พลอยชมพูมาได้ไกลที่สุดคือติดหนึ่งในห้าคนสุดท้าย อำลารายการเรียลลิตี้การประกวดไปพร้อมกับรางวัลและตำแหน่งที่ค้านต่อสายตาคนทั้งประเทศเพราะการแสดงที่หลุดมาตรฐานจนเกิดปมดราม่าในโลกออนไลน์กับเทรน #พลอยใสไม่ใส
แน่นอนว่าทีมงานเป็นคนทำข่าวเด็กเส้นใหญ่หลุดออกไป แต่จะโดยตั้งใจหรือเปล่า? อันนี้ไม่มีใครพูดถึง
เพจซุบซิบดาราก็เม้าไม่หยุดว่าเพราะอะไรที่ผู้ประกวดอันดับที่ห้าถึงได้รางวัลพิเศษ The Best Singing Popular vote ทั้งที่โชว์สุดท้ายพลอยชมพูร้องเสียงหลง ไฮโน๊ตก็ไปไม่ถึงจนต้องร้องหลบ เพลงที่เลือกก็เป็นแนวสนุกสนานแต่เธอทำได้หดหู่น่ารำคาญ ร้องและเต้นแบบดาดๆ ส่งๆ ให้จบๆ ไปเหมือนรู้ว่ายังไงก็เข้ารอบได้รางวัลนี้อยู่แล้ว
เป็นผู้เข้าประกวดเดียวที่ไม่เหมาะสมกับรางวัลที่ได้รับ จากคนรักกลายเป็นคนหมั่นไส้ทั้งประเทศ
ลูกรักท่านประธาน
เด็กเส้นใหญ่
พลอยไสย (ศาสตร์)
ฉายาที่เด็กสาวบ้านๆ ได้รับมาพร้อมกับโล่รางวัลและคำครหา
สื่อทุกสื่อพากันเล่นข่าวบอกใบ้อักษรย่อ พชพ ว่าเป็นเด็กเส้นใหญ่เย็นตาโฟ ภายนอกเป็นสีชมพูหวานๆ แต่ภายในนั้นร้ายนักแซ่บสะท้านทรวงยิ่งกว่าต้มเล้ง
ต่อให้เจ้าตัวหายเงียบเข้ากลีบเมฆก็ยังโดนรุมโดนทึ้งไม่เหลือที่ยืนในสังคมแต่ความจริงใครจะรู้
“แม่จ๋าา...” ไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังที่พลอยชมพูทำโชว์สุดท้ายออกมาได้ห่วยขนาดนั้นเพราะเธอมีสมาธิ มารดาของเธอประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางมาชมการประกวดของลูกสาว
มารินสลบไม่ได้สติในห้องไอซียูมาสองวันสองคืน ลูกสาวจอมซื่อบื้อหัวช้านั่งร้องไห้หน้ากระจกไม่มีใครเห็น ไม่มีใครสนใจ ไม่มีสำนักข่าวไหนเขียนข่าวนี้เพราะมันขายไม่ได้เท่าข่าวคาวๆ ของเด็กเส้นใหญ่เย็นตาโฟ
“คุณพลอย!”
“คุณนาวา...”
“เรื่องจริงเหรอเนี้ย ผมนึกว่าข่าวปลอม” มีเพียงนาวาที่วิ่งรถมาดูที่โรงพยาบาล
ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมศิลปินเป็นคนเดียวที่ใส่ใจผู้เข้าประกวดหลังจากรายการทีวีนั้นจบลง
“อาการแม่คุณเป็นไงบ้าง”
“พลอยไม่รู้ค่ะ”
“อ้าว..!!”
“พลอยไม่รู้...” หญิงสาวอ่อนต่อโลกร้องไห้มาสองวันสองคืนจนสมองเบลอไม่รับรู้ข่าวสารใด ความกลัวและวิตกว่าแม่จะตายยิ่งทำให้สติพลอยชมพูเตลิด เด็กสาวผู้ไม่เคยผ่านเหตุการณ์หนักๆ ร้ายๆ ดูเหมือนจะดิ้นตายเสียตรงนี้
“พลอย! ตั้งสติ”
“แม่จะตายมั้ย”
“ตั้งสติพลอย...”
พรึ่บ!
จากญาติผู้ป่วยกลายเป็นผู้ป่วยเสียเอง พลอยชมพูตื่นขึ้นบนเตียงคนไข้ข้างๆ มารดาและมารินก็ยังไม่ฟื้นเช่นเดิม
“เมื่อเช้าแม่คุณตอบสนองบ้างแล้ว หมอบอกว่าน่าจะปลอดภัยแล้วล่ะ”
“จริงเหรอคะ...อุ๊ย!” ลูกสาวจะกระโดดลงเตียงคนไข้แต่พอผงกหัวขึ้นมาก็ปวดจี๊ด พลอยชมพูยกมือกุมศีรษะที่มีผ้าพันไว้
“คุณล้มหัวกระแทกพื้น”
“เหรอคะ” ปกติก็คิดช้าเข้าใจอะไรยากอยู่แล้วพอศีรษะกระแทกของแข็งก็ยิ่งมึนยิ่งบื้อ
“พักผ่อนเถอะนะ ผมจัดห้องให้นอนคู่กับแม่ของคุณจะได้อยู่ใกล้ชิดกัน”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณทำไมผมไม่ได้เสนอว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้สักหน่อย นี้เช็คเงินรางวัลหนึ่งแสนบาทเอาไว้เป็นค่ารักษาตัวนะครับ เห็นกับที่ต้องใช้เงินหรอก ผมเลยไม่หักภาษี”
“คะ!?”
“เห้อ...พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก ผมกลับแหละ”
นาวากลับไปแล้วเหลือแต่คนป่วยสองคนนอนมองหน้ากัน พลอยชมพูอยากระบายน้ำตาร้องไห้แต่เธอแสบหน่วยตาจนไม่มีน้ำ
บนเตียงมีเช็คเงินรางวัลหนึ่งแสนบาทไม่ใช่หนึ่งล้านที่หวังไว้ เงินก้อนนี้จะใช้พอได้อย่างไรถ้าแม่ต้องนอนป่วยอยู่บนเตียง
“แม่! พลอยทำได้แค่นี้” หญิงสาวตัดพ้อ
นอกจากจะไม่ได้ตำแหน่งแล้วยังมีสัญญาใจที่ให้ไว้กับอีกคน แล้วอีกไม่นานเขาก็คงมาทวงคำสัญญานั้น
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
Rrrrrr
เบอร์แปลกโทรเข้ามาให้ขณะที่พลอยกำลังนั่งเหม่อมองแม่ตัวเองบนเตียงคนไข้ มารินฟื้นแล้วและพ้นขีดอันตรายจากอุบัติเหตุ แต่ที่หาห่วงกว่านั้นคือโรคประจำที่พลอยไม่เคยรับรู้มาก่อน
“สวัสดีค่ะ”
‘คุณพลอยชมพูใช่มั้ยค่ะ’
“ใช่ค่ะ”
‘พรุ่งนี้สิบโมงเช้าเข้ามาที่บริษัทด้วยนะคะ ติดต่อที่ชั้นยี่สิบเอ็ด’
“ไปทำไมคะ”
‘เรื่องนั้นดิฉันไม่ทราบค่ะ ตกลงพรุ่งนี้สะดวกเข้ามามั้ยคะดิฉันจะได้ลงนัดไว้’
“สะดวกค่ะ”
‘พบกันพรุ่งนี้นะคะ สวัสดีค่ะ’
วันต่อหญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปในท็อปวันหลังจากการประกวดจบลงไปหนึ่งอาทิตย์ ทุกสายตายังคงจับจ้องเธอเช่นเดิมแล้วป้องปากซุบซิบนินทาไล่หลัง
“พลอย! พลอยจริงๆ ด้วย”
“อ่า...ค่ะ”
“ไปเถอะลิฟต์มาแล้ว” หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันจูงมือพลอย
ทั้งคู่ก้าวเข้าไปในลิฟต์แก้วท่ามกลางสายตาคนอื่นๆ โดยที่อีกคนไม่สนใจไม่แคร์
“เราชื่อมียูนะ”
“ค่ะ! คุณมียูรู้จักพลอยด้วยเหรอ”
“รู้สิ! มียูเชียร์พลอยมาตลอดนะ เสียเงินกดโหวตไปตั้งหลายพัน” เป็นธรรมเนียมไปแล้วกับการส่งข้อความเชียร์ศิลปินที่เราชื่นชอบ
“แล้วคุณมียูมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”
“มาซ้อมน่ะ เจอกันโอกาสหน้านะพลอย สู้ๆ”
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อถึงชั้นที่สาวแปลกหน้าต้องการ มียูก็ละตัวจากไป
พลอยชมพูติดใจในความน่ารักสดใสไม่ถือตัวของมายู และสายตากับท่าทีของมียูก็ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่มีต่อเธอ
ติ้งง!
ชั้นยี่สิบเอ็ดตามที่นัดหมาย
เมื่อพลอยชมพูย่างกายออกจากลิฟต์ก็มีสาวสวยจัดรีบวิ่งออกมาต้อนรับ ที่หน้าห้องทำงานของท่านประธานเธอเหลือบตาเห็นยุรนันท์คนเดิมกำลังหน้ายุ่งขมวดคิ้วมองมาที่ตนอย่างสงสัย
“เชิญทางนี้ค่ะคุณพลอย”
“สวัสดีค่ะ”
“คุณนาวารออยู่เชิญเลยค่ะ เอ๊ะ! มาคนเดียวเหรอ”
“ค่ะ” เธอตอบรับ
ก่อนหน้าที่เข้ามาประกวดก็เดินทางมาตึกนี้คนเดียวตลอดไม่เคยมีใครมาด้วย
“ไม่มีทนายมาด้วยเหรอคะ”
“พลอยไม่มีทนายค่ะ ต้องมีด้วยเหรอคะ” เด็กซื่อตาใสยังไม่รู้ชะตาตัวเอง
หญิงสาววัยสิบแปดย่างสิบเก้ากำลังก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว
“งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ เชิญด้านในดีกว่า”
หลังประตูบานใหญ่เป็นห้องทำงานของรองประธาน นาวานั่งยิ้มแฉ่งตามเดิมที่เคยทำ เขาดูมีความสุขและสนุกทุกครั้งที่ได้พบพลอยชมพู
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ นี้สัญญา! ถ้ามีตรงไหนสงสัยก็ถามได้เลยนะครับ จะแก้ตรงไหนก็ขีดปากกาไฮไลท์ไว้เดี๋ยวผมให้ทีมทนายดูแล้วมาตกลงกันอีกที แต่ถ้าไม่มีรบกวนเซ็นชื่อรับทราบกำกับทุกหน้า สัญญามีผลทันทีที่คุณลงนามเรียบร้อยแล้ว”
“อ่า...สัญญาอะไรหรือคะ”
“ก็อ่านดูเองสิ!” นาวาชี้มือไปที่เอกสารเย็บเล่มความหนาประมาณยี่สิบหน้ากระดาษวางคู่กับปากกาสวยหรู
“พลอยต้องเซ็นวันนี้มั้ยคะ”
“มีตรงไหนต้องแก้ล่ะ ถ้าไม่มากจนเกินไปเดี๋ยวผมสั่งทนายแก้ให้เลยจะได้เซ็นวันนี้”
“พลอยจะขอเอาไปศึกษาดูดีๆ ก่อน”
“จะทำงานกับเด็กบื้อก็ต้องเหนื่อยแบบนี้สินะ” นาวาถอนใจก่อนจะบ่นใส่ไปหนึ่งที
เขาเอ็นดูพลอยชมพูที่ใสซื่อไม่มีพิษไม่มีภัยแต่เพราะความซื่อใสนี้ก็น่าหงุดหงิดเช่นกัน จากนั้นจึงสั่งให้ทนายประจำฝ่ายกิจกรรมศิลปินมาอธิบายรายละเอียดในสัญญาคร่าวๆ
“เบี้ยเลี้ยงของคุณในฐานะtrainee (เทรนนี) เดือนละหนึ่งหมื่นสี่พันบาท แต่จะได้เบี้ยเลี้ยงก็ต่อเมื่อคุณไม่ทำผิดกฎบริษัท ไม่ขาดซ้อมด้วยเหตุอันไม่สมควร ไม่เผยแพร่ข้อมูลภายในแก่คนนอก ปฏิบัติทุกอย่างอย่างเคร่งครัดและทุกเดือนจะมีการทดสอบเพื่อประเมินว่าคุณผ่านหรือไม่ก่อนถึงจะสามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงได้”
“เดือนละหมื่นสี่”
“มันไม่ใช่เงินเดือนนะครับมันคือเบี้ยเลี้ยง ถ้าคุณขาดซ้อม ทำผิดกฎหรือสอบไม่ผ่านก็ไม่มีสิทธิ์รับ”
