เอ๊ะ… หน่วยรบมีเรื่องจะถามฉันงั้นเหรอ?
ฉันเบี่ยงหน้าไปทางกลุ่มเขาด้วยความงุนงง หน่วยรบที่แอร์บัสพูดถึงก็คือคนที่เงียบและดูน่ากลัวที่สุดในกลุ่ม แถมยังเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของขุนทัพอีกด้วย
“ทำไมอ่ะ เฮียหน่วยมีเรื่องอะไรจะคุยกับยัยลิล คงไม่คิดจะจีบมันหรอกใช่ไหม”
“จะบ้าเหรอยัยโบ พูดอะไรของแกเนี่ย”
คราวนี้ฉันกระตุกแขนเพื่อนไว้เป็นเชิงปราม เพราะมั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องนั้นแน่ ๆ ดูจากสายตานิ่ง ๆ ที่หน่วยรบใช้มองมาทางฉันแล้ว เขาไม่มีทางพิศวาสจิตอะไรกับฉันอย่างแน่นอน
“ไม่เผือกสักเรื่องก็ได้นะยัยตัวแสบ เอาเป็นว่าเธอไปรับออเดอร์ที่โต๊ะเฮียด้วยนะลิลลา”
แอร์บัสยักคิ้วให้ฉันก่อนจะหันหลังเดินไปที่โต๊ะตัวเอง พวกเพื่อน ๆ ในกลุ่มเขาซึ่งประกอบด้วย นับพัน เจสัน หน่วยรบ กำลังนั่งรวมตัวหล่อกันอยู่ตรงนั้น ทำเอาสาว ๆ ในร้านพากันหันมองตาประกายเลยล่ะ ฉันทำท่าจะเดินออกจากเคาน์เตอร์เพื่อมารับออเดอร์ตามที่เขาบอก แต่ถูกโบอิ้งดึงแขนเอาไว้ ยัยนั่นทำหน้าไม่ไว้ใจอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ต้องไปก็ได้นะแก เดี๋ยวฉันไปเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกแก มันไม่มีอะไรหรอกน่า ไม่ต้องห่วง”
ฉันเข้าใจในความเป็นห่วงของโบอิ้งนะ เพราะชื่อเสีย (ง) ของผู้ชายกลุ่มนั้นธรรมดาซะที่ไหน แล้วปกติเราก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรกันด้วย อยู่ ๆ มีเรื่องจะคุยแบบนี้มันก็รู้สึกแปลก ๆ ชอบกลแฮะ…
“สนใจรับเมนูไหนกันดีคะ”
เมื่อเดินไปถึงโต๊ะชายหนุ่มทั้งสี่ ฉันก็ฉีกยิ้มพร้อมกับบริการตามปกติ ทุกคนเงยหน้าขึ้นมามองฉันเป็นตาเดียว พูดเลยว่าตอนนี้รู้สึกเขินแปลก ๆ แต่ก็ยังยิ้มสู้
“เฮียเอาเซต A ส่วนไอ้เจสันเซต D ไอ้หน่วยเอาเซต B แล้วมึงล่ะไอ้บัสจะแดกไร” นับพันเป็นคนจัดแจงสั่งเมนูของทุกคน เขารวบรวมเมนูมาส่งคืนให้ฉันซึ่งรับมันไว้หลังจดรายการเสร็จ
“เอาเซตไหนก็ได้ กูเป็นคนง่าย ๆ ไม่เลือกมากอยู่ล่ะ” แอร์บัสยักไหล่ตอบ
“งั้นเอาเซตไก่ไม่สุกมีไหม ไอ้เวรนี่มันชอบลากลงไปกินในน้ำบ่อย ๆ ฮ่า ๆ ๆ” นับพันขยิบตาใส่ฉันก่อนจะหันกลับไปหัวเราะชอบใจพลางแทคมือกับเจสัน ฉันหลุดขำนิด ๆ รู้สึกผ่อนคลายลงไปเยอะ
“ไอ้เชี้ยพัน กูคนนะไม่ใช่จระเข้!”
“มันด่ามึงเหี้ย”
โอ้วว คนเงียบ ๆ อย่างหน่วยรบก็ร่วมขยี้กับเขาด้วยหรือนี่
“มึงไม่ต้องขยี้ก็ได้ไหมไอ้หน่วย! ไอ้ห่านี่!” แอร์บัสหันไปถลึงตาใส่เพื่อน ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน “งั้นเฮียเอาเซต A ก็ได้”
“อ่อ โอเคค่ะ” ฉันก้มหน้าก้มตาจดรายการอย่างตั้งใจทันทีที่ถูกสายตาคมจ้องมอง โดยไม่ลืมทวนรายการอาหารอีกครั้ง “สรุปเมนูมีเซต A สองที่ เซต B และ เซต D อย่างละหนึ่งที่นะคะ”
“อาหะ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ รออาหารสิบห้านาทีนะคะ” พูดจบฉันก็เตรียมตัวจะเดินกลับ ทว่ากลับถูกน้ำเสียงขรึม ๆ เรียกเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป”
“เอ่อ… คะ?” ฉันหันกลับมาจ้องหน้าหน่วยรบด้วยความประหม่าเล็กน้อย สายตาคมของเขามันน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก คนอะไรไม่รู้รอบตัวเหมือนมีออร่าสีดำทะมึนตลอดเวลา
“เธอรับสอนพิเศษเด็กประถมเฉพาะวันหยุดหรือเปล่า?”
“คะ… อะไรนะคะ” ฉันขมวดคิ้วนิด ๆ เพราะได้ยินสิ่งที่เขาถามไม่ค่อยชัดจึงขยับเข้าไปยืนใกล้โต๊ะมากขึ้น
“ไอ้หน่วยมันถามว่าเธอรับสอนพิเศษเด็กช่วงเสาร์อาทิตย์หรือเปล่า พอดีมันกำลังหาคนมาสอนพิเศษหลานมันอยู่ แล้วไอ้บัสมันแนะนำเธอมา” นับพันเรียบเรียงคำถามพร้อมเหตุผลให้ฉันฟังเข้าใจง่ายมากขึ้น รู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริงที่ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายเป็นครั้งที่สอง ช่วยแปลไทยเป็นไทยให้ฉันเข้าใจขึ้นเยอะเลย
“อ้อค่ะ ปกติฉันก็รับสอนอยู่ แต่ช่วงนี้ว่างสอนแล้วค่ะเพราะเด็กที่สอนเขาเข้าโรงเรียนไปแล้ว” ฉันยิ้มเล็กน้อย รู้สึกสมเพชตัวเองหน่อย ๆ เพราะเรื่องนี้แหละเลยทำให้รายรับของฉันลดลง
“ก็ดี ถ้างั้นฉันจ้างเธอ” หน่วยรบสรุปสั้น ๆ แต่ฉันนี่งงหนักมาก
เดี๋ยวก่อนนะ… คือเขาต้องการจ้างฉันไปสอนพิเศษเด็กคนหนึ่ง ฉันเข้าใจถูกไหม?
“เอ่อ… หมายความว่ายังไงคะ คือเฮียจะจ้างฉันไปสอนพิเศษใช่ไหมคะ”
“ใช่ นี่เบอร์ฉัน” เขาคว้าบิลกับปากกาในมือฉันไปจดเบอร์ตัวเองก่อนจะยื่นคืนด้วยสีหน้าที่ยังคงความเรียบเฉย “เริ่มงานวันเสาร์ตอนสิบโมง เธอค่อยโทรมาถามสถานที่วันนั้นเลยแล้วกัน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ไว้ไปถึงบ้านแล้วจะมีคนบอกเอง”
ถึงแม้ฉันจะยังงงมาก และก็ยังไม่ได้รับปากว่าจะทำ แต่เหมือนฉันจะถูกมัดมือชกไปแล้ว และคงไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน เอาเป็นว่าตามนั้นก็ได้… อย่างน้อย ๆ ฉันก็มีรายได้เสริมอีกทางละนะ
.
.
.
“อะไรกันอ่ะ เฮียหน่วยคุยอะไรกับแกเหรอ” ตอนฉันเดินกลับมาหลังเคาน์เตอร์ โบอิ้งรีบพุ่งตัวเข้ามาถามทันที แถมยังดึงบิลในมือไปดูด้วย “นี่มันเบอร์โทรนี่… อย่าบอกนะว่า…”
“อะ อะไร?” ฉันเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรักที่ทำหน้าเหวอ ๆ
“เฮียหน่วยจะจีบแก!”
“เฮ้ย! จะบ้าเหรอโบ! พูดเบา ๆ ด้วยเดี๋ยวพวกเขาก็ได้ยินหรอก!”
ฉันรีบลากมันเข้ามาในครัวด้วยความกลัวว่าเสียงของยัยเพื่อนตัวดีจะลอยเข้าหูพวกหน่วยรบ ยัยนี่ยิ่งชอบเสียงดังอยู่ด้วย
“ได้ยินก็ดีสิ! ฉันจะได้จัดการยกแก๊งเลยทีเดียว! ฮึ้ย ๆ ไอ้เฮียบัสบ้า ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามเฮียและพวกเพื่อนเฮียมายุ่งกับแกเด็ดขาดอ่ะ! พวกนั้นเสือ สิงห์ กระทิง แรดทั้งนั้น ไว้ใจไม่ได้สักคนเลย” โบอิ้งกอดอกบ่นเสียงดัง หน้าตาเอาเรื่องมาก
“มันไม่ใช่อย่างนั้นยัยโบ เฮียหน่วยไม่ได้จะจีบฉัน”
“ไม่ได้จีบแล้วทำไมให้เบอร์แกอ่ะ ฉันละงงใจ”
“อ้อ เบอร์นี่เฮียหน่วยให้ไว้โทรไปถามสถานที่ที่จะให้ฉันเข้าไปสอนพิเศษเด็กน่ะ พอดีเฮียเขาจะจ้างฉันไปสอนพิเศษให้หลานเขาน่ะสิ” ฉันอธิบายพลางเก็บเบอร์โทรของหน่วยรบเข้ากระเป๋าในล็อกเกอร์
“สอนพิเศษ? หมายถึงเฮียหน่วยจ้างแกไปสอนพิเศษให้หลานเขาอ่ะเหรอ” โบอิ้งทวนคำ
“อือ”
“แล้วแกตอบตกลงไปยัง”
“ไม่ได้ตอบอ่ะ”
“อ้าว แล้วแกจะไปสอนให้เขาไหมอ่ะ” หน้าโบอิ้งมีความงงหนักมากไม่แพ้ฉัน
“ก็คงไปแหละแก ก็รู้นี่ว่าฉันต้องใช้เงินมากแค่ไหน แถมยังเป็นช่วงที่ฉันว่างจากการสอนพิเศษเด็กพอดี ก็แค่เปลี่ยนจากที่เคยไปสอนให้เด็กคนนั้นเป็นสอนให้หลายเฮียหน่วยแทน” ฉันพูดขณะช่วยโบอิ้งจัดเซตอาหารไปด้วย
“อย่างนี้ก็เท่ากับว่า… แกได้ไปสอนพิเศษให้หลานขุนทัพด้วยน่ะสิ”
“…” จู่ ๆ โบอิ้งพูดถึงชื่อขุนทัพขึ้นมา พาให้ฉันฉุกคิดตามไปด้วย
อ่า… นี่ฉันลืมไปซะสนิทเลยว่าหน่วยรบเป็นพี่ชายของขุนทัพ ถ้าฉันต้องไปสอนพิเศษหลานเขาก็เท่ากับสอนให้หลานของขุนทัพด้วยน่ะสิ…
“แหม ๆ ดีจังเลยน้า ได้ใกล้ชิดกันในงานพากย์แล้วยังได้สอนหลานขุนทัพอีก ลิลลาของเราทำบุญด้วยอะไรน้า” โบอิ้งจิ้มแก้มฉันแล้วยิ้มแซว ทำฉันหน้าร้อนผ่าวไปหมดเลยอ่ะ
โอ๊ยยย… ทำไมยัยโบต้องแซวด้วยเนี่ยยย ฉันก็เขินเป็นนะ!