บทนำ

1356 Words
ฝีเท้าเบาราวปุยนุ่นของกองกำลังติดอาวุธครบมือ เคลื่อนเข้าประจำที่ตามคำสั่งสัญญาณมือของผู้ควบคุมการรบ ชายหนุ่มผู้มีดวงตาราวปีศาจ ความดำปกคลุมตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า จะมองเห็นก็แค่ดวงตาคู่คมที่แฝงไปด้วยอำนาจ เขาสั่งการให้ลูกน้องเข้าประชิดพื้นที่ฝั่งด้านซ้ายไว้ทั้งหมด ในขณะที่มีอีกหนึ่งกองกำลังประจำการอยู่ทางขวา ปฏิบัติการลับเป็นไปอย่างเงียบเชียบไร้เสียง แม้แต่เสียงจากนกร้องก็ไม่มีให้ได้ยิน ป่าผืนกว้างจึงเงียบสงัดแต่กระทั่งเสียงลมก็มี หัวหน้าผู้สั่งการหยิบกล้องทางไกลขึ้นมาส่องไปอีกฝั่ง เห็นสัญญาณมือจากผู้บัญชาการส่งมาให้เตรียมพร้อมไว้ทุกเมื่อ ชายหนุ่มลดกล้องลงแล้วใช้สัญญาณมือสื่อสารกับลูกน้องที่เหลือ ทุกอย่างต้องเงียบเชียบ เพราะอีกฝ่ายเป็นศัตรูที่อันตราย! ชายหนุ่มภายใต้ผ้าคลุมดำที่ปกปิดร่างกายไว้มิดชิด ทำเรื่องเสี่ยงอันตรายจนกลายเป็นความเคยชิน ชื่อของเขาคือ ลูวิสทาร์คอฟสกี หลายคนรู้จักเขาในชื่อเพชฌฆาตมาเฟีย ด้วยอุปนิสัยที่เฉียบขาด โหดเหี้ยม ไร้หัวใจ จึงทำให้แก๊งต่างๆ ไม่อยากมีปัญหากับเขา เบื้องหลังแล้วลูวิสเปรียบเสมือนนักบุญ คอยช่วยเหลือส่งอาวุธให้กับประเทศที่ถูกรุกราน ฉะนั้นศัตรูของเขาจึงมีมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ และปฏิบัติการครั้งนี้ ก็เป็นหนึ่งในงานนักบุญที่เขายื่นมือเข้ามาช่วย เดิมทีตัวเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ได้เข้ามาพัวพันด้วยเพราะรับเรื่องต่อมาจากแดร์เรนเพื่อนสนิทของเขา ที่ตั้งใจจะล้างมือจากเรื่องเสี่ยงอันตรายทั้งหลาย เพราะเพื่อนสนิทของเขากำลังจะแต่งงาน ฉะนั้นเขาจึงเต็มใจรับงานนี้มา จึงพาตัวเองมาเป็นหัวหน้าปฏิบัติการลับในประเทศเอสเซอร์เลีย ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดชายแดนรัสเซีย แทบจะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อประเทศนี้มาก่อน มีทั้งปัญหาภายในและปัญหาภายนอก ปัจจุบันประเทศเอสเซอร์เลียมีการรัฐประหารเกิดขึ้น กษัตริย์และราชินีของประเทศถูกคุมขังอยู่ที่ไหนสักแห่ง เขาเข้าร่วมกับเจ้าชายรัสเซล ซึ่งเป็นองค์รัชทายาท และท่านชายซามูเอล นักรบแดนเถื่อนเอสเซอร์เลีย ด้วยการส่งอาวุธและช่วยรบเพื่อกำจัดตัวการใหญ่ ที่อยู่เบื้องหลังการทำสงครามในประเทศ เรื่องภายในของเอสเซอร์เลีย ลูวิสไม่ค่อยสนใจมากนัก เขาโฟกัสไปที่การจับกุมตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด มันพัวพันไปถึงเรื่องการค้าอาวุธเถื่อน แดร์เรนเคยบอกเขาไว้แล้วว่าราลีโอนเป็นแค่ตัวกระจ้อย ยังมีตัวเบ้งอีกหลายตัวคอยบงการเรื่องนี้อยู่ และมันเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ค่อนข้างยุ่งยากในการจัดการ เขาจึงไม่สามารถแสดงตัวได้ว่าเป็นใคร ปฏิบัติการครั้งนี้ต้องเป็นความลับทั้งหมด ลูวิสยกกล้องส่องดูความเคลื่อนไหวเบื้องหน้าเป็นระยะๆ เพื่อหาช่องทางเข้าโจมตีแบบเบ็ดเสร็จ เน้นความเร็วเพื่อไม่ให้ศัตรูรู้ตัว แต่มันไม่ง่ายเพราะมีกองกำลังติดอาวุธกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ล้อมรอบกระท่อมหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่า เจ้าขายรัสเซลสันนิษฐานว่า พวกก่อการร้ายอาจจับองค์กษัตริย์และราชินีมาขังไว้ที่นี่ เป็นแค่การคาดเดาเพราะหลายต่อหลายครั้งที่จู่โจมสถานที่แบบนี้ มักจะคว้าน้ำเหลวแต่องค์รัชทายาทก็ยังไม่หมดหวัง ท่านชายซามูเอลรับหน้าที่เป็นฝ่ายบุก พากองกำลังไปตระเวนตามพื้นที่ต่างๆ ที่คิดว่าสามารถใช้เป็นที่คุมขังได้ และสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งแห่งที่คาดว่าทั้งสองพระองค์ถูกคุมขังอยู่ เพราะมีกองกำลังเฝ้าตระเวนมากกว่าปกติ ‘ลงมือได้!’ ลูวิสได้รับสัญญาณจากท่านชายซามูเอลที่อยู่อีกฝั่ง จึงเริ่มเคลื่อนพลเข้าใกล้อย่างเงียบเชียบไม่ได้ยินแม้กระทั่งฝีเท้า ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อกองพลทั้งสองฝั่งเข้าโจมตีพร้อมกันโดยที่กองตระเวนไม่ทันตั้งตัว เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องไปทั่วพื้นป่า ผู้ก่อการร้ายถูกกระสุนที่ยิงมาเหมือนห่าฝน ล้มไปกองกับพื้นราวกับไร้กระดูก เลือดไหลซึ่งไปทั่วพื้นดิน “บุกไปอย่าถอย!” ลูวิสสั่งเมื่อผู้ก่อการร้ายฝ่ายตรงข้าม ตอบโต้ด้วยการสาดกระสุดใส่ไม่ยั้ง            ฝ่ายของเขามีชุดเกราะกันกระสุนรุ่นใหม่สุดใส่กันครบ ฉะนั้นทุกคนจึงพร้อมใจบุกตามคำสั่ง รวมถึงตัวลูวิสเองก็ก้าวไม่ถอย เขาไม่เน้นสาดเน้นเจาะ ทุกนัดที่ยิงแสกเข้ากลางหน้าผากไม่มีพลาด เพราะพวกมันก็มีอุปกรณ์ป้องกันตัวเช่นกัน ฉะนั้นยิงจุดอื่นไม่ทำให้ตายแค่บาดเจ็บ กองกำลังติดอาวุธเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะมีคนมากกว่า อีกฝั่งที่ท่านชายซามูเอลนำรบมีฝีมือไม่เป็นรองใคร เข้ากระหน่ำยิงจนผู้ก่อการร้ายเหลือเพียงหยิบมือ ฝั่งลูวิสเข้าเคลียร์พื้นที่จับกุมพวกที่ยังไม่ได้มามัดรวมกันเอาไว้ ส่วนทางท่านชายบุกเข้าไปเคลียร์ด้านใน “มีเหลือเท่านี้ครับนาย” คนสนิทของลูวิสรายงาน “รวมคนบางส่วนไปตรวจละแวกนี้ให้ละเอียด” ลูวิสยังไม่ไว้วางใจ เพราะอาจมีบางคนเล็ดลอดหนีไปขณะที่กำลังปะทะกัน พวกมันต้องไม่มีใครเหลือรอดมือไปได้ “ครับนาย” ลูกน้องรับคำสั่งเรียกคนอีกจำนวนหนึ่งไปเดินลาดตระเวนพื้นที่โดยรอบ ส่วนลูวิสใช้สายตาดุจมัจจุราชมองสำรวจอย่างละเอียด ไอ้พวกที่ถูกจับกุมถูกมัดมือและปิดปากไว้จึงไม่สามารถส่งเสียงได้ แต่แววตาของพวกมันไม่แสดงอาการกลัวตายเลยสักนิด ตรงกันข้ามพวกมันพร้อมพลีชีวิตได้ทุกเมื่อ “ไม่มี” ท่านซามูเอลกลับออกมามือเปล่าอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ในการบุกโจมตีเพื่อค้นหาที่ซ่อนขององค์กษัตริย์และองค์ราชินี ไม่รู้พวกมันเอาพวกท่านไปซ่อนไว้ที่ใด ลูวิสนั่งลงตรงหน้าผู้ก่อการร้ายคนหนึ่ง มองมันด้วยแววตาเหี้ยมหากเป็นคนอื่นคงหวั่นสะพรึงกับรังสีอำมหิตที่แผ่อยู่รอบตัว แต่กับพวกมันไม่รู้สึกรู้สาอะไร จ้องมองกลับอย่างไม่เกรงกลัว “บอกที่ซ่อนมา” ลูวิสถามด้วยภาษาเอสเซอร์เลีย ที่เขาเพิ่งเรียนรู้ไม่นานมานี้ “....” เมื่อไม่มีคำตอบ ลูวิสจึงไล่มองไปที่ละคน พวกมันไม่มีใครปริปากพูดเลยสักคน แววตาพวกมันไม่หวาดหวั่น แสดงออกว่าพร้อมตายอย่างเต็มใจ ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ถูกฝึกมาด้วยความเชื่อและความศรัทธาในองค์กร พวกมันทุกคนพร้อมตายดีกว่าคายความลับ ลูวิสมองไปที่ท่านชายเพื่อรอคำสั่ง เมื่อท่านชายพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ เขาจึงส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องจัดการ โดยที่เขายืนมองอย่างเลือดเย็น พวกมันทุกคนถูกปากคอจนเลือดสดๆ กระฉูดออกมาไหลนองเต็มพื้นดิน “ขอบคุณมากที่มาช่วยผมทำภารกิจ ครั้งนี้เราทำสำเร็จได้เพราะอุปกรณ์และอาวุธที่คุณส่งมาให้” ท่านชายเดินเข้ามาแสดงความขอบคุณ เขาเป็นถึงท่านชายแต่ก็ไม่ได้เย่อหยิ่งจองหอง ใครมีน้ำใจเขาก็พร้อมจะขอบคุณ “ยินดีครับ” ลูวิสค่อมหัวให้ เพราะคนตรงหน้าคือท่านชายจึงต้องให้เกียรติ ปกติแล้วเขาไม่ก้มหัวให้ใครง่ายๆ “แล้วอีกเรื่อง...” “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง” “ผมขอขอบคุณอีกครั้ง” ท่านชายยิ้มบางก่อนจะนำคนของท่านออกไปจากพื้นที่ ทางลูวิสเองเมื่อเคลียร์สถานการณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรีบออกไปเช่นกัน คนของเขากลับมารายงานว่าไม่มีใครหนีรอดไปได้ จึงพากองกำลังทั้งหมดกลับไปยังฐานลับ ซึ่งเป็นเขตแดนที่อยู่ระหว่างแนวชายแดนของหลายประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกัน เสร็จภารกิจนี้แล้วลูวิสยังไม่มีแผนเรื่องอื่น ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำต้องหลังจากนี้ก็คือ....เดินทางกลับบ้าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD