ปฐมบท บุปผาดอกน้อยแยกย้ายเบ่งบาน1

1208 Words
เมื่อดอกไม้ผลิบานในใจ ความรักสุกงอมเต็มที่ ก่อเกิดสายใยในสัมพันธ์จนแนบแน่น ชายหญิงคู่หนึ่งจึงถึงคราวได้แต่งงานกันเสียที คำมั่นสัญญารักเดียวใจเดียวที่เจ้าบ่าวกล่าวไว้ในคืนมงคลนำพาความสุขล้นให้แก่คนเป็นเจ้าสาวอย่างท่วมท้นล้นหัวใจ ชีวิตหลังแต่งงานราบรื่นไร้ที่ติ สามีภรรยารักใคร่ปรองดอง ครองคู่หวานชื่นเนิ่นนาน กระทั่งมีลูกด้วยกันถึงสองคน ความรักของพวกเขาเปี่ยมล้นด้วยความสุขและสงบ ทว่าน่าเสียดายที่สุดท้ายความสุขสงบนั้นต้องจบลง เนื่องจากฝ่ายสามีจำต้องเดินทางไปทำงานแดนไกล และเมื่อชายผู้หนึ่งแม้รักมากมายแต่ต้องห่างหายจากภรรยาและลูกๆ ที่น่ารักนานนับปี กลับอดทนข่มกลั้นกับความยั่วยวนของความงามสดใสจากหญิงต่างแดนไม่ไหว เขาลักลอบสานสัมพันธ์กับโฉมสะคราญอย่างลับๆ จนแอบมีลูกชายด้วยกันอยู่นอกเรือนก่อนตัดสินใจพากันมายอมรับความผิดกับภรรยาร่วมผูกผมในวันนี้ แต่การจะบอกว่ายอมรับผิดกับภรรยาอาจไม่ถูกนัก เพราะหากจะบอกว่ารู้สึกผิดกับอนุนอกเรือนจึงพาอีกฝ่ายมาหยามภรรยาถึงในจวนย่อมถูกต้องมากกว่า คนเป็นภรรยาคิดเช่นนั้น เนื่องจากตลอดเวลาที่สนทนาปัญหาหลังเรือน ฝ่ายภรรยาสังเกตเห็นสายตาสามีที่บ่งบอกว่าเห็นอกเป็นใจและละอายใจนั้น ล้วนตกอยู่บนเรือนร่างอันบอบบางยวนตาชวนทะนุถนอมของอนุคนงาม แต่ยามมองมาที่ภรรยาคนนี้กลับมีแต่สายตาแห่งความผิดหวัง “รั่วหลาน เจ้าร้ายกาจนัก ไฉนต้องทำร้ายเจียซิน” สามีถามขณะตระกองกอดอนุนอกเรือน กัวรั่วหลาน ยืนมองหน้าสามีด้วยหัวใจร้าวราน เขาไม่ใช่หลินหานเจ๋อคนเดิมของนางอีกต่อไป คิดพลางแค่นเสียงเยียบเย็น “หากข้าร้ายกาจจริง คงสังหารอนุของท่านไปแล้ว ไหนเลยจะเมตตาเพียงตบหน้าแค่ไม่กี่ฉาด รีดเค้นเลือดชั่วไร้ยางอายออกมาแค่ไม่กี่หยด” หลินหานเจ๋อประคองร่างอ้อนแอ้นของถานเจียซิน ที่กำลังสั่นเทาเพราะขลาดเขลาจนหวาดหวั่นไปหมดด้วยสองแขนของตนที่อบอุ่น ท่วงท่าพร้อมปกป้องตลอดเวลา “หากเจ้าโกรธก็ควรมาลงที่ข้า จะตีจะต่อว่าล้วนทำต่อข้าได้ทั้งสิ้น เจียซินไม่ควรต้องมารองรับโทสะนี้ของเจ้า” ถานเจียซินเงยหน้ามองหลินหานเจ๋ออย่างซาบซึ้งใจ “ท่านพี่ ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ทุกสิ่งเป็นข้าผิดเอง พวกท่านอย่าผิดใจกันเพราะข้าไปมากกว่านี้ ข้ายินดีกลับออกไป” นางกล่าวเสียงหวานราวนกขมิ้นบินมาสะกิดอย่างนุ่มนวลเพื่อเปิดทางให้คนได้พบแสงสว่างยามกำลังประสบพบปัญหาปิดกั้นเสมือนหุบเขาอันรกทึบมืดดำไร้ซึ่งทางออก ชายหนุ่มหันมอง ดุเสียงทุ้มนุ่ม “ไม่เป็นไรได้อย่างไร เลือดออกขนาดนี้” นิ้วแกร่งไล้เกลี่ยแก้มนวลที่มีรอยเล็บจนเลือดซึมเบาๆ เช็ดมุมปากที่มีโลหิตสายหนึ่งให้อย่างใส่ใจ “เจ้าอุตส่าห์เสียสละตัวเองเพื่อข้า คลอดบุตรชายให้ข้า” มือเนียนขาวผ่องกอบกุมมือใหญ่ไว้อย่างแนบแน่น นางกัดกลีบปากเล็กน้อย ค่อยๆ เอนร่างอ่อนนุ่มของตนกับต้นแขนแข็งแรงของบุรุษอย่างอ่อนระทวยราวคนไร้กระดูก ท่วงท่างดงามหยาดเยิ้มแสนอ่อนแอเช่นนี้ แลดูอ่อนหวานปานน้ำผึ้งเจียนหยาดหยดจากกลีบบุปผาอย่างไรอย่างนั้น หลินหานเจ๋อรีบกระชับโอบกอดมิให้นางล้มลง ทรวงอกของกัวรั่วหลานราวมีไฟสุม นางกลั้นน้ำตากำหมัดแน่น แต่สองตาที่ร้อนผ่าวกลับมองเสื้อคลุมของสามีที่อยู่บนเรือนร่างเปล่าเปลือยของสตรีอื่นอย่างเย็นชา ความอบอุ่นอ่อนโยนและความห่วงใยที่เคยมีให้กันล้วนถูกถ่ายโอนให้สตรีอีกคนจนหมดสิ้นผ่านเสื้อคลุมนั้น นางชาหน่วงไปหมดทั้งหัวใจ ขณะสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นแค้นใกล้คลุ้มคลั่งของตน สุ้มเสียงทุ้มต่ำของสามีพลันดังเล็ดลอดเข้าโสตประสาท “รั่วหลาน เจ้าใจเย็นก่อนได้หรือไม่? สิ่งที่ข้าทำลงไปล้วนเป็นเหตุเป็นผลสมควรกระทำอย่างยิ่ง สกุลหลินไม่มีทายาทชายไม่ได้ เจ้าควรเข้าใจในข้อนี้ เจียซินเองก็เป็นเพียงคุณหนูในห้องหอ นางอ่อนแอบอบบางไร้กำลัง ไม่อาจต่อกรกับเจ้าได้อยู่แล้ว เจ้าในฐานะภรรยาเอกไม่ควรอิจฉาริษยา จิตใจคับแคบหึงหวง พวกเจ้าสองคนล้วนเป็นภรรยาของข้า พวกเราสามคนสามีภรรยาอยู่ด้วยกันอย่างปรองดองเถิด” วาจายาวเหยียด น้ำเสียงอ้อนวอนของสามี ทำให้สตรีผู้หนึ่งที่ไม่เคยทำความเข้าใจธรรมเนียมสามภรรยาสี่อนุของคนเมืองหลวงคล้ายกลายร่างเป็นปีศาจร้ายในสายตาใครต่อใคร แววตากัวรั่วหลานยิ่งนานยิ่งแดงก่ำด้วยโทสะ นางได้ฟังยิ่งใจสั่น หวั่นจะฆ่าพ่อของลูกในพริบตาเหลือเกิน หญิงสาวไม่เคยคิดยอมรับธรรมเนียมนี้ ไม่สักนิด! เพราะความรักความผูกพันต่อให้มากมายยาวนาน แต่ความสัมพันธ์ชายหญิงมิอาจปล่อยวาง หากให้สามีรับอนุ มีหรือใจบุรุษจะต้านทานความยั่วยวนของสิ่งแปลกใหม่ได้ อนุภรรยาหากยอมให้มีคนที่หนึ่งได้ ย่อมมีคนที่สองคนที่สามได้เช่นกัน นางจึงปฏิเสธทุกครั้งที่เขาขอรับอนุเข้าเรือน และเพราะเหตุนี้... กัวรั่วหลานหลับตาลงอย่างเชื่องช้า สูดหายใจเข้าลึกเพื่อสะกดความเจ็บปวดในอก เป็นนางที่ผิดเองปิดกั้นเขาด้วยหึงหวงเกินไปเช่นนั้น เขาจึงเลือกวิธีการอันหยาบช้า ลักลอบสานสัมพันธ์สตรีอื่นลับหลังนางแรมปี รอจนคลอดบุตรชายตัวอวบอ้วนจึงพากันมาบีบคั้นให้นางไร้ซึ่งคำโต้แย้งต้องยอมรับแต่โดยดี สิบปีที่อยู่กินกันมานางคลอดบุตรสาวฝาแฝดให้เขาจนร่างกายอ่อนแอเกินไป กระทั่งครรภ์ที่สอง ต้องรอแล้วรอเล่า และเหตุนี้นี่เองที่นางผิดต่อเขา ผิดต่อสกุลของเขา นางผิดเองที่มิใช่สตรีในห้องหอ มิใช่คุณหนูสกุลชั้นสูง มิใช่บุตรสาวในขุนนางราชสำนัก นางไม่ใช่คนของเมืองหลวงด้วยซ้ำ กระนั้นในราตรีไร้ดาวท่ามกลางอากาศเหน็บหนาว เหตุใดหลินหานเจ๋อต้องอดทนคุกเข่าหลายชั่วยามเพื่อขอร้องให้มารดาของตนยอมรับนางจนได้แต่งงานด้วยเล่า? เขาที่เป็นทายาทสำคัญหนึ่งเดียวของขุนนางใหญ่ เหตุใดต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้นางที่เป็นเพียงหญิงชาวยุทธ์มาเป็นเจ้าสาวของเขาด้วยเล่า? และเหตุใดนางถึงไร้เดียงสากระทั่งหวั่นไหวหลงใหลในตัวบุรุษเมืองหลวงด้วย หากจะโทษก็ต้องโทษตัวเองสินะ! โง่เง่าสิ้นดี! กัวรั่วหลานไม่มีสิ่งใดจะเจรจาตกลงกับสามีอีก นางหมุนกาย ย่างเดินออกจากเรือนอย่างเด็ดเดี่ยว สุ้มเสียงที่เอ่ยเย็นเยียบหาใดเทียม “เราขาดกันเท่านี้เถอะ ข้าจะหย่า!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD