินไปที่ด้านหลังของตึกเพราะตรงนั้นจะเป็นโรงอาหารของพนักงาน ส่วนมากคนก็มักจะมาทานที่นี่ หรือบางคนก็อาจจะเดินออกไปทานร้านอาหารข้าง ๆ ตัวบริษัทก็มี
แพรบอกกับน้องว่าที่นี่มีสวัสดิการอีกหนึ่งอย่างก็คือ มุมเหลือน้อย ซึ่งมุมนั้นจะจัดพวกมาม่าถ้วยคัพเอาไว้ และขนมปัง กาแฟ ที่บอกว่ามุมเหลือน้อยหมายถึงเงินของพนักงานบางคนที่ไม่พอใช้กว่าจะถึงเงินเดือนออกก็น่าจะประทังชีวิตได้
ยิ่งพี่เลขาแนะนำแบบนั้นก็เหมือนจะทำให้แก้วรุ้งรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง ก็เธอเองกำลังประสบภัยกว่าจะถึงเดือนเงินก็คงไม่พอใช้แน่ ๆ
"ว่าแต่อยากทานอะไรละ ที่นี่มีข้าวราดแกงหนึ่งอย่างยี่สิบห้า สองอย่างห้าสิบ"
คำบอกเล่าของพี่แพรทำให้แก้วรุ้งฉีกยิ้มออกมา
"หนึ่งอย่างก็พอแล้วค่ะ กว่าจะถึงเดือนหนูก็คงพึ่งมุมเหลือน้อยแล้ว"
"เราพึ่งทำงานก็ประหยัดหน่อยแล้วกัน แต่รุ้งทำงานช่วงกลางเดือนเขาก็ตัดออกสิ้นเดือนอยู่แล้ว อีกสองอาทิตย์เงินก็ออก"
ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยก็กลัวว่าเขาจะไปสมทบกับเดือนถัดไปน่ะสิ
ระหว่างที่แพรพิไลนั่งทานข้าวกับแก้วรุ้งสองคน กลุ่มที่เคยทานร่วมกับเธอก็เดินเข้ามาสมทบ และขอนั่งโต๊ะเดียวกัน
"พี่แพรได้เด็กมาช่วยงาน หน้าตาชื่นบานขึ้นเยอะนะเนี่ย"
เป็นเสียงเด็กที่แผนกเอ่ยแซวขึ้น ส่วนแก้วรุ้งเธอก็แค่ยิ้มออกมา เป็นจังหวะที่หันไปเจอต้อมหนุ่มฝ่ายบุคคลพอดี
สบตาแว็บเดียวก็ต้องหลบกลับมา ก็แน่นอนแหละว่าเธอเป็นสาวโสดจะไปสบตาหนุ่มนาน ๆ ก็กลัวว่าเขาจะตำหนิ อีกอย่างไม่รู้เขามีเจ้าของหรือเปล่า หากจะยิ้มทักทายก็กลัวคนอื่นหาว่าไปอ่อนเขาอีก
"จริงสิ น้องรุ้งก่อนหน้านี้ทำงานที่ไหนเหรอคะ" คำถามของพี่พนักงานคนหนึ่งที่เอ่ยถามขึ้น
"หนูพึ่งจบค่ะ ยังไม่เคยทำงานที่บริษัทส่วนมากก็ทำพาร์ทไทม์เล็ก ๆ น้อย ๆ"
"อ้อ..."
เธอคนนั้นพยักหน้ารับ ส่วนแก้วรุ้งเธอก็ก้มหน้าก้มตาทานตามเดิม ระหว่างที่ก้มทานอยู่นั้นอยู่ ๆ ก็มีแก้วน้ำหวานวางลงข้าง ๆ เธอ
"ไม่รู้ว่าดื่มน้ำอะไรพี่ก็เลยซื้อมาเผื่อ"
แก้วรุ้งช้อนสายตาขึ้นมองก็เห็นว่าเป็นพี่ต้อมฝ่ายบุคคลยืนอยู่ข้าง ๆ และนั้นมันทำเอาพี่ ๆ พนักงานแซวขึ้น
"ต้อมไม่เบานะ น้องพึ่งมาวันแรกเอง" เพื่อนร่วมงานแซวขึ้น
"ผมแค่กลัวว่าข้าวจะติดคอน้อง เท่านั้นเอง"
เขาพูดยิ้ม ๆ แล้วก็เดินจากไป ส่วนแก้วรุ้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกเขินอายมาก ก็เธอเป็นผู้หญิง อีกอย่างก็พึ่งมาทำงานยังไม่รู้จักใครแต่ดูเหมือนพี่ฝ่ายบุคคลจะใส่ใจเป็นพิเศษ
"ปกติต้อมมันไม่คุยกับใครนะเนี่ย" แพรพิไลพูดบ้าง
"พี่เขายังไม่มีแฟนหรือคะ"
"ยัง...หนุ่มโสด"
หลังจากแพรพิไลบอกเธอแบบนั้น แก้วรุ้งก็มองตามหลังพี่สุดหล่อฝ่ายบุคคล มันก็น่าแปลกเขาหล่อเบอร์นั้นทำไมไม่มีแฟน