ตอนที่ 7 เช้าวันใหม่...และเส้นทางที่เปลี่ยนไป

1299 Words
แสงแรกของอรุณรุ่งเริ่มสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างรถยนต์ เผยให้เห็นร่างของลลิษาที่นอนซบอยู่บนแผงอกเปลือยเปล่าของครามอย่างอ่อนแรง เสื้อผ้าของทั้งคู่หลุดลุ่ยไปคนละทิศละทาง บรรยากาศภายในรถยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นกายของพวกเขาและกลิ่นความสุขสมที่ค้างคา ลลิษาค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความเจ็บระบมเล็กน้อยตามเนื้อตัว และความอบอุ่นที่โอบล้อมเธอไว้ เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมเข้มของครามที่หลับตาพริ้มอยู่เหนือเธอ แสงอาทิตย์อ่อนๆ ต้องใบหน้าของเขา ทำให้ดูอ่อนโยนกว่าที่เคยเป็นมา หัวใจของลลิษาเต้นระรัว... ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความโกรธอีกต่อไป แต่เป็นเพราะความรู้สึกหลากหลายที่ตีรวนอยู่ในอก มันทั้งหอมหวาน ชวนให้ใจเต้นแรง และในขณะเดียวกันก็เจือความสับสนและความหวาดหวั่นเล็กน้อย เธอเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเขาเบาๆ ผิวเนื้อของครามยังคงร้อนผ่าว ครามขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ สบเข้ากับดวงตาของเธอ แววตาของครามในยามนี้ไม่มีความเย็นชาเหลืออยู่เลย มีเพียงความอ่อนโยน และความปรารถนาที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ลึกๆ เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย ราวกับจะบอกว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องจริง...และมันสำคัญ “คุณหนู...” เสียงทุ้มต่ำของเขาแหบพร่าเล็กน้อย ลลิษารีบชักมือกลับ รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาในสถานการณ์เช่นนี้ เธอพยายามจะขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขา แต่ครามกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น รั้งเธอให้เข้ามาแนบชิดกว่าเดิม “อย่าเพิ่งไปไหนเลยครับ” เขาพูดเสียงต่ำ ซบหน้าลงกับเรือนผมของเธอ “ขออีกนิด...” ลลิษาตัวแข็งทื่อกับคำพูดนั้น แต่ร่างกายกลับไม่ได้ขัดขืน เธอได้ยินเสียงหัวใจของครามที่เต้นตุบๆ ใต้ฝ่ามือของเธอ และรับรู้ได้ถึงความตื่นตัวของ แท่งเนื้อ ที่ยังคงแข็งขืนเบียดอยู่กับต้นขาของเธอ ครามยังคงกอดเธอไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้ช่วงเวลาที่ไร้เส้นแบ่งนี้จบลง แต่แล้ว เขาก็ถอนหายใจยาว ก่อนจะยอมคลายอ้อมกอดออกช้าๆ “เราต้องกลับบ้านแล้วครับคุณหนู” เขาเอ่ยเสียงเรียบขึ้นเล็กน้อย พยายามดึงสติกลับมาอยู่ในโหมดบอดี้การ์ดอีกครั้ง ลลิษาพยักหน้าช้าๆ เธอรู้สึกถึงความผิดหวังเล็กๆ ที่ต้องกลับสู่โลกความจริง แต่ก็ยอมรับอย่างเงียบๆ พวกเขาอยู่ในรถท่ามกลางถนนที่เริ่มมีรถสัญจรไปมาแล้ว ทั้งสองคนต่างช่วยกันจัดเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายให้เข้าที่อย่างเงียบๆ บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความอึดอัดที่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อ้อยอิ่ง ครามสตาร์ทรถยนต์และขับออกไปอย่างนุ่มนวล ตลอดทางกลับบ้าน ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากของทั้งคู่ มีเพียงความเงียบที่หนักอึ้ง และสายตาที่แรามบางครั้งก็แอบเหลือบมองเธอผ่านกระจกมองหลัง ซึ่งลลิษาก็สัมผัสได้ทุกครั้ง เมื่อรถจอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์ ลลิษาปลดเข็มขัดนิรภัย เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะก้าวลงจากรถไปสู่โลกที่เปลี่ยนไป “คุณหนู...” ครามเอ่ยเรียก ก่อนที่เธอจะเปิดประตูลงไป ลลิษาหันกลับมามองเขา ครามจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ลลิษาอ่านไม่ออก “เมื่อคืน...ผมขอโทษ” ลลิษาขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าเขาขอโทษเรื่องอะไร เรื่องที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือเรื่องที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น “แล้วฉันต้องทำยังไงต่อไปคะ” ลลิษาถามเสียงแผ่ว ความมั่นใจที่เคยมีในตอนเริ่มต้นเกมยั่วหายไปหมดสิ้น ครามมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะที่แก้มของเธออีกครั้ง “คุณไม่ต้องทำอะไรครับ แค่อยู่เฉยๆ และให้ผม...ดูแลคุณ” คำว่า "ดูแล" ของเขาในตอนนี้...มันมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าหน้าที่ของบอดี้การ์ดอย่างเห็นได้ชัด ลลิษาพยักหน้ารับช้าๆ หัวใจของเธอยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอเปิดประตูรถออก ก้าวลงมายืนบนพื้นหญ้าหน้าคฤหาสน์ เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... และมันมาพร้อมกับเส้นทางของความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับบอดี้การ์ดที่เปลี่ยนไปอย่างไม่อาจย้อนกลับ ประตูรถปิดลงเบา ๆ ทิ้งให้ครามนั่งอยู่ลำพังในรถยนต์ที่ยังคงอวลไปด้วยกลิ่นกายของเธอ เขาเอนหลังพิงเบาะ หยัดมือขึ้นกดขมับตัวเองแน่น ภาพของลลิษาเมื่อคืนยังคงชัดเจนในหัว... เสียงคราง เสียงหอบหายใจ การที่ตรงนั้นของเธอตอดรัดแท่งเนื้อแน่นจนเขาแทบสิ้นสติ มันไม่ใช่แค่ภาพเร้าอารมณ์ แต่มันติดอยู่ในใจเขาอย่างลึกซึ้งกว่าที่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหน และนั่นแหละ...คือปัญหา เขาไม่ควรรู้สึก ไม่ควร รู้สึกอะไรเกินขอบเขตหน้าที่ แต่มันเกิดขึ้นแล้วและเขาไม่อาจย้อนคืนได้อีก ครามถอนหายใจยาว ปลายนิ้วลูบที่พวงมาลัยอย่างลังเล เมื่อคืน...เขา กลืนกินเธอทั้งกายและใจ แต่เช้านี้ เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเอง ล้ำเส้นมากเกินไป เขาควรจะปกป้องเธอจากศัตรู ไม่ใช่...หลอมรวมกับเธอในรถ ขณะเดียวกันในอีกมุมหนึ่งของคฤหาสน์ ลลิษายืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แสงอ่อนส่องเข้ามากระทบใบหน้า เธอยกนิ้วแตะแก้มที่เขาเคยลูบ ริมฝีปากยังคงรู้สึกชา หัวใจยังคงเต้นแรงแม้จะพยายามสงบ เมื่อคืนมันไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย ลลิษารู้ตัวดี สิ่งที่เกิดขึ้น...มัน มีความรู้สึกอยู่ด้วย ความห่วงใย ความอ่อนโยน ความร้อนแรง ความจริงจัง และแม้กระทั่ง...ความลังเล เธอทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ดวงตาสบเพดานอย่างนิ่งงัน เธอไม่เคยคิดจะรู้สึก “ปลอดภัย” ในอ้อมกอดของใคร แต่ตอนที่เขากระซิบว่า “ผมจะดูแลคุณ” เสียงนั้น...กลับทำให้หัวใจเธอสั่นไหวมากกว่าอะไรทั้งหมด ลลิษาไม่ได้มั่นใจนักว่า นี่เรียกว่าความรักหรือยัง แต่ที่เธอแน่ใจคือ...เธอ ไม่อยากให้เขากลับไปเป็นแค่บอดี้การ์ดเงียบ ๆ อีกแล้ว เย็นวันเดียวกัน ครามยังคงทำหน้าที่ตามปกติ เขายืนอยู่เงียบ ๆ มุมระเบียงบ้าน มือไพล่หลัง คอยจับตาทุกความเคลื่อนไหว แต่เมื่อเสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินเข้ามาใกล้ ครามก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร ลลิษาในชุดเดรสบ้านสีอ่อน เดินมาหยุดยืนข้างเขาโดยไม่พูดอะไร บรรยากาศเย็นสบายของยามเย็น ทำให้ทั้งคู่ยืนนิ่ง ๆ อยู่ด้วยกันโดยไม่มีคำพูด แต่ก็ไม่มีใครลุกหนีไปไหน “คุณยังรู้สึกผิดอยู่เหรอ” เสียงของเธอเบา...แต่ตรง ครามเงียบไปอึดใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ผมข้ามเส้น...มันไม่ควรเกิดขึ้น” “แล้วถ้ามัน...ไม่ใช่แค่ความต้องการล่ะคะ” ลลิษาหันมามองเขาเต็มตา “ถ้ามันมี ‘ความรู้สึก’ อยู่ด้วย...ยังผิดอยู่มั้ย?” ครามนิ่งงัน ดวงตาคมสบตาเธอชั่วครู่ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะมือเธอไว้เบา ๆ “ผมไม่รู้ว่ามันผิดมั้ย...” เขากระซิบ “แต่ผมรู้ว่า...ตอนที่คุณอยู่ในอ้อมกอดผม ผมไม่เคยอยากให้เวลาหยุดนิ่งเท่ากับตอนนั้นเลย” ลลิษายิ้มจาง ๆ ในที่สุด...เขาก็พูดออกมาจากใจ และเธอรู้แล้วว่าหัวใจของเธอ...คงไม่มีทางถอยกลับได้อีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD