รอยรักที่ 1

2455 Words
"ฉันยินดีกับเธอด้วยนะคาร่า เราสองคนก็จบชั้นมัธยมปลายจนได้" "ถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงไม่จบหรอก ก็เธอช่วยฉันไว้เยอะเลยนี่นาอิ่มเอม" "พูดอะไรกันน่ะ มันอยู่ที่ความพยายามของเธอต่างหาก เธอจบโรงเรียนนานาชาติได้นะ แถมยังพื้นฐานแน่นกว่าของฉันอีก ตอนที่ฉันเคยดูสมุดการบ้านของเธอ ฉันยังไม่เคยเห็นการเรียนอะไรแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะที่โรงเรียนฉันไม่ได้สอนแบบนั้นน่ะสิ" "ก็ตอนนั้นบอกแล้วไงว่าให้มาเรียนด้วยกันก็ไม่เอา ถ้ามาเรียนเธอคงจะได้พูดภาษาอังกฤษคล่องแน่" "ไม่ไหวหรอก ค่าเทอมหลายแสนขนาดนั้นฉันจะเอาเงินจากไหนมาเรียนล่ะ" "ก็ฉันถึงได้บอกไง ฉันรู้ว่าเธอไม่ค่อยมีเงินเพราะพี่ชายเธอก็ไม่ได้ทำงานด้วย ฉันถึงได้บอกจะให้แด๊ดช่วยออกค่าเทอมให้เธอเอง เธอก็ไม่เอา" "เงินมากมายขนาดนั้นฉันไม่มีทางเอาของเธอหรอกนะ ว่าแต่เราเลิกพูดกันเรื่องนี้เถอะ แล้ววันนี้ว่างหรือเปล่า ฉันอยากเลี้ยงฉลองให้เธอที่เรียนจบน่ะ เราไปคาเฟ่ร้านประจำกันดีไหม วันนี้ฉันขอเลี้ยงเครื่องดื่มเธอเองนะ" "ไม่ได้นะ วันนี้ครอบครัวของฉันจะมีเลี้ยงฉลองที่ฉันเรียนจบ แล้วแน่นอนว่าคืนนี้เธอต้องไปร่วมงานเลี้ยงกับฉันด้วยนะ เดี๋ยวรอเฮียครูซตรงนี้แหละ เฮียกำลังจะมารับฉันแล้วล่ะ พอดีเป็นทางผ่านที่เฮียมาทำธุระพอดี" "แต่ฉันเป็นห่วงพี่ชายน่ะสิ ถ้าฉันไม่ไป..." "ไม่ได้นะอิ่มเอม เมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่เธอจบการศึกษาก่อนฉันเพราะโรงเรียนของเธอแจกใบจบการศึกษาก่อน ฉันก็ยังไปร่วมยินดีกับเธอเลย วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของฉันเหมือนกันนะ ฉันก็อยากให้เพื่อนของฉันมาอยู่ร่วมดูความสำเร็จด้วย ขอร้องล่ะ แค่วันเดียวเอง" "แต่จะไม่มีคนเตรียมอาหารเย็นให้พี่ชายฉันน่ะสิ อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต้องไปถึงที่บ้านแล้ว เพราะคนที่ดูแลพี่ฉันต้องกลับแล้วน่ะสิ" "งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้เฮียไปส่งเธอที่บ้านก่อน ให้เธอเตรียมอาหารให้พี่ชายแล้วเราก็ไปกัน แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง นะอิ่มเอม" อิ่มเอมทำท่าทางลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ทางนั้นก็พี่ชาย ทางนี้ก็เพื่อนคนสำคัญ แต่เธอก็จะทิ้งให้พี่ชายที่นอนคิดเตียงอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ ๆ "เดี๋ยวฉันขอถามพี่ชายก่อนนะว่าอยู่คนเดียวสักสามสี่ชั่วโมงได้ไหม ถ้าพี่ชายฉันโอเค ฉันจะไปด้วยนะ" "เย้...งั้นดีเลย เดี๋ยวฉันจะไปอ้อนพี่ชายเธออีกแรง มาแล้ว...รถของเฮียครูซมาแล้วล่ะ ไปกันเถอะ" คาร่าดึงแขนเรียวของเพื่อนสนิทแต่ก็ต้องชะงัก เพราะอิ่มเอมไม่ยอมไปตามแรงดึงของเธอด้วย "เดี๋ยวไปเจอกันที่บ้านฉันเลยดีกว่านะ" อิ่มเอมอยากหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหน้าของพี่ชายเพื่อนสนิท ถึงแม้จะเคยเจอกันหลายครั้งแล้วก็ตาม ถึงจะไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าพี่ชายของคาร่าไม่พอใจที่น้องสาวของเขาต้องมาคบกับเธอ "ไม่ได้นะ ไหน ๆ ก็มาทางเดียวกันแล้วก็ไปด้วยกันนี่แหละ เร็วสิ! เดี๋ยวพี่ชายเธอที่บ้านก็รอนานหรอก" อิ่มเอมก็ยอมเดินไปตามแรงดึงของเพื่อนด้วยความจำใจ ก่อนจะพากันรีบเดินไปที่รถลีมูซีนหรูกันกระสุนอย่างดี โดยมีคนขับรถมาเปิดประตูให้ด้วยความนอบน้อม แล้วคาร่าก็เลือกไปนั่งเบาะหลังกับเพื่อนสนิท แทนที่จะไปนั่งตรงกลางกับพี่ชาย "สวัสดีค่ะเฮียครูซ เดี๋ยวเฮียช่วยแวะให้หนูแถวนี้หน่อยนะคะ พอดีว่าหนูจะแวะไปทำธุระที่บ้านเพื่อนก่อนน่ะค่ะ" คาร่าพูดภาษาอังกฤษใส่พี่ชายเพราะทั้งสองเป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย จึงมักจะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเป็นส่วนมาก "สวัสดีค่ะ" อิ่มเอมรีบยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อน หลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถหรูแล้ว ส่วนฝ่ายนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรสักนิด อิ่มเอมก็รีบนั่งก้มหน้าด้วยความเกรงใจตามเดิม "จะไปทำไมอีกล่ะ เดี๋ยวงานเลี้ยงจะเริ่มแล้วนะ" "เฮียไปส่งหนูแป๊บเดียวนะคะ พอดีเพื่อนหนูจะต้องไปเตรียมอาหารเย็นให้พี่ชายก่อนจะไปที่บ้านเราน่ะค่ะ" "พี่เคยบอกเราแล้วใช่ไหมว่าให้เลิกคบกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้นได้แล้ว ทำไมถึงได้มีรสนิยมต่ำขนาดนี้ นี่ก็เรียนจบเกรดสิบสองแล้ว ยังไม่เลิกคบกับเพื่อนพรรค์นั้นอีกหรือไง" "ทำไมเฮียถึงต้องว่าเพื่อนหนูแบบนี้ด้วยล่ะ หนูไม่สนหรอกนะว่าเพื่อนหนูจะจนหรืออะไร แต่อิ่มเอมคือเพื่อนที่คนสำคัญที่สุดของหนู เฮียอย่ามาพูดแบบนี้กับเพื่อนหนูอีกนะ" "ก็เห็นคบกันมาตั้งหลายปีแล้วนี่ เลิกคบได้แล้วมั้ง เพื่อนจน ๆ จะคบให้เสียเวลาทำไม มีแต่จะทำให้ขายขี้หน้าวงศ์ตระกูลของเราเปล่า ๆ" "เฮียอย่าพูดแบบนี้เป็นภาษาไทยให้เพื่อนหนูได้ยินนะ ดีนะที่เพื่อนหนูไม่ค่อยแข็งเรื่องภาษาอังกฤษน่ะ ไม่งั้นเพื่อนหนูจะเสียใจขนาดไหน ลุงคะ…ช่วยไปแวะที่ xxx ด้วยค่ะ" ประโยคสุดท้าย คาร่าตะโกนบอกทางที่จะไปกับคนขับรถของพี่ชาย เพื่อไปยังบ้านของเพื่อนสนิท อิ่มเอมได้แต่นั่งนิ่งฟังการสนทนาของคนทั้งสอง เธอรู้และเข้าใจทุกอย่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน จริงอยู่ที่เมื่อหลายปีก่อนเธอไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย แต่พอเธอได้เป็นเพื่อนกับคาร่า เธอก็เริ่มเรียนรู้และศึกษาภาษาอังกฤษตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองนอกจากที่เรียนในชั้นเรียน เธอมักจะฟังการสนทนาของชาวต่างชาติและดูหนังแปลบ่อย ๆ จนสามารถฟังภาษาอังกฤษได้เข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเธอคงคิดว่าเธอยังฟังและพูดไม่ค่อยได้เหมือนตอนนั้น "ถึงเพื่อนของหนูจะฟังออกพี่ก็ไม่สนใจหรอกนะ จะยังไงก็ช่างเถอะ นี่มันบ้านคนจริง ๆ ใช่ไหม ทั้งสกปรกและแออัดขนาดนั้น" รถหรูมาจอดอยู่ที่ตึกแถวสองชั้นที่เป็นอาคารเก่า ๆ อิ่มเอมรีบลงจากรถทันที ก่อนจะรีบเปิดประตูแล้วขึ้นไปที่ชั้นสองที่เป็นห้องนอนของพี่ชาย "ขอบคุณพี่หญิงมากนะคะสำหรับวันนี้" อิ่มเอมไหว้ผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพี่ชายที่อาสามาดูแลพี่ชายของเธอให้ในตอนกลางวัน ขณะที่เธอออกไปเรียน สมหญิงทำงานรับจ้างซักผ้ารีดผ้าและอาศัยอยู่ตึกแถวที่ติดกัน เธออาสามาดูแลอาหารกลางวันและมาดูแลพี่ชายให้ในเวลาที่ว่างเว้นจากการทำงาน โดยที่เธอไม่เคยขอรับค่าตอบแทนใด ๆ แต่ก็มาช่วยดูแลพี่ชายของเธออยู่แบบนี้มาหลายปีแล้ว "เลิกไหว้พี่ได้แล้วนะเอม แล้วนี่จะรีบไปไหนหรือเปล่า ทำไมถึงทำสีหน้ากังวลขนาดนั้นล่ะ" อิ่มเอมจึงรีบเล่าทุกอย่างให้เพื่อนบ้านฟัง "ก็เอาอย่างที่เพื่อนเอมบอกนั่นแหละ พี่ว่าเราไม่ควรปฏิเสธเพื่อนนะเพราะวันสำคัญแบบนี้มันมีแค่ครั้งเดียว เอาเป็นว่าเอมไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ชายหรอก เดี๋ยวอาหารเย็นพี่จะจัดการให้พี่ชายของเอมเองนะ" "แล้วหนูรบกวนพี่มากหรือเปล่าคะ" "ถ้ารบกวนพี่ก็คงไม่ช่วยหรอก อย่าคิดมากเลย รีบไปได้แล้วมั้ง เพื่อนรออยู่ข้างล่างไม่ใช่หรือไง" "ขอบคุณพี่หญิงมากนะคะ งั้นเดี๋ยวเอมจะรีบไปแล้วรีบกลับค่ะ เอมขอฝากพี่ชายด้วยนะคะ" "รีบไปเถอะไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้หรอก" คาร่าทนรอเพื่อนไม่ไหวจึงรีบเดินลงจากรถหรู แต่พอเห็นเพื่อนเดินออกมาจากประตูบ้านก็รีบวิ่งไปหาด้วยความดีใจ "สรุปวันนี้เธอไปกับฉันใช่ไหม" "วันนี้ฉันต้องไปกับเธออยู่แล้วแหละ โชคดีที่พี่สาวข้างบ้านจะช่วยดูแลพี่ชายฉันต่อน่ะ งั้นเรารีบไปกันเถอะ ฉันเกรงใจพี่ชายเธอ" "งั้นเรารีบไปกันเถอะ ฉันดีใจมากเลย ในที่สุดเธอก็ได้มาร่วมงานกับฉันสักที ถ้าไม่มีเธอฉันต้องเสียใจมากแน่ ๆ" อิ่มเอมได้แต่นั่งนิ่ง ๆ มาตลอดทางเพราะเธอลำบากใจไม่น้อยที่ต้องไปที่บ้านของเพื่อนสนิท หลายครั้งที่เธอไปที่นั่นก็มักจะมีสายตาของคนในบ้านหลังนั้นมองมาที่เธอราวกับเธอเป็นตัวน่ารังเกียจ "พี่จะยอมให้เราแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ แล้วก็เลิกคบกับผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ได้แล้ว ครอบครัวเราเป็นคนมีชื่อเสียง ส่วนหนูก็ต้องรู้จักการเลือกคบเพื่อนเสียบ้าง หวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายนะ ที่พี่จะได้เห็นผู้หญิงคนนี้มาเกาะแกะอยู่รอบตัวหนูน่ะ" "ทำไมล่ะคะเฮีย เฮียจะห่วงชื่อเสียงและหน้าตาไปทำไม รวมถึงแด๊ดกับคุณแม่ด้วย หนูกับอิ่มเอมคบกันก็มีแต่ความรักความปรารถนาดีให้แก่กัน หนูไม่สนหรอกว่าอิ่มเอมจะมีฐานะต่างจากเราแค่ไหน แต่อิ่มเอมคือเพื่อนที่ดีที่สุดของหนูและเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในชีวิตที่มีแต่ความจริงใจให้" "จริงใจหรือเห็นแก่เงินกันล่ะ ผู้หญิงคนนั้นคงจะได้เงินจากหนูมาเยอะสินะ" "เฮียหยุดพูดดูถูกเพื่อนของหนูเถอะนะคะ ไม่งั้นหนูจะลงตรงนี้แหละ" ครูซก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เพราะเขามีน้องสาวคนเดียวที่เขารักมาก น้องสาวที่อายุห่างกันมากพอสมควร เขาเฝ้าดูแลน้องสาวมาตั้งแต่เด็กเพราะเธอเปรียบเสมือนนางฟ้าตัวน้อย ๆ ของตระกูลที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวยิ้มอย่างมีความสุขได้เสมอ อิ่มเอมก็รู้สึกผิดอยู่ในใจที่เป็นสาเหตุทำให้พี่น้องต้องมีปัญหากัน หลายครั้งที่พี่ชายของเพื่อนมักจะมาเตือนให้เธอเลิกยุ่งกับคาร่า แต่คาร่าก็มักจะตามหาเธอเจอทุกครั้งจนทำให้รู้จักบ้านของเธอ แล้วหลังจากวันนั้นเธอก็ไม่สามารถหลีกหนีจากคาร่าได้อีก ...สามปีก่อน... อิ่มเอมเดินออกจากรั้วโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อกลับบ้านตามปกติ เธอก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ สวมชุดโรงเรียนนานาชาติชื่อดังระดับประเทศกำลังนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในเก้าอี้ที่สวนสาธารณะ "นี่เธอ...เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงมานั่งร้องไห้คนเดียวล่ะ" อิ่มเอมตกตะลึงไปเล็กน้อยที่เห็นดวงตาของคนตรงหน้า เธอไม่เคยเห็นดวงตาของใครที่สวยขนาดนี้มีก่อนเลย คาร่าเงยหน้ามองคนที่มาทักเธอทั้งน้ำตา อิ่มเอมรีบตั้งสติเมื่อเธอเผลอจ้องตาไปนานพอสมควร เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเสียใจอย่างหนัก จึงรีบหาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองในกระโปรงนักเรียนแล้วยื่นให้ "เช็ดน้ำตาก่อนเถอะ ใบหน้าสวย ๆ แบบนี้ไม่เหมาะกับน้ำตาเลยนะ" คาร่าชะงักเมื่อได้ยินคนที่อายุใกล้เคียงกันพูดจาดี ๆ กับเธอแบบนี้ แถมยังไม่ทักท้วงเรื่องดวงตาของเธออีก จึงรีบคว้าผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดแล้วก็หยุดร้องไห้ทันที "ทำไมถึงมานั่งร้องไห้คนเดียวล่ะ ป่านนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีกหรือไง" "ฉันถามหน่อยสิ ทำไมเธอถึงมาคุยกับฉันล่ะ" "แล้วฉันมากวนเธอหรือเปล่าล่ะ ถ้าเกิดว่าเธอไม่ชอบ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ" "ไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่แปลกใจว่าทำไมเธอถึงมาทักฉัน ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้จักกันล่ะ แถมเธอยังช่วยปลอบใจ แล้วให้ผ้าเช็ดหน้าฉันด้วย" "ก็ฉันเห็นเธอร้องไห้ก็เลยเป็นห่วงน่ะ ฉันก็เลยมาถามดูว่าพอจะช่วยอะไรได้ไหม" "มาช่วยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันน่ะหรือ" "แล้วถ้าเวลาเธอเห็นคนอื่นที่ไม่รู้จักกำลังลำบาก เธอก็จะไม่ช่วยหรือไง" "ก็มันไม่ใช่เรื่องของเรานี่ ทำไมต้องช่วยล่ะ" "ฉันก็ไม่รู้หรอกแต่ฉันแค่อยากช่วยเธอ ว่าแต่ทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือไง" "ก็เพื่อนในห้องมักจะเห็นฉันเป็นตัวประหลาดน่ะสิ ทุกคนก็เลยชอบรุมแกล้งฉัน พอเห็นฉันเป็นคนอ่อนแอก็เลยแกล้งฉันสารพัด จนตอนนี้ฉันไม่อยากไปโรงเรียนเลยล่ะ" "ถ้าเธอมีจิตใจที่เข้มแข็งนะ ใคร ๆ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก ถ้าเธออยากเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นและไม่อยากโดนเพื่อนในห้องรังแกอีก วันหลังฉันจะสอนวิธีให้ สนใจไหมล่ะ? แน่นอนว่าสอนฟรีไม่คิดเงินด้วยนะ" "เธอจะช่วยฉันจริง ๆ ใช่ไหม แล้วฉันจะเป็นคนที่เข้มแข็งได้จริง ๆ หรือเปล่า งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมานั่งรอตรงนี้นะ เธอจะช่วยฉันจริง ๆ ใช่ไหม" "ได้สิ พรุ่งนี้มาเจอกันที่เดิมก็ได้ เธอจะเข้มแข็งหรือเปล่านั้นมันก็อยู่ที่ตัวเธอ แต่ฉันมาเจอเธอได้แค่วันละไม่เกินยี่สิบนาทีนะ เพราะว่าฉันจะต้องรีบกลับไปดูแลพี่ชายด้วยน่ะ" ***ฝากกดติดตามจะได้ไม่พลาดเรื่องใหม่ ฝากกดหัวใจ คอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยนะคะ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD