ไม่นานมัจจุราชก็ทรงโปรดเขาอีกครั้ง คุณนายพราวฟ้าเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธออุตส่าห์ไปทาบทามมาให้วิ่งร้องไห้ออกไปด้วยชุดที่เลอะเปรอะเปื้อนก็รู้ได้ในทันทีว่าลูกชายตัวดีก่อเรื่องอีกแล้ว
“ไอ้ไข่!”เสียงเรียกชวนขนหัวลุกดังสนั่นทั่วสวนกล้วย
“อยู่ไหนไอ้ลูกชายตัวดี ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”พนาเมื่อได้ยินเสียงเรียกของมารดารีบหาที่หลบในดงกล้วยทันที เสียงยังขนาดนี้ ถ้าเจอตัวเป็นๆจะขนาดไหน ใครจะออกไปให้โง่ล่ะ
สายตาไวเห็นมีดพร้าที่ใช้ฟันเครือกล้วยวางอยู่ คุณนายพราวฟ้าไม่รอช้าหยิบมันขึ้นมาขู่
“ถ้าแกไม่ออกมา ฉันจะฟันกล้วยไข่แสนรักแกทิ้งทั้งสวนเลยคอยดู”
“แม่! แม่! ผมมาแล้ว”ชายหนุ่มรีบวิ่งออกมาด้วยความเร็วแสงหยุดตรงหน้ามารดาพร้อมยกมือยอมแพ้ เล่นขู่ฟันกล้วยทั้งสวนอย่างนี้ใครจะไปหลบต่อไหว
“โอ๊ย!! แม่!!”ใบหน้าหล่อเหยเกด้วยความเจ็บปวด คุณนายพราวฟ้าเล่นบิดหูเขาแรงจนไม่รู้ว่าขาดติดมือไปรึเปล่า
“เจ็บเหรอ ฉันอยากจะฟาดแกให้หนักจริงๆ”
“ผมผิดอะไร”ชายหนุ่มยืนกอดอกตอบหน้าตาเฉย ใช่! เขาผิดอะไร เขาไม่ให้มันไปเฝ้ารากกล้วยไข่ก็ดีแค่ไหนแล้ว
“ยังมีหน้ามาพูดอีก ฉันหาผู้หญิงให้แกก็แล้ว จนฉันมาหาผู้ชายให้แก ตกลงแกต้องการอะไรกันแน่”
“ก็ผมบอกแม่แล้วว่าจะหาเอง เลิกหาให้ผมได้แล้ว แม่เอาเวลาไปทำสวยดีกว่า เดี๋ยวป้าข้างบ้านก็สวยกว่าแม่หรอก”
“ไม่มีทางหมู่บ้านนี้ฉันสวยสุดย่ะ”เธอพูดพร้อมสะบัดหน้าใส่ลูกชายเดินกลับบ้านไปอย่างอารมณ์เสีย
เดิมทีเขาคิดว่าคุณนายพราวฟ้าจะเลิกหาผู้หญิงมาให้เขาแล้ว แต่ใครจะคิดว่าแม่ของเขามีความคิดอีกแบบที่หาผู้ชายมาให้เขาแทน เขาได้แต่ส่ายหัวในความอยากได้ลูกสะใภ้ของมารดาเบาๆ
“นายครับกล้วยตัดเสร็จแล้วครับ”
“เอาไปส่งได้เลย เดี๋ยวฉันตามไป”พนาตอบรับคนงานที่เข้ามารายงานความเรียบร้อยของวันนี้
บทที่1 ไข่ไม่อยากมีเมีย
ตลาดสดบ้านนกเอี้ยง
ตลาดสดคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอย หญิงสาวรูปงามร่างบางผิวพรรณผ่องใส สวมแว่นตากันแดดสุดหรูพร้อมชุดกระโปรงพลิ้วไปมาตามแรงลมที่เข้ามาปะทะ เท้าเรียวอยู่ในรองเท้าส้นสูงที่รับกับรูปเท้าได้พอดีส่งผลให้คนที่สวมใส่ดูขาเรียวสวยขึ้นกว่าเดิม
เธอเดินเฉิดฉายกลางตลาดท่ามกลางอากาศที่แสนอบอ้าวกว่าสี่สิบองศา และผู้คนที่เดินเบียดเสียดกันไปมาเพื่อตรงไปยังร้านผลไม้ที่อยู่ด้านในสุด
“องุ่นกิโลเท่าไรจ๊ะป้า”หญิงสาวถอดแว่นตามองดูลูกองุ่นพวงใหญ่
“80 หนูเอาเท่าไรล่ะ?”
“เอา…”พูดยังไม่ทันจบกล้วยไข่เครือใหญ่ก็หล่นลงมาตรงหน้า ทำให้กระโปรงตัวสวยของเธอเปรอะเปื้อนน้ำที่เจ้าของร้านเพิ่งรดมันลงบนผลไม้ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามา
“ขอโทษๆเป็นอะไรรึเปล่า”พนาไม่ทันระวังทำให้เขามองไม่เห็นว่ามีคนยืนอยู่ มัวแต่เหวี่ยงเครือกล้วยไข่ขึ้นไว้บนแผงขายผลไม้เหมือนทุกวัน
“นายทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”หญิงสาวชี้หน้าด่าพลางก้มมองตัวเองพร้อมเสียงบ่นเบาๆ
“กระโปรงฉันตัวนี้แพงซะด้วย จะซักออกรึเปล่าเนี่ย”
“บ่นอะไรของคุณ”เขาถามเพราะเห็นเธอก้มหน้าบ่นอยู่นาน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตกตะลึง ไม่คิดไม่ฝันว่าชนบทแบบนี้จะมีผู้ชายรูปงามหน้าตาดีอยู่ด้วย ใบหน้าหล่อคมเข้ม คิวดกดำที่โค้งรับได้รูปรับกับดวงตาคมสีน้ำตาลเข้ม สันจมูกคมจรดรับกับริมฝีปากที่โค้งหยักได้รูปสวยงาม ผิวพรรณสีเปลือกไข่ดูลงตัวกับรูปร่างสมส่วนที่อยู่ภายใต้เสื้อกล้ามสีขาวตัวบาง บ่งบอกให้รู้ว่าภายใต้นั้นซ่อนความสมบูรณ์ของลอนกล้ามเนื้อชวนมองเอาไว้ วนาลีส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างลืมตัว
“หน้าเธอคุ้นๆนะ”เมื่อได้ยินสิ่งที่หนุ่มหล่อตรงหน้าพูดเธอจึงหลุดออกจากภวังค์ความคิดที่กำลังทำให้น้ำลายของเธอหก จะว่าไปเขาก็หน้าตาคุ้นๆเหมือนกันแต่คงไม่ใช่คนที่เธอรู้จักหรอก
“เธอใช่อุ๋งๆป่ะ”ตาโตของวนาลีทอประกาย มีแค่คนเดียวที่เรียกเธอแบบนี้ แต่คนหน้าหล่อตรงหน้าจะเป็นไอ้อ้วนที่เธอเคยรู้จักจริงเหรอ
ย้อนไปเมื่อสมัย ม.ปลาย
“กล้วยไข่ นายนี่ตัวเหมือนชื่อเลยนะ”พนาที่ในตอนนั้นเนื้อตัวอ้วนกลมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ที่เพื่อนเอาแต่รุมล้อเรื่องหุ่นของเขาทุกวัน เป็นเพราะแม่ของเขาเลี้ยงมาเป็นอย่างดี อาหารการกินไม่เคยขาดทำให้เขามีอุดมสมบูรณ์เกินไปแบบนี้ เขาจึงได้แต่ก้มหน้ารับคำเอ่ยล้อของพวกเพื่อนๆ
“นี่! เลิกว่ากล้วยไข่ได้แล้ว”หญิงสาวตัวเล็กร่างบางลุกออกมาปกป้องเพื่อนร่วมห้องที่โดนรุมล้อ
“แล้วจะทำไม เธอชอบมันรึไงแมวน้ำ”
“ฉันจะชอบหรือไม่ พวกเธอก็ไม่ควรไปว่ากล้วยไข่แบบนั้น”แววตามุ่งมั่นทำให้แมวน้ำดูสวยมากขึ้นในสายตาของคนที่จ้องมองเธออยู่
“ไปเถอะพวกเรา หมดสนุกแล้ว”
“ขอบคุณนะแมวน้ำ”
“อืม ไม่เป็นไร”
“เดี๋ยว! แมวน้ำ”เด็กหนุ่มกล้าๆกลัวๆที่จะพูดออกไป
“ว่าไง”วนาลีหันกลับมาเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมชั้นอีกครั้ง
“เอ่อ…”เขายื่นกล้วยไข่หวีหนึ่งให้เธอด้วยมือที่สั่นเทา
“เอาไปกินสิ แทนคำขอบคุณที่เธอช่วยเราไว้”
“เราไม่ชอบกินกล้วยอะ”
วนาลีเดินจากไปแบบไม่สนใจเท่าไรนัก เธอแค่ทนเห็นคนอื่นโดนกลั่นแกล้งไม่ได้ก้เท่านั้น ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนที่จะได้กลับมาจึงทำให้เธอไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย