“อื้อ…”
หัวสมองของฉันตอนนี้ขาวโพลนไปหมดแล้ว ประมวลเหตุการณ์ไม่ถูกเลยว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายและหัวใจฉันกันแน่ ตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่มีคือความร้อนรุ่มที่กำลังถูกปรนเปรออยู่ในโพรงปาก เรียวลิ้นหวานละมุนนวดคลึงและดูดดึงจนสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
สัมผัสอ่อนนุ่มอ่อนโยน หากทว่าเร่าร้อนในที เผาผลาญตัวตนของฉันจนหมดสิ้น ฉันไม่รู้เลยว่าร่างกายส่วนไหนกำลังถูกฝ่ามือร้อนบีบคลึงอยู่บ้าง เพราะมันสะท้านกายไปทั่วทุกส่วนเลย ฉันปล่อยสมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ แม้ริมฝีปากกรุ่นร้อนจะผละออกไปแล้วก็ตาม
“หวานมาก…” เสียงกระซิบอบอุ่นข้างหูดังขึ้นพร้อมสัมผัสกรุ่นร้อนขบเม้มลงมา ริมฝีปากร้อน ๆ บรรจงจูบลงบนข้างแก้มไล้มาเรื่อย ๆ จนถึงลำคอ ฉันสะท้านวูบวาบไปทั้งกายขณะถูกซุกไซ้ซอกคอขาว มันบรรยายความรู้สึกไม่ถูกจนต้องปล่อยเสียงครางออกมาตามสัญชาตญาณ
“อ๊า…” ฉันครางออกมาด้วยเสียงสุดสยิวอย่างที่ตัวเองไม่เคยทำได้มาก่อน มือหนาเคล้นคลึงขาอ่อนด้านในของฉันแรง ๆ ก่อนจะลูบวนและเตรียมจะผลุบเข้าไปใต้กระโปรง
แต่เดี๋ยวนะ…
“อ่ะ!!”
ฉันลืมตาโพลงพร้อมกับคว้ามือหนาข้างนั้นเอาไว้ได้ทัน สติสตังที่หายไปเหมือนจะกลับมาเกือบครึ่ง ฉันสบตากับผู้ชายเหนือร่างตาปริบ ๆ พลางนึกถึงเสียงครางของตัวเองเมื่อครู่ไปด้วย
“เฮีย! เมื่อกี้ได้ยินเสียงฉันครางไหมคะ?” ฉันถามทั้งที่เรายังชะงักค้างอยู่ในท่าทางล่อแหลม แอร์บัสกะพริบตาปริบ ๆ มองฉัน ก่อนจะพยักหน้ารับแบบงง ๆ “ว้าว! มันสุดยอดมากเลยอ่ะ เสียงฉันเมื่อกี้มันสยิวมากเลย ฉันทำได้แล้วเฮีย!”
ฉันผลักร่างสูงออกจากตัว แอร์บัสรีบคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวทันที ฉันรีบเบี่ยงหน้าหนีด้วยความอาย แต่เหนือความอายมันคือความดีใจที่ฉันสามารถเปล่งเสียงสยิวแบบนั้นออกมาได้แล้ว ต้องขอบคุณแอร์บัสจริง ๆ เลยที่เขามีส่วนในการช่วยให้ฉันทำมันได้
“ขอบคุณเฮียมากนะคะ” ฉันยิ้มกว้างให้แอร์บัสซึ่งยังทำหน้างงไม่เลิก
“ขอบคุณเฮียทำไม?”
“อ้าว ก็ขอบคุณที่เฮียช่วยให้ฉันทำเสียงสยิวแบบนั้นได้ไงคะ ฉันน่ะลองทำมาทั้งคืนแล้วยังทำฟิลลิ่งแบบนั้นไม่ได้สักที” ฉันลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพลางจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง อาการสั่นสะท้านวูบวาบเมื่อครู่มันจางหายไปหมดแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่ความดีใจ
“นี่เธอไม่โกรธเฮียเหรอ?” แอร์บัสเกาหัวตัวเองเก้อ ๆ สีหน้าเขาเหมือนกำลังสับสนอะไรบางอย่าง
“โกรธเหรอคะ? เรื่องอะไรอ่ะ” ฉันถามหน้าซื่อ ก่อนจะนึกออก “อ้อ เรื่องที่เฮียจูบฉันเมื่อกี้เหรอ?”
“อะ… อืม”
“ตอนแรกก็โกรธนะคะ เพราะนั่นมันจูบแรกของฉันด้วย” แอร์บัสเงยหน้าขึ้นสบตากับฉันด้วยแววตาแปลก ๆ ฉันเลยกลบเกลื่อนด้วยการลุกขึ้นยืนแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้อง “แต่ตอนนี้ไม่โกรธแล้วค่ะ เพราะเฮียช่วยให้ฉันเข้าถึงฟิลลิ่งสยิวนั่น ฉันถึงทำเสียงครางแบบนั้นออกมาได้ ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากก็เถอะ แต่ยังไงฉันก็ทำมันได้แล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ฉันยิ้มให้แอร์บัสที่ยังมีสีหน้ามึน ๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันอีก มีเพียงการโบกมือลาเล็กน้อยก่อนฉันจะเดินออกจากห้องเขามา ในสมองก็หวนคิดถึงบทสยิวที่ฉันจะต้องเข้าไปเทสเสียงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เอาน่า ยังไงฉันก็เคยทำมันได้แล้วนิ คงไม่น่าจะยากแล้วล่ะมั้ง
.
.
.
“อ๊ะ… อ้า”
“อึ๋ยยยลิลลา! แกเลิกทำเสียงน่าขนลุกแบบนั้นสักทีได้ไหมเนี่ย วันนี้แกทำเสียงแบบนี้มาทั้งวันแล้วนะ ฉันขนลุกจะแย่อยู่แล้ว!” โบอิ้งทำท่าขนลุกขนพอง สีหน้ามันสยดสยองอย่างที่พูดจริง ๆ ฉันเหลือบตาจากบทพากย์ตรงหน้าก่อนจะกลอกตาขึ้นด้วยอาการเซ็งจัดพร้อมกับโยนบทในมือลงบนโต๊ะอย่างหมดอารมณ์
ให้ตายสิ! นี่มันบ้าบอที่สุดเลยอ่ะ!
ตั้งแต่ฉันตื่นมาฉันก็พยายามทำเสียงครางบ้า ๆ นั่นให้มันได้ฟิลลิ่งเหมือนเมื่อคืน แต่! แต่มันทำไม่ได้เลยน่ะสิ! ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำเสียงแบบเมื่อคืนไม่ได้แล้ว ทั้งที่ฉันอุตส่าห์หลงดีใจที่ตัวเองสามารถครวญครางสุดสยิวแบบนั้นออกมาได้แล้วแท้ ๆ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ
“อ้าวเฮีย ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง? น้ำท่วมเมืองไทยหรือไง”
ฉันลืมตาขึ้นมาสนใจบทสนทนาข้างหูก็พบกับร่างสูงในชุดนักศึกษาหลุดลุ่ยที่เพิ่งเดินเข้าประตูบ้านมา เขามองมาทางเราสองคน ไม่สิ… เขามองมาทางฉันมากกว่า ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแปลก ๆ
“ขี้แซวจังนะยัยตัวแสบ” แอร์บัสเดินเข้ามาขยี้ผมโบอิ้งแต่สายตางี้จ้องฉันไม่ยอมละ “แล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่ล่ะ ท่องบทพากย์ใหม่เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ยัยลิลมีบทใหม่มาให้พากย์อีกแล้ว แถมยังเป็นบทที่โคตรงานหินอ่ะ นึกแล้วสยอง อึ๋ยย” โบอิ้งยังทำท่าขนลุกไม่เลิก ฉันจ้องตากับแอร์บัสชั่วครู่ รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ภาพเมื่อคืนก็ผุดขึ้น
บ้าเอ๊ย… หน้าฉันต้องแดงมากแน่ ๆ
“งั้นเหรอ ไหนขอเฮียดูหน่อยสิ”
“เฮ้ยไม่ได้!” ฉันรีบตะครุบบทบนโต๊ะ แต่ช้าเกินไปเพราะมันตกไปอยู่ในมือของแอร์บัสเป็นที่เรียบร้อย ฉันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมุมปากพร้อมกับสายตาวาววับราวกับหมาป่าจับจ้องมาทันทีที่เขาอ่านชื่อเรื่องจบ
“ยั่วรักร้อนสวาท… แหม อ่านแค่ชื่อก็ร้อนแล้ว”
“เฮีย! อะ เอาคืนมาเลยนะ” ฉันรีบคว้าบทพากย์คืนด้วยใบหน้าร้อนเห่อ รู้สึกอายต่อแววตาวาววับนั่นมาก ปกติฉันไม่เคยมีความรู้สึกพวกนี้กับแอร์บัสเลยนะ อาจจะมีเขินบ้างบางที แต่มันไม่ได้เขินหนักมากขนาดนี้อ่ะ!
“พอเลย ๆ ขึ้นไปอาบน้ำเลยไปเฮียอ่ะ” โบอิ้งขัดจังหวะพร้อมกับลากแขนแอร์บัสให้ลุกขึ้นจากโซฟาไปทางบันไดแทน ยัยนี่ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสายตาจับผิด
“จะรีบไล่เฮียทำไมเนี่ย ขออยู่คุยด้วยไม่ได้ไง?”