“พะ พอแล้ว ฉะ ฉันรับแล้ว ๆ” ฝ่ามือเล็กผลักอกเขาเบา ๆ ให้ถอยห่าง เมื่อร่างสูงทำท่าจะเข้ามาประชิดตัวอีกครั้ง ทำไมเขาอันตรายขนาดนี้นะ
[ขุนทัพ]
อ่า… ขุนทัพโทรมาตามฉันแน่ ๆ
“ฮะ ฮัลโหล” เสียงฉันสั่นมาก ๆ มันเกินจะควบคุมได้จริง ๆ ในเมื่อความกรุ่นร้อนยังตราตรึงอยู่บนริมฝีปากฉันอยู่เลย
[เธออยู่ไหนน่ะ โอเคหรือเปล่า ทำไมหายไปนานจัง] ปลายสายรัวคำถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย หากเป็นเวลาปกติฉันคงจะยิ้มแก้มปริ แต่ไม่ใช่ในตอนที่หัวใจมันกำลังเต้นรัวจนแทบจะระเบิดเพราะผู้ชายอีกคนแบบนี้
“ฉะ ฉันกำลังไป ขอโทษทีนะ พอดีแวะมาเข้าห้องน้ำน่ะ”
[เข้าห้องน้ำเหรอ ที่ไหน? ทำไมไม่กลับมาเข้าที่สตูฯล่ะ?]
เวรกรรม… นั่นสิ… ฉันนี่มันโกหกไม่เป็นจริง ๆ สินะ
“อ้อ ก็ตอนออกมาทำสมาธิฉันหิวนิดหน่อย เลยแวะลงมาที่มินิมาร์ทด้านล่างน่ะ งั้นเดี๋ยวฉันรีบขึ้นไปนะ” ฉันรีบตัดสายด้วยความรวดเร็ว ไม่อยากโกหกขุนทัพไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะยิ่งแย่กว่าเดิม
“เดี๋ยวนี้หัดขี้โกหกแล้วเหรอเรา” แอร์บัสยิ้มแซวฉันอยู่มุมหนึ่งของบันไดหนีไฟ สายตาแพรวพราวราวกับหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ แถมยังเลียริมฝีปากในลักษณะเหมือนกำลังหิวกระหายอีกด้วย
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย”
โอ๊ยยย แล้วเมื่อไหร่ฉันจะเลิกติดอ่างละเนี่ย ฮือออ
“เรามาต่อกันดีไหม บทต่อไปเลยเป็นไง”
“ดะ เดี๋ยวสิ เฮียหมายความว่ายังไงคะ” ฉันถอยหลังหนีเขาอย่างป้องกันตัวเองสุดฤทธิ์ กลัวจะถูกเขาจูบลืมตายแบบเมื่อกี้อีกรอบ คราวนี้ฉันได้ตายจริง ๆ แน่
“เฮียกำลังสอนเธออยู่ไง ‘บทจูบอันเร่าร้อน’ ของพระเอกในเรื่องน่ะ”
ว่ายังไงนะ… การที่แอร์บัสจูบฉันเมื่อกี้เป็นเพราะต้องการจะสอนฉันให้เข้าถึงฟิลลิ่งในบทจูบงั้นเหรอ…
ฉันเผลอแตะริมฝีปากตัวเองด้วยความลืมตัว สายตาหลุบมองบทในมือไปด้วย จริงสิ… ตอนที่เขาจูบฉันเมื่อครู่ ฉันเปล่งเสียงแปลก ๆ แบบนั้นออกมาด้วยนี่… หรือนั่นจะเป็นฟิลลิ่งที่ฉันต้องนำไปใช้ในการอัดเสียงกันนะ
“คราวนี้เธอก็ทำเสียงแบบนั้นตอนโดนจูบได้แล้วไง”
อ่า… อย่างนี้นี่เอง… แอร์บัสช่วยสอนฉันจริง ๆ ด้วยสินะ ถึงแม้จะยังงง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ต้องขอบคุณเขาละนะที่ช่วยให้ฉันเข้าถึงฟิลลิ่งนั้นได้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นฉันคงเครียดตายแน่ ๆ
“ขอบคุณเฮียบัสมากนะ ถ้าอย่างนั้น… ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
.
.
.
[บทบรรยาย แอร์บัส]
ผมยืนอึ้งนิด ๆ ขณะมองตามร่างบางที่เพิ่งเปิดประตูบันไดหนีไฟออกไป ผมรู้ว่าลิลลาเป็นผู้หญิงที่ซื่อมากแถมไม่ค่อยทันคน เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีและดูอ่อนหวาน แต่คาดไม่ถึงว่าจะใสซื่อจนเชื่อคนง่ายขนาดนี้
ลิลลาเชื่อผมจริง ๆ เหรอวะว่าจูบเมื่อกี้คือการสอนน่ะ แถมยังขอบคุณผมด้วยรอยยิ้มหวานแบบนั้นอีก เล่นเอาซะผมรู้สึกผิดไม่ทันเลย ทำไมเธอถึงได้ไร้เดียงสาแบบนี้นะ
พูดเลยว่าจูบเมื่อกี้น่ะ ถ้าไม่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้าของลิลลาซะก่อน ผมอาจจะจับเธอกดตรงนี้แล้วก็ได้นะ ผู้หญิงอะไรไม่รู้ยิ่งจูบยิ่งหวาน ยิ่งสัมผัสนาน ๆ ยิ่งน่าหลง
แต่ก็นะ… ผมว่าความไร้เดียงสานี่แหละคือเสน่ห์ของลิลลา
เฮ้อ! คิดแล้วก็อารมณ์ค้าง จากตอนแรกตั้งใจจะมากินตับฮานน่า แม่สาวอกสะบึ้มที่กำลังควง ๆ อยู่สักหน่อย กลับมาเจอยัยหนูน้อยหมวกแดงน่าขย้ำนี่ซะก่อน เลยปล่อยเหยื่อน่าเบื่อมาตะครุบเหยื่อน่ารักแทน สุดท้ายก็หลุดจากกรงเล็บไปอีกจนได้ คิดแล้วก็แอบเซ็ง หาอะไรทำแก้เซ็งดีกว่าวุ้ย
[เออว่าไง]
“อยู่ไหนกันวะ เบื่อ หาเหล้าแดกกัน” ผมพูดกับปลายสายด้วยน้ำเสียงเบื่อจัด ควันบุหรี่สีขาวถูกพ่นออกมารอบแล้วรอบเล่าขณะเดินลงจากชั้นเก้าเรื่อย ๆ เบื่อแค่ไหนถามใจดู ลิฟต์เลิ้ฟไม่ลงแม่ง
[เพิ่งจะบ่ายเองนะไอ้เวร รีบเมาไปไหน]
“อย่ากระแดะทำเป็นไม่เคย ตอนมึงอกหักจากเมีย กูเห็นมึงแดกข้ามวันข้ามคืนเลยนะไอ้พัน” ผมจิกกัดนับพัน นึกถึงช่วงที่มันเฮิร์ตเรื่องเฟรย่าแล้วไม่อยากจะฝอย เมาอย่างกับหมาข้างถนนเถอะ
[เออ ๆ เจอกันที่บล็อก เดี๋ยวกูตามไป]
มันว่างั้นแล้วก็ตัดสายผมอย่างไร้เยื่อใยสุด ๆ ผมกดต่อสายหาหน่วยรบกับเจสัน ขาดพวกมันจะไปสนุกอะไรล่ะจริงไหม?
.
.
.
THE DRUG RACE
‘บล็อก 9’
ผมจอดรถเทียบหน้าบล็อกเก้าหรือตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาวางเรียงรายรอบสนามแข่งอันกว้างขวางแห่งนี้ เนื่องจากที่นี่คือสนามแข่งรถแบบเปิดโล่ง ไม่มีอาคารหรือสถานที่ก่อสร้างใดใดเลยนอกจากอัฒจันทร์ริมขอบสนามสำหรับคนดูเท่านั้น บริเวณโดยรอบสนามจึงต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงให้กลายเป็นห้องอเนกประสงค์ของนักแข่งแต่ละกลุ่มไป จะต่อเติมเสริมแต่งอะไรก็จัดหนักจัดเต็มตามเม็ดเงินของแต่ละสปอนเซอร์ โดยแต่ละบล็อกจะมีเบอร์บอกตำแหน่งแตกต่างกันไป
และบล็อกเก้านี่ก็คือที่สิงสถิตของพวกผมนั่นเอง มันคืออาณาจักรของนับพัน อ้อ ผมลืมบอกไปว่าไอ้เพื่อนผมคนนี้มันเป็นหุ้นส่วนของสนามแข่งแห่งนี้น่ะ โซนครึ่งหนึ่งเป็นสิทธิ์การควบคุมของมัน ส่วนอีกครึ่งก็เป็นสิทธิ์ของหุ้นส่วนอีกคนซึ่งก็คือ… เดวิล
ผมขอไม่พูดถึงเดวิลแล้วกัน จริง ๆ มันเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันกับพวกผมนี่แหละ แต่พักนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าคร่าตามันเท่าไหร่ เพราะมันเรียนจบไปแล้ว ส่วนมากมันจะสนิทกับนับพันมากกว่าเพราะพ่อ ๆ มันเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เหมือนพ่อผมที่เป็นเพื่อนกับพ่อนับพันนี่แหละ
อีกอย่างคือไลฟ์สไตล์ของผมมันคนละแนวกับเดวิลก็เลยไม่ค่อยเจอกัน หมอนั่นมันตามตัวยาก สมกับชื่อปีศาจโดยแท้ นิสัยก็มืดมนไม่ค่อยเหมาะกับคนเฟรนด์ลี่อย่างผมหรอก
“อ้าวเฮียบัส มาทำไรแต่หัววันเลย”