ปากเอ่ยวาจาร้ายกาจต่อนาง แต่มีเพียงมู่หรงเจี่ยนที่รู้ดีว่ายามนี้ตนนั้นรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วสรรพางค์เพียงใด ในสายตาเขาตอนนี้มีเพียงแม่นางน้อยที่ฝันถึงนับคืนไม่ถ้วน กระทั่งยามปรนเปรอตัวเองยังต้องคำนึงถึงใบหน้านางจึงจะช่วยเขาสุขสมอารมณ์หมาย ยามนี้เขาจะได้ครอบครองนางตัวจริงลำคอก็อดแห้งผากไม่ได้
หลี่ซวงเจี้ยงผู้นี้ราวกับทำมาจากน้ำโดยแท้ ผิวขาวนวลดั่งหิมะ ยามนี้ผิวนางขาวระเรื่อชมพูราวบีบคั้นน้ำออกมาได้ ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวนาง
หลี่ซวงเจี้ยงขบริมฝีปากแดงระเรื่อเพื่อคลายความหวาดหวั่นแต่จมูกโด่งรั้นกลับเชิดขึ้นสูงคล้ายกับต้องการบ่งบอกความหยิ่งในศักดิ์ศรี แต่ที่ตรึงตาตรึงใจเขาที่สุดคือดวงตาดำขลับราวไข่มุกเม็ดงามของนาง
ยามนั้นที่พบนาง เขาเห็นเพียงความสดใสของเด็กสาวผู้หนึ่ง หากแต่ยามนี้ นัยน์ตาฉ่ำน้ำของนางกลับมีเพียงความหวาดหวั่น เศร้าใจ ชวนให้เขาทั้งสงสารทั้งอยากรังแกให้นางร่ำไห้ใต้ร่างไปในเวลาเดียวกัน
“ถอดเสื้อผ้า” คำสั่งเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของอ๋องเจ็ดทำให้ หลี่ซวงเจี้ยงรู้แล้วว่าคืนนี้นางคงหนีไม่พ้นเขาแน่
หลี่ซวงเจี้ยงเปลื้องผ้าด้วยนิ้วมือสั่นไหวนางพยายามหลบเลี่ยงกับสายตาคมกริบที่จ้องมองนางเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถ ไม่นานนักก็เหลือเพียงบังทรงรูปดอกบัวสีแดงกับกางเกงชั้นในขายาวตัวบาง
สายตามู่หรงเจี่ยนลึกล้ำกว่าเดิมแม้เขาจะวาดภาพในฝันมาหลายครั้งแต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเขาสติพร่าเลือนหายไปชั่วขณะ
รูปโฉมยามใส่เสื้อผ้านางช่างงดงามสูงส่งดั่งนางเซียน แต่เมื่อยามเปลื้องผ้าแล้วกลับงดงามยั่วยวนราวปีศาจจำแลงเปื้อนโลกีย์แม้แต่ผู้ทรงศีลมาพบก็ไม่แคล้วต้องใจสั่น
ร่างนางผอมบางเอวคอดกิ่วแต่กลับมีสะโพกอิ่มและทรวงอกงามขาวอวบจุกดันทะลุบังทรงตัวน้อย ราวกับว่าเส้นอดทนขาดผึง มู่หรงเจี่ยนปลดสายคาดเอวของตนแล้วตรงปรี่เข้าหา
“อ๊ะ” หลี่ซวงเจี้ยงเผลอร้องด้วยความตกใจ แต่นั่นก็เป็นการเผลอเปิดโอกาสให้เขามุทะลุดุดันที่จะดูดดึงริมฝีปากนาง ลิ้นหนาเกี่ยวตวัดลิ้นของนางอย่างหิวกระหาย โลมเลียไปทั่วกลีบปาก ลิ้นเขาไล้ไปทั่วฟันจนนางสั่นสะท้าน มือของเขากลับขย้ำเฟ้นเต้างามนิ่มหยุ่นอย่างแรงจนต้องสะดุ้ง
เมื่อโดนดูดดึงจนราวลมหายใจหมดสิ้น หลี่ซวงเจี้ยงจึงทุบอกแกร่งประท้วง มู่หรงเจี่ยนผละออกมองกลีบปากแดงก่ำเผยอน้อย ๆ ดวงตาฉ่ำน้ำที่จ้องมองเขาผู้เดียว มองนางอกนางกระเพื่อมขึ้นลงหอบหายใจ
มู่หรงเจี่ยนอยากควบขี่กระแทกตัวตนในกายนางเสียตอนนี้
เขาเลื่อนริมฝีปากไปที่ซอกคอหอมของนาง ดูดดึงขบเม้มตีตราไปทั่ว เหลือบมองจุกชมพูสองข้างบนหน้าอกนางแข็งตั้งราวกับเรียกร้องเขาไปลิ้มรส มู่หรงเจี่ยนดูดจุกงามนั้นอย่างหิวกระหายยิ่งกว่าทารกเสียอีก
สองมือเคล้นคลึงหนักหน่วงราวกับอยากให้น้ำนมจากไหลรินออกมาเขาครางต่ำฮึมฮัมออกมาในลำคออย่างพึงพอใจ
“อ๊ะ อยะ อย่า ท่านอ๋อง อย่าดูด”
หลี่ซวงเจี้ยงร้องครางเสียงสั่นเครือพลางสับสน แรงจากมือสากของเขาไม่น้อยเลยทีเดียวจนทำนางเจ็บหน้าอกนัก แต่ริมฝีปากเขาที่ดูดดึงอยู่กลับสร้างความรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่นางไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ความคิดชั่วขณะของหลี่ซวงเจี้ยงทำให้นางตกใจ ที่เวลานี้นางอยากให้เขาดูดดึงนวดเฟ้นอกนางให้แรงกว่านี้จนเผลอแอ่นอกให้เขาดูดอีกทั้งบุปผางามด้านล่างนั้นเปียกชื้นโดยที่นางไม่รู้ตัว
มู่หรงเจี่ยนย่อมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของแม่นางน้อย
เขาดึงกางเกงตัวบางของนางลงอย่างรีบเร่งมือใหญ่เริ่มซุกซนขึ้นเรื่อย ๆ ใช้มันปัดป่ายไปทั่วร่างก่อนที่จะหยุดลง เริ่มเคล้นคลึงความฉ่ำชื้นจากบุปผาที่เรือนกายนาง
เมื่อได้ก้มมองก็ยิ่งรู้สึกว่าดอกไม้นั้นช่างงดงามนักจนเขาถึงขนาดลืมเกียรติราชวงศ์ก้มหน้าลงลิ้มลองมัน ลิ้นหนาเกี่ยวตวัดขึ้นลงยังบุปผาลิ้มรสน้ำหวานที่ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย
หลี่ซวงเจี้ยงหน้าเห่อร้อนด้วยความอับอายกับทวงท่าน่าเกลียดเหล่านั้น หากแต่ร่างกายนางกลับไม่รักดีอ้าปากครวญครางเสียงหวานทั้งยังเผลอแอ่นสะโพกให้เขาปรนเปรอ
มู่หรงเจี่ยนแสยะยิ้ม เลิกคิ้วมองบุปผาเหล่านั้นมันฉ่ำแดงงดงามมองนางบิดกายเสียวสะท้าน เขาเลียปากกลืนน้ำลายอย่างพึงพอใจ หากแต่ปากกลับเอ่ยวาจาร้ายกาจเสียดแทงนางให้ช้ำทรวง
“อา...พอใจหรือไม่” มู่หรงเจี่ยนถามเสียงแหบพร่าประคองกอดนางไว้หอบหายใจรุนแรงที่ข้างหูนางกระซิบเบา ๆ แต่มืออีกข้างกลับยังคงสร้างความปั่นป่วนทางด้านล่างนางไม่ขาดสาย “นอนทอดกายให้ข้าเชยชมเช่นนี้..ถึงใจเจ้าหรือไม่”
คุณหนูในห้องหออย่างหลี่ซวงเจี้ยงย่อมไม่เคยฟังคำจาบจ้วงลามกเหล่านี้ หลี่ซวงเจี้ยงได้ฟังแล้วหน้านางถอดสีตัวแดงเถือกด้วยความอับอายปนโกรธเคืองจึงคิดขยับสะโพกหนีจากการปรนเปรอเขา มู่หรงเจี่ยนขมวดคิ้วมองอย่างไม่ชอบใจ
“จะไปไหน เป็นสาวใช้บำเรอของข้า เจ้าทำหน้าที่ได้ดีแล้วหรือ”
มู่หรงเจี่ยนกดสะโพกนางไว้ไม่ให้ถอยห่าง
เขาใช้นิ้วร้ายขยี้ปุ่มกระสันบนบุปผางามอย่างไม่ปรานีทั้งยังไม่ยอมหยุดสัมผัสอยู่แต่ภายนอกอีกต่อไป เริ่มใช้มันรุกล้ำเข้าไปในกลีบงามในช่องทางที่ไม่เคยมีใครเข้าไปได้มาก่อน ข้างในนั้นมีแต่ความ คับแน่นมันช่างอุ่นร้อนบีบรัดนิ้วของเขาเหลือเกิน
มู่หรงเจี่ยนอยากควบขี่นางกระแทกกระทั้นตัวตนเข้าไปตอนนี้นัก แต่เพราะราตรีแรกของหลี่ซวงเจี้ยงจึงกลัวว่านางจะรับความ เป็นชายเขาไม่ไหว เขาจำเป็นต้องเล้าโลมนางให้มากกว่านี้เสียก่อนพร้อมกับเพิ่มความเร็วในการขยับนิ้วพลางมองหน้านางไปด้วย
น้ำตาคลอเบ้า นัยน์ตานางฉ่ำน้ำ สีหน้าเหยเก แม้จะเสียวกระสันแต่ยังกัดปากกลั้นเสียงครางอย่างหยิ่งทะนง ผมดกดำเป็นแพรไหมงามแผ่สยายราวน้ำตกของนางเคลื่อนไหวตามแรงส่ายหน้า ท่าทีของหลี่ซวงเจี้ยงทำให้มู่หรงเจี่ยนนึกถึงลูกกวางป่าดื้อรื้น เขาจึงแกล้งนางด้วยการเพิ่มนิ้วร้ายจากที่มีแต่เดิมถึงสองนิ้วกลายเป็นสามขยับมือเร็วและแรงมากขึ้น
“อ๊ะ..ท่าน เบาหน่อย อ๊า”
หลี่ซวงเจี้ยงทนความเสียดเสียวไม่ไหวถึงกลับหลุดเสียงครางออกมา
เขาก้มลงจูบปากนางพร้อมขยับนิ้วไปสักพักใหญ่ ยามนี้มู่หรง-เจี่ยนไม่อยากทรมานทั้งนางและตัวเองอีกต่อไปจึงหยุดนิ้ว
เวลานี้หลี่ซวงเจี้ยงไม่เข้าใจตนเองนัก ในเมื่อเขายอมหยุดมือแล้วแต่เหตุใดตนกลับไม่พอใจเสียอย่างนั้น นางขมวดคิ้วมองหน้าเขาอย่างขุ่นเคือง รู้สึกถึงความวูบโหวงในกายสาวของตนราวกับขาดสิ่งใดไป
มู่หรงเจี่ยนแค่นหัวเราะก่อนจะรูดชักความเป็นชายของเขาพร้อมทั้งมองเรือนร่างนางไปด้วย หลี่ซวงเจี้ยงมองส่วนนั้นที่ใหญ่ยาวตั้งแข็งเกร็งอย่างหวาดผวาไม่ทันได้ถอยหนีเขาก็จ่อท่อนเนื้อน่าเกลียดน่ากลัวนั้นเข้ามาที่ในตัวของนางแล้ว
“อ๊ะ อ๊า เจ็บ..เอาออกไป นะ” สิ่งนั้นเพียงเข้าไปครึ่งทางก็ได้ทำให้หลี่ซวงเจี้ยงเจ็บปวดจนร่ำไห้ออกมา เจ็บจนราวกายสาวนางจะฉีกขาดโลหิตจากเยื่อพรหมจรรย์สาวรินหลั่ง
หลี่ซวงเจี้ยงปล่อยโฮร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อดกลั้นใดอีกแล้ว ช่องทางนางคับแน่นจนเขาต้องหันเหความสนใจนางจูบซับน้ำตา มือนวดเฟ้นอกงามเขี่ยจุกชมพูป้านจนเมื่อเห็นนางเผลอไผลไปกับสัมผัสเขาอีกครั้ง จึงได้เริ่มขยับแท่งลำเข้าไปจนสุดทางจนหลี่ซวง-เจี้ยงต้องเบิกตากว้างอ้าปากครางด้วยความจุกเสียด
ส่วนทางมู่หรงเจี่ยนก็แทบไม่ต่างกันนางคับแน่นรัดตัวตนเขาแน่นเกร็งจนปวดหนึบไปหมด
“อืม อย่าเกร็ง อ่า ..เจ้าแน่นนักจะรัดข้าให้ตายเลยหรือ”
มู่หรงเจี่ยนค่อย ๆ ขยับไปอย่างช้า ๆ มองสีหน้านาง ส่วนมือก็คอยนวดเฟ้นไปทั่ว ตัวนางดีนักจับไปที่ไหนก็นุ่มลื่นมือไปหมด จากจังหวะเนิบช้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเร็วขึ้น กายนางช่างตอบสนองความกำหนัดเขาได้ดีเสียจริง
หลี่ซวงเจี้ยงมองเรือนร่างขาวของชายหนุ่มที่กำยำเต็มไป มัดกล้ามแต่กลับไม่เทอะทะของเขา กำลังเสือกไสกายทั้งกระแทกกระทั้นเข้าหานางอย่างเมามัน เสียงสูดปากของเขาพร้อมกับมือเคล้นสะโพกและหน้าอกของนาง ความเจ็บหน่วงของ
หลี่ซวงเจี้ยงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียดเสียว
“อ๊า แรงไป..แล้ว อ๊า เบาหน่อยเถิด”
ยิ่งได้ฟังเสียงครวญครางหวานของนาง ยิ่งปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนในกายเขา เวลาเห็นนางร่ำไห้ใต้ร่างเขายิ่งเสียวสะท้าน มองอกงามนางกระเพื่อมขึ้นลงยามเขาออกแรงกระแทก มือคอยเค้นเต้าอวบด้วยความกระสันทั้งเอวสอบของเขาตอกแก่นกายไปในตัวนางถี่เร็วจนนางต้องครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา
ยามนี้หลี่ซวงเจี้ยงลืมกิริยาสูงส่งที่เหล่าอาจารย์หญิงคอยพร่ำสอนแอ่นกายให้เขาตอกย้ำทวนยาวเข้ามาอย่างพร้อมใจหฤหรรษ์ ความเสียวสะท้านเหล่านั้นทำนางลืมแม้กระทั่งว่านางหวาดกลัว มู่หรงเจี่ยนเพียงใด นางกอดตัวเขาไว้แน่นใช้เล็บของตนข่วนไปทั่วแผ่นหลังหนา
“อื้อ หยะ หยุด.. ”
หลี่ซวงเจี้ยงกรีดร้องอย่างอ่อนแรงเมื่อถึงจุดหมายธารธาราสาวไหลริน หากแต่เขายังไม่เสร็จสมง่ายดายยังคงกระแทกกระทั้นนางราวสัตว์ป่ามันทั้งรัวแรงจนนางปวดเสียด เสียงเนื้อกระทบดังไปทั่วเรือน
เนิ่นนานจนในที่สุดเขาก็ได้ปลดปล่อยธารรักอุ่นไปยังกายของนาง เอวสอบของมู่หรงเจี่ยนเกร็งกระตุกพร้อมหอบครวญครางต่ำอย่างสุขสม มองหลี่ซวงเจี้ยงนางหลับตาพริ้มอย่างเหน็ดเหนื่อย
เรือนร่างนางเต็มไปด้วยรอยกุหลาบที่เขาประทับไว้ รอยนิ้วมือที่เนินอกเกิดจากการเคล้นคลึงอย่างหนักหน่วงของเขา กายสาวที่มีธารวสันต์ไหลออกมา...ลูกขุนนางกบฏที่เขาชิงชังช่างคลายกำหนัดเขาได้ดียิ่ง
นางคือคนที่เขาคะนึงถึงหลายปี หากแต่ก็เป็นบุตรีคนเดียวของเสนาบดีหลี่กบฏชั่วร้ายผู้นั้นด้วย คิดถึงความโหดร้ายที่เสนาบดีหลี่ทำไว้กับเขายามเยาว์วัยความสงสารที่มีต่อนางเริ่มเลือนหาย
มู่หรงเจี่ยนเริ่มใช้มือตนคลึงบุปผางามที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยรสรักเขาและนาง หลี่ซวงเจี้ยงร่างกายดั่งไร้เรี่ยวแรง ได้แต่เอ่ยปากวิงวอนให้เขาหยุดพร้อมกับครวญครางเสียงอู้อี้
หลี่ซวงเจี้ยงยังไม่ทันได้หายเหนื่อยก็โดนเขากระทำต่ำทรามอีกรอบแล้ว
มู่หรงเจี่ยนพลิกตัวนางหันหลัง เพราะเขากลัวหากได้เห็นหน้านางแล้วจะลืมความแค้นที่มีในใจ มู่หรงเจี่ยนกดสะโพกนางไว้ให้แน่นแล้วทันทีที่เขากระแทกท่อนลำเข้าไปในคราเดียวหลี่ซวงเจี้ยงก็จุกจนต้องกรีดร้องออกมา ยามนี้เขาควบขี่นางราวกับนางเป็นม้าศึก กระแทกกระทั้นนางถี่รัวจนตัวโยนอีก ทั้งมือหยาบคอยเคล้นสะโพกทั้งฟาดบั้นท้ายนางแรง ๆ ระบายความเสียวซ่าน
หลี่ซวงเจี้ยงหน้ามืดตาลาย น้ำตาไหลรินออกมา อ๋องเจ็ดผู้นี้ปฏิบัติราวกับนางเป็นเพียงคณิกาชั้นต่ำไว้คลายความกลัดมันของบุรุษ
นางหลับตารับชะตากรรมให้เขากระแทกโหมแรงต่อไป อย่างไรเสียสถานะตอนนี้ของนางไม่ใช่คุณหนูใหญ่หลี่ซวงเจี้ยงผู้สูงศักดิ์อีกแล้ว มีเพียงสาวใช้บำเรอกามของอ๋องเจ็ดเท่านั้น
เสียงกระแทกกระทั้นดังระงมหลายชั่วยามจนบ่าวรับใช้และองครักษ์ค่อย ๆ ขยับออกจากหน้าเรือนด้วยความกระอักกระอ่วนใจ สงสารก็เพียงแม่นางน้อยผู้นั้น เสียงครางปนสะอื้นนางชวนวาบหวามแกมน่าเวทนาถึงเพียงนั้น ไหนจะเสียงสูดปากครางต่ำอย่างสมใจของท่านอ๋องความดุดันของบุรุษฉกรรจ์เช่นเจ้านายพวกเขา แม่นางน้อยผู้บอบบางจะทนรับไหวได้อย่างไร…