ฉันนั่งนิ่งฟังคำกำชับของแอร์บัส ขณะสายตามองตามร่างสูงที่วิ่งเข้าไปหลบในครัว หัวใจเต้นรัวเมื่อครู่เริ่มเต้นช้าลงตามสถานการณ์ และยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรมาก ร่างบางของเพื่อนรักก็ปรากฏตัวขึ้นตรงชั้นล่างสุดของบันได
“ยัยลิล? แกมานั่งทำอะไรมืด ๆ คนเดียวเนี่ย” โบอิ้งเดินเข้ามาหาฉันพลางถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย เพราะชั้นล่างมันมืดมาก มีเพียงแสงไฟจากด้านบนที่ส่องผ่านบันไดมาเท่านั้น
“เอ่อ…” ฉันอึกอัก ปกติโกหกไม่เก่งด้วย โชคดีที่ตรงนี้มันมืดมาก ไม่อย่างนั้นโบอิ้งอาจจะได้เห็นสีหน้าแดง ๆ ของฉันแน่ “อ้อ… ฉันลงมากินน้ำน่ะ พอดีมันเมื่อย ๆ ขาก็เลยนั่งพัก”
“เมื่อยขา? เป็นอะไรอ่ะ ทำไมอยู่ ๆ ก็เมื่อย” โบอิ้งนั่งลงด้านข้างฉัน แถมยังจับขาฉันเหมือนต้องการจะตรวจเช็ก ฉันรีบเบี่ยงขาหลบแล้วปัดมือมันออก “อ้าว หลบทำไมเนี่ย ฉันจะนวดให้”
“มะ ไม่เป็นไรแก ฉันหายแล้ว”
โอ๊ย! ฉันอยากจะร้องไห้! ทำไมฉันต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วยนะ หัวใจมันเต้นตุบ ๆ ด้วยความกังวลระดับสิบเลยล่ะ! ฉันโกหกไม่เก่งจริง ๆ นะ
“อะไรของแกเนี่ย ตกลงหายปวดหรือยัง ถ้ายังฉันจะได้นวดให้” โบอิ้งยังคงเซ้าซี้ด้วยความเป็นห่วงตามปกตินิสัย ซึ่งมันทำให้ฉันทั้งอึดอัดและรู้สึกผิด พอเหลือบสายตาไปทางห้องครัว เงาดำ ๆ ของร่างสูงที่แอบอยู่ตรงนั้นโผล่มาให้ฉันเห็นเล็กน้อย แอร์บัสกำลังกดดันฉันเหรอ!
“หายแล้ว เอ่อ… ฉันง่วงแล้วอ่ะโบ เราขึ้นไปนอนกันเถอะนะ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกขึ้นดึงแขนโบอิ้งเพื่อชวนขึ้นห้องนอน แต่ยัยเพื่อนรักกลับขืนตัวไว้แถมยังมองฉันด้วยสายตานิ่ง ๆ วินาทีนั้นหัวใจฉันแทบจะหยุดเต้นเลยทีเดียว “มะ มีอะไรเหรอโบ”
พูดตามตรงเลยนะ ฉันเกลียดสถานการณ์แบบนี้ชะมัด ฉันไม่ชอบโกหกใครแบบนี้เลยโดยเฉพาะโบอิ้ง ยัยนี่เป็นเพื่อนรักฉันนะ เราสนิทกันจนรู้ใจกันทุกอย่าง มันไม่แปลกเลยถ้าโบอิ้งจะมองออกว่าฉันกำลังโกหกน่ะ
ให้ตาย… ฉันไม่ควรรับข้อเสนอของแอร์บัสตั้งแต่แรกเลย ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอาจจะทำตามนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะกฎข้อแรกที่ห้ามให้โบอิ้งรู้น่ะ มันยากมากเลยนะ ยัยนี่ฉลาดจะตายไป ฉันโกหกหรือปิดบังอะไรยัยนี่รู้หมด เหมือนเช่นตอนนี้ไง…
“ยัยลิล…”
“อะ อืม…” ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อถูกน้ำเสียงนิ่ง ๆ เรียก โบอิ้งต้องรู้เรื่องระหว่างฉันกับแอร์บัสแล้วแน่ ๆ ฉันควรจะทำยังไงดี…
“ฉัน…”
“…” ฉันกลั้นลมหายใจด้วยความกังวลสุด ๆ สองตาจ้องใบหน้าสวยของโบอิ้งตาไม่กะพริบ
ฮือออ… ฉันลุ้นจนจะตายอยู่แล้วนะ!
“ฉันหิวน้ำอ่ะ รอแป๊บหนึ่งได้ป่ะ เดี๋ยวขึ้นห้องพร้อมกัน”
หะ…
“ว่าไงนะ” ฉันเผลอหลุดปากถาม ขณะจ้องมองเพื่อนรักที่ส่งยิ้มแห้ง ๆ มาให้
“ก็ฉันหิวน้ำไง แกรอก่อนดิ นี่ลงมากินน้ำเหมือนกัน”
อ้อ… ที่แท้ก็หิวน้ำนี่เอง ฟู่! ทำฉันตกอกตกใจหมดเลยยัยเพื่อนบ้า!
“รอแป๊บนะ เดี๋ยวมา”
หลังจากทำฉันตกใจ ยัยเพื่อนรักตัวแสบก็เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วรินน้ำใส่แก้วขึ้นดื่ม ฉันเหลือบมองร่างสูงในเงามืดนั่นอีกครั้งและพบว่าแอร์บัสไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ฉันกวาดสายตามองหาเขาจนทั่วก่อนจะรีบดึงสายตากลับเมื่อโบอิ้งเดินเข้ามาหา ยัยนั่นทำท่ามองหาตามฉันด้วย
“แกมองหาอะไรอ่ะ”
“อ้อเปล่า เสร็จแล้วใช่ป่ะ งั้นขึ้นไปนอนกันเหอะ” ฉันสะบัดผมไปด้านหลังเบา ๆ แล้วหมุนตัวเดินขึ้นบันไดโดยมีโบอิ้งเดินตามหลังมา ภายในใจก็ครุ่นคิดถึงเขาคนนั้นว่าป่านนี้เป็นยังไงบ้าง
บ้าจริง… แล้วทำไมฉันต้องเป็นห่วงเขาด้วยละเนี่ย! พอ ๆ ลิลลาพอ! เขาจะเป็นยังไงก็ช่างเขาสิ เลิกคิดเดี๋ยวนี้!
.
.
.
ร้านชิคเก้นริง
“อ้าวเจ้ ๆ วันนี้มาพร้อมกันเหรอ” เสียงทักจากสาวน้อยร่างบางดังขึ้นจากหลังเคาน์เตอร์ เธอชื่อ ‘น้ำฟ้า’ เป็นรุ่นน้องในร้านไก่ทอดของฉันเอง ฉันก็ไม่ค่อยสนิทกับน้ำฟ้ามากนะ ไม่เหมือนโบอิ้งที่คุยเก่งเลยเข้ากันได้
“จะกลับเลยหรือเปล่าฟ้า”
“คงกลับเลยค่ะเจ้ลิล คืนนี้ฟ้ามีนัด”
น้ำฟ้าขยิบตาให้ฉันหนึ่งทีพร้อมกับทำท่าเขินอาย ไม่ต้องเดาเลยก็รู้ว่าคงจะมีนัดกับหนุ่มที่ไหนอีกแล้วล่ะสิ ยัยเด็กนี่เห็นเด็ก ๆ ใส ๆ แบบนี้ เที่ยวเก่งไม่เบาเลยนะจะบอกให้
“บางทีฉันก็แอบหมั่นไส้ความฮอตของยัยนี่นะ” โบอิ้งหันมากระซิบขณะมองตามร่างบางของน้ำฟ้าที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกจากร้านไปแล้ว ฉันส่ายหัวยิ้ม ๆ ให้เพื่อนรักแล้วหันกลับมาสวมผ้ากันเปื้อนพร้อมรวบผมขึ้นเพื่อสะดวกต่อการทำงาน
กรุ๊งกริ๊ง…
“ชิคเก้นริงไก่ทอดยินดีต้อนรับค่า”
ทันทีที่ได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านดังขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ฉันและโบอิ้งต่างก็หันกลับไปยิ้มต้อนรับลูกค้าตามปกตินิสัย หากทว่ารอยยิ้มของฉันชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่ากลุ่มลูกค้าที่เข้ามานั้นคือกลุ่มของแอร์บัส ผู้ชายที่ทำฉันหัวใจสั่นเมื่อคืนนั่นเอง
“อ้าวเฮีย มาทำไมเนี่ย” โบอิ้งทักพี่ชายด้วยสีหน้าแปลกใจ เพราะปกติแอร์บัสไม่ค่อยย่างกรายมาที่นี่หรอก ตั้งแต่ฉันกับโบอิ้งทำงานที่นี่มาเพิ่งจะเห็นหน้าเขาที่ร้านเป็นครั้งที่สามเองมั้ง
“พนักงานที่นี่เขาต้อนรับลูกค้ากันแบบนี้เหรอหะ” แอร์บัสขมวดคิ้วใส่น้องสาวตัวเองแต่ก็ยังไม่วายเหลือบตามองฉันด้วย
“ก็เป็นกับบางคนอ่ะ โดยเฉพาะลูกค้าที่ไม่เหมือนลูกค้าแบบเฮีย” โบอิ้งยอกย้อนก่อนจะถามกลับ “แล้วตกลงมาทำอะไรอ่ะ อย่าบอกนะว่ามากินไก่?”
“อ้าวยัยตัวแสบ ถามแปลกวุ้ย มาร้านไก่ทอดก็ต้องมากินไก่สิ หรือมี ‘อย่างอื่น’ ให้เฮียกิน?”
ละ แล้วทำไมต้องมองมาทางฉันด้วยเล่า!
“นี่เฮีย! หยุดทำสายตาหื่น ๆ ใส่เพื่อนฉันเลยนะ! จะกินอะไรก็ไปนั่งที่โต๊ะสิ พวกเพื่อนเฮียเขาไปนั่งกันหมดแล้วนู้น! ไปเลยไป๊!”
จริงอย่างที่โบอิ้งพูด พวกเพื่อนในกลุ่มแอร์บัสต่างเดินไปหาโต๊ะนั่งกันตั้งแต่เข้าร้านมาแล้ว จะมีก็แต่เขานี่แหละที่มายืนต่อล้อต่อเถียงกับน้องสาวอยู่หน้าเคาน์เตอร์เนี่ย
“ถ้างั้นลิลลามารับออเดอร์โต๊ะเฮียด้วยนะ”
เดี๋ยวสิ แล้วทำไมต้องเจาะจงฉันด้วยล่ะ!
“อะไร ๆ ทำไมต้องยัยลิลด้วย เดี๋ยวฉันรับออเดอร์โต๊ะเฮียเองก็ได้นี่” โบอิ้งยังคงทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ฉันจากพี่ชายตัวร้ายได้อย่างดี แอร์บัสทำหน้ามุ่ยใส่น้องสาวเล็กน้อยก่อนจะบุ้ยหน้าไปทางโต๊ะเพื่อนในกลุ่มตัวเอง
“ก็ไอ้หน่วยมันมีเรื่องจะคุยกับลิลลาน่ะสิ เฮียถึงพาพวกมันมาหาที่ร้านนี่ไง”