เธอคือพรหมลิขิตรัก

CHAPTER. 4

“มาบอกพี่ฟ้าว่ามีแฟนใหม่แล้ว ชื่อลีน่าเป็นนางแบบ ใบบัวก็ว่าหน้าคุ้น ๆ ..”

พอเห็นปฏิกิริยาเหมือนควันออกหูของอิงดาวแล้ว ใบบัวรู้สึกไม่อยากจะเล่าต่อเลย.....แต่จำเป็นต้องเล่า

พราวฟ้านั่งพักอยู่บริเวณชั้นลอย ที่ตกแต่งให้เป็นโซนนั่งเล่น มีโซฟายาวสีครีมรูปแบบไม่แตกต่างกับร้านอาหารชั้นล่าง เปิดห้องโล่งให้เห็น โซนหนังสือที่จัดอย่างเป็นระเบียบ ถือเป็นมุมโปรดมุมหนึ่งในบ้านของ พราวฟ้า สำหรับขึ้นมานั่งอ่านหนังสือหรือดูทีวีในช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค้า รวมทั้งเป็นมุมเงียบ ๆ ในบางครั้งที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือนั่งร้องไห้เวลาเหนื่อย ท้อแท้ในเวลาที่นึกถึงบุพการี

เหตุการณ์ในวันนี้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าความรู้สึกแบบนี้เรียกว่าอะไร บอกไม่ถูกว่าทุกข์ ผิดหวัง หรือเสียใจมากแค่ไหน เธองงและสับสนกับความรู้สึกของตนเองมากกว่า เธอพอจะดูออกมานานแล้วว่า พี่นาวินเป็นคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยมีปัญหาที่ทำให้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และมิตรภาพที่มีต่อกัน

พราวฟ้าได้รู้จักพี่นาวินตั้งแต่ตอนที่รับงานถ่ายแบบ ในช่วงที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่ตนเองกับน้องลำบากมาก จึงพยายามหางานที่พอจะทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้มีรายได้เพียงพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่าย

ทั้งอิงดาวและพราวฟ้ารับงานถ่ายแบบสินค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงแม้งานถ่ายแบบจะเป็นงานที่ได้รายได้ดี แต่ทั้งสองมีความคิดเห็นตรงกันในเรื่องหนึ่ง คือจะไม่ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพหลักอย่างแน่นอน ยอมรับทำแค่บางงานที่จำเป็นเท่านั้น ถึงแม้จะมีหน้าตาและรูปร่างที่สวยงามอย่างที่ใคร ๆ อิจฉา แต่รู้ดีว่าความสวยยิ่งมีมากยิ่งอันตรายมาก

ครั้งหนึ่งเคยรับงานถ่ายแบบเสื้อผ้าคู่กับพี่นาวิน ทำให้รู้จักกัน และบังเอิญเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันจึงสนิทกันเร็วขึ้น ในช่วงที่ยังเรียนอยู่นั้นมีคนเข้ามาจีบพราวฟ้าค่อนข้างเยอะ แต่ค่อย ๆ หายไปทีละคน

เนื่องจากลักษณะนิสัยที่เงียบและไม่แสดงออก จากการเก็บกดปัญหาในชีวิตที่เกิดขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าหยิ่ง ถือตัว มีความเป็นส่วนตัวสูงเข้าถึงได้ยาก บางคนมีความอดทนน้อยจึงล่าถอยไปเอง ในขณะที่พี่นาวินเข้ามาชวนคุยเรื่องงาน หางานที่เหมาะสมส่งมาให้เรื่อย ๆ ทำให้คุยกันได้ต่อเนื่อง และไม่ทำให้อึดอัด จึงทำให้มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเรื่อยมา

ถึงแม้จะไม่เคยพูดคุยกันถึงลักษณะความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ พี่นาวินเป็นคนที่แสดงออกถึงความห่วงใย และดูแลพราวฟ้าเป็นอย่างดี ทำให้ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเนื่องเรื่อยมา เริ่มห่างหายไปบ้างในช่วงเรียนจบ เพราะพราวฟ้าไม่สนใจที่จะรับงานถ่ายแบบอีกและตั้งใจที่จะเปิดร้านอย่างจริงจัง ทำให้ไม่มีเวลาได้เจอกันมากนัก ในขณะพี่นาวินมีความใฝ่ฝันอยากเติบโตทางสายงานบันเทิง พอเริ่มมีชื่อเสียงมีงานเข้ามามากขึ้น เวลาไม่ค่อยตรงกัน ทำให้ติดต่อกันน้อยลง ในช่วงหลัง ๆ แทบจะไม่ได้ไปไหนด้วยกัน ซึ่งพี่นาวินให้เหตุผลว่าไม่อยากให้มีข่าวเรื่องความรักในช่วงนี้ ด้วยกลัวมีปัญหากระทบกับงาน พราวฟ้าเข้าใจและยอมรับเหตุผลในข้อนี้ดี และอาจจะเป็นเพราะนิสัยที่ชอบอยู่บ้านด้วยจึงไม่คิดว่าเรื่องนี้ทำให้เป็นปัญหากับตนเองมากนัก