บทที่6ทายาเตือนสถานะ1/2

1300 Words
ต้นยามเฉิน มู่หรงเจี่ยนรู้สึกตัวขึ้นมา นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขา ตื่นสายถึงเพียงนี้ เหลือบมองภายในเรือนเต็มไปด้วยกลิ่นอายวสันต์คละคลุ้ง เรือนนอนยามนี้ราวกับสมรภูมิรบ แม้แต่บนเตียงยังเต็มไปด้วยคราบขาวจากความเริงรมย์และร่องรอยโลหิตบริสุทธิ์จาก กายของนาง หญิงงามนางนั้นยังคงหลับนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย เรือนร่างของนางเต็มไปด้วยรอยรักสีกุหลาบบอบช้ำที่เขาฝากไว้ มองผ้าห่มที่เปิดกว้างลงมาจนเห็นอกงามคู่ที่เต็มไปด้วยรอยมือและรอยขบกัด คู่นั้น มู่หรงเจี่ยนทอดถอนใจ แม้แต่ยามหลับหลี่ซวงเจี้ยงก็ยังคงไว้ซึ่งความเย้ายวนเสียจริง คิดแล้วก็ดึงผ้าห่มคลุมร่างงามไว้ “เข้ามา” เขาเรียกเหล่าบ่าวรับใช้ยกน้ำร้อนเข้ามา พวกนางย่อมไม่กล้าเงยหน้ามองผู้เป็นนาย หากแต่สภาพห้องย่อมบอกได้แล้วว่าเมื่อคืนเจ้านายของพวกนางสุขสมเพียงใด เมื่อเตรียมน้ำและเสื้อผ้าเรียบร้อยเหล่าสาวใช้ก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะท่านอ๋องเจ็ดเป็นรักความสะอาดและความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมากรวมถึงไม่ชอบให้ผู้ใดมาปรนนิบัติใกล้ชิด ยามเป็นองค์ชายอยู่ในวังแม้แต่นางกำนัลก็ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้ตัวมู่หรงเจี่ยน ราวกับเขารังเกียจอิสตรีอย่างไรอย่างนั้น จวบจนอายุยี่สิบห้าปีแล้วก็มีเพียงสาวใช้บำเรอที่มีภูมิหลังสูงส่งผู้นี้ที่ได้ชิดใกล้เขา พวกนางต้องปรนนิบัติคุณหนูหลี่ผู้นี้ให้ดี แม้ยามนี้นางจะยังไม่มีสถานะแต่อย่างไรก็คงมีความสำคัญในใจอ๋องเจ็ดอยู่หลายส่วน หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย มู่หรงเจี่ยนคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรกับแม่นางน้อยผู้นี้ดี เขารับนางมาปรนนิบัติ แต่ตัวนางกลับ ดีนัก สายจนตะวันโด่งขึ้นก็ยังไม่ตื่นอีก แต่พอคิดได้ว่าเมื่อคืนนางรองรับสนองความใคร่เขาไปหลาย ชั่วยามหยาดเหงื่อ คราบรักเหล่านั้นคงทำให้นางเหนอะหนะไม่สบายตัวไม่น้อย จึงตัดสินใจอุ้มนางไปยังอ่างอาบน้ำแล้วโยนลงทันที ตู้ม เสียงน้ำกระเซ็นจากอ่าง ในที่สุดหลี่ซวงเจี้ยงตื่นขึ้นมาพร้อมกับสติที่เลือนหายไปชั่วขณะ นางไอสำลักออกมา ตากลมโตสุกสกาว เบิกกว้าง เห็นเพียงบุรุษรูปงามหากแต่สีหน้าไร้ความรู้สึก ความทรงจำเมื่อคืนไหลเข้ามาเป็นฉาก ๆ เขาคืออ๋องเจ็ดผู้ เคี่ยวกรำจนนางสลบไป แม้จะพบกับสีหน้าเฉยเมยของเขาแต่ความทรงจำอันโหดร้ายเหล่านั้นยังสร้างความหวาดกลัวให้นาง หลี่ซวงเจี้ยงรีบกอดอกมุดลงน้ำอย่างหวาดกลัว มู่หรงเจี่ยนมองท่าทางนางมองเขาแล้วกลัวราวกับเจอผีสางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “วางใจเถิด ข้าทำไม่ลงหรอก สภาพเจ้ายามนี้แม้แต่คณิกาในกองทัพยังดูสะอาดกว่า” เขาแค่นเสียงเยาะแล้วสะบัดแขนเดินออกไปทันที หลี่ซวงเจี้ยงได้ฟังวาจาร้ายกาจเหล่านั้นแล้วมองสภาพของตนก็สกปรกอย่างที่เขาว่า แม้พยายามขัดถูเนื้อตัวจนผิวแดงก่ำก็ลบร่องรอยความอัปยศเหล่านี้ออกไม่ได้ ไหนจะส่วนเร้นลับของนางที่โดนบุรุษป่าเถื่อนผู้นั้นรุกล้ำเข้าออกจนถลอกช้ำไปหมด แม้จะยอมรับสถานะสาวใช้ที่มีไว้เพื่อทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่นางเห็นร่างตนเองเวลานี้ก็อดน้ำตาไหลไม่ได้อยู่ดี หลี่ซวงเจี้ยงกัดฟันลุกจากถังน้ำด้วยขาสั่นอ่อนแรง ถึงจะเจ็บปวดเพียงใดนางก็ตั้งใจว่าจะไม่ยอมร้องขอความเห็นใจจากชาย ผู้นั้นเด็ดขาด มู่หรงเจี่ยนถึงขนาดโยนนางลงถังอาบน้ำอย่างรังเกียจคงไม่แยแสกับความเจ็บปวดของนางแน่ เมื่อแต่งตัวเสร็จ หลี่ซวงเจี้ยงก็รีบร้อนออกไปแต่แข้งขานางดันไม่เป็นใจมาอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงเวลานี้ นางล้มโครมเสียงดัง “ซี้ด” หลี่ซวงเจี้ยงเจ็บจนเผลอสูดปากร้องออกมา มู่หรงเจี่ยนได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามาเห็นหลี่ซวงเจี้ยงนั่งหน้าเง้าหน้างอน้ำตาคลออยู่กับพื้น แต่ไม่คิดจะร้องเรียกให้มาช่วย เขาก็ถลึงตามองหลี่ซวงเจี้ยงด้วยความฉุนเฉียว คราวนี้แม่นางน้อยราวกับหลงลืมความกลัวที่มีไปแล้ว นางถลึงตากลับทันทีในหัวคิดแต่ว่าสภาพนางในเวลานี้ล้วนเกิดจากเขาทั้งนั้น อารมณ์น้อยใจเกรี้ยวกราดก่อตัว แม้ก่อนหน้านางจะอดทนกลั้นสะอื้นไว้ก็เพียงใดก็หลุดปล่อยโฮออกมา “ฮึก ไยท่านต้องดุ แค่นี้ข้าก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว” เสียงใสปนแหบจากการร้องไห้ครวญครางมาตลอดทั้งคืน นางพูดไปพลางสะอื้นไป น้ำตาไหลรินจากตาคู่งามที่ยามนี้แดงเรื่อ มู่หรงเจี่ยนพลันตะลึงงันจึงคิดได้ว่านางโดนประคบประหงมในมือเสนาบดีชั่วมา สิบหกปีย่อมไม่เคยเจอเรื่องทำให้น้อยใจเช่นนี้มาก่อน เสียงร่ำไห้ของนางพลอยทำใจเขาอ่อนยวบ แม้แต่ถ้อยคำ ร้ายกาจที่เตรียมว่าร้ายนางก็ต้องกลืนลงไปในลำคอด้วย มู่หรงเจี่ยนจึงได้แต่ส่ายหน้าดุนางอย่างไม่จริงจังนัก “อวดดี” “ข้าเปล่า” นางรีบต่อปากต่อคำทันที มู่หรงเจี่ยนอุ้มนางพร้อมส่งสายตา ราวกับมีถ้อยคำว่า 'เจ้ายังไม่หุบปากอีก' หลี่ซวงเจี้ยงจึงก้มหน้าหนีเขาด้วยความกระอักกระอ่วน เมื่อเข้ามาในห้อง หลี่ซวงเจี้ยงได้กลิ่นหอมของสำรับอาหาร ก็สูดจมูกดมราวกับกระรอกน้อย พอได้มองสำรับเหล่านั้นล้วนมี แต่ของที่นางชอบ หัวสิงโตน้ำแดง โจ๊กฟักทอง กุ้งก้อนฟูหลง ซุปไก่รากบัวและอีกหลายอย่าง ไหนจะขนมดอกกุ้ยที่นางรัก เพียงคิดถึงรสชาติก็ลอบกลืนน้ำลายไปหลายอึก มู่หรงเจี่ยนสีหน้าเรียบเฉยมองท่าทางราวเด็กน้อยของนางในอ้อมอกก็อดขบขันในใจไม่ได้ เขาวางนางไว้บนเตียง เพียงแต่สายตาแม่นางน้อยไม่ได้มองมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย เห็นนางจ้องเพียงสำรับอาหารเหล่านั้นจึงเอ่ยเสียงเข้มเพื่อเตือนนาง “ทายาก่อน” หลี่ซวงเจี้ยงชะงัก มองตลับยาที่มีลวดลายงดงามที่เขาส่งมาให้ “ขอบคุณท่านอ๋องมากเจ้าค่ะ ปรนนิบัติท่านอ๋องกินข้าวแล้วข้าค่อยทาก็ได้” “ทาเดี๋ยวนี้!” เขาพูดเสียงเข้มเมินเฉยต่อคำพูดนาง ถึงเมื่อคืนนางจะถูกมู่หรงเจี่ยนพลิกหงายดูเรือนร่างของตนแทบทุกซอกทุกมุมมาแล้วแต่ฟ้าสางเช่นนี้จะให้นางทายาที่เข่าต่อหน้านางก็ย่อมกระดากอายอยู่บ้าง แม้อยากจะหลบเลี่ยงแค่ไหนแต่เพียงเห็นอ๋องเจ็ดจ้องเขม่นมาหลี่ซวงเจี้ยงจึงจำใจถลกกระโปรงทั้งกางเกงชั้นในขึ้น เผยให้เห็นถึงขาเรียวขาวมันวาวชุ่มชื่นที่ยามนี้บริเวณหัวเข่าเริ่มเขียวช้ำจากการกิจกรรมเมื่อคืนทั้งถูกเคราะห์ซ้ำนางยังมาหกล้มเมื่อครู่อีก มือขาวเรียวราวต้นหอมควักยาเล็กน้อยเตรียมป้ายลงเข่ากับก็ได้ยินเสียงเขาตวาดขึ้น “หยุดมือ ถอดกางเกง” มู่หรงเจี่ยนพูดเสียงเย็นชา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD