ตุ๊กตาของท่านประธาน # 12

1481 Words
“งั้นพลอยก็สมควรจะได้ออดิชั่นใช่มั้ยคะ” “คนตัดสินใจคือฉัน ทำให้ฉันเห็นหน่อยสิว่าเธอคู่ควร ไม่ใช่เส้นสายของไอ้นาวาที่พาเธอมาถึงตรงนี้” “ใบคะแนนนั่นใช้ไม่ได้เหรอคะ พลอยตั้งใจฝึกฝนและผ่านการทดสอบทุกคลาส” “แต่เธอจะไม่ผ่านการประเมินของฉันวันนี้ เรื่องง่ายๆ แบบนี้มองไม่ออกเหรอ” “คุณวสุตัดสิทธิ์เพราะไม่ความไม่พอใจส่วนตัว” “แล้วความพอใจส่วนตัวแบบที่เธอทำกับไอ้นาวากับพ่อของฉันมันเป็นยังไงล่ะ แสดงให้ดูสิเผื่อฉันจะเปลี่ยนใจ” วาวสุพูดกับเธอว่า “ทำให้ฉันเห็นสิว่าเธอสมควรได้รับสิทธิ์เดบิวต์” บทสัมภาษณ์ไม่รู้มาอีท่าไหนประธานบริษัทท็อปวันถึงได้เข้ามาใกล้พลอยชมพูจนเด็กสาวได้กลิ่นน้ำหอมของบุรุษเพศที่บริเวณแอ่งกระดูกไหปลาร้า “ใบคะแนนของพลอยไงคะ...พลอยตั้งใจทุกคลาส มันไม่มีความหมายเหรอคะ” หญิงสาวตัดพ้อ เธอสู้อดทนฝึกฝนอย่างหนักแต่มันใช้ไม่ได้งั้นหรือ “ศิลปินต้องมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตน ท่ายืนของเธอยังหลังงอห่อไหล่ไม่กล้าสบตาใคร อย่างดีก็เป็นได้แค่นักร้องBackup” “พลอย...” หญิงสาวทำใจกล้าช้อนตาขึ้นมองใบหน้าประธานท็อปวันในระยะประชิด เพิ่งมีเคยเห็นมันใกล้ๆ ว่านัยน์ตาเขามันเป็นสีถ่าน ดำสนิท ดูลึกลับและน่าพิศวง “เธอขาดคุณสมบัติที่จะเป็นไอดอล” “พลอยจะพยายามพัฒนาตัวเองต่อไปอีก” “พัฒนาด้านไหนล่ะ เสน่ห์งั้นเหรอ แค่นี้ทั้งพ่อฉันทั้งไอ้นาวาก็หลงจะแย่แล้วมั้ง แต่ขอโทษนะ! ฉันคือคนที่มีอำนาจเซ็นอนุมัติว่าใครสมควรได้เดบิวต์” “แล้วพลอยไม่สมควรตรงไหน คุณวสุจะใช้อำนาจตัดสิทธิ์พลอยเพราะเรื่องพวกนั้นเหรอคะ มันไม่ยุติธรรมเลย” เรื่องที่ผ่านมาคือความผิดพลาดแต่ผลงานของพลอยก็ชัดเจนว่าเธอสมควรได้เดบิวต์ หากเธอไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวใบคะแนนคงไม่ออกมาผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานที่ค่ายกำหนดไว้ “ฉันมีอำนาจฉันก็ต้องใช้ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เธอเองก็ใช้สารพัดวิธีเพื่อเข้าถึงผู้มีอำนาจนำพาเธอมาถึงตรงนี้ ยังกล้าเรียกร้องความยุติธรรมอะไรอีกเหรอ หน้าไม่อายเลยนะ” คนฟังชาไปทั้งร่าง มันจริงที่เธอกระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่อขอโอกาสแต่เธอก็ใช้ความมานะบากบั่นและความสามารถของตัวเองเข้าสู้ด้วยอีกแรง ใช้ว่าเส้นสายและความเมตตาอย่างเดียวเท่านั้น “แล้วพลอยต้องทำยังไงคะ...” “กับพ่อฉันและไอ้นาวาเธอทำยังไงล่ะ อย่าบอกว่าแค่ทำตัวน่าสงสารกับน้ำตาคลอเฉยๆ นะ” ปกติเขาไม่เคยสนใจพลอยชมพูสักนิดออกจะรังเกียจเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมไอ้นาวาถึงพยายามผลักดันพลอยชมพูนัก พ่อเขาเอ็นดูลูกสาวของอดีตพยาบาลพิเศษคนนี้จัง คอยถามถึงตลอด ยัยเด็กหน้าซื่อตาใสมีดีอะไรนักหนา “แบบนี้เหรอ! วิธีที่ทำให้พวกนั้นหลง” “พลอยเปล่านะคะ คุณวสุ...” มือหนานุ่มใหญ่กว่าหน้าพลอยชมพูเชยคางมนเด็กน้อยประสบการณ์ขึ้นและอยู่ใกล้กันจนลมหายใจรดพวงแก้ม ใบหน้าซีดเหลืองของหญิงสาวเริ่มเห่อร้อนจนเหมือนคนเป็นไข้ ก้อนในอกข้างซ้ายเต้นโครมครามจนชายหนุ่มยกยิ้ม เธอดูเหมือนลูกแกะตัวน้อยๆ ที่แสนบอบบางอ่อนแอเสียจริง มิน่าล่ะ! ไอ้นาวามันถึงใจป้ำควักเงินดูแลทั้งแม่ทั้งลูก “ทำได้ดีนี้! พลอยใส...” ดวงตากลมโตสั่นระริกและก็วาววับด้วยน้ำใสเอ่อคลอ เธอมองเขาด้วยความประหม่าแต่เขามองเธอด้วยอาการจับผิด ถ้าเธอใสซื่อไม่ประสีประสาจริงๆ ก็คงถอยห่างหรือหลบตาไปแล้วแต่กลับนิ่งเฉย ยิ่งเขาเข้าใกล้และโน้มใบหน้าลงมาก็ยังคงไม่ผลักไส เห็นตัวสั่นๆ แบบนี้ไม่ใช่สั่นกลัวแต่คงเป็นสั่นสู้สินะ จุ๊บ! บทสัมภาษณ์จบลงเมื่อกลีบปากหยักประกบลงไปแผ่วเบาเชื่องช้า มือหนาเลื่อนขึ้นมาประคองแก้มเห่อร้อนจนวสุรับรู้ได้ชัด เขาเริ่มดึงรั้งริมฝีปากล่างของพลอยแล้วใช่นิ้วโป้งกดปลายคางให้เธอเผยอปาก ถ้าพ่อและพี่ชายเขาหลงขนาดนี้แสดงว่าแม่พลอยใสนี้ก็ต้องร้ายกาจไม่เบา ช่วยแสดงให้ดูเป็นบุญตาหน่อย อื้ออ... ลิ้นฉ่ำน้ำกำลังจะสอดแทรกกลีบปากบางๆ แต่หญิงสาวเหมือนสะดุ้งตื่นจากภวังค์ พลอยรีบเม้มปากปิดแล้วยันร่างหนาแต่ตัวเองกลับหล่นฮวบ พรึ่บ! “ไม่ได้เรื่อง!” เขาถอยหนีจากหญิงสาวนั่งกอดเข่า ตัวสั่นเทาน้ำในตาเอ่อล้น แสดงเก่งจนน่าจะจับไปเล่นละครมากกว่ามาเดบิวต์เป็นนักร้อง “ทำไมคุณ...” “ออกไปซะ” “แต่พลอย...” กลัวจะเกิดเรื่องบ้าๆ อีกแต่เรื่องออดิชั่นก็เป็นสิ่งที่เธอละทิ้งไม่ได้ ยังมีทางไหนที่พลอยจะพัฒนาได้อีกเธอพร้อมที่จะพิสูจน์ให้เห็น “หรือว่าเพราะเมื่อกี้...” “ไร้สาระ! Performance เธอไม่ผ่าน แบบนี้เหรอจะเป็นศิลปินได้” คนกระทำไม่รู้เหมือนกันว่าบทสัมภาษณ์มันกลายเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร แต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็จะไม่ได้เดบิวต์เพราะเธอขาดคุณสมบัติอีกตั้งเยอะแยะ “พลอยตรงปรับปรุงตรงไหนอีกคะคุณวสุ พลอยจะรีบแก้ไขเปลี่ยนตัวเองให้เร็วที่สุด” “การคัดเลือกมันจบวันนี้ เธอไม่ผ่าน” “งั้นพลอยจะไปขอร้องคุณนาวา” “เฮอะ...!! ลืมแล้วเหรอว่าฉันคือประธาน” แม่เด็กจอมทะเยอทะยานดื้อด้านหัวรั้นแต่เอาแต่ใจ พลอยชมพูไม่ฟังอะไรอีกแล้ว เธอวิ่งออกนอกห้องท่านประธานไปหาท่านรองทันที บรรยากาศในท็อปวันแลดูตึงเครียดขึ้นอีกเมื่อประธานกับรองกำลังเล่นสงครามเย็นกันไม่เว้นแต่ละวัน แม้สุดท้ายแล้วอำนาจตัดสินจะขึ้นอยู่ที่วาวสุแต่นาวาก็สามารถทำให้ขั้นตอนการคัดเลือกรอบสองนี้ยืดเยื้อออกไปอีก พลอยชมพูเข้าเรียนการแสดงและพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นสาวคนใหม่ตามที่เอ่ยขอ เธอเรียนรู้วิธีการแต่งหน้า ฝึกเดินบนส้นสูง วิธียืน,เดิน,นั่งรวมไปถึงการโพสท่า และนำเสนอมุมเด่นเพื่อหลบมุมด้อย “หกสิบห้าเต็มร้อยถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าจะเดบิวต์ต้องแปดสิบห้าคะแนนขึ้น” “โอ้โห...” เธอไม่รู้ว่าต้องปรับตรงไหนเพื่อเพิ่มอีกยี่สิบคะแนนที่ขาดหาย ระหว่างทดสอบก็ตั้งใจทำตามตำราเป๊ะ! “ทำให้เป็นกิจวัตร” “คะ!?” “ถ้าตอนนั่งยังหลังงอ ตอนยืนยังคอตก เวลาเดินยังไหล่ห่อ เวลาคุยก็ไม่สบตาใคร แต่งตัวมาซ้อมเหมือนใส่ชุดตัดอ้อยชาตินี้ก็ได้เท่านี้แหละ” Class performance คือคลาสที่ประเมินจากบุคลิกตั้งแต่แรกเจอ หากพลอยยังไม่เปลี่ยนรูปแบบตัวเองให้เป็นกิจวัตรเธอก็ไม่มีทางเหมาะสมสำหรับการเป็นศิลปิน “ผมยื้ออีกไม่ได้แล้วนะพลอย ทีมงานเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว เหลือแค่เอาตัวคนไปจับยัด” ทีมเขียนเพลงเสร็จ ทีมแดนเซอร์พร้อม ทีมโปรโมต ทีมคอสตูม ทีมดูแลศิลปินพร้อมหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน ขาดก็แค่ชะนีตรงคอนเซ็ปมากความสามารถมาลงตำแหน่ง ร้อง เต้น เล่นและสวย นาวาหันมองเด็กปั้นของเขาแล้วก็กังวลใจไม่น้อย พลอยชมพูหลุดคอนเซ็ปต์เกิร์ลกรุปวงนี้แบบเทียบไม่เห็นฝุ่น “พลอยต้องทำยังไงคะ” “ทุกอย่าง! การแข่งขันมันสูงมาก ทุกทางที่ทำแล้วคุณจะได้ออดิชั่น ต่อให้ต้องผลักคนอื่นตกบันไดคอหักตายแล้วได้ที่ว่างนั้นมาคุณก็ต้องทำ” “พลอยทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ” “เห้อ..! ถ้าทำแบบนั้นได้ก็เตรียมเข้าคุกเถอะ ไม่ได้เดบิวต์หรอก ยัยเด็กบื้อ!” ความซื่อเป็นสิ่งดีแต่ก็น่ารำคาญชะมัดยาด นี้แหละหนา! การคบหาเด็กสร้างบ้าน “...” “อีกสามวัน! เด็กที่ผ่านการออดิชั่นจะถูกคัดเหลือคนเดียวเพื่อไปรวมกับอีกสามคนที่รออยู่ก่อน ผมจะทำเต็มที่ในวิธีของผม ส่วนคุณก็ต้องเต็มที่ในวิธีของคุณด้วยนะ แล้วถ้าคราวนี้ไม่ติดก็จะต้องรอรอบหน้าซึ่งคาดว่าอีกสามปี ผมไม่จ่ายค่าห้องให้แม่คุณนานขนาดนั้นหรอกนะ พลอยชมพู” “พลอยจะพยายามเต็มที่คุณนาวา” โอกาสสุดท้ายของนักล่าฝัน และความกดดันก็มากมายมหาศาลเสียเหลือเกิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD