ตอนที่ 2

1327 Words
ทันทีที่ได้ยิน พวกมันสามคนก็ตรงรี่เข้ามาอย่างเต็มใจ รีบปฏิบัติตามคำสั่งโดยมิได้รั้งรอ               “เฮ้ย!... หูแตกหรือยังไงวะ ไอ้ห่า! กูสั่งให้ลาก… ไม่ใช่อุ้มนะโว้ย!” เสียงทรงอำนาจคำรามลั่น ด่าลูกสมุนคนหนึ่งที่พยายามสอดท่อนแขนเข้าใต้ขาพับของหญิงสาว เพื่อจะอุ้มร่างสะบักสะบอมของเธอขึ้นจากพื้น ทันทีที่ได้ยินเสียงตะหวาด “ขอโทษครับนาย” ไอ้คนนั้นรีบหลุบตาลงต่ำ จำต้องลากร่างมอมแมมไปตามพื้นกระดานอย่างทุลักทุเล กระทั่งมาถึงหน้าห้องนอนของเขา               หญิงสาวผู้โชคร้ายกัดฟันกรอด เพื่อข่มความเจ็บปวด จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนใจอำมหิตด้วยความอาฆาตแค้น             ที่เธอไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีความเมตตาปราณีใดๆ หลงเหลือเอาไว้ภายใต้อาณาบริเวณของอสูรร้ายหัวใจเถื่อนคนนี้              “โยนมันขึ้นไปบนเตียง!”             เขาแผดเสียงสั่ง ดังลั่นตามมา เยียบเย็นและไร้วิญญาณจนน่าหวาดหวั่น             เพียงเท่านั้นร่างบางก็ถูกยกแล้วโยนโครมลงกลางเตียงนอน อย่างไม่ไยดีต่อความเจ็บปวดของเธอ เมื่อลูกสมุนพากันออกไปจากห้อง… ร่างสูงใหญ่ก็โถมเข้าใส่หญิงสาวในทันที ในสภาพที่เธอคว่ำหน้า มือทั้งสองข้างยังถูกมัดไขว้หลัง แคว่ก…! เขาตรงเข้าฉีกกระชากเสื้อเกาะอกของเธออย่างแรง รั้งร่นมันลงมาถึงบั้นท้าย เผยหลังไหล่เนียนขาว อสูรร้ายถึงกับตาวาวกับความเปล่าเปลือยและเย้ายวนตรงหน้า “โอ้ว…! ฉันไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไรที่ทำให้ไอ้ตัวผู้ทุกตัวมันหลงใหลเธอจนโงหัวไม่ขึ้น” ดวงตาของเขาเบิกกว้างกับเนื้อขาวๆ ที่ผุดเผยต่อหน้า ไม่รั้งรอที่จะกดจมูกและริมฝีปากลงจูบไซ้ จงใจให้ตอเคราระคายครูดคราดและถากทิ่มไปกับแผ่นหลังขาวๆ เหมือนจงใจแกล้ง จนร่างของหญิงสาวถึงกับสะท้านขึ้นจากพื้นที่นอน หล่อนกัดฟัน… พยายามอดทน หากแผ่นหลังก็แอ่นระแน้ด้วยความรู้สึกกับการปลุกเร้าของเขาที่กำลังดำเนินอยู่นั้น นอกจากกรามที่ขบกันแน่นเพราะความชิงชัง… ก็ไม่มีเสียงร้องขอความปราณีใดๆ เล็ดลอดออกมาจากหัวใจแกร่งของเธอ ‘ไม่นานมันจะผ่านไป…’ เป็นเสียงที่ดังขึ้นในสำนึกของหล่อน ทว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นกลับไม่ได้ดำเนินไปโดยราบรื่นอย่างที่ใจของอสูรร้ายปรารถนา เพราะว่าจู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังลั่นขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน แว่วมาจากประตูที่ลืมปิดเอาไว้เพราะอารามรีบร้อนของเขา “หยุด!... นายอาทิตย์ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดย่ำยีเธอเสียที” เสียงแผดลั่นของป้าอิ่ม หญิงวัยกลางคนที่ยืนมองสถานการณ์อยู่ไกลๆ ด้วยความสังเวชใจมาได้ครู่ใหญ่ๆ หล่อนตัดสินใจเข้ามาขัดขวางเอาไว้ในที่สุด อาทิตย์หันหวับมาตามเสียงของคนที่ทำให้อารมณ์ของเขาสะดุดลง “คุณมีความคับแค้น… ข้อนั้นป้าก็พอจะเข้าใจ คุณชิงชังเธอ… ป้าก็รู้ คุณจะทำลายเธอป้าก็จะไม่ขัด จะข่มขืนเธอป้าก็จะไม่ห้าม  แต่ป้าแค่อยากจะบอกกับคุณว่าแม้ในสนามรบ… ในศึกสงคราม ก็ยังมีความปราณีหลงเหลืออยู่ แต่นี่ในบ้านนะคะ บ้านที่ยังมีป้ากับคุณท่านหัวโด่อยู่ทั้งสองคน อย่างน้อยคุณก็น่าจะสอบสวนเธอให้กระจ่างเสียก่อนที่จะบุ่มบ่ามกระทำย่ำยีกับเธอเช่นนี้ คุยกันดีๆ ก่อนไม่มั้ย… หรือไม่ก็ให้เธอได้กินข้าวกินน้ำเสียบ้าง”  ที่บอกเช่นนั้น เพราะป้าอิ่มสังเกตเห็นว่าตั้งแต่เช้ามืด หลังจากที่เขานำตัวเธอมากักขังเอาไว้จนถึงเที่ยง ต่อด้วยการทรมานเมื่อตอนบ่าย ก็ยังไม่เห็นว่าข้าวสักชาม น้ำสักแก้ว จะตกถึงท้องของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เขาไปฉุดคร่าเอาตัวเธอมาถึงบ้าน… เขาก็ทรมานเธอต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดหย่อน อสูรร้ายหยุดกึก… จ้องมองป้าอิ่มด้วยสายตาขัดใจ พยายามซุกซ่อนความหื่นเอาไว้เบื้องหลังดวงตาแข็งกร้าวและกรุ่นโกรธคู่นั้น “แต่ป้าอิ่มก็รู้อยู่เต็มอก… ว่าทำไมผมถึงชิงชังนังผู้หญิงคนนี้นักหนา”   คำพูดนั้นราวจะตอกย้ำเรื่องราวเลวร้ายในอดีต ที่ดูเหมือนว่าป้าอิ่มอาจจะลืมไป… กับผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องชายร่วมสายโลหิตของเขาต้องมีอันเป็นไป ด้วยการฆ่าตัวตายอย่างน่าเวทนา             “เรื่องนั้นป้าก็รู้… ป้าเข้าใจ” “เข้าใจก็ดีแล้ว” “เพียงแต่ป้าไม่อยากเห็นใครต้องมาตายในบ้านหลังนี้ อย่าลืมว่าบ้านหลังนี้ก็ยังมีผู้หญิงอีกคนคือป้าที่ไม่อาจจะทนดูคุณระบายแค้นกับผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดจับหัวกดน้ำ… และกำลังจะข่มขืนเธอแบบนี้โดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ชี้แจงอะไรเลย… คุณป่าเถื่อน อำมหิตเกินไป ป้ารับไม่ได้” พูดจบก็ส่ายหน้า แววตาบอกความผิดหวัง             “ผมไม่มีเวลามาฟังคำโกหกของใครอีกต่อไป”             เขากล่าวน้ำเสียงกระด้าง สายตาแข็งกร้าวมองต่ำไปที่ร่างของหญิงสาวที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่กลางเตียง มือทั้งสองยังถูกมัดไพล่หลังเอาไว้  น้ำเสียงไร้ความปราณีของเขาที่หญิงสาวได้ยินนั้น ยิ่งทำให้เธอรู้สึกได้ถึงสถานการณ์อันน่าหนักใจ เมื่อเขาคิดว่าคำ ‘อธิบาย’ ของเธอคือการ ‘โกหก’             “ป้าอิ่ม… อย่ายุ่งดีกว่า”             เขาโพล่งออกมาอย่างขัดใจ เหลือบมองร่างของหญิงสาวที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงด้วยสายตาคาดโทษหนัก               “เห็นทีว่าเรื่องนี้… ป้าคงต้องขอยุ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”  ไม่บ่อยครั้งนักที่ป้าอิ่มจะกล้าขัด   ชายหนุ่มนิ่งเงียบ…. ถ้าหากเป็นคนอื่น เขาคงไม่มีวันอ่อนข้อให้เด็ดขาด แต่กับป้าอิ่มที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กๆ หลังจากมารดาของเขาหนีตามชายชู้ไปเมื่อตอนเขามีอายุได้เพียงแค่สามขวบ ก็ทำให้ชายหนุ่มจำต้องนิ่ง… จำนนให้กับคำขอของป้าอิ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเท่าที่จำได้ ป้าอิ่มแทบไม่เคยขอร้องอะไรจากเขาเลย และคนอย่างป้าอิ่มก็ใม่ใช่คนที่ชอบขอร้องอะไรพร่ำเพรื่อ             “ให้กินข้าวพอได้ แต่น้ำคงไม่ต้อง... เพราะผมให้กินเข้าไปหลายอึกแล้ว… ฮ่าๆ ๆ ๆ”             เขาพูดอย่างนึกสนุก เอาความทุกข์มาล้อเลียน สายตากระด้างมองไปที่โอ่งน้ำ ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ ด้วยความชอบใจ ทว่าสีหน้าของป้าอิ่มกลับเรียบเฉย… ไม่ได้รู้สึกตลกหรือขำไปกับเขาแต่อย่างใด   ป้าอิ่มจ้องมองร่างสะบักสะบอมที่นอนตะแคงข้าง ได้ยินเสียงหายใจรวยรินของหญิงสาว สองมือของหล่อนยังถูกมัดไขว้หลังอย่างน่าเวทนาสงสาร หากแววตาที่เข้มแข็งจนดูแกร่งกร้าวของหญิงสาวคนนี้นี่แหละ!... ป้าอิ่มกลัวเหลือเกิน หวั่นใจว่ามันจะเป็นดั่งเชื้อไฟที่คอยยั่วโทสะจนอารมณ์ร้ายๆ ของนายอาทิตย์ปะทุขึ้นมา อีกครั้ง… โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว             ‘แม่คู๊ณ... โดนทึ้งโดนลากขนาดนี้ยังกัดฟันเงียบอยู่ได้ ไม่รู้จะทนจะทานไปถึงไหน จะอ้อนวอนเขาสักนิดก็ไม่มีจะปริปาก ใจแข็งเหลือเกิน ฉันละห่วงอนาคตเธอจริงจริ๊ง… แม่สาวน้อยผู้โชคร้าย’             ป้าอิ่มรำพึงในใจ แอบถอนใจกับเรือนร่างบอบบางตรงหน้าด้วยน้ำเสียงปลดปลง ส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับภาพที่เห็น ด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ… 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD