“ยังไม่มีใครเข้าตาเลย แต่ฉันไม่แลเด็กแถวนี้หรอก ไม่อยากอยู่บ้านนอกคอกนาอีกแล้ว
“อยากไปเป็นดาวจรัสแสงอยู่เมืองใหญ่ว่างั้น”
“อื้ม...ฉันไม่เหมาะกับที่นี่” อาโปค่อนข้างภูมิใจในความสวยของตัวเองอยู่นะ และเธอก็รู้สึกมีความสุขมากมายเวลาโดนผู้ชายแซวหรือมีคนมาขอเบอร์ ถึงเธอจะไม่ได้ให้เบอร์ใครไป แต่เธอก็สุขใจที่ได้บริหารเสน่ห์
“เออ ปิดเทอมหนึ่งนี้แกจะทำอะไร”
“อยู่บ้านช่วยงานสวนพ่อแม่มั้ง”
“ไปทำงานในเมืองกันมั้ย” อาโปรีบเสนอเพื่อนรัก “ฉันว่าจะไปสมัครงานพาร์ททามที่ร้านสะดวกซื้อ เค้าเปิดรับนักเรียนหลายอัตราเลยนะ”
“ก็ดีนะ แต่ฉันต้องขออนุญาตพ่อกับแม่ก่อนอ่ะ”
“ไม่เห็นต้องขออนุญาตเลย เราอายุ 18 แล้วนะ อีกอย่าง ไปทำงานแค่ในเมืองเอง ไม่ได้ไปถึงกรุงเทพฯซะหน่อย”
“แต่ในเมืองก็ไกลหลายสิบกิโลอยู่นะแก นั่งรถสองแถวหรือรถตู้ตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะถึง ยังไงถ้าแกได้งาน แกก็ต้องไปเช่าหอพักอยู่ดี ฉันว่าพ่อกับแม่ฉันไม่ให้ไปหรอก แต่อย่างแกก็ทำได้สิ เพราะพ่อกับแม่แกไม่ค่อยสนใจแกอยู่แล้ว”
เมื่อเพื่อนสาวพลั้งปากพูดออกไปไม่ทันคิด ทำให้อาโปหน้าสลดไปเหมือนกัน
“ขอโทษแก ฉันลืมไปอ่ะ” ตันหยงหน้าเสีย “ขอโทษนะ ฉันนี่ปากเสียจริง”
“ไม่เป็นไร ก็มันจริงนี่” เธอไม่โกรธเพื่อนหรอก เพราะพ่อกับแม่ของเธอไม่สนใจเธอจริงตามนั้น ทั้งคู่แยกทางกันตั้งแต่เธอลืมตาดูโลก และต่างฝ่ายต่างก็ไปมีครอบครัวใหม่ โดยทิ้งให้เธออยู่กับยายที่แก่มากแล้ว และเมื่อปีที่แล้วนี่เองที่ยายของเธอเสียไป จึงทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังในบ้านหลังน้อยริมดอย
“การที่ไม่มีใครเป็นห่วงฉัน ว่าฉันจะอยู่ยังไง ใช้ชีวิตยังไง ฉันโอเคนะ เพราะมันทำให้ฉันรู้ว่าชีวิตเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
ขาดคำนั้น รถเก๋งราคาแพงขับผ่านเธอและเพื่อนไปอย่างเร็ว ซึ่งเธอจำได้ดีว่าเป็นรถของบิดาและครอบครัวใหม่ของเขานั่นเอง
บิดาของเธอเป็นถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีบารมีในแถบนี้ เขามีลูกสาวกับภรรยาใหม่สองคน อายุก็ไม่ห่างจากเธอมากนัก คนโตชื่อพลอย นิสัยโคตรหยิ่ง ส่วนคนน้องชื่อแพรว สันดานโคตรเอาแต่ใจ เด็กสาวทั้งคู่เป็นคุณหนูของบ้านตระกูลใหญ่และเป็นคนสำคัญของโรงเรียนเสมอ พวกเธอเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดโน่น แต่เพราะบิดามีบ้านอยู่ในอำเภอนี้ และยังทำงานอยู่ที่อำเภอนี้ เธอจึงยังคงได้เห็นครอบครัวนี้อยู่บ่อย ๆ