“ตกลงมีเรื่องอะไร เฮียรอฟังอยู่นะ หืม?” มือหนาดันไหล่ฉันให้นั่งลงบนโซฟา ส่วนตัวเขาก้มโค้งเข้ามาใกล้ สองมือท้าวกับที่พักแขนราวกับต้องการจะกักกันกัน กลิ่นแชมพูและครีมอาบน้ำอ่อน ๆ จากร่างสูงลอยเข้ามาแตะปลายจมูก ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับฉันมากกว่าเดิม
“คือ… คือฉันต้องการความช่วยเหลือจากเฮียค่ะ ฉันก็เลย…”
“แอบย่อง?” แอร์บัสทวนคำให้เสียงสูง ไม่รู้จะย้ำทำไมให้ฉันอาย!
“ก็ฉันไม่อยากให้ยัยโบรู้นี่คะ!” ฉันถลึงตาเงยหน้าขึ้นมอง นั่นคือพลาดมากเพราะมันทำให้ใบหน้าเราอยู่ใกล้กันจนเกินพอดี ฉันรีบก้มหน้างุดทันทีโดยไม่ลืมยกมือขึ้นถูแก้มไล่ความร้อนออกไปด้วย ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากร่างสูงเบา ๆ ก่อนเขาจะถอยตัวออกไปยืนเต็มความสูง
“ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเฮียล่ะ เรื่องบทพากย์นั่นเหรอ?” ฉันเงยหน้ามองเขานิด ๆ พอเห็นสายตารู้ทันก็เลยพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันพยายามทำเสียงแบบนั้นมาหลายวันแต่มันไม่ได้สักที ฉันเครียดมากเลยนะคะเพราะอีกไม่กี่วันก็ต้องไปพากย์บทแรกแล้ว” ฉันถอนหายใจออกมาเซ็ง ๆ ในเมื่อปิดเขาไม่ได้ก็เล่าให้ฟังเลยแล้วกัน ไหน ๆ ก็จะขอให้แอร์บัสช่วยแล้วนี่
“เสียงแบบนั้น?” คิ้วหนาขมวดนิด ๆ “หมายถึงเสียงครางสยิวนั่นอ่ะเหรอ?”
โอ๊ย… ถามตรง ๆ แบบนั้นฉันก็อายเซ่!
“ฉัน… ฉันไม่รู้ว่าจะทำเสียงแบบนั้นได้ยังไง ฉันเลยอยากให้เฮียช่วยสอนหน่อยน่ะค่ะ”
“เธอแน่ใจแล้วเหรอลิลลา…”
แอร์บัสคร่อมตัวลงมาอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าเขาเจ้าเล่ห์มาก ดวงตาคมพราวระยับจับจ้องมา ฉันเผลอกลั้นหายใจ หัวใจเต้นตึกตัก ๆ จนกลัวว่าเขาจะได้ยิน
“เฮียบอกแล้วไงว่าเฮียสอนภาคทฤษฎีไม่เป็น เก่งแต่ภาคปฏิบัติ และมีกฎคือต้องทำตามที่เฮียสอน ‘ทุกอย่าง’ เธอยังสนใจไหมล่ะลิลลา”
เขาย้ำคำพูดเดิมเพิ่มเติมคือกฎแปลก ๆ นั่น ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติฉันคงจะไม่กล้าเสี่ยง ไม่สนใจ และไม่นั่งอยู่ตรงนี้แน่ ๆ แต่นี่มันไม่ปกติไง มันจนตรอก มันหมดหนทางแล้วจริง ๆ ฉันจึงตอบออกไป…
“เพื่อฟิลลิ้งในการทำงาน ฉันจะยอมทำตามที่เฮียบอกก็ได้!”
พูดไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตาย ฉันจะไว้ใจหมาป่าอย่างนายได้สักแค่ไหนกันนะ… แอร์บัส!
.
.
.
[บทบรรยาย แอร์บัส]
เอา จริง ดิ?!
ผมแอบอึ้งในใจขณะสายตาจับจ้องใบหน้าสวยหวานของผู้หญิงตรงหน้า เธอผู้เป็นเจ้าของดวงตากลมโตน่ารัก ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม ผิวขาวอมชมพูน่าทะนุถนอมยิ่งมองยิ่งหลง พูดตรง ๆ ว่าแนวใส ๆ แบบลิลลานี่ไม่ใช่สเป็คผมหรอก ผมน่ะชอบเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ มากกว่า แต่ทุกครั้งที่เจอเธอ นี่ก็อดมองไม่ได้ทุกทีเหมือนกัน
เด็กอะไรไม่รู้ยิ่งโตยิ่งมีเสน่ห์…
เอ้อ ผมลืมแนะนำตัวมัวแต่อึ้งไปหน่อย ชื่อของผมคือ ‘แอร์บัส’ รูปหล่อ พ่อรวย สาว ๆ ติดพันเยอะ ผมเป็นประเภทรักสนุกแต่ไม่ผูกพัน ไม่ชอบการผูกมัด ชอบสนุกไปวัน ๆ ให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ
ถามว่าชีวิตนี้เคยรักผู้หญิงคนไหนจริงจังไหม? อืม… ไม่มีนะ เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยจะดีกว่า
ก็งี้แหละ… ป๊าผมสอนมาดี
“เฮียบัส”
“อะ อืม… ว่าไง” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกเสียงหวานเรียก มือบางส่ายไปมาตรงหน้าผม สายตาใสซื่อของเธอจ้องมา ทำผมลอบกลืนน้ำลอยดังอึก
อย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่แคร์…
เออ ผมแม่งก็เพ้อไปทั่วงี้แหละอย่าใส่ใจ วันนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนของเลยขาดนิดหน่อย
“ตกลงเฮียจะสอนฉันไหมคะ ทำไมต้องคิดหนักขนาดนั้นด้วย” ลิลลาทวงถามคำตอบ ผมคงคิดอะไรเพลินไปหน่อยเลยไม่ได้ตอบเธอ
ว่าแต่เดี๋ยวนะ… สรุปลิลลาอยากจะให้ผมสอนสร้างฟิลลิ่งสยิวนั่นจริง ๆ น่ะเหรอวะ?
“แน่ใจแล้วเหรอจะให้เฮียสอน” ผมถามซ้ำเป็นรอบเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนย้ำคิดย้ำทำขึ้นมาเลยแฮะ
ลิลลามีสีหน้าลังเลอย่างเห็นได้ชัด เพราะปกติเธอไม่ค่อยสนิทกับผมอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นเพื่อนรักกับน้องสาวผมมาหลายปีแล้วก็เถอะ แต่เพราะยัยโบอิ้งตัวแสบขี้กั๊กมาก ไม่ยอมให้ผมยุ่งวุ่นวายกับลิลลาเลย ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเธอจึงอึน ๆ มึน ๆ อย่างที่เห็น
“มันช่วยไม่ได้นี่คะ ฉันไม่รู้จะหันไปพึ่งใครแล้วจริง ๆ อีกไม่กี่วันก็ต้องเข้าไปเทสเสียงแล้วด้วย” เธอตอบอุบอิบไม่เต็มใจ ผมขมวดคิ้วใส่นิด ๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเลือกสุดท้ายยังไงก็ไม่รู้
แต่ก็เอาเถอะ ผมว่าผมก็เพอร์เฟกต์ระดับหนึ่งละนะ ไม่งั้นเธอคงไม่ไว้ใจผมหรอกจริงไหม?
“อาหะ สรุปคือไอ้เรื่องฟิลลิ่งสยิวนั่นจำเป็นต่องานเธอมาก?” ผมถาม ลิลลาพยักหน้ารับ
ดวงตากลมโตจ้องมา ใบหน้าสวยหวานเรื่อแดงน้อย ๆ เห็นแล้วมันน่าแกล้งชะมัด ผมยิ้มมุมปากนิด ๆ แล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้เธอมากกว่าเดิม พอได้เห็นแววตาตื่นตระหนกจากคนตัวเล็กก็ยิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่
“แต่เฮียมีกฎนะลิลลา…”
“…”
“กฎที่เธอต้องทำตามอย่างเคร่งครัด” ผมได้ทีต่อรอง
แหม… การเรียนการสอนที่ไหน ๆ เขาก็ต้องมีกฎกันทั้งนั้นแหละจริงไหม?
“กะ กฎอะไรเหรอคะ” เสียงหวานถามสั่น ๆ ขณะพยายามเอนตัวหนี ท่าทางเธอตื่น ๆ เหมือนกระต่ายตัวน้อย ๆ ในมือหมาป่าเจ้าเล่ห์ ผมใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มเป็นเชิงคิดเล็กน้อย สายตายังคงจับจ้องซึ่งกันและกัน
ความจริงที่ผมใช้เวลาในการคิดเยอะ ไม่ใช่ว่ากำลังคิดหากฎอะไรหรอกนะ แต่กำลังคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาต่างหาก อย่างที่รู้ ๆ ว่ายัยน้องสาวตัวแสบของผมหวงเพื่อนคนนี้มากแค่ไหน ถ้าลองยัยนั่นรู้ว่าผมกับลิลลากำลังต่อรองอะไรกันอยู่ มีหวังอาละวาดบ้านพังแน่ ๆ
“กฎข้อแรกก็คือ… ห้ามให้ใครรู้เรื่องของเราเด็ดขาดโดยเฉพาะยัยโบ” ผมตั้งกฎเหล็กข้อแรกขึ้นมาเพื่อตัดปัญหาโลกแตกหลาย ๆ อย่างที่อาจจะตามมาในภายหลัง ซึ่งถ้าลิลลารับข้อนี้ได้ทุกอย่างก็สบายหายห่วง
“ระ เรื่องของเรา… หมายถึงเรื่องที่เฮียจะสอนฉันใช่ไหมคะ?” ลิลลาแก้คำพูดของผมใหม่ให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม ผมยักคิ้วนิด ๆ เธอเม้มปากก่อนจะพยักหน้ารับ
“โอเค… ถ้างั้นตอนนี้เรามาเริ่มเรียนกันเลยไหม?”
“ดะ เดี๋ยวสิ… แล้วกฎข้ออื่นล่ะ?” ลิลลายังอุตส่าห์สงสัย เธอมองผมด้วยแววตาซื่อ ๆ เห็นแล้วมันน่ารักน่าหยิกจริง ๆ
“กฎข้ออื่นไว้เฮียจะบอกทีหลัง”
“ทำไม…” ผมแตะปลายนิ้วลงบนริมฝีปากจิ้มลิ้มช่างถามของเธอเบา ๆ ลิลลาชะงักคำพูดไว้แค่นั้นขณะผมก้มลงกระซิบชิดใบหู
“เพราะมันเสียเวลาเรียนของเราน่ะสิ”
“…”
“เรามาเริ่มสร้างฟิลลิ่งกันเลยไหม… ลิลลา”