“ไฮพี่วสุ!”
“สวัสดีค่ะคุณวสุ”
“สวัสดีครับทุกคน”
สไปร์ทกล่าวทักประธานบริษัทอย่างคุ้นเคย ตามมาด้วยพนักงานคนอื่นๆ กล่าวทักพร้อมกับค้อมศีรษะลงตามๆ กัน
หนึ่งในนั้นมีพลอยชมพูด้วย
วันนี้วาวสุมาดูการถ่ายทำมิวสิควิดีโอของวงบาร์บี้ดอลล์กับซิงเกิ้ลแรก
แนวเพลงป๊อปแดนซ์ฟังง่ายเข้าใจง่าย ท่าเต้นสามารถเต้นตามได้ เป็นเพลงเปิดตัวที่เน้นเสิร์ฟความสดใสร่าเริง ผนวกกับ CG อลังการทุนสร้างแพงเว่อร์วัง
“เป็นไงกันบ้าง”
“เรียบร้อยดีครับ เดี๋ยวถ่ายฉากเดี่ยวอีกนิดหน่อยแล้วส่งให้ทีมซีจีเอาไปตัดต่อ รับรองว่าเสร็จทันตามกำหนดแน่นอนครับคุณวสุ”
“ดีมาก” ประธานหนุ่มแวะมาดูการทำงานเป็นครั้งคราว เพราะเขาถือคติเป็นเจ้านายต้องทำงานเป็นตัวอย่างให้พนักงานดูและเข้าถึงง่าย ลูกจ้างถึงจะเคารพด้วยใจไม่ใช่ตำแหน่งหัวโขนที่สวมใส่
เพียงแต่ยังเว้นระยะห่างและไม่ลดตัวลงไปสนิทสนมกับพนักงานมากนักแบบพี่ชายต่างมารดาอย่างนาวา
สายตาของประธานท็อปวันสอดส่ายมองดูการทำงานของบรรดาพนักงานไปเรื่อยไม่ได้เจาะจง
แต่แล้วก็มาสะดุดเข้ากับสาวสวยร่างบางผิวสีน้ำนมเส้นผมสีบรอดทอง เธองดงามราวกับเทพธิดาลงมาจุติ เหมือนตุ๊กตาที่ได้รับพรวิเศษให้มีชีวิตบนโลกมนุษย์
ทุกๆ การขยับตัวของเธอราวกับสโลว์โมชั่นในหนัง
ออร่าเปล่งประกายโดดเด่นท่ามกลางช่างไฟและช่างแต่งหน้า รอยยิ้มของเธอทำให้เขามองจงลืมกะพริบตาไปแล้ว
“คุณวสุจะอยู่ดูการถ่ายทำก่อนมั้ยครับ”
“เอาสิ” วาวสุตอบรับ
เขามัวยุ่งอยู่กับโปรเจ็คสองวงเกิร์ลกรุปที่มีแพลนจะเปิดตัวไล่ๆ กันจนลืมพลอยชมพูไปเสียเลย และเมื่อมีโอกาสได้เจอเธออีกครั้งในคราวนี้ เขามองแม่เด็กจอมทะเยอทะยานคนนั้นจนตาค้าง
สวย น่ารักตามคอนเซ็ปต์ตุ๊กตาจากโลกในจินตนาการแต่เธอก็ยังเป็นเด็กใฝ่สูงที่ยอมทุกอย่างเพื่อความฝันอยู่ดี
“ทุกคนประจำตำแหน่ง”
“บาร์บี้ดอลล์ซีนห้าเทกหนึ่ง แอ็คชั่น!”
ดนตรีเปิดคลอเป็นท่อนที่เมนโวคอลได้โชว์ศักยภาพลูกคอขั้นเทพพอดี
วาวสุมองหญิงสาวผ่านจอมอนิเตอร์เล็กๆ แล้วแทบหยุดหายใจ
“คัท! โอเคครับ เก่งมากทุกคน”
การถ่ายทำจบอย่างง่ายดายและรวดเร็วเสียจนชายหนุ่มไม่อยากกลับขึ้นไปชั้นยี่สิบเอ็ดปฏิบัติหน้าที่ตัวเอง เขามองความวุ่นวายขณะกองเลิกและหญิงสาวที่เพิ่งทำให้เขาตาค้างหลายครั้งในเวลาเพียงสั้นๆ
ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าเธอสวย น่ามอง ดูโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนและแตกต่างไปเป็นคนละคนจนกระทั่งเขาก็ละสายตาไม่ได้
ไม่แปลกเลยที่ค่ายของเขาทำสัญญาร่วมกับศูนย์ความงาม เป็นสปอนเซอร์หลักสนับสนุนการแปลงโฉมศิลปินให้หล่อสวยสะพรั่งดูดีทุกคน
“ไหนๆ คุณวสุก็อยู่ตรงนี้แล้ว ช่วยอยู่เป็นเกียรติให้น้องพลอยสักหน่อยได้มั้ยครับ” หนึ่งในทีมงานมากระซิบ
“เกียรติเรื่องอะไร”
“วันนี้วันเกิดน้องพลอยครับ”
“ฮะ!?” ประธานหนุ่มอึกอัก
เขาไม่เคยมีส่วนร่วมในการเซอร์ไพรส์ศิลปินคนไหน และคิดว่าคงไม่เหมาะสมโดยเฉพาะกับแม่เด็กเส้นใหญ่เย็นตาโฟคนนี้
มีก็แต่ไอ้นาวาที่หมั่นทำหน้าที่สนับสนุนกิจกรรมศิลปินได้อย่างดีเยี่ยม
“แฮปปี้เบิร์เดย์ทูยูว...”
รองประธานคนหน้าทะเล้นเดินถือเค้กร้องเพลงนำ ตามมาด้วยพนักงานอีกหลายๆ ร้องตามและปรบมือ
คนถูกเซอร์ไพรส์ยังไม่รู้เรื่อง พลอยชมพูยืนร้องและปรบมือตามไปด้วย ไม่คิดว่าทั้งหมดนี้เพื่อตัวเองด้วยซ้ำ
“ของพลอยเหรอคะ”
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทู...พลอย”
ฮิ้ววว!
ทีมงานสตาฟเอ็นดูแม่หนูที่เจียมตัวเจียมตนไม่เคยใช้อำนาจเด็กเส้นตามที่คนนินทามาชี้นิ้วสั่งใคร
พลอยยังเป็นเด็กที่พูดน้อยไม่ก้าวร้าวหรือแสดงกิริยาไม่น่ารัก ทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่เคยถือว่าเป็นศิลปินแล้วยกตนข่มสตาฟ เวลาเจอผู้ใหญ่ก็จะค้อมศีรษะและยกมือไหว้ทุกครั้ง
จากเด็กเส้นใหญ่เย็นตาโฟที่ใครๆ ต่างเหม็นหน้ากลายเป็นที่รักของพนักงานทุกระดับตั้งแต่แม่บ้านยังท่านรอง
“อ้าว! วันนี้ซีอีโอให้เกียรติมาดูการทำงานด้วยเหรอครับเนี้ย ผมเพิ่งเห็น” นาวาแซะ
เขาทำตัวสนิทกับพนักงานทุกระดับเพื่อให้ได้คะแนนนิยม ตำแหน่งประธานใหญ่และมีอำนาจสูงสุดคือสิ่งที่นาวาพยายามเอาจากวาวสุให้ได้
แต่เจ้าตัวก็นิ่งเฉย
เขาต้องลดตัวไปต่อปากต่อคำกับนาวาทำไมในเมื่อเขาและมันต่างระดับชั้นกัน
“ไหนๆ ก็มาแล้วงั้นช่วยอวยพรวันเกิดเป็นเกียรติให้ว่าที่ศิลปินของเราหน่อยแล้วกันนะครับ”
“ไม่ต้องก็ได้มั้งค่ะ” หญิงสาวเย็นแผ่นหลังวูบ
พลอยชมพูขออยู่ห่างๆ จากผู้ชายคนนี้ดีกว่า คำอวยพรหรือสิ่งใดก็ไม่ต้องการรับทั้งนั้น
“เอาน่ะพลอย!” นาวาดันหลังหญิงสาวให้เข้าใกล้
หากประธานใหญ่มีข่าวฉาวกับเด็กในค่ายบ้างก็คงลดความน่าเชื่อถือไปได้เยอะ
“เอาสิ! ผมขอให้คุณสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดสมปรารถนา และประสบความสำเร็จทุกประการตามที่ตั้งใจไว้ ตราบใดที่ยังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องและเหมาะสม”
“ขอบคุณนะคะ” พลอยชมพูยืนตัวเกร็งเหนื่อยแตกชุ่ม
เป็นคำอวยพรที่แสนเยนยะเยือกและไหนเลยเธอกลับมีหยดเหงื่อผุดพราวเต็มกรอบหน้า
“ช่างแต่งหน้าซับแป้งให้พลอยหน่อย ผมขอภาพประธานอวยพรวันเกิดให้กับศิลปินสักเฟรมนะครับ”
“อะไร นะคะ” ทีมงานหลายคนแหวกตรงกลางให้ประธานและศิลปินหญิงยืนอยู่กันสองคน
คนที่ไม่รู้ว่ามีอะไรในกอไผ่ก็เห็นความอบอุ่นเป็นกันเองของซีอีโอหนุ่ม ส่วนคนรู้ดีอย่างนาวาก็พยายามสุมกองฟางเส้นบางๆ ทีละเส้น รอให้วันหนึ่งมีเชื้อเพลิงลอยมาตกจะได้มอดไหม้วอดวายฉิบหายไปทีเดียวให้หมดพร้อมๆ กัน