บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟ......

1474 Words
“เห้อ!!” เสียงถอนใจหนักๆ เมื่อสภาพบ้านไม่ต่างอะไรกับรังหนู เมื่อมันเต็มไปด้วยความรก เพราะอีวานเมามายรื้อค้นของภายในบ้านจนกระจัดกระจายเกลื่อนไปหมด เธอลงมือเก็บของใช้ที่หล่นเกลื่อนบนพื้น พยายามทำแบบเบามือที่สุด เพราะอย่างนั้นเธออาจจะทำให้บิดาตื่นขึ้นมา และจะต้องทนฟังเสียงบ่นที่น่าเบื่ออีกนาน จนกว่าเขาจะหลับไปอีกครั้ง ขนาดอากาศเย็นจนติดลบ เธอยังรู้สึกเหมือนเหงื่อซึมเต็มแผ่นหลัง เพราะการออกแรงเก็บของที่หล่นบนพื้น เธอตักน้ำใส่กระป๋องใบเล็กๆ ก่อนจะหิ้วกลับเข้าไปในห้องตัวเอง อยากอาบน้ำอุ่นๆ เหมือนคนทั่วไปแต่ค่าน้ำแพงมหาโหดเธอจึงทำได้แค่ใช้น้ำลูบเนื้อลูบตัวล้างคราบเหงื่อจากการทำงาน ชีวิตหลังมารดาลาโลก เธอตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้าตรู่จนเกือบถึงเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่มีแม้แต่เงินจะซื้ออาหาร เพราะบิดาที่เป็นเสาหลักของบ้านเอาแต่กินเหล้า เขาไม่รับผิดชอบอะไรเลย นีรนาทเลยต้องออกจากโรงเรียน หันมาทำงานเต็มตัว แต่...การเรียนที่รักเธอก็ไม่ได้ทิ้ง เสียงแม่พร่ำบ่นกรอกหูมาตลอด หากไร้ความรู้ต่อให้ประสบสำเร็จ มันก็จะใช้เวลานานกว่าคนที่มีความรู้ เมื่อมันคือใบเบิกทางให้เธอมีโอกาสหางานที่ดีกว่าทำ หญิงสาวจึงแอบเจียดเงินบางส่วนร่ำเรียน แต่ต้องใช้ความพากเพียนมากกว่าคนอื่นๆ เมื่อเธอต้องทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ บางครั้งท้อแท้จนน้ำตาไหลอาบหน้า ต่อว่าพระผู้เป็นเจ้าที่กำหนดทางเดินชีวิตของเธอให้ลำบากยากเข็ญเสียเหลือเกิน เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน เธอก็จะเรียนจบ...มันเป็นความภาคภูมิใจ ถึงจะเป็นแค่การศึกษานอกโรงเรียนแต่มันก็ทำให้เธอหางานได้มากขึ้น ดีกว่าเป็นเด็กรับจ้างทั่วไปตามร้านขายเครปข้างทางที่ได้เงินเดือนหยิบมือเดียว “แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ้ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!! เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!! เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ทีสงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย “นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกาย หญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งนอนหลับไปแค่ 4 ชั่วโมงแต่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อบิดาร้องเรียกเสียงดังลั่น “เบาๆ แด๊ด เดี๋ยวคนข้างบ้านจะว่าเอาอีก มันยังไม่เช้าแด๊ดจะรีบไปไหนกันคะ” เธอตอบกลับเสียงแผ่วๆ รีบลุกขึ้นพับผ้าห่มและที่นอน ก่อนจะเดินไปเปิดประตุห้อง “ถ้ากูช้า...กูก็อดสิ!! มึงแหกตาตื่นไปทำงานแต่เช้า ให้เงินกูไว้ไม่พอค่าข้าว” อีวานตวาดเสียงฉุนๆ เขาไม่เคยตื่นทันมันสักครั้ง เห็นแค่สตางค์วางไว้บนโต๊ะกินข้าว แต่มันไม่พอยาไส้ “แด๊ดก็ซื้อข้าวกินสิ แค่ที่ให้ไว้เหลือเฟือ เอาไปซื้อเหล้าเท่าไรมันก็ไม่พอ” เธอควานหาเศษเงินในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยืนส่งให้บิดา “มึงก็ให้กูเยอะกว่านี้สิ กูรู้มึงแอบยักยอกไว้ คิดจะใช้คนเดียวหรือไงล่ะ” หญิงสาวกลอกตามองฟ้า เธอทำงานหาเงินเหนื่อยสายตัวแทบขาด ไม่เคยได้ใช้เพื่อตัวเองเลย ทุกอย่างแทบจะไม่มีเหลือเพราะมันละลายลงไปในขวดเหล้า หากไม่คิดหมกเม็ดไว้ เธอจะมีเงินไปจ่ายค่าตำราเรียนได้อย่างไร ทุกวันนี้แม่แต่ชั้นใน เธอยังต้องใช้ของเก่าๆ ของแม่ ประหยัดสุดขีด เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดีกว่านี้ แต่...บิดาที่ยังแข็งแรงไม่เคยคิดจะช่วย มีแต่จะเอาเปรียบและก่นด่า “นีชาไม่ได้ทำงานได้วัน2-3 พันรูเบิ้ลนะแด๊ด นีชาทำงานได้แค่600รูเบิ้ล ไหนจะค่าไฟค่าน้ำ ค่าอะไรๆ จิปาถะที่แด๊ดขยันไปสร้างทิ้งไว้ ให้นีชาตามจ่าย นีชาเหนื่อยเป็นเหมือนกันนะคะ” เธอตอบกลับเสียงแข็ง เมื่อบิดากดดันจนเธอหมดความอดทน เพี้ยะ!! มืออวบอูมสะบัดตบซีกแก้มของเธอ จนซีกหน้าชายิบเพราะความแรง เธอยกมือขึ้นจับ น้ำตาร้อนๆ ไหลริน ก่อนจะถอยหลังเข้าห้อง ปิดงับประตูห้องร่างเล็กๆ รูดลงไปกองที่พื้นพรางสะอื้นไห้ฮักๆ มือเล็กๆ ยกกอดตัวเอง ในหัวใจร่ำร้องหาแต่มารดา...แม่จ๋า...นีชาไม่อยากอยู่แล้ว นีชาอยากไปหาแม่... “มึงปิดประตูใส่หน้ากู อย่ามาใช้มุขนี้ เอาเงินมาอีก...แค่นี้กูไม่พอกิน” ชายเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยรับรู้ความลำบากยากเข็นของลูก เขาเมาสุราจนสมองหมดการยั้งคิด มืออวบอูมเคาะประตูห้องหนักๆ และโวยวายเสียงเข้ม “แต่เช้าเลยนะอีวาน ไอ้เวร!! ไม่สงสารลูกบ้างไง? ทำงานตัวเป็นเกลียวจนผอมโซเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เป็นกูนะจะทิ้งให้มึงตายอยู่กับขวดเหล้า เป็นพ่อประสาห่าอะไรว่ะ กินแรงลูก...มือก็มีไม่รู้จักออกไปทำงาน แดกแต่เหล้า เมื่อไรจะตายห่าเสียทีว่ะ” เสียงข้างบ้านตะโกนด่า แหวกความเงียบยามเช้า ชายสูงวัยโมโหสุดขีด เป็นเพราะอีนังลูกสาวตัวดี ทำให้เขาถูกเพื่อนบ้านก่นด่าแต่เช้า แค่มันให้เงินเขา ตามที่เขาต้องการก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้ เกิดขึ้น!! “อย่าลืมเอาเงินมาให้กูเพิ่มล่ะอีลูกเวร ถ้ากูไม่ได้...มึงเจอดีแน่ๆ” ชายสูงวัยที่ขาดสติและหมกหมุนอยู่แต่น้ำเมา เขากรรโชกเสียงเคร่งๆ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าฝ่าความหนาวเหน็บออกไปหาเหล้ากินที่ร้านค้าข้างทาง นีรนาทยกสองมือปาดคราบน้ำตา เธอเหลือบมองเวลาแล้วจึงถอนหายใจพรวดๆ เวลาเดินเร็วเหมือนติดปีก อยากมีเวลาในหนึ่งวันสัก 36 ชั่วโมงเธอจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นให้พอกับรายจ่าย...หญิงสาวรีบล้างหน้าแต่งตัว เธอคว้าขนมปังแข็งๆ หนึ่งแผ่นคาบไว้มุมปากควานหาเศษสตางค์ในกระเป๋ากางเกง และวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เพื่อตัดความรำคาญ ไม่เช่นนั้นอีวานก็จะไปก่อกวนที่ทำงาน จนเธอไม่สามารถทำงานได้... เมื่อไร? เธอจะพ้นสภาพแบบนี้เสียที เมื่อไรที่บิดาจะคิดได้และกลับตัวเป็นคนดี ไม่ต้องออกไปทำงานก็ได้ ขอแค่ไม่ทานเหล้าเมาหยำเปแบบนี้ เธอคงไม่เหนื่อยสายตัวแทบขาดเหมือนปัจจุบัน หญิงสาวแหงนหน้ามองฟ้าและส่งเสียงวิงวอนพระองค์ผู้ยิ่งใหญ่ในใจเงียบๆ เธอไม่ได้ต้องการความสะดวกสบาย เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจไขว่คว้าสิ่งเหล่านั้นได้ เพียงแค่ขอวิงวอนเงียบๆ ขอให้พระองค์ประทานแสงสว่างให้กับเธอบ้าง ชีวิตเล็กๆ ที่อยู่ใต้การนำทางของผู้ยิ่งใหญ่ ปรารถนาอยากได้สิ่งสุขสงบ ต้องการครอบครัวอบอุ่นเหมือนเช่นคนอื่นๆ “นีชา...เร็วๆ สายแล้ว” เสียงสาวใหญ่เจ้าของร้านเครปร้องเรียก เมื่อเธอโผล่หน้ามาจากตรอกซอยเล็กๆ เธอส่งยิ้มให้และรีบกุลีกุจอเดินเข้าไปประจำหน้าที่ มือเล็กๆ หยิบจับงานตรงหน้าด้วยความคุ้นเคย “คนสวยขอเครปสองอันสิ” หนุ่มคนงานเจ้าประจำเยี่ยมหน้าตรงช่องขายของ เขาร้องสั่งอาหารประจำที่ใช้รองท้องก่อนเริ่มต้นทำงานตอนเช้าตรู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD