“อะไรนะคะ”
“ทางโรงพยาบาลเตียงไม่พอและคนไข้ก็พ้นขีดอันตรายแล้ว ก็คือไม่จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้วครับ หมอจะขอพื้นที่คืนและเชิญคนไข้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน”
“งั้นพลอยขอย้ายแม่ไปห้องพักพิเศษได้มั้ยคะ” เด็กดื้อหัวช้ายังไม่เข้าใจคำสั่งหมอ
พลอยชมพูต้องซ้อมทุกเจ็ดวันตลอดทั้งสัปดาห์ไม่มีวันหยุด เธอมาหาแม่ได้แค่ตอนเลิกคลาสเลยกังวลว่าหากแม่อยู่บ้านคนเดียวจะช่วยเหลือดูแลตัวเองไม่ได้
ใครจะหาข้าวหาปลาหายาให้ทาน เธอกังวลข้อนี้
“แม่คุณไม่ได้เป็นอะไรจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้”
“แต่แม่พลอยไม่มีแรง ลุกเดินไม่ไหว”
“เพราะเขาไม่ยอมกินไม่ยอมทำอะไร เขาป่วยที่ข้างในครับ ไม่ใช่ร่างกาย” แพทย์ประจำเคสตรวจดูอาการอย่างละเอียดดีจนมั่นใจ แน่นอนว่าโรคเบาหวานทำให้แผลหายยากแต่ถ้าคนไข้รักตัวเอง ควบคุมอาหาร ดูแลสุขภาพก็สามารถฟื้นตัวได้
“แม่คุณมีภาวะความเครียดสูงนะครับ ควรดูแลที่ใจเขามากๆ แต่ถ้าอาการเริ่มหนักผมแนะนำว่าควรพบจิตแพทย์”
“พลอยขอเวลาหมออีกนิดนะคะ ขอให้อาการแม่ดีขึ้นกว่านี้พลอยจะพาแม่กลับบ้าน”
“ผมให้ได้อีกแค่สองวันนะครับ ไม่ใช่แค่คุณที่รักและเป็นห่วงแม่คนเดียว ผู้ป่วยด้านนอกเขาก็อยากให้คนที่เขารักได้รับการดูแลรักษาเหมือนนะครับ มันเป็นจรรยาบรรณทางการแพทย์และผมกังวลว่าถ้าหากข่าวหลุดออกไปว่าผมมีส่วนกับสิทธิพิเศษที่คุณได้รับ คนเสียหายคือผม”
“สิทธิพิเศษอะไรคะหมอ...”
เด็กหัวช้าเกือบหลุดโมโห
แม่เธอป่วยจริง กินอะไรไม่ได้ไม่มีเรี่ยวแรงจะดูแลตัวเองก็เห็นๆ กันอยู่ แต่ทุกคนทำเหมือนพลอยกับแม่กำลังแสดงละครและเรียกร้องความสนใจ
หญิงสาวกำหมัดแน่นเม้มปากสนิท เริ่มมองภาพออกแล้วที่แม่ของเธออดทนทำงานหนักส่งให้เธอเรียนในที่ดีๆ เพื่อให้มีสังคมกับคนอีกระดับมันดีตรงไหน
ตรงที่คอนเนคชั่นมันเอื้อต่อกันได้ง่ายและภาษาที่คุยแล้วเข้าใจได้ทุกสถานการณ์ก็คือเงินและผลประโยชน์ร่วม
“ถ้าพลอยขอย้ายแม่ไปห้องวีไอพีล่ะคะ”
“อะไรนะครับ”
“ต่อให้มีคนไข้ล้นจนเตียงห้องรวมไม่พอ แต่ห้องวีไอพีก็ยังว่างอยู่ใช่มั้ยคะ” คนซื่อๆ ตรงๆ คิดอะไรแบบไม่มีชั้นเชิงขั้นตอนอยากรู้ข้อนี้
มันอาจดูไม่น่ารักในสายตาคนอื่นแต่หลายๆ อย่างก็ไม่น่ารักกับชีวิตพลอยชมพูเช่นกัน
“ถ้าคุณว่าอย่างนั้น งั้นก็เชิญไปติดต่อที่ห้องการเงิน”
...
ฮื้อออ!!!
ห้องพักฟื้นวีไอพีราคารวมค่าบริการขั้นต่ำต่อหนึ่งคืนเริ่มต้นที่หกพันห้าร้อยบาทไปจนถึงหนึ่งหมื่นหน่อยๆ
พลอยชมพูนับนิ้วมือนิ้วเท้าดูแล้วว่าเงินรางวัลกับเบี้ยเลี้ยงมันไม่พอดูแลแม่เลยสักนิด
ไอ้ครั้นจะพากลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านแล้วจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลก็ประหยัดไม่ต่างกันนัก
เด็กหัวช้านั่งระบายน้ำตาอย่างหมดหวัง ความคิดโง่ๆ อย่างเด็กที่ไม่เคยผ่านอะไรหนักๆ จินตนาการว่าตัวเองจะสามารถหาเงินหมื่นเงินแสนได้จากช่องทางไหนอีก
ทางเดียวที่เห็นว่าจะเป็นสิ่งที่พอทำได้คือบล็อกเกอร์ตามแพลตฟอร์มดังๆ พลอยถนัดเต้น ถนัดร้องเพลง เอาสิ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวันมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สุดสูงจะได้ไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม
ไอเดียล้ำความคิดประเจิดก็ลงมือทันทีเพราะภาระมันไม่เคยคอยท่า วันต่อมาคลิปเต้นสไตล์แท็บที่มียูเพื่อนเทรนนีสอนก็ลงเผยแพร่ให้โลกรู้
เด็กสาวช่างคิดช่างจินตนาการเพ้อฝันว่ามันต้องดังเป็นพลุแตกแล้วเดี๋ยวแฟนคลับก็ร้องขอให้เธอทำคลิปเต้นรูปแบบอื่นออกมาเรื่อยๆ
ไม่ต้องแย่งชิงโอกาสเพื่อเดบิวต์กับใครหากพลอยเป็น Youtuber Blogger Tiktoker ก็สามารถสร้างรายได้ไม่น้อยเช่นกัน หนทางรวยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...อีกแล้ว!
“คุณพลอยครับ! ขอรบกวนเวลาสักนิด”
“คะ!?” ทนายท้วมมีสีหน้าตึงเครียดคนเดิมเข้ามาเรียกในห้องพักผ่อนสำหรับเทรนนีหลังจากคลิปแรกที่พลอยชมพูอัปลงโซเชียลผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมง
“จำสัญญาได้มั้ยครับ”
“ข้อไหนคะ”
“ทุกข้อ”
“โห! พลอยจำไม่หมดหลอกค่ะ ใครจะไปจำไหว”
ทนายหน้านิ่งหยิบสำเนาสัญญาฉบับเดิมที่มีรอยเซ็นชื่อพลอยชมพูตัวเท่าหม้อข้าวหม้อแกง ลงลายมือกำกับทุกหน้ามาให้เจ้าตัวทบทวนอีกครั้ง
“จะให้พลอยอ่านอีกครั้ง...”
“ข้อที่สาม”
สรุปใจความหลักก็คือไม่เผยแพร่ความลับภายในบริษัทไม่ว่าช่องทางใดโดยไม่รับการอนุญาตเด็ดขาด
แต่! ยัยเด็กบื้อยังกะพริบตาปริบๆ
“คลิปที่คุณเต้นในห้องซ้อมเต้นที่คุณลงเมื่อยี่สิบสี่ชั่วโมงมียอดวิวทั้งหมดหนึ่งร้อยสองวิว ก่อนจะอัปลงคุณได้ขออนุญาตทีมงานหรือยังครับ”
“อ๋อ...พลอยซ้อมเต้นอยู่คนเดียว ถือเป็นความลับด้วยเหรอคะ”
“ทุกพื้นที่ในท็อปวันคือทรัพย์สินของบริษัท คุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ฉะนั้นการอัดคลิปที่ติดภาพบรรยากาศภายในห้องซ้อมในวันที่คุณมาซ้อมตามสัญญาที่ตกลงกันถือว่าผิดเต็มๆ ครับ”
“มีแบบนี้ด้วยเหรอคะ...” เด็กน้อยพยายามแก้โจทย์ยากๆ ที่ทนายเอวหนาพูดมายาวเหยียดเมื่อกี้
หมดกันที! เส้นทางสู่บล็อกเกอร์ด้านเต้นและร้อง
“พลอยไม่รู้จริงๆ ค่ะ พลอยจะลบคลิปออก”
“ตอนนี้ช่องคุณโดนแบนเรียบร้อยครับ แต่ปัญหาก็คือเราจะรู้ได้ยังไงว่ามีใครบันทึกคลิปนั้นไปบ้าง มันอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของท็อปวันในอนาคต”
“เดี๋ยวก่อนนะคะ คลิปนั้นมีคนดูร้อยกว่าครั้งเองและพลอยก็ไม่มีเจตนาเผยแพร่ความลับใดๆ ด้วย มันมีแค่พลอยที่เต้นกับกระจก...เท่านั้นเองนะคะ”
“ครับ! ทั้งภาพและเสียงทั้งหมดในคลิปนั้นเป็นทรัพย์สินของบริษัทและเหนือกว่านั้นคุณก็ลงนามกำกับทุกหน้ากระดาษว่ารับทราบแล้วด้วย คุณน่ะ! อายุเกินสิบแปดปีถือว่ามีวุฒิภาวะระดับหนึ่งแล้ว การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ใช่ข้อโต้แย้งที่ฟังขึ้นนะครับ กฎข้อนี้ร้ายแรงมาก ตามหน้าที่ของผมแล้ว ผมสามารถเสนอท่านประธานขอยกเลิกสัญญาและฟ้องร้องได้เลย”
“ฮะ...” เรื่องน่ากลัวอีกเรื่องกำลังถล่มสาวน้อยพลอยใส หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง หมดสิ้น!
“ตอนนี้ผมมาแจ้งให้คุณรับรู้ก่อน หลังจากนี้หากมีประเด็นหรือความคืบหน้าใดๆ อีกผมจะติดต่อกลับมานะครับ”
“ค่ะ...”
นางสาวพลอยใสขยันสร้างเรื่อง Talk of the town ให้คนอื่นซุบซิบนินทาตั้งแต่เอาตัวเองเข้ามาที่นี่
เธอเห็นสายตาและกิริยาที่คนอื่นปฏิบัติต่อเธอแล้วก็ผลาญพลังชีวิตตัวเองลดลงไปด้วย
ไม่มีใครชอบหน้าพลอยชมพู ทุกคนดูแคลนและหมั่นไส้ เธออึดอัดกับทุกวันที่ซ้อมร้องและเต้นคนเดียว แม้แต่มียูก็หายหน้าไปเลยตั้งแต่วันนั้น
“สีหน้าไม่ดีเลยพลอย เหนื่อยเหรอ”
“ค่ะแม่”
“โดนใครรังแกมาล่ะสิ”
“ทุกคนบนโลกนี้เลยค่ะ ใครๆ ก็เกลียดพลอย”
แม่เป็นคนเดียวให้พลอยพักและเติมพลังใจ แต่เธอก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองต้องเข้มแข็งและพิสูจน์อะไรๆ อย่างหลายให้แม่ดูเช่นกัน
“ไม่มีใครรักใครอย่างบริสุทธิ์ใจโดยไม่มีข้อแม้หรอกนะ ขนาดแม้ยังหวังเลย แม่เลี้ยงลูกมาก็ยังคาดหวังว่าลูกจะเติบโตเป็นไปอย่างที่แม่ต้องการ ทุกอย่างมันคือการแลกเปลี่ยนทั้งนั้นแหละพลอย ไม่มีใครให้อะไรใครฟรีๆ หรอกนะ จำไว้”
“แต่แม่ก็ไม่ได้ต้องการอย่างอื่น ความหวังของแม่คืออยากให้พลอยสุขสบาย” นี้คงเป็นรักเดียวเท่านั้นที่บริสุทธิ์และจริงใจที่สุดบนโลกนี้
“ชีวิตก็อย่างนี้แหละพลอย ทุกคนดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดโดยไม่สนหรอกว่าวิธีการจะเป็นแบบไหน ถ้าพลอยเห็นช่องทางที่ทำให้ตัวเองได้ดั่งใจพลอยจะไม่ทำเหรอ ชีวิตคนเรามันสั้นนักนะ และชีวิตแม่ก็คงเหลืออีกไม่มาก แต่พลอย...ลูกจะสู้คนเดียวไหวใช่มั้ย”
“ไม่ไหว...” ลูกสาวตัวน้อยระบายน้ำตา
เธอทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อแม่เพื่อความฝัน หากวันหนึ่งแม่ไม่อยู่แล้วต่อให้ทำฝันสำเร็จก็ไม่มีความหมาย
เธอจะฉลองความสุขความสมหวังกับใคร ทั้งชีวิตก็มีแค่แม่คนนี้
“เดินหน้าเพื่อฝันของลูกไม่ต้องห่วงแม่ ไม่ว่าแม่จะอยู่บนสวรรค์หรือนรกก็จะเฝ้ามองดูความสำเร็จของลูกเสมอนะ”
มารินรับรู้ปัญหาของลูกสาวแม้จะไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด คนที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาหลายสิบปีย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่พลอยกำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชีวิตมันไม่เคยง่ายและปรานีคนจนแต่กลับเอื้อประโยชน์ให้คนรวยมีชีวิตอย่างสุขสบายต่างกันฟ้ากับเหว
“พลอยทำไม่ได้ พลอยทำคนเดียวไม่ได้...ฮื้อ!” น้ำตาพรั่งพรูอาบไหลพวงแก้มเด็กน้อยด้อยประสบการณ์และภูมิต้านทานทางชีวิต สิบแปดหนาวย่างเข้าปีที่สิบเก้ามันช่างหนักหนา
“ไปหาคุณมานพนะพลอย ไปขอให้ท่านเมตตา”
“แม่...”
“ทนบำเรอตัณหาไอ้แก่บ้ากามนั่นไม่นานเดี๋ยวมันก็ตาย ระหว่างนั้นพลอยก็กอบโกยเอาสมบัติของมันมาเก็บไว้เยอะๆ พอมันตายพลอยก็จะได้สุขสบายไม่ต้องลำบากแบบนี้”
“แต่ว่าพลอย...”
“อย่าโง่! อย่างแกเหรอจะเป็นนักร้องดัง ตักน้ำใส่กะโหลกดูสภาพตัวเองหน่อยเถอะ อย่างเก่งก็แค่นักร้องตามร้านอาหารแต่งตัวโป๊ๆ เต้นยั่วๆ รอเศษเงินจากคนดูทิปทีละร้อยสองร้อยเท่านั้นแหละนางพลอย แกจะโง่แบบฉันเหรอที่สิ้นคิดมาเอาคนจนอย่างพ่อของแก อายุสั้นชิงตายก่อนแล้วทิ้งภาระโง่ๆ แบบแกให้ฉันเลี้ยงดูคนเดียวอีกฮะ อีโง่!” อาการป่วยจากโรคเครียดทำให้มารินด่ากราดใส่ลูกสาวเสียงดังไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมจนคนตกใจรวมไปถึงพลอยที่เห็นอาการรุนแรงของแม่อีกครั้งในชีวิต
“แม่...”
“ลูกกูไม่โง่แบบนี้ ลูกกูต้องเก่ง ฉลาดและเลี้ยงกูให้อยู่สุขสบายได้ ไม่ใช่มึง!!!”
พยาบาลเข้ามากันตัวญาติคนไข้ออกจากห้องพักรวมเพื่อไม่ให้ส่งเสียงรบกวนท่านอื่นๆ รอให้ผู้ป่วยสงบลงแล้วก็หมดเวลาเยี่ยมเสียแล้วคืนนี้