“กฎคืออะไรบ้างคะ”
“กฎระเบียบหน้าที่เจ็ดถึงหน้าสิบห้าเชิญศึกษาก่อนได้ครับ”
พลอยชมพูเปิดดูหน้าดังกล่าวมันมีกฎราวๆ เกือบห้าสิบข้อ สมองน้อยค่อยๆ อ่านดูทีละบรรทัดจนทนายเริ่มทนไม่ไหว
“ห้ามมีข่าวฉาว ห้ามมีเรื่องชู้สาวทั้งกับคนในและคนนอก ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่ยุยงยั่วยุทำให้แตกคอกัน ห้ามสิ่งเสพติดของมึนเมาทุกชนิด ห้ามสัก ห้ามเจาะบนร่างกายหรือผิวหนัง ห้ามขับรถ ห้ามโดยสารรถสาธารณะ ห้ามใช้ยาโดยไม่ผ่านแพทย์ของบริษัท ไม่ลา ไม่สาย ไม่ขาดซ้อม ข้อมูลภายในทั้งหมดห้ามเผยแพร่ผ่านทุกสื่อและทุกช่องทาง ทำตามที่พี่เลี้ยงแต่ละคลาสกำหนดหากมีพี่เลี้ยงฝ่ายใดแจ้งว่าคุณไม่ปฏิบัติตามเราจะเตือนด้วยวาจาก่อนสามครั้ง ครั้งที่สี่ออกใบเตือนและไม่จ่ายเบี้ยเลี้ยงของเดือนนั้น ครั้งที่ห้าเชิญออกพร้อมกับเรียกร้องค่าเบี้ยเลี้ยงที่เคยได้รับไปก่อนหน้าคืนพร้อมค่าปรับสิบเท่า มีผลบังคับใช้สิบสองเดือนหรือจนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุง...นี้ผมสรุปมาสั้นๆ ได้ใจความให้คุณแล้วนะมีตรงไหนสงสัยอีกมั้ย” ทนายร่างท้วมกลอกตามองบนทำหน้าอ่อนใจ ไม่เคยเจอเด็กคนไหนพูดยากเข้าใจยากเท่าพลอยชมพู
“ผมเน้นเรื่องฉาวตรงนี้เป็นพิเศษให้คุณเลยนะพลอยชมพู และผมก็เชื่อว่าคุณจะไม่ผิดกับข้อนี้” นาวากล่าวเสริม
เด็กฝึกส่วนใหญ่ไม่ว่าจะหญิงหรือชายหมดอนาคตเพราะข้อนี้กันทั้งนั้น
“ถ้าพลอยมาซ้อมทุกวันและไม่ทำผิดกฎพลอยก็จะได้เงินทุกเดือนใช่มั้ยคะ” คนคิดน้อยวางแผนชีวิตให้ตัวเอง
หากพลอยไม่ได้เรียนต่อและวุฒิมัธยมปลายของเธอก็ไม่น่าจะมีงานไหนจ่ายได้สูงกว่าการเป็นเทรนนีที่ท็อปวัน
“คุณคิดว่าจะผ่านการทดสอบได้ทุกเดือนเหรอพลอย พูดแบบนี้ดูถูกพี่เลี้ยงแต่ละคลาสในบริษัทผมนะ”
...
“ล้อเล่น! เบี้ยเลี้ยงไม่ใช่ใจความหลัก เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นเทรนนีไปตลอดหรอกถูกมั้ย ใครๆ ก็อยากเดบิวต์เป็นศิลปินกันทั้งนั้น”
“ตอนนี้พลอยไม่กล้าฝันแล้วค่ะ พลอยแค่เอาตัวเองให้รอดก่อนอย่างที่แม่เคยว่าก็พอ”
“งั้นจะรออะไรล่ะครับ เซ็นเลย!”
มือน้อยๆ จรดปากกาเขียนชื่อนามสกุล ‘นางสาวพลอยชมพู ภู่งาม’ ตัวบรรจงของตัวเองลงไป ก้าวเล็กๆ แต่แสนยิ่งใหญ่ เด็กสาวอ่อนต่อโลกภายนอกกำลังเข้าใกล้ความฝันของตัวเองเข้าไปทุกที