ตอนที่ 12

1382 Words
ผิวกายของลลิษาสะท้อนแสงเช้าอ่อน ๆ ราวกับผ้าลูกไม้ที่เปลือยเปล่าใต้แสงตะวัน แต่สิ่งที่ทำให้เธอสั่นสะท้าน...ไม่ใช่ลมจากเครื่องปรับอากาศ หากคือฝ่ามือหยาบใหญ่ของชายตรงหน้าที่กำลังลากไล้ไปตามแนวเอว “คราม...” เธอกระซิบ เบาหวิว ราวกับเสียงกลั้นหายใจ เขาโน้มลงทาบทับร่างเธอไว้เต็มแผ่นอก ริมฝีปากร้อนจัดกดจูบที่ปลายคาง ไล่ลงจนถึงลำคออ่อนบาง เสียงจูบของเขาดังสะท้อนในห้องที่เงียบสนิท ราวกับตั้งใจให้ได้ยิน ปลายนิ้วของครามเลื่อนไปลูบขอบถ้วยของเธอเบา ๆ ก่อนจะแทรกไล้วนช้า ๆ อย่างรู้จังหวะ “ตรงนั้นของคุณหนู...กำลังร้อนมากเลยนะครับ” ลลิษาสะดุ้ง เธอกำผ้าปูเตียงแน่นเมื่อรู้สึกว่าแท่งเนื้อของเขาแข็งร้อนและแนบแน่นอยู่ที่ต้นขาด้านในของเธอ เขาไม่เร่งรีบ แต่กลับเคลื่อนไหวอย่างเจนจัด จูบของเขายังคงกดประทับบนเนินอก จนเธอหอบหายใจถี่ “คุณหนู...” เขากระซิบ ขณะที่มืออีกข้างสอดเข้าไปที่ต้นขา ลูบไล้ขอบร่องที่เริ่มเปียกชื้น “บอกผมว่าอยากได้มัน” “ฉัน...ต้องการอันนั้นของนาย” เสียงของเธอสั่นพร่า ไม่ใช่เพราะความอาย แต่เพราะไฟที่เผาไหม้ภายในใจและกายเธอ มันแรงเกินจะทนไหว เพียงแค่ได้ยินคำตอบนั้น ครามก็ขยับตัวเข้าครอบครองเธอทันที แท่งเนื้อของเขาแทรกเข้ามาในโพรงนุ่มอย่างแนบแน่น เนิบนาบแต่ล้ำลึก เสียงเนื้อกระทบเนื้อเบา ๆ ดังสะท้อนอยู่ในห้อง เขาสอดประสานแท่งเนื้อกับร่องกลีบ ของเธออย่างสม่ำเสมอ ช้า ลึก และเร่าร้อน ราวกับต้องการให้เธอจดจำทุกจังหวะ ทุกแรงผลัก ทุกเสียงหายใจ ลลิษาแอ่นตัวรับสัมผัสนั้นอย่างหมดตัว มือจิกลงที่แผ่นหลังของเขา ขณะที่เสียงครางหลุดลอดออกจากลำคอของทั้งคู่ในจังหวะเดียวกัน ในวินาทีนั้น ไม่มีใครมองกล้อง ไม่มีใครหวาดกลัว มีเพียงสองร่างที่แนบสนิท และหัวใจสองดวงที่เผาไหม้กันและกัน...ใต้ผ้าห่มของการท้าทาย เสียงหอบหายใจค่อยๆ แผ่วลง เหลือเพียงลมหายใจหนักแน่นที่สอดประสานกัน ร่างของครามยังคงคร่อมทับอยู่บนตัวเธอ ลำไผ่ของเขายังค้างคาอยู่ในถ้วยที่ตอดรัดของลลิษาอย่างอ่อนแรง หยาดเหงื่อบนหน้าผากของเขาหยดลงบนแอ่งไหปลาร้าของเธออย่างช้าๆ แต่ไม่มีใครขยับออก “นี่คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับกล้องนั่น” เขากระซิบข้างหู เสียงพร่าและทุ้มต่ำ ดวงตาแข็งกร้าวเมื่อครู่ บัดนี้เปลี่ยนเป็นวาวแสงเร่าร้อน ลลิษาเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ริมฝีปากยังบวมแดงจากแรงจูบ เธอยิ้มน้อยๆ แม้ยังหอบหายใจ “แล้วถ้าภาคย์มันชอบ...มอง?” เสียงเธอสั่น แต่ไม่ใช่เพราะกลัวอีกต่อไป “ก็ให้มันรู้ไป ว่าของของคุณหนู เป็นของผมคนเดียว...” เขาตอกย้ำคำพูดนั้นด้วยการขยับแท่งเนื้อในโพรงนุ่มของเธออีกครั้ง กระตุกเบา ๆ จนเธอสะดุ้ง และเสียงครางหลุดออกจากลำคออย่างไม่ตั้งใจ “พอแล้ว...” เธอกระซิบ แก้มแดงเรื่อ แต่แววตากลับมีความสุขแฝงอยู่ชัดเจน ครามจูบหน้าผากเธอเบา ๆ ก่อนถอนตัวออกอย่างนุ่มนวล แล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมกายให้เธอด้วยความทะนุถนอม เขาลุกขึ้น สวมกางเกงลำลองแบบลวกๆ แต่สายตายังไม่ละจากเธอเลยแม้แต่นิด “ตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว ว่ามันไม่ได้แค่ต้องการข่มขู่...” ครามพูดขณะเดินไปที่โต๊ะซึ่งมีกิ๊บผีเสื้อ เขาหยิบมันขึ้นมาหมุนในมือช้าๆ ดวงตาเริ่มแข็งขึ้นอีกครั้ง “มันกำลังส่งสัญญาณ...ว่าอยากเล่นเกมแบบเปิดหน้า” “แล้วเราจะเล่นกลับไหม?” ลลิษาถาม พลางยันตัวขึ้นนั่งบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นปิดเนินอกไว้อย่างพอดิบพอดี ครามยิ้มเย็น เขาหยิบมือถือเครื่องพิเศษสีดำด้านจากกระเป๋ากางเกง “เราจะเล่น...แต่เราจะเป็นคนเขียนกติกาใหม่” เขากดเปิดระบบสื่อสารเข้ารหัสพิเศษ สั่งทีมลับระดับล่างที่เขาซ่อนไว้ไม่ให้แม้แต่บ้านใหญ่นี้รู้ “เริ่มติดตั้งชุดล่อในรัศมี 5 เมตรรอบห้องนี้ รวมถึงห้องข้างเคียงทุกห้อง” “ยืนยันเป้าหมายไหมครับ” เสียงปลายสายถามกลับ “ยังไม่ยืนยัน...แต่ใครก็ตามที่ลบกล้องเราเมื่อคืน จะหนีไปจากเกมนี้ไม่ได้อีกต่อไป” ครามตัดสาย แล้วหันกลับมามองลลิษาอีกครั้ง ราวกับจะบอกเธอว่า จากนี้ไป เขาไม่ได้เป็นแค่บอดี้การ์ด แต่เป็น “นักล่า” ที่จะลากทุกคนที่แตะต้องถ้วยของเขา...ลงนรกไปด้วยกัน ลลิษามองตามแผ่นหลังกำยำของคราม หัวใจของเธอเต้นระรัว ไม่ใช่เพราะความกลัวอีกต่อไป แต่เป็นความรู้สึกผสมผสานระหว่างความตื่นเต้น ความไว้ใจ และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม เธอไม่เคยเห็นมุมนี้ของครามมาก่อน...มุมของนักล่าที่พร้อมจะปกป้อง คุณหนู ของเขาอย่างถึงที่สุด "เขาทำได้จริงๆ เหรอ..." ลลิษาพึมพำกับตัวเอง เธอรู้ว่าครามมีอดีตที่ไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะลึกซึ้งถึงขั้นมี "ทีมลับ" ที่ซ่อนไว้ ตลอดทั้งเช้า ลลิษาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ จากภายในห้อง ครามยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ทุกย่างก้าวของเขามีความหมายแฝง สายตาของเขาคมกริบกว่าเดิม สอดส่องไปทั่วทุกซอกมุมของบ้าน ราวกับกำลังวางหมากบนกระดานที่มองไม่เห็น เธอเห็นเขาเดินเข้าไปคุยกับพนักงานบางคนอย่างสั้นๆ สีหน้าของเขาเรียบเฉย แต่ดูเหมือนจะมีการส่งสัญญาณบางอย่างที่คนนอกไม่มีทางรู้ และแน่นอน...เธอก็เห็นภาคย์ ภาคย์ยังคงทำหน้าที่ของตนเองอย่างขยันขันแข็ง ดูเป็นคนสวนและคนใช้ที่ซื่อสัตย์ไร้พิษภัย แต่ทุกครั้งที่ครามเดินผ่าน ภาคย์จะเหลือบมองด้วยสายตาที่ซ่อนความท้าทายเอาไว้ลึกๆ ราวกับจะบอกว่า "ฉันรู้ว่าแกกำลังทำอะไร...และฉันก็พร้อมจะเล่น" ความตึงเครียดในอากาศบางเบาจนสัมผัสได้ ลลิษารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในละครที่ตัวเธอเองเป็นตัวละครหลัก และผู้กำกับก็คือคราม...กับภาคย์ “คุณหนูอยากได้อะไรเพิ่มไหมครับ” เสียงของครามดังขึ้นที่หน้าประตู ลลิษาเงยหน้าขึ้นมอง และพบว่าเขาถือถาดอาหารเช้าสำหรับเธอเข้ามา เธอลุกจากเตียง เดินไปรับถาดอาหาร สายตาของครามกวาดมองสำรวจในห้องเธออีกครั้ง ก่อนจะกลับมาจ้องลึกในดวงตาของลลิษา “หิวแล้วค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่ว พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ครามพยักหน้าเล็กน้อย แล้ววางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง แต่แทนที่จะเดินออกไป เขากลับเอื้อมมือมาแตะแก้มเธอเบาๆ นิ้วโป้งลูบไล้ริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน ความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ฉายชัดในแววตาของเขา “ทานเยอะๆ นะครับ คุณหนูจะได้มีแรง...” คำพูดของเขาขาดหายไป เมื่อลลิษาตัดสินใจเขย่งปลายเท้า จูบริมฝีปากเขาเบาๆ เพียงเสี้ยววินาที เป็นจูบที่ไม่ได้ต้องการความเร่าร้อน แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความไว้ใจ และความรู้สึกว่า "ฉันอยู่ข้างคุณ" ครามชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาของเขาวาววับขึ้น ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ “ผมจะอยู่ข้างนอกนะครับ” เขากระซิบเสียงแหบพร่า แล้วเดินจากไป ปล่อยให้ลลิษาอยู่กับจานอาหารที่ตอนนี้ดูเหมือนไม่สำคัญอีกต่อไป ลลิษานั่งลงบนเตียง หยิบช้อนขึ้นมา แต่ในใจของเธอกลับคิดถึงแต่เกมที่กำลังจะเริ่มขึ้น และนักล่าที่กำลังจะปกป้องเธอ...ด้วยชีวิต เธอรู้ดีว่าค่ำคืนนี้ จะเป็นคืนที่ยาวนาน และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่กำลังจะถูกเปิดเผย และความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นจากความอันตราย จะยิ่งทำให้เธอกับครามผูกพันกันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD