“เรามาเริ่มสร้างฟิลลิ่งกันเลยไหม… ลิลลา”
เสียงกระซิบข้างใบหูสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดให้กับฉันอย่างมาก ความร้อนแล่นวาบจากปลายนิ้วที่กำลังแตะริมฝีปากฉันแผ่วเบาลามไปทั่วใบหน้า ตัวฉันสั่นน้อย ๆ มันไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่แอร์บัสกำลังจะสอนให้
ปลายนิ้วเรียวลากไล้ผ่านริมฝีปากมาตามพวงแก้มของฉัน สัมผัสของเขาไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป มันปั่นป่วนสติฉันจนหัวใจเต้นระรัวไปหมด แอร์บัสหยุดปลายนิ้วไว้ใต้คางฉัน สายตาเราหยุดนิ่งสบตากัน บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตึกตัก ๆ ไม่เป็นจังหวะ
“ก่อนจะเริ่มบทเรียนเราควรกระตุ้นฟิลลิ่งกันสักหน่อย” เขากระซิบเสียงเบา ริมฝีปากแทบจะแนบชิดลงมา ลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดพวงแก้มสร้างความตื่นเต้นให้ฉันเข้าไปใหญ่
“ยะ ยังไงคะ”
“หลับตาสิ” เขาสั่ง ฉันจึงทำตามอย่างว่าง่าย เปลือกตาปิดลงช้า ๆ ขณะมือหนายังคงเชยคางฉันอยู่ ไม่รู้หรอกว่าเขาจะสอนฉันด้วยวิธีไหน แต่ฉันขอให้เขาสอนภาคทฤษฎีเฉย ๆ นะ คิดว่าเขาก็คงจะทำแบบนั้นละมั้ง “ปล่อยอารมณ์ให้ผ่อนคลายแล้วเปล่งเสียงออกมาตามความรู้สึกเลยนะ”
อ่า…แอร์บัสกำลังสอนให้ฉันจินตนาการตามที่เขาพูดสินะ… มันเป็นทฤษฎีที่ไม่ง่ายเลยนะเนี่ย…
หากทว่า… ฉันนั่งหลับตาได้ไม่ถึงนาที จู่ ๆ ริมฝีปากสัมผัสได้ถึงบางอย่างนุ่ม ๆ กำลังแตะลงมา ก่อนความกรุ่นร้อนจะค่อย ๆ ครอบครองช้า ๆ ฉันตื่นตกใจ สองตาลืมขึ้น ภาพที่เห็นคือใบหน้าหล่อเหลาของแอร์บัสที่อยู่ใกล้เพียงคืบ เขาสะกดฉันไว้ด้วยแววตารุ่มร้อน ขณะริมฝีปากของเราทั้งสองยังคงประกบกันแนบแน่น
เขา… เขาจูบฉันอีกแล้วเหรอ?!
“อื้อ ๆ” ฉันส่งเสียงประท้วงเมื่อถูกเรียวลิ้นกรุ่นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก อากาศหายใจแทบจะหมดลง หัวใจเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งไปกับสัมผัสรุ่มร้อนของคนเจ้าเล่ห์ เขาสอดมือข้างหนึ่งเข้ามาหลังท้ายทอยฉันแล้วแนบริมฝีปากลงมาแนบชิดมากกว่าเดิม ฉันไม่มีทางหันหนีได้เลย
ไม่รู้ว่าฉันปล่อยให้แอร์บัสแย่งชิงลมหายใจด้วยจูบแสนร้อนรุ่มนั่นนานเท่าไหร่ รู้แต่ว่าร่างกายมันเริ่มอ่อนแรงและคล้อยตามกับสัมผัสของเขาไปแล้ว เขาบดเบียดริมฝีปากลงมาซ้ำ ๆ ก่อนจะผละออกไป ฉันรีบหอบหายใจเข้าปอดทันที
“อ๊ะ…” ฉันสะดุ้งวาบด้วยความตื่นตกใจไปกับสัมผัสเย็น ๆ บริเวณต้นคอ แอร์บัสนาบริมฝีปากลงบนลำคอฉันพร้อมกับเคลื่อนไหวเบา ๆ จนขนในกายลุกชันไปหมดทั้งตัว ร่างกายฉันปั่นป่วนเหมือนกับคืนนั้นไม่มีผิด เขาใช้ริมฝีปากอ่อนนุ่มขบเม้มหนักสลับเบา “อื้อ…”
นะ นั่น… นั่นเสียงครางของฉันใช่ไหม?
ฉันโพล่งตาขึ้นด้วยความประหลาดใจกับเสียงครางแสนสยิวของตัวเอง มันทั้งดีใจและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน ขณะที่แอร์บัสยังคงซุกไซร้ลำคอฉันไม่หยุด แล้วจู่ ๆ สัญชาตญาณการป้องกันตัวเองมันก็กลับมา สองมือที่อ่อนแรงของฉันยกขึ้นมาผลักดันไหล่ร่างสูงออก แอร์บัสยอมผละออกด้วยสีหน้ามึนงง
“พะ พอแล้ว… มะ เมื่อกี้ฉัน… ทำเสียงนั้นได้แล้ว” ฉันเอ่ยตะกุกตะกัก รู้สึกเหนื่อยอย่างไม่มีสาเหตุ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ
“นั่นแค่บทเริ่มต้นเองนะ บทเรียนจริง ๆ มันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ” แอร์บัสพูดขณะใช้มือแหวกคอเสื้อชุดนอนฉันลงช้า ๆ จนเผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียนของฉัน การกระทำของเขาทำฉันอึ้งจนพูดไม่ออก และยังไม่ทันได้ร้องห้ามอะไร เขาก็ถือวิสาสะนาบริมฝีปากร้อนลงบนผิวเนื้อของฉันอีกครั้ง
“ดะ เดี๋ยวสิคะ…อะ… อ๊ะ” เสียงห้ามของฉันติดขัด ร่างกายสั่นระรัวไปกับสัมผัสกรุ่นร้อนที่กำลังเคลื่อนไหวหนัก ๆ บนหัวไหล่ เขาค่อย ๆ ไล้ความร้อนนั้นลงช้า ๆ จนถึงเนินอกที่ฉันพยายามใช้สองแขนปกป้องเอาไว้
“ร้องสิ เปล่งเสียงสยิวของเธอออกมา..” เขากระซิบเสียงสั่ง ฉันสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของเรียวลิ้นที่กำลังแตะแต้มอยู่บนเนินอก มันเคลื่อนไหวหนัก ๆ สร้างความซาบซ่านให้กับร่างกายฉันจนคอนโทรลไม่อยู่
“อ๊ะ..” ฉันเปล่งเสียงออกมาตามสัญชาตญาณ แทบจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเองเลยด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้สองหูมันอื้ออึงไปหมด ยิ่งมือหนาเลื่อนลงมาเค้นคลึงสีข้างพร้อมกับสอดแทรกเข้ามาสัมผัสผิวเนื้อใต้สาบเสื้อกัน หัวใจฉันเต้นรัวจนแทบจะระเบิดออกมา
“ดีมากลิลลา.. เด็กดีต้องมีรางวัลให้”
อ่า… รู้สึกดีชะมัด! นี่น่ะเหรอ.. ความรู้สึกที่เรียกว่า 'สยิว' น่ะ
แต่เอ๊ะ! ฉันให้เขาสอนภาคทฤษฎีนะ ไม่ใช่ภาคปฏิบัติสักหน่อย!
ปึง…
เสียงปิดประตูห้องดังแว่ว ๆ จากด้านบนส่งผลให้ร่างสูงหยุดชะงักเล็กน้อย ริมฝีปากกรุ่นร้อนที่กำลังซุกไซร้อยู่ตรงต้นคอหยุดนิ่งตามไปด้วย ฉันหลุบสายตามองแอร์บัสด้วยความรู้สึกมึนงง ตอนนี้สติสตังมันเหือดหายไปเกือบหมดแล้ว
“มีอะ…”
“ชู่ว์…” นิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากฉันเบา ๆ เป็นเชิงห้าม ดวงตาคมเข้มตวัดมองไปทางบันไดบ้าน ฉันเหลือบมองตามก็พบว่าบริเวณนั้นปรากฏเงาของใครคนหนึ่งกำลังเดินลงมา “เวรแล้ว… ยัยโบตื่น!”
หัวใจฉันหล่นตุบไปที่ตาตุ่มทันทีที่สิ้นเสียงร้อนรนของผู้ชายตรงหน้า แอร์บัสจับฉันลุกขึ้นนั่งพลางจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้ฉันด้วยความรวดเร็ว ขณะที่ฉันยังคงตื่นตกใจกับคำพูดของเขาไม่หาย
“เดี๋ยวเฮียไปแอบก่อน ส่วนเธอทำตัวให้เป็นปกตินะ” แอร์บัสสั่ง สายตาเหลือบมองทางบันไดเป็นระยะ ๆ ก่อนจะหันกลับมาหาฉันที่ทำสีหน้าช็อกหลุดโลกไปแล้ว “ลิลลา เธอได้ยินเฮียไหม?”
“คะ?” ฉันกะพริบตาปริบ ๆ ไล่อาการมึนงง แอร์บัสทำหน้าเนือย ๆ ใส่ฉันเล็กน้อย เขารีบลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมหันกลับมาหาฉันอีกรอบ
“เฮียไปหลบก่อนนะ แล้วอย่าลืมกฎข้อแรกล่ะ”
“…”
“ห้ามให้ยัยโบรู้เรื่องระหว่างเราเด็ดขาด”