THE HEARTLESS : 10

1155 Words
Tanin Talk @โรงพยาบาล พอมาถึงโรสก็ยื่นเอกสารซองนั่นให้ประชาสัมพันธ์ด้านหน้า ก่อนจะได้เข้าพบหมอโดยไม่ต้องรอคิว เอกสารในซองนั่นมันคืออะไรวะ ผมรู้แต่ว่ามันส่งมาจากเมกา “เดี๋ยวๆ ไม่ต้องเข้าไป รออยู่นี้แหละ แป๊บเดียว” โรสหันมาดันร่างผมที่กำลังเดินตามเธอมาจนจะถึงห้องหมออยู่แล้ว พอเธอทำแบบนั้น พยาบาลก็เข้ามาขวางผมให้ออกไปนั่งรอข้างนอกตามคำสั่งเธอทันที แต่พอผมเห็นว่าหมอที่อยู่ในห้องเป็นใคร รอยยิ้มมุมปากถูกยกขึ้นโดยอัตโนมัติและยอมออกไปรอข้างนอกแต่โดยดี ผมเดินวนไปวนมาอยู่ด้านนอกตั้งนานสองนานไหนบอกแป๊บเดียวไงวะ แค่มาเอายาเฉยๆ จำเป็นต้องนานขนาดนี้ ยัยขี้แยของผมเป็นอะไรหรือเปล่าวะ เมื่อตอนเปิดประตูมาเจอผมก็ทีหนึ่งแหละ เธอเพ่งมองอยู่ตั้งพักใหญ่ถึงรู้ว่าเป็นผม แถมยังงงอีกตอนผมยื่นคีย์การ์ดคืนให้เธอ เหมือนเธอมองไม่ชัดอย่างงั้นแหละ แต่โรสไม่ได้สายตาสั่นนิ จะไม่เห็นได้ไง สักพักประตูก็ถูกเปิดออกผมก็รีบเดินเลี่ยงไปหลบอีกทาง ก่อนที่โรสจะเดินออกมาจากห้องและตรงไปยังเคาน์เตอร์ด้านหน้าเพื่อรอรับยาทันที ผมอาศัยจังหวะนั้นเข้าไปในห้องที่เธอเดินออกมาเมื่อกี้ “เฮีย” ผมเรียกมันพร้อมเอามือวางบนลงบนโต๊ะทั้งสองข้าง เฮียหมอสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับพ่นคำด่าใส่ผม “สัสเอ๊ย! ตกใจหมด” “ผู้หญิงคนเมื่อกี้ เธอเป็นอะไร” ผมเข้าเรื่องทันทีแบบไม่รอให้เสียเวลา เฮียหมอหรี่ตามองหน้าผมอย่างจับผิดและต่อมเผือกของมันก็ทนไม่ไหวหลุดออกมาจนได้ “มึงเป็นอะไรกับเธอ” “มันใช่เวลาไหมวะ” ผมสวนกลับมันทันควันทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องถาม แต่คือมันยังไม่ใช่ตอนนี้ไหม “ถ้างั้นกูคงบอกไม่ได้” คำตอบของเฮียหมอบันดาลโทสะในตัวผมได้มากเลยทีเดียว ตีความหมายได้สองอย่างคือมันกวนตีนผมกับอีกอย่างคือมีอะไรปิดบังผม “อย่ากวนตีน” “กูเป็นหมอ จรรยาบรรณของหมอ คือไม่สามารถเปิดเผยเรื่องของคนไข้กับคนอื่นได้ เก็ทไหม” ปึงงงง “แต่มึงต้องบอกกู!!” ผมตบโต๊ะอย่างแรงพลางตวาดออกเสียงลั่นจนมีพยายามเปิดประตูเข้ามาดู แต่ไอ้เฮียหมอยกมือไล่ให้ออกไป แล้วเอ่ยบอกผมอย่างใจเย็น “ไอ้ธามใจเย็นดิวะ มึงเคยเป็นคนใจเย็นกว่านี้นี่หว่า ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่ออารมณ์มึงมากเลยนะ กูชักจะอยากรู้แล้วดิ เธอเป็นใครกันแน่” สิ้นเสียงไอ้เฮียหมอผมก็ยิ่งอยู่ไม่ติด ยืดยืนเต็มความสูง เอามือขึ้นเท้าเอวข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งยกขึ้นยีผมตัวเองอย่างหงุดหงิด หมุนวนไปมาเหมือนหาที่ระบายไม่ได้ ใช่โรสมีอิทธิพลต่ออารมณ์ผมมากจริงๆ และตอนนี้ผมก็อยากรู้มากๆ ด้วยว่าเธอมีอะไรปิดบังผมอยู่กันแน่ เธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร เธอเป็นอะไรถึงต้องมาหาหมอแบบนี้ ไอ้ห่านี่ก็อีกตัว จะมารักจรรยาบรรณอะไรตอนนี้ แต่ก็ว่ามันไม่ได้หรอก มันเป็นหมอนิ...แต่เดี๋ยวนะ คนอื่นบอกไม่ได้งั้นเหรอ แต่ผมไม่ใช่คนอื่น “โรสเป็นแฟนกู” “แฟน!!!” ไอ้เฮียหมอทวนคำว่าแฟนออกมาเสียงดังลั่นอย่างตกใจ สีหน้าท่าทางบ่งบอกได้ชัดเจนว่ามันกำลังช็อกสุดๆ กูมีแฟนมันเป็นเรื่องอเมซิ่งขนาดนั้นเลยเหรอวะ ก่อนมันจะกะพริบตาถี่เหมือนเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วยิงคำถามใส่ผมรัวๆ “มีได้ไง ตอนไหน แล้วทำไมกูถึงไม่รู้ มึงดะ..” “พอ!!” ผมตะคอกใส่มันเสียงลั่นอย่างหัวเสีย ห่าเอ๊ย...จะอยากรู้อะไรมากมายขนาดนั้นว่ะ ถามเหี้ยอะไรนักหนา ก่อนจะเลิกคิ้วประชดประชันมันด้วยความหมั่นไส้ “เป็นพ่องผมง่ะ” “อ้าว ไอ้ฉิบหาย กูรุ่นพี่มึงนะ” ไอ้เฮียหมอด่าผมกลับทันควันพลางง้างมือจะโบกหัวผม แต่มันโบกได้แต่ลมเท่านั้นแหละเพราะผมไหวตัวหลบมันทัน “อย่าลีลา” “แฟนกูก็บอกไม่ได้ นอกจากมึงจะเป็นผัว กูถึงจะบอกได้” “ไอ้หมอ!!” คำตอบของไอ้เฮียหมอทำให้ผมของขึ้นทันที ตวาดเรียกมันเสียงลั่นพร้อมกับกระชากคอชุดกราวดึงมันขึ้นยืนทันที ตอนนี้พวกพยาบาลข้างนอกคงสะดุ้งกันเป็นแถวๆ แต่ไม่มีคงใครกล้าเข้ามา “ใจเย็นนน กูพูดเรื่องจริง ถ้ามึงอยากรู้ก็ไปถามเธอเอาเอง เห็นใจกูหน่อยไอ้น้องชาย กูบอกไม่ได้จริงๆ แล้วอีกอย่างคนไข้กำชับไว้เองว่าไม่ให้เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร” ไอ้เฮียหมอรีบยกมือขึ้นเสมอหัวทั้งสองข้างคล้ายกับมันยอมแพ้และอธิบายเหตุผลห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ให้ฟัง ผมก็พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในตอนนี้คายมือออกจากคอเสื้อชุดกาวน์ไอ้เฮียหมอ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอีกอย่างแรง ใจเย็นไว้...ไอ้ธาม มึงต้องใจเย็นกว่านี้ ผมพ่นลมหายใจออกทางปากฟู่ใหญ่ “เธอจะไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง เพราะกูเก่ง” ไอ้เฮียหมอพูดขึ้นพลางยกมือขึ้นตบไหล่ผมเบาๆ และทิ้งท้ายด้วยการยักคิ้วให้ผมอย่างกวนตีน เกือบจะดีแหละ...แต่ไอ้เฮียหมอมันก็เก่งจริงอย่างปากว่านั่นแหละ หมอหนุ่มไฟแรง ที่ทั้งหล่อ เก่ง ดีกรีนักเรียนนอก ที่มีแต่สาวน้อยสาวใหญ่พากันมารุมล้อมแถมยังเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลนี้อีก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอวยมัน ผมอยากรู้มากกว่าว่าโรสเป็นอะไร ทำไมต้องปิดบัง หรือจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ผมเลยพยักหน้าให้เฮียหมอเป็นเชิงว่าผมโอเค ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกมาจากห้องนั้นตรงไปหาโรสที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าทันที ผมชะลอฝีเท้าลงทอดสายตามองร่างบางที่ยืนชะเง้อชะแง้มองหาผมอยู่หน้าเคาน์เตอร์ พลางพินิจพิเคราะห์ร่างกายที่ดูภายนอกก็เหมือนจะปกติดีทุกอย่าง ใบหน้าหวานก็ดูมีสีสันสดใสไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด จะมีก็แต่เมื่อตอนเช้านั่น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมทั้งสงสัยทั้งโมโหกับสิ่งที่มันค้างคา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD