ตอนที่ 2 หัวใจในกรงเหล็ก

1453 Words
ค่ำคืนนั้น ลลิษานอนไม่หลับ ดวงตาเหม่อมองเพดานห้องที่คุ้นเคย แต่บัดนี้กลับรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ภาพชายสวมฮู้ดในรูปถ่ายวนเวียนอยู่ในหัว เสียงลมหายใจของตัวเองยังฟังดูดังเกินจริง เธอรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองเธออยู่จากเงามืด และความรู้สึกนั้นเลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมาทั้งหมด แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ...ภาพใบหน้าคมเข้มของคราม เสียงทุ้มต่ำที่กระซิบคำว่า "เป้าหมาย" และ "เข้าห้องคุณ" มันยังก้องอยู่ในหู แม้จะทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว แต่ในขณะเดียวกัน เธอกลับรู้สึกถึงแรงดึงดูดประหลาดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เช้าวันรุ่งขึ้น ลลิษาตื่นขึ้นมาด้วยขอบตาคล้ำ เธอตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตตามปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อพิสูจน์ให้ครามเห็นว่าเธอไม่ต้องการเขา เธอเลือกชุดเดรสรัดรูปสีดำที่เผยให้เห็นแผ่นหลังเนียนสวย กะว่าจะออกไปช้อปปิ้งกับเพื่อนสาวแก้เซ็ง แต่เมื่อก้าวลงมาจากห้องนอน ก็พบว่าครามยืนรออยู่แล้วที่เชิงบันได ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบกริบยังคงดูสงบนิ่งราวกับหินผา ทว่าสายตาคมกริบคู่นั้นกลับกวาดมองสำรวจชุดของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แววตาของเขาไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ แต่ลลิษากลับรู้สึกเหมือนถูก "กลืนกิน" ด้วยสายตานั้นจนร้อนไปทั้งตัว “คุณหนูจะไปไหนครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม “ฉันจะไปช้อปปิ้ง” ลลิษาตอบห้วน ๆ พยายามเดินผ่านเขาไป “ผมจะไปกับคุณด้วย” “ไม่จำเป็น!” ลลิษาหันขวับ “ฉันมีคนขับรถแล้ว” “ผมจะเป็นคนขับรถให้คุณเองครับ” ครามเดินนำหน้าไปที่ประตู ไม่รอให้เธอตอบ ตลอดการเดินทางไปห้างสรรพสินค้า ครามขับรถด้วยความนุ่มนวลแต่ก็รวดเร็ว สายตาของเขาจับจ้องมองกระจกมองหลังอยู่ตลอดเวลา ลลิษาแอบสังเกตเขาจากกระจกฝั่งตัวเอง แผ่นหลังกว้างใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตึงเปรี๊ยะบ่งบอกถึงมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง และจังหวะที่เขาจับพวงมาลัยด้วยมือหนา นิ้วยาวเรียวที่ดูแข็งแรงก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เมื่อไปถึงห้างสรรพสินค้า ลลิษาพยายามเดินให้เร็วที่สุด เดินเข้าออกร้านนั้นออกร้านนี้ ซิกแซกไปตามผู้คนจำนวนมาก เธอหวังว่าครามจะตามไม่ทัน แต่ไม่ว่าเธอจะหันไปทางไหน ชายหนุ่มก็ยังคงยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอเสมอ ราวกับเป็นเงาที่คอยติดตาม “นี่คุณ! ตามฉันแบบนี้ไม่น่ารำคาญเหรอ?” ลลิษาหยุดเท้ากะทันหันในโซนเครื่องประดับหรู ดวงตาจ้องมองเขาเขม็ง “เป็นหน้าที่ครับ” ครามตอบสั้นๆ ไม่ได้แสดงท่าทีเบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปยืนรออยู่ตรงนั้นสิ! ฉันจะเลือกของส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครมาจ้อง!” เธอชี้ไปที่มุมหนึ่งซึ่งห่างออกไปพอสมควร ครามมองตามทิศทางที่เธอบอกครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปยืนนิ่งๆ ตามคำสั่ง ลลิษาหันกลับมาเลือกต่างหูเพชร แต่ใจของเธอกลับไม่ได้อยู่กับเครื่องประดับเลยแม้แต่น้อย เธอแอบชำเลืองมองครามผ่านกระจกเงา เห็นเขายืนนิ่งเหมือนรูปปั้น แต่ออร่าความแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาจากตัวเขากลับทำให้หญิงสาวหลายคนในร้านต้องเหลียวมอง ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินชนลลิษาอย่างแรงจนเธอเซเกือบหกล้ม แรงกระแทกทำให้ต่างหูเพชรในมือของเธอกระเด็นหลุดไป ครามที่ยืนอยู่ห่างออกไป พุ่งตัวเข้าหาเธออย่างรวดเร็วราวกับเสือชีตาห์ ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ตกใจ หมับ! มือหนาของครามคว้าเอวของลลิษาไว้แน่น ดึงร่างบางให้ถลาเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ล้มกระแทกพื้น ขณะที่อีกมือก็จัดการผลักชายที่ชนเธอออกไปอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มก้นจ้ำเบ้า ร่างของลลิษาแนบชิดกับแผงอกแข็งแกร่งของคราม เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นระรัว...หรืออาจจะเป็นของเธอเอง? กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายผสมกับกลิ่นเหงื่อจางๆ ของเขาอบอวลอยู่รอบกาย ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้ลลิษารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าและลำคอ “คุณหนูเป็นอะไรไหมครับ” เสียงทุ้มต่ำดังอยู่เหนือศีรษะ ลลิษาส่ายหน้าช้าๆ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและแข็งแกร่งจากอ้อมแขนของเขาที่ยังคงโอบรัดเอวเธอไว้แน่น เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมเข้มของคราม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างชัดเจนในตอนนี้ ไม่มีความเย็นชาเหลืออยู่เลย แต่ก่อนที่ลลิษาจะทันได้ตอบอะไร ครามก็เอียงตัวลงมาเล็กน้อยจนใบหน้าของทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาปะทะแก้มของเธอ และในเสี้ยววินาทีนั้น ลลิษารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในดวงตาคมกริบคู่นั้น เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่สายตาที่มองมาที่เธอ มันเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง...บางสิ่งที่ "กลืนกิน" เธออย่างช้าๆ ราวกับจะบอกว่าเขาจะปกป้องเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และมันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ ลลิษานิ่งงันในอ้อมแขนของเขา ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เธอรู้สึกได้ถึงแผ่นอกอุ่นร้อนที่แนบชิดกับทรวงอกของเธอ เสียงลมหายใจของเขาหนักแน่นแต่คงที่ ราวกับสัตว์นักล่าที่ควบคุมตัวเองได้ทุกฝีก้าว แต่แฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ “ปล่อยได้แล้วมั้งคะ” เสียงของเธอพยายามแข็งขืน แต่แผ่วเบาราวกับสายลมฤดูร้อน ครามไม่ได้ตอบ แต่ยืนนิ่งอยู่อีกอึดใจราวกับยังไม่แน่ใจว่าเธอปลอดภัยดีหรือไม่ ก่อนจะคลายอ้อมแขนช้า ๆ แววตาของเขากวาดมองทั่วร่างเธออย่างละเอียด — ไม่ใช่แบบลามก แต่เป็นแบบของนักรบที่ประเมินว่าร่างกายเธอบาดเจ็บหรือเปล่า “คุณควรระวังให้มากกว่านี้” เขากระซิบเสียงเข้ม ห่างจากริมฝีปากเธอเพียงไม่กี่นิ้ว “เพราะบางคน...ไม่ได้แค่จะชนคุณเฉย ๆ” ลลิษาสะดุ้งในใจ เธอหันไปมองชายที่ชนเธอ ซึ่งตอนนี้โดน รปภ.ห้างพาออกไปแล้ว สีหน้าของเขาไม่ใช่คนหลงทางธรรมดา… แต่เป็นคนที่ “ตั้งใจ” หัวใจของเธอสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม “ขอบใจที่ช่วย” เธอพึมพำเบา ๆ แต่เสียงสั่นเล็กน้อย ขอบตาร้อนวูบโดยไม่ทราบสาเหตุ “อย่าขอบคุณ ถ้ามันทำให้คุณอ่อนแอ” ครามตอบกลับเรียบ ๆ แล้วถอดสูทตัวนอกของเขาออก ยื่นให้เธอคลุมไหล่ “คุณกำลังสั่น” “ไม่ได้หนาว…” ลลิษายื้อคำพูดไว้ แต่กลับรับสูทเขามาคลุมโดยไม่รู้ตัว กลิ่นตัวเขาห่อหุ้มเธอทันที เป็นกลิ่นสะอาดเจือความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศอ่อน ๆ บวกกับกลิ่นเหงื่อจาง ๆ จากเหตุการณ์ตะกี้ มันเป็นกลิ่นที่ทำให้เธอหน้าร้อนวูบในทันใด จู่ ๆ ก็เกิดเสียงกระซิบจากพนักงานสาวในร้านดังขึ้นเบา ๆ “คนรักเหรอคะ…?” คำถามที่เรียบง่าย แต่เหมือนฟาดเปรี้ยงเข้าใจกลางอกของลลิษา เธอกำลังจะปฏิเสธ แต่แล้วสายตาของครามกลับหันมาหาเธอทันที “คนของผม” เขาตอบแทนด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท แต่แฝงความเย็นชาแบบที่ใครก็ไม่กล้าซักต่อ ลลิษาหันควับไปจ้องหน้าเขา “ใครคนของคุณ?!” “ถ้าผมไม่พูดแบบนั้น พวกเขาจะซักคุณต่อไม่หยุด และจะมีคนสังเกตเรามากกว่านี้” เขาโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูเธอ “เว้นแต่...คุณอยากเป็นข่าวหน้าหนึ่งพรุ่งนี้” ปลายเสียงของเขาแตะใบหูเธอเบา ๆ ลมหายใจของเขาอุ่นและหนัก จนทำให้ถ้วยน้อยของเธอสะเทือนอย่างไม่ตั้งใจ ลลิษากัดริมฝีปากแน่นอย่างพยายามระงับความรู้สึกบางอย่างที่กำลังปะทุขึ้นในกาย มือของครามยังคงอยู่บนบ่าเธอ…หนักแน่น อบอุ่น และเหมือนจะคอยย้ำเตือนว่าเธอไม่ได้อยู่ลำพัง ครั้งแรกในชีวิต...ที่ลลิษาเริ่มรู้สึกว่า ‘อิสระ’ ที่เธอเคยหวงแหน อาจไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการอีกต่อไป และหัวใจของเธอ...ก็เริ่มถูกขังไว้ใน “กรงเหล็ก” ที่เรียกว่า คราม โดยไม่มีใครขออนุญาต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD