วันนี้ฟาเบียนออกมาเดินตรวจตราดูการทำงานของพนักงานในบริษัท ที่จริงงานเขาล้นมือจนแทบไม่มีเวลาว่างแต่เพราะเลขาสาวรายงานว่าพริมรดามีหนุ่ม ๆ มาตามจีบ แถมยังสนิทสนมกับหัวหน้าแผนกหนุ่มออกนอกหน้าจนเธอกลัวว่าจะทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงที่พนักงานบริษัทมีเรื่องชู้สาวกับนักศึกษาฝึกงาน
บริเวณด้านหน้าลิฟท์ตรงแผนกที่พริมรดาฝึกงานอยู่ฟาเบียนเดินออกจากลิฟต์และบังเอิญกับที่สายตามองไปประทะกับร่างบางที่อยู่แถวนั้นพอดี
“น้องพริม เอกสารที่พี่ฝากจัดการเสร็จยังจ๊ะ” ณภัทรเดินเข้ามาถามพริมรดาพอดี
“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่ภัทร” พริมรดายิ้มตอบณภัทรอย่างร่าเริง โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเห็นท่านประธานที่กำลังทำหน้าบึ้งอยู่ไม่ไกล
...นี่เธอสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นจนเรียกมันว่าพี่เหรอพริมรดา ทีกับฉันอยู่บ้านเดียวกันมาหลายปีเรียกเต็มยศ ฟาเบียนยืนกำหมัดและคิดในใจอย่างหงุดหงิด
“โอเคครับ ยังไงตอนเที่ยงนี้อย่าหนีไปไหนล่ะ วันนี้ต้องไปกินข้าวกับพี่ให้ได้ถือเป็นการตอบแทนที่ช่วยงานพี่ห้ามปฏิเสธนะครับ” ณภัทรกล่าวกับหญิงสาว เพราะเขาชวนเธอไปทานข้าวด้วยกันทีไรเธอก็ปฏิเสธทุกครั้ง
“เอ่อ คือ...” พริมรดาอึกอึกอย่างไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าเธอดูไม่ออกว่าเขากำลังตามจีบ ดังนั้นเธอเลยไม่อยากจะไปให้ความหวังเขา
“ฮึ่ม! คุณนี่เป็นหัวหน้าที่ดีจริง ๆ นะณภัทร ใช้งานลูกน้องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พาไปทานข้าว สงสัยคงต้องเลี้ยงข้าวทุกคนในแผนกซะแล้วล่ะมั้ง” ฟาเบียนทนไม่ไหวจึงเดินออกมาและพูดขัดจังหวะสนทนาของทั้งสอง
“อ้าว สวัสดีครับท่านประธาน คือผมไม่ได้เลี้ยงข้าวทุกคนขนาดนั้นหรอกครับ แหะ ๆ เลี้ยงเฉพาะคนพิเศษน่ะครับ” ณภัทร กล่าวขึ้นอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าท่านประธานกำลังเหน็บแนมเขาเพราะหึงหญิงสาวแต่นั่นกลับยิ่งเติมเชื้อไฟในใจให้กับฟาเบียนเพิ่มมากขึ้น
“ท่านประธานมาถึงที่นี่มีธุระสำคัญอะไรรึเปล่าครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามท่านประธานของบริษัทเพราะนาน ๆ ครั้งเขาจะเดินมาที่แผนกต่าง ๆ จนชายหนุ่มคิดว่ามีเรื่องสำคัญ
“เปล่าหรอกผมแค่ลงมาเดินดูการทำงานของพนักงานเฉย ๆ แล้วก็มาเดินดูคนของผมว่ามีใครมายุ่มย่ามรึเปล่า” ฟาเบียนเอ่ยอย่างมีเลศนัย พร้อมกับปรายตามองไปทางพริมรดา
“อะไรนะครับ?” ณภัทรเอ่ยถามอย่างงงงวยในสิ่งที่ท่านประธานเอ่ย แถมเขายังปรายตามองยังพริมรดา
“ฮึ ๆ ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่มาดูเด็กในปกครอง คุณไม่รู้เหรอว่าพริมรดาเป็นคนของผม” ฟาเบียนตอบณภัทรพร้อมกับเน้นคำว่าคนของผมด้วยเสียงที่เยือกเย็น จนณภัทรได้ฟังแล้วถึงกับเสียวสันหลัง
“เป็นไงบ้างพริมรดา ทำงานที่นี่สบายดีไหม” ฟาเบียนหันไปถามพริมรดาที่ยืนนิ่งอยู่นาน
“เอ่อ สบายดีค่ะคุณฟาเบียน” หญิงสาวตอบด้วยความประหม่า จะไม่ให้เธอประหม่าได้ยังไงในเมื่อตั้งแต่เธอมาอยู่ที่บ้านเขาเธอกับเขาคุยกันแทบจะนับคำได้ด้วยซ้ำ
ฟาเบียนพอเห็นท่าทีเกร็ง ๆ ของพริมรดาก็ยิ่งหงุดหงิด ทีกับผู้ชายคนอื่นเธอยิ้มแย้ม พูดคุยอย่างร่าเริง แต่กับเขาถามคำตอบคำแล้วยังไม่เคยสบตาเวลาคุยกับเขาอีก
“อืม ดีแล้ว ไปทำงานเถอะ ตอนเที่ยงขึ้นไปหาฉันที่ห้องด้วยนะ” ฟาเบียนสั่งหญิงสาวจึงก้มหัวรับแล้วรีบเดินเลี่ยงออกไป
“วันนี้พริมรดาคงไปทานข้าวกับคุณไม่ได้แล้วนะณภัทร แล้วก็คงจะอีกตลอดไป หวังว่าคุณคงเข้าใจ” ฟาเบียนหันไปกล่าวกับณภัทร และมองด้วยสายตาที่ผู้ชายด้วยกันจะมองออกว่าพริมรดาเป็นคนพิเศษของเขา ฮึ! คิดจะมายุ่งกับของ ๆ เขาอย่างนั้นหรือ ถ้ามันยังกล้ายุ่งมันไม่ได้ตายดีแน่
“เอ่อ ครับท่านประธาน” ณภัทรตอบรับและมองท่านประธานเดินจากไป พร้อมกับปรายตามองไปทางพริมรดา นี่หญิงสาวที่เขาแอบชอบเป็นอะไรกับท่านประธาน เขาต้องยอมถอยไปจากเธอใช่ไหมเพราะสายตาที่ฟาเบียนมองเขาเขาก็เสียวสันหลังวาบถ้าขืนยังยุ่งกับเธอเขาคงต้องตกงานและเจ็บตัวเป็นแน่
พริมรดาขึ้นลิฟท์มายังชั้นผู้บริหาร เธอรู้สึกประหม่า แถมยังมีสายตาของพนักงานที่มองมายังเธอที่เป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานแต่กลับขึ้นมาที่ชั้นผู้บริหาร นี่เขาเรียกเธอมาทำอะไรกันนะ
“ขอโทษนะคะ” พริมรดาเอ่ยกับนรีทิพย์ เลขาหน้าห้องท่านประธาน
นรีทิพย์ปรายตามองเมื่อเห็นเป็นพริมรดาก็ไม่พอใจ นี่มันนังเด็กที่ท่านประธานให้เธอคอยดู คอยรายงานเรื่องราวของหล่อนนี่ แล้ววันนี้ขึ้นมาทำอะไรที่นี่
“มีอะไร” นริทิพย์กล่าวด้วยเสียงแข็งกระด้าง
“เอ่อ คือท่านประธานเรียกให้หนูมาพบตอนเที่ยงน่ะค่ะ” พริมรดาตอบ
“เรียกให้มาพบ? เธอเนี่ยนะ เธอเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานท่านประธานจะเรียกให้มาพบทำไมกัน เธอเอาชื่อท่านประธานมาอ้างเพื่อที่จะเข้าไปอ่อยท่านประธานใช่ไหม!” นรีทิพย์กล่าวหาพริมรดาด้วยความหึงหวงและกันท่าไม่ให้เธอเข้าไป แน่ล่ะเกิดท่านประธานถูกใจนังเด็กนี่ขึ้นมาเธอก็คงตกกระป๋อง
พริมรดาได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจ ถึงเธอจะเรียบร้อยนอบน้อม แต่เธอก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกและให้ใครมาพูดจาแย่ ๆ กับเธอได้
“พี่คะ หนูบอกว่าท่านประธานเรียกพบค่ะ พี่ไม่มั่นใจก็ถามท่านประธานดูได้นะคะ ไม่ใช่มาว่าหนูเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้” พริมรดาตอบกลับไป
“นี่แก! ฉันรู้ทันพวกผู้หญิงอย่างแกดี คงคิดอย่างจะไต่เต้าเผื่อฟลุ๊คล่ะสิ ถ้าท่านประธานเรียกพบแกจริงฉันก็ต้องรู้ ท่านต้องเรียกผ่านฉันอยู่แล้ว!”
“หนูคงไม่ทำอะไรโง่ ๆ ด้วยการมาหลอกพี่ว่าท่านประธานเรียกแล้วเข้าไปอ่อยหรอกค่ะ ถ้าท่านประธานไม่พอใจหนูก็ฝึกงานไม่จบพอดี รู้แบบนี้แล้วจะให้หนูเข้าไปได้รึยังคะ ไม่งั้นก็ถามท่านก่อนก็ได้ค่ะ” พริมรดาเริ่มทนไม่ไหว
นรีทิพย์เมื่อเห็นพริมรดาไม่ใช่ไก่อ่อนให้เธอด่าได้ฝ่ายเดียวก็ยอมถอยและกดอินเตอร์คอมรายงานฟาเบียนว่าพริมรดามาพบ ชายหนุ่มจึงบอกให้เธอเข้าไปพบ
“นี่ถึงขนาดเรียกมาพบเลยเหรอ ปกติแค่ให้คอยตามดู คอยดูเถอะนังเด็กบ้าฉันจะเขี่ยแกให้ได้!” นรีทิพย์มองตามพริมรดาที่หายเข้าไปในห้องทำงานของฟาเบียนอย่างแค้นใจ