คืนนั้น...เป็นคืนที่ลลิษานอนไม่หลับจริงๆ เธอไม่ได้กลัวผี หรือกลัวความมืด แต่เธอกลัว "ใครบางคน" ที่มองเห็นทุกความลับของเธอ
เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง มือยังคงจับกระดาษใบนั้นไว้แน่น
“มีใครบางคนรู้...”
ครามเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ ไม่ถามอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกมา
เธอวางกระดาษโน้ตลงบนมือเขา และเพียงแค่กวาดตามองบรรทัดเดียว สีหน้าครามก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที
“ผมจะหาคนที่เขียนนี่ให้เจอ”
เสียงเขาเย็นเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ความโกรธ ความหึงหวง และความมุ่งมั่นที่จะปกป้อง
ในมุมมืดของคฤหาสน์ ภาคย์ยังคงยืนมองแสงไฟจากห้องลลิษาเล็ดลอดผ่านม่าน เขายกแฟ้มภาพขึ้นแนบอก สูดลมหายใจลึก
“ไม่ว่าเธอจะหนีไปอยู่ในอ้อมแขนใคร...ฉันจะ ‘ดึง’ เธอกลับมา”
“เพราะคุณหนู...คือของผม”
เช้าวันรุ่งขึ้น ครามเริ่มเกมซ่อนหาทันที เขาไม่ได้พูดอะไรกับลลิษามากนัก แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขามีความหมาย ดวงตาของเขากวาดมองสำรวจพนักงานทุกคนในบ้านอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะภาคย์ ที่ยังคงทำหน้าที่คนสวนและคนใช้ทั่วไปอย่างแนบเนียน
“ช่วงนี้คุณครามดูระแวงไปหมดเลยนะคะ” แม่บ้านคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนร่วมงาน “สงสัยเมื่อคืนจะนอนไม่พอ”
ครามแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่เขาก็สังเกตเห็นสายตาของภาคย์ที่แอบเหลือบมองมาที่เขาบ่อยครั้ง แววตาที่ซ่อนความท้าทายเอาไว้ลึกๆ
ลลิษาเองก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เธอรู้ว่าครามกำลังทำอะไรอยู่ และความรู้สึกถูกคุกคามก็ทำให้เธอหวาดระแวงไปหมด เธอจับจ้องไปที่ภาคย์เป็นพิเศษ พยายามสังเกตความผิดปกติ แต่เขาก็ยังคงสุขุมและดูเหมือนคนปกติที่สุดในโลก
ระหว่างวัน ลลิษาได้รับข้อความปริศนาส่งตรงมาที่มือถือของเธออีกครั้ง
“ระวังตัวด้วยนะครับ คุณหนู...บางอย่างที่คุณไม่เคยรู้...กำลังจะถูกเปิดเผย”
ข้อความนั้นไม่ระบุชื่อผู้ส่ง แต่ลลิษารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร
เธอส่งข้อความให้ครามดูทันที สีหน้าของครามเคร่งเครียดขึ้นอีก เขาตรวจสอบโทรศัพท์ของเธอ พยายามแกะรอยผู้ส่ง แต่ก็ไม่พบอะไร นั่นแสดงให้เห็นว่าภาคย์ฉลาดและระวังตัวมาก
ความรู้สึกหวาดระแวงทำให้ลลิษาแทบจะหายใจไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนถูก ‘มอง’ ตลอดเวลา แม้แต่ในห้องส่วนตัวของเธอเอง
เย็นวันนั้น ลลิษาขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ครามยืนเฝ้าหน้าประตูอย่างไม่ละสายตา เขาไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้อาณาเขตของเธอเลยแม้แต่นรเดียว
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มตึงเครียดเกินไป ลลิษาจึงตัดสินใจเดินไปที่ประตู แล้วแง้มมันออกเล็กน้อย
“คุณยังอยู่ใช่ไหม” เธอถามเสียงแผ่ว
ครามพยักหน้าเล็กน้อย ไม่พูดอะไร แต่สายตาที่เขามองมา...เต็มไปด้วยความห่วงใยและมั่นคง
“เข้ามาข้างในสิคะ” เธอเชื้อเชิญ
ครามลังเลเพียงครู่ ก่อนจะยอมก้าวเข้ามาในห้องนอนของเธอ ประตูถูกปิดลงช้าๆ ความมืดมิดในห้องโอบล้อมพวกเขาไว้
“ผมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ถ้ามีใครผ่านมาเห็น” ครามเอ่ยเสียงต่ำ แม้ร่างกายจะพยายามรักษาระยะห่าง
แต่ลลิษาไม่สนใจ เธอเดินเข้าไปหาเขา สัมผัสแขนของเขาเบาๆ และเงยหน้าขึ้นสบตา
“ตอนนี้...ฉันกลัวแค่คุณจะไม่อยู่ตรงนี้” เธอสารภาพเสียงสั่น
คำพูดนั้นทำให้ครามละทิ้งความลังเลทั้งหมด เขาดึงร่างของลลิษาเข้ามากอดไว้แน่น ใบหน้าซบลงกับซอกคอหอมกรุ่นของเธอ
“ผมจะไม่อยู่ไหนทั้งนั้นครับคุณหนู” เขาคำรามเสียงต่ำ มือหนาเลื่อนลงไปโอบรัดสะโพกของเธออย่างเร่าร้อน กดให้ร่างของเธอแนบชิดกับกายแกร่งของเขา
ในค่ำคืนที่ความกลัวคืบคลานเข้ามา...ความปรารถนาของพวกเขากลับยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
ครามจูบริมฝีปากของลลิษาอย่างร้อนแรง บดเบียดกลืนกินทุกความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ ความรุนแรงของจูบนั้นทำให้ลลิษาแทบขาดอากาศหายใจ แต่เธอก็ยอมให้เขาควบคุมทุกอย่าง
พวกเขาผลักดันกันไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าถูกปลดออกอย่างเร่งรีบ ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่แนบชิดกันในความมืด ครามไม่ให้เวลาเธอได้คิด เขาสอดแท่งเนื้อ เข้ามาในตัวเธออย่างรุนแรงและรวดเร็ว ราวกับต้องการตอกย้ำว่าเธอเป็นของเขา...และจะไม่มีใครแย่งไปได้
เสียงครางและเสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังระงมในความมืดมิด เป็นพยานถึงความรักที่ต้องซ่อนเร้นภายใต้เงาของความหวาดระแวง และความปรารถนาที่ไม่อาจยับยั้งได้เมื่อชีวิตของพวกเขาถูกคุกคาม
ภาคย์คงไม่รู้หรอกว่า ยิ่งเขาทำให้ลลิษากลัวเท่าไหร่... เธอก็ยิ่งจะผลักตัวเองเข้าหาครามมากขึ้นเท่านั้น... และความเร่าร้อนของพวกเขาก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก
ภาคย์นั่งอยู่ในห้องเก็บของชั้นล่างสุดของคฤหาสน์ ที่ซึ่งไม่มีใครลงมา ไม่มีใครสังเกต และไม่มีใครเอะใจว่าหลอดไฟหลอดเดียวในนั้น...สว่างทั้งคืนเขานั่งหลังตรง หน้าเรียบเฉยแต่มือข้างหนึ่งกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหลังมือ
อีกข้างหนึ่งกดเล่นวิดีโอวนซ้ำ...วิดีโอจากกล้องที่เขาแฮกมาเอง
ภาพบนจอเป็นภาพเบลอ ๆ จากมุมสูง เสียงไม่ชัด แต่แววตาของลลิษาที่แหงนมองคราม...คือสิ่งที่เขาไม่มีวันทนเห็นได้อีกต่อไป
เสียงของลลิษา แม้เบาและขาดช่วงจากคลื่นรบกวน ยังคงแทรกเข้ามาในหูฟัง
“ตอนนี้...ฉันกลัวแค่คุณจะไม่อยู่ตรงนี้...”
ประโยคนั้น...มันแทงหัวใจเขาจนลึก
"ทำไมต้องเป็นเขา..."
"ทั้งที่ฉันอยู่กับเธอมาตลอด..."
"ฉันจำวันเกิดเธอได้ จำกลิ่นแชมพูที่เธอชอบ จำแม้กระทั่งว่าคุณหนูเกลียดฟ้าแลบตอนกลางคืน..."
ครามไม่มีทางรู้...ไม่มีวันรู้
เพราะครามแค่เฝ้าจากภายนอก แต่เขา? เขาเฝ้าอยู่ ข้างใน
เขาลุกขึ้น ก้าวไปที่ฝาผนังซึ่งซ่อนกล่องเหล็กไว้
ภายในนั้นเต็มไปด้วย “ของสะสม”
– กิ๊บติดผมของลลิษาที่เคยหล่น
– ผ้าเช็ดหน้าที่เธอเคยทิ้ง
– และ...ซองจดหมายที่เขาเขียนถึงเธอหลายสิบฉบับ แต่ไม่เคยกล้าส่ง
เขาหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เปิดอ่านเบา ๆ
“คุณหนูรู้ไหมครับ ผมเห็นคุณทุกวัน เหมือนเห็นดวงดาวบนฟ้า แต่ผมกลับอยู่ใต้ดิน ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้าใกล้...”
แต่ตอนนี้…เขาไม่ได้อยู่ใต้ดินอีกแล้ว
ตอนนี้ เขา ใกล้พอจะจุดไฟได้
ภาคย์หยิบมือถือขึ้นมา กดเปิดกล้องหน้าช้า ๆ
เขามองตัวเองในจอ แววตาของเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง ๆ ที่ไม่ใช่รอยยิ้มของคนปกติ
มันคือรอยยิ้มของ คนที่มั่นใจว่าตัวเอง...คือเจ้าของทุกอย่าง
“เรามาเล่นกันต่อเถอะครับ...คุณหนู”
“ผมจะให้คุณหนู ‘กลับมาเห็นผม’ อีกครั้ง ไม่ว่าจะต้องทำให้ใครหายไปก็ตาม”
เสียงของเขาเบา และเย็นเฉียบ...
เหมือนมีดที่เพิ่งลับจนคม