พามาเลือกชุด

1254 Words
จริง ๆ เมื่อคืนพวกเรามีนัดกันแต่ว่ากว่าครอบครัวพี่สิงห์จะกลับก็เกือบสี่ทุ่ม ฉันเลยหมดอารมณ์ออกเที่ยวน่ะ อีกอย่างวันนี้ต้องมาลองชุดแต่งงานด้วยเลยไม่ได้ไป เอริ: คืนนี้ขอบายละกัน ไม่ไหวอ่ะ ฉัน: ลองของใหม่จนเพลียเลยเหรอยะ เอริ: อีบ้า! ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเว้ย ของใหม่น่ะ...ยังส่งมาไม่ถึง คริคริ สายรุ้ง: ว๊ายยยย เห็นของเล่นดีกว่าผู้ชาย! เออตกลงเจอกี่โมงนะอีเนตร ฉันกำลังจะพิมพ์ตอบกลับแต่ทว่าตัวรถหยุดลง เลยเบนสายตาขึ้นมามองรอบข้าง ปรากฏว่าพี่สิงห์ขับเข้ามาจอดในลานของโชว์รูมหรูแห่งหนึ่ง ฉันเลยกดปิดแชทแล้วใส่โทรศัพท์ลงในกระเป๋า เตรียมตัวลงเมื่อรถจอดสนิท สายตาพลางกวาดมองดูรอบ ๆ ไปด้วย เป็นสตูดิโอที่ทันสมัยมาก ๆ มีความเอลิแกนซ์สูง ด้านหน้าตกแต่งราวปราสาทราชวัง พรมแดงขลิบทองที่ใช้ให้ความรู้สึกเหมือเจ้าหญิงกำลังเดินเข้าวังเลย ฉันมัวแต่ตะลึงตะลึงพรึงเพริดกับการตกแต่งด้านในทำให้เดินช้าลงกว่าเดิม พี่สิงห์เลยดึงแขนเดินนำไปยังห้องรับรอง “ยินดีต้อนรับค่ะ คุณสิงห์” ทันทีที่นั่งลงพนักงานก็รีบเข้ามากล่าวต้อนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส “สวัสดีครับ วันนี้ขอดูแบบชุดเจ้าสาวหน่อยครับ” พนักงานต้อนรับแทบจะละลายกองไปกับพื้นเมื่อเห็นรอยยิ้มพิฆาตของพี่สิงห์ แต่ก็แค่แปบเดียวเท่านั้นแหละเพราะเขารีบก้มหน้าลงง่วงอยู่กับสมาร์ทโฟน พนักงานทำท่าจะเดินไปหยิบสมุดภาพมาให้เลือก แต่ฉันเหลือบเห็นชุดตัวอย่างที่โชว์เลยเดินไปใกล้ ๆ เพื่อสำรวจดูเนื้อผ้า อืม...ก็โอเค สวย เรียบ จืด “ตัวนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันชี้ไปที่ชุดแต่งงานแขนโชว์ด้านซ้ายมือ เป็นแบบที่ไม่หวือหวามาก ความจริงไม่อยากจะเลือกด้วยซ้ำ หลับตาจิ้มยังได้แต่เกรงใจพนักงานที่ตอนนี้มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ “เลือกหน่อยก็ได้นะครับน้องเนตร” เขาพูดทั้ง ๆ ที่หน้ายังจมอยู่กับสมารท์โฟน แชทหาใครไม่รู้นักหนา ตั้งแต่เข้ามาในร้านยังไม่เห็นเขาหยุดมือเลย ฉันชี้มือไปที่ชุดอีกครั้งเพื่อยืนยันกับพนักงานว่าเอาชุดนี้ เธอพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปจัดการเอาชุดลงเพื่อไปเตรียมไว้ให้ฉันลองใส่ ในระหว่างนี้เลยเดินกลับมาที่เก้าอี้รับรองอีกครั้ง โดยหยุดยืนอยู่เหนือร่างพี่สิงห์ “แต่งงานกับพี่ เนตรใส่อะไรก็ได้ค่ะ จะชุดแต่งงานหรือชุดอยู่บ้าน...ก็ไม่ต่างกัน” คนฟังหยุดการกระทำทั้งหมดทั้งมวลแล้วเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “ให้เกียรติกันบ้างก็ดีนะครับ” หึ....พูดออกมาได้ น่าตลกชะมัด ทีเขายังไม่เคยแสดงอะไรที่มันสื่อถึงการให้เกียรติฉันเลยสักครั้ง....จำเป็นไหมที่ต้องเคารพ? “ไม่ยักรู้ว่าพี่สิงห์ก็มีกับเขาด้วย” ประโยคที่พูดออกไปสร้างความโกรธให้เจ้าของร่างสูงลุกขึ้นเหยียดตัวตรง ก้มลงมองฉันอย่างกินเลือดกินเนื้อ “พี่ไม่ใช่คนที่น้องเนตรจะมาดูถูกได้นะ” โทสะเล่นงานเขาซะปั่นป่วนไปหมด พี่สิงห์นี่อ่านง่ายจริง ๆ ไม่รู้จักเก็บอารมณ์ซะบ้างเลย คงเสียหน้ามากล่ะสิ! “ทำไมล่ะคะ?” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หวังใช้คำพูดยั่วยุให้เขาหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ผิดคาด ใบหน้าเรียบตึงในตอนแรกเริ่มมีระบายยิ้มที่มุมปาก แววตาดุดันค่อย ๆ ถูกเงาบางอย่างกลืนหายไป “เพราะน้องเนตรไม่มีค่าขนาดนั้น” ริมฝีปากที่เหยียดยิ้มยิ่งส่งเสริมประโยคพูด ทำให้ฉันดูเหมือนเศษดินเศษหินที่โดนคนเหยียบย่ำอยู่ตามพื้น “เราสองคนก็ไม่ต่างกันนักหรอก ถ้าเนตรไร้ค่า พี่สิงห์ก็เป็นแค่เห็บหมาที่ไร้ประโยชน์” เรื่องอะไรจะยอมโดนด่าอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าเขาแรงมาฉันก็จะแรงกลับ ถ้าเขาอ่อนมาฉันก็จะแรงเหมือนเดิม.....พี่สิงห์เป็นคนสุดท้ายบนโลกที่ฉันจะยอมอ่อนข้อให้! คนฟังเดือดจนหน้าแดงหน้าดำ คงไม่มีใครกล้าด่าแบบนี้มาก่อนแน่เขาเลยกระชากแขนฉันเข้าหาตัว แรงบีบเริ่มทำให้เจ็บร้าว แต่ไม่แสดงออกหรอกนะ ฉันฝืนความเจ็บไว้ภายในหน้าตาที่ยิ้มเยาะไม่รู้ร้อนรู้หนาว เราจ้องตากันอย่างดุดัน สายตาอ่อนโยนที่ครั้งหนึ่งเคยใช้มองฉัน....ในตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว เหมือนเขาจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พนักงานเข้ามาขัดเสียก่อน พี่สิงห์เลยยอมปล่อยต้นแขนฉันให้เป็นอิสระ เพราะวันนี้ใส่เดรสไม่มีแขนมาเลยมองเห็นได้ถนัดว่ามันเกิดเป็นรอยแดงตามรูปนิ้วมือ “เอ่อ เชิญคุณผู้หญิงเข้าไปลองชุดค่ะ” เธอพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติทั้งที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่หน้าอึดอัด “ค่ะ” ฉันตอบรับแล้วเดินตามพนักงานไป ปล่อยให้ผู้ชายที่มีดีแค่เปลือกยืนกำหมัดแน่นอย่างเดียวดาย ปกติฉันด่าใครขนาดนี้ไหม? ไม่เลย แต่เพราะเป็นพี่สิงห์ฉันถึงต้องทำตัวก้าวร้าวใส่ กำลังสงสัยในความสัมพันธ์ของเราสองคนใช่หรือเปล่า มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก เมื่อก่อนเขามาที่บ้านบ่อย แล้วเราก็สนิทกันมาก พี่สิงห์เคยเป็นพี่ชายที่แสนดีของน้องเนตร สอนให้เรียนรู้หลายอย่าง...รวมทั้งความเจ็บปวดด้วย ฉากหน้าสุภาพบุรุษ เบื้องหลังคือปีศาจร้ายที่เห็นแก่ตัว….นี่แหละคือตัวจริงของพี่สิงห์ ภาพหญิงสาวในกระจกทรงวินเทจบานใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความจืดชืด เรียบง่ายจนน่าเบื่อ เป็นฉันเองแหละ กำลังอยู่ในชุดแต่งงานที่เลือกมาลอง เนื้อผ้านุ่มนิ่มใส่สบายแต่แบบของมันเชยมาก เชยขนาดที่ว่าเหมาะกับใส่ไปวัดมากกว่าใส่แต่งงาน ใครกันนะช่างออกแบบ สงสัยคงเตรียมไว้สำหรับคู่แต่งงานที่ไม่ได้รักกันล่ะมั้ง ประมาณว่าอะไรก็ใส่ได้เลือกแบบขอไปที ฉันสะบัดผมดัดปลายลอนอ่อนสีน้ำตาลไปทางด้านหลัง เพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งประจวบกับสายตาเหลือบไปเห็นมงกุฎดอกไม้ขนาดกำลังดี เลยหยิบขึ้นมาสวมก่อนจะเดินออกมาด้านนอกเพื่อให้ว่าที่สามีเชยชม.... ภาพแรกที่เห็นหลังออกมาจากห้องลองชุดคือ ผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวสะอาดไปทั้งตัว เขายืนเอียงข้างสี่สิบห้าองศา ทำมุมกับแสงแดดพอดีเป๊ะ เลยเหมือนมีแสงออร่าแผ่กระจายอยู่รอบตัว พี่สิงห์สง่างามราวเจ้าชายที่รอคอยเจ้าหญิงปรากฏตัว เอาล่ะแพลนกล้องกลับมาที่ฉัน! สภาพคือแต่งตัวไปงานหน้าหมู่บ้านมาก พี่สิงห์คงมีความคิดเห็นไม่ต่างกัน เขาถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะเดินเลยฉันไปตรงโต๊ะที่วางอัลบั้มชุด เจ้าของร่างสูงเปิดดูด้วยความตั้งใจ ฉันไม่อยากจะขัดเลยมานั่งสวย ๆ หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาแชทกับเพื่อนระหว่างรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD