บทที่ 7

2265 Words
" มีความสุขมากนักเหรอ ได้นอนอ่านหนังสือเพลงสากลนั่นน่ะ " ผู้เป็นพี่พูดกระแทกกระทั้นเด็กหนุ่มที่นอนเหยียดขายาวต่อหน้าต่อตาเขาทันทีเมื่อมาถึงบ้าน " ก็มันตื่นเต้นนี่น่าทูน มันมีเพลงที่อยู่ในเทปคาคาสเซ็ทของทูนด้วยล่ะ ทายจะต้องรู้ความหมายของมันทั้งหมดให้ได้ " เด็กหนุ่มจดเนื้อเพลงทีละท่อนลงบนสมุดเปล่าที่ยังไม่ได้เปิดใช้ " ทูน.. ที่บ้านทูนมีดิกชันนารีหรือเปล่า ทายขอยืมมาเปิดดูคำศัพท์ได้ไหม.. " ชายหนุ่มทำเป็นหูทวนลม ไม่ตอบกลับอะไรเด็กหนุ่ม " ทูน.. ทูน! " ไพรทูรย์นั่งนิ่งและทำหน้าตาเรียบเฉยเหมือนไม่มีใครเคยพูดอะไรขึ้นมาก่อนหน้านี้ " ไพรทูรย์! ไม่ได้ยินที่เพทายคุยด้วยเหรอ ถ้าทูนไม่ตอบเพทายจะโกรธแล้วนะ! " เด็กหนุ่มเผยแววตาแข็งกร้าวออกมา อีกไม่นานระเบิดขนาดย่อมจะตกลงบนหัวของไพรทูรย์อย่างแน่นอน " อยากได้ก็ไปเอาเองซิ พี่ไม่ได้เป็นคนอยากใช้สักหน่อย " ชายหนุ่มไม่ยอมอ่อนข้อให้เด็กหนุ่ม พื้นที่โดยรอบถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ด้วยรังสีอำมหิตจากทั้งคู่.. " ก็มันอยู่ในบ้านทูน ทูนก็ต้องไปหยิบมาให้เพทายซิ! เพทายไม่ได้มีกุญแจบ้านของทูนสักหน่อย! " ชายหนุ่มมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาดุร้าย มือข้างหนึ่งของไพรทูรย์ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง.. ชายหนุ่มล้วงเอากุญแจบ้านขึ้นมากุมไว้ในมือแกร่ง แล้วเขวี้ยงมันใส่หน้าอกของเพทาย " อยากได้ก็ไปเปิดเอาเอง อยู่ในห้องนอน พี่จะไม่ไปเอาให้เพราะพี่ไม่ใช่ขี้ข้าใคร! " เด็กหนุ่มลุกขึ้นไปหยิบเอากุญแจที่ตกลงพื้นแล้วเดินออกไปนอกบ้าน.. เพทายพยายามเก็บความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ในใจ.. แค่ขอให้ช่วยไม่เห็นพี่ชายต้องรุนแรงกับเพทายเลย เพทายยืนอยู่หน้าประตูบ้านของไพรทูรย์ เด็กหนุ่มกำลังชั่งใจว่ากุญแจดอกไหนกันนะที่เป็นกุญแจไว้ไขประตูเข้าบ้าน ใจหนึ่งก็อยากกลับไปถาม อีกใจก็ไม่อยากไปรบกวนพี่ชาย ด้วยเหตุนั้นเด็กหนุ่มจึงต้องใช้กุญเจไขทีละดอกเพื่อหาคำตอบว่าไหนที่ไขเข้าไปได้ กว่าเพทายจะไขเข้าไปได้ก็ใช้เวลาเกือบๆสิบห้านาที เด็กหนุ่มเดินลัดเลาะไปตามทางเข้าบ้านยาว ใจกลางบ้านเป็นห้องครัวใหญ่ ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องนอนสองห้องที่อยู่ติดกัน เพทายกำลังยืนชั่งใจอีกครั้งว่าประตูห้องสองบานตรงหน้าบานไหนเป็นของไพรทูรย์.. เด็กหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วพับลงทีละนิ้ว โดยใช้วิธีการนับว่านิ้วที่หนึ่งเป็นของไพรทูรย์ และนิ้วถัดมาเป็นของคุณน้า ถ้านิ้วสุดท้ายเป็นชื่อของคุณน้า เทพายจะเลือกเปิดประตูเข้าไปห้องที่หนึ่ง แต่ถ้านิ้วสุดท้ายเป็นชื่อของไพรทูรย์ เพทายจะเลือกเปิดประตูเข้าไปยังห้องที่สองเสียก่อน.. หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า.. เก้า สิบ.. สุดท้ายเป็นชื่อของคุณน้าในนิ้วสุดท้าย เด็กหนุ่มจึงเลือกเปิดประตูห้องที่สองก่อน ผนังข้างห้องนอนถูกประดับไปด้วยโปสเตอร์ฟุตบอลและภาพยนตร์แอคชั่นต่างๆมากมาย ตอนนี้เพทายรู้แล้วว่าห้องนอนที่ตัวเองเดินเข้ามาเป็นห้องนอนของผู้ใด.. เตียงนอนของชายหนุ่มอยู่ติดกับประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ข้างข้างเตียงนอนเป็นโต๊ะใหญ่สำหรับเอาไว้อ่านหนังสือ บนโต๊ะใหญ่มีข้าวของวางระเกะระกะเต็มไปหมด มีทั้ง โคมไฟ แก้วน้ำ ซองขนม ช็อกโกแลตเหรียญทองพร้อมสายห้อย อุปกรณ์การเรียน และซองจดหมายที่ถูกเปิดออกแล้ว บนหน้าซองจดหมายสีขาว มีตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนเอาไว้.. มันเขียนเอาไว้ว่า " จากจูน ถึง พี่ทูน " และข้างข้างกันก็มีอีกซองที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ บนหน้าสองเขียนด้วยปากกาหมึกซึมสีดำ " พี่ทูน ถึง จูน " เพทายพอจะมองออกว่าการเขียนจดหมายถึงกันและกันของหนุ่มสาวหมายความว่าอย่างไร.. เด็กหนุ่มวางซองจดหมายลงบนโต๊ะเช่นเดิม แล้วรีบค้นหาว่าดิกชันนารีของไพรทูรย์วางไว้ที่ตรงไหน เด็กหนุ่มเริ่มจากเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะใหญ่แล้วก็พบว่าดอกชันนารีที่ตนตามหาถูกเก็งเอาไว้ใต้โต๊ะนี่เอง.. ข้างหนังสือแปลคำศัพท์เล่มใหญ่ มีกรอบรูปถูกคว่ำหน้าเอาไว้ เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่ในใจว่าควรหยิบขึ้นมาดูหรือไม่.. แต่การกระทำมักเร็วกว่าความคิด เด็กหนุ่มหยิบกรอบรูปขึ้นมาจากลิ้นชักและพลิกมันกลับด้าน บนกรอบรูปใสเป็นภาพของเพทายกำลังยิ้มร่า แววตาสดใสมีความสุข เด็กหนุ่มไม่เคยรู้เลยว่าพี่ชายเคยแอบถ่ายภาพของตัวเองเอาไว้ด้วย เด็กหนุ่มเอียงคอและยืนมองรูปนั้นอยู่นาน.. ความโกรธที่เคยมีเต็มร้อยตอนนี้ลดลงเหลือแค่สิบเปอร์เซ็นต์ เพทายเลื่อนลิ้นชักปิดเอาไว้อย่างเดิมและหยิบเอาดิกชันนารีและกรอบรูปออกจากห้องไปด้วย เพทายเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากตอนที่เดินออกจากบ้านไป ประตูบ้านยังคงเปิดกว้างและพี่ชายนั่งรอเด็กหนุ่มอยู่บนโซฟาไม้.. " ทูน.. ทายเจอนี่ด้วย " เด็กหนุ่มเอียงหน้าหลบสายแล้วยื่นกรอบรูปใต้ลิ้นชักให้กับพี่ชาย " ไปเอามันมาได้ยังไง! " ไพรทูรย์แย่งเอากรอบรูปในมือของเด็กหนุ่มมาถือเอาไว้และกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว " ไม่มีมารยาทเลยนะ! ใครใช้ให้ค้นของในห้องคนอื่น! ไปเอาดิกชันนารีก็ควรเอาแค่ดิกชันนารีซิ! " แววตาของเด็กหนุ่มวูบไหวเมื่อเห็นว่าพี่ชายกำลังโกรธเพราะการกระทำไม่รู้จักความของตน " ทะ..ทาย ทายไม่ได้ตั้งใ.. " เพล้ง ! กรอบรูปที่เคยอยู่บนมือแกร่งของพี่ชาย ตอนนี้แตกกระจายไปทั่วทางเดิน.. ร่างกายของเด็กหนุ่มเริ่มสั่นเทา เหตุการณ์ตรงหน้ากระทบเทือนจิตใจของเด็กหนุ่มเกินจะรับไหว " อย่ามาเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอไปหน่อยเพทาย.. ทีนั่งมอเตอร์ไซค์ยังนั่งได้เลย! แค่นี้กลัวเหรอ " เด็กหนุ่มหายใจถี่อย่างควบคุมไม่ได้.. มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นมาทุบลงบนศรีษะ ดวงตาเบิกโพลน น้ำตาที่คลอเอ่ออยู่แล้วไหลล้นลงมาจากดวงตา.. " เพทาย.." ไพรทูรย์กลับมาได้สติอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าตนเป็นต้นเหตุทำให้น้องชายคุมตัวเองไม่ได้อีกครั้ง.. ไพรทูรย์รีบวิบเข้าไปโอบกอดน้องชายของตัวเองไว้ เศษกระจกที่แตกกระจายบนพื้นทิ้มแทงเนื้ออ่อนใต้เท้าของชายหนุ่ม " พะ..พี่ขอโทษเพทาย พี่ขอโทษ " ไพรทูรย์กอดเพทายเอาไว้แน่น มือเล็กถูกคนตัวใหญ่กว่าจับกุมเอาไว้ " ยกโทษให้พี่นะเพทาย.. พี่ขอโทษ " เพทายค่อยค่อยหายใจช้าลง แต่น้ำตาที่ไหลลงมาเพราะความเสียใจยังคงไม่หยุดไหล " ทูนใจร้าย! เพทายไม่ได้ตั้งใจเสียมารยาทสักหน่อยแล้วทูนเขวี้ยงรูปนั่นทิ้งทำไม! " เด็กหนุ่มเจ็บปวดแทบขาดใจตอนที่รูปภาพของตนเองถูกเขวี้ยงลงบนพื้น " เพทายแค่อยากมาบอกทูนว่าเพทายไม่เคยเห็นรูปนี้เลย แล้วเพทายก็ชอบมาก! ทำไมทํน..อึก..ฮือ.. " ไพรทูรย์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเพทายจะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของตนเองขนาดนี้.. ไพรทูรย์เปลี่ยนเป็นอีกคนเพียงเพราะเพทายไปสนใจคนอื่นมากกว่า.. ไพรทูรย์รู้สึกละอายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้จริงจริง " เพทาย..พี่มันนิสัยไม่ดี.. พี่ไม่เหมาะจะเป็นพี่ของเพทายเลย " น้ำตาของลูกผู้ชายหยดลงบนแผ่นหลังกว้างของเด็กหนุ่ม " พี่.. พี่ไม่ชอบเลยที่ตัวเองเป็นแบบนี้ พี่ไม่เป็นตัวเองเลย เพทาย พี่ขอโทษ " ชายหนุ่มปล่อยโฮกลางหลังของเด็กหนุ่ม ทั้งพี่และน้องพร้อมใจกันร้องไห้ออกมา " เพทายขึ้นไปยืนรอบนโซฟาไม้นะ เดี๋ยวกระจกจะบาดเท้าเอา.. " ไพรทูรย์อุ้มร่างของเด็กหนุ่มให้ขึ้นไปยืนอยู่บนโซฟาไม้ ไม้กวาดก้านยาวกวาดเอาเศษกระจกเข้าไปกองรวมกันบนปุ้งเต้า ไพรทูรย์กวาดซ้ำอยู่หลายรอบเพราะกลัวว่าจะยังมีเศษกระจกหลงเหลือและคนในบ้านอาจบาดเจ็บจากเศษกระจกเอาได้ " เลือดออก! " เพทายเช็ดน้ำตาแล้วชี้ไปที่ใต้เท้าของพี่ชาย " ทูนต้องทำแผล " เด็กหนุ่มกระโดนลงจากโซฟาไม้ไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่วางอยู่บนตู้กระจกข้างประตูบ้าน " ไม่ต้องหรอกเพทาย เดี๋ยวพี่กลับไปทำเองที่บ้า.. " แววตาที่กร้าวและเกรี้ยวกราดกำลังมองตรงมาที่ชายหนุ่ม หน้าแปลกใจที่ครั้งนี้เด็กหนุ่มไม่ได้หลบสายตาแต่มองตรงมาที่ใบหน้าของชายหนุ่มจริงจริง " ทูน..นั่งลง " เด็กหนุ่มออกคำสั่งและชายหนุ่มก็ทำตามอย่างโดยดี " ทูนเจ็บแล้วยังจะทำเท่ " เด็กหนุ่มยกเท้าข้างขวาของไพรทูรย์ขึ้นมาชันเอาไว้ที่ต้นขาของเด็กหนุ่ม แอลกอฮอล์สีฟ้าถูกราดลงบนเท้าใหญ่ของไพรทูรย์ " สะ..สะ..แสบเพทาย ใช้คอตตอนบัดจิ้มเอาไม่ได้เหรอ ไม่เห็นต้องเทแอลกอฮอล์ราดเท้าพี่เลย " เด็กหนุ่มกลับมาหันหน้าเอียงข้างและหลบตาพี่ชายอีกครั้ง " ก็ยังโกรธอยู่ไง ถึงไม่ทำดีดีด้วย " " อ๋อ.. " ไพรทูรย์คิดว่าเขาควรหุบปากเอาไว้จนกว่าเพทายจะทำแผลให้เสร็จ " แต่เพทาย..พี่ไม่ทายทิงเจอร์ได้ไห.. โอ้ย! " เพทายจิ้มคอตตอนบัดลงไปในขวดยาน้ำทิงเจอร์ไอโอดีนและทาลงบนแผลของไพรทูรย์ในทันที ชายหนุ่มแหกปากดังลั่นบ้านเหมือนเจ้าตัวไม่เคยรู้สึกเจ็บเท่านี้มาก่อนในชีวิต " แกล้งกันไหมเนี่ยเพทาย ไม่เห็นให้พี่ได้เตรียมใจ ก็รู้อยู่ว่าทิงเจอร์มันเจ็บปวดแค่ไหน! " ควรเจ็บปวดค่อยค่อยแล่นจี๊ดเข้าไปบนร่างกายของไพรทูรย์ กว่าจะทำแผลเสร็จทั้งสองข้าง ไพรทูรย์รู้สึกเหมือนกำลังชดใช้กรรมที่ทำให้น้องชายต้องร้องไห้.. เพทายใช้พลาสเตอร์ปิดแผลลายการ์ตูนที่อ้อนให้คุณยายซื้อเก็บเอาไว้ให้ติดลงบนรอยแผลแทนการพันแผลที่เท้า ไพรทูรย์ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะทราบดีว่าเพทายพันแผลไม่เป็น ชายหนุ่มแอบลอบมองใบหน้าด้านข้างของเพทาย.. แล้วก็นึกไปว่า เพทายดูไม่เหมือนเด็กที่มีอาการออทิสติกสเปกตรัมเลย แม้ว่าจะมีบางอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นโรคนั้นก็ตาม ไหนจะตอนที่มองหน้าของเขาเมื่อสักครู่นี้อีก เด็กที่เป็นออทิสติกจริงๆจะกล้ามองหน้าตรงๆแบบนี้เชียวเหรอ.. วันนี้ไพรทูรย์ฝากท้องไว้ที่บ้านของเพทายอีกครั้ง เนื่องจากคุณแม่ขอเพทายต้องบินไปต่างจังหวัดและชายหนุ่มก็รู้สึกขี้เกียจทำกับข้าวกินเอง.. เมนูข้าวเย็นของหญิงชราผมขาวในวันนี้คือ ป่นปลาทู ไข่เจียว และผักหลากสี.. ไม่ว่าคุณยายจะทำมันให้ทานกี่ครั้งรสชาติความอร่อยของมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย " ไอ้ทาย.. ลุกไปเปิดช่องข่าวให้ยายเอ็งฟังซิ " ลุงวสินใช้หลานไปเปิดทีวีแทนตนเอง " ไอ้สิน.. แม่ใช้แก แล้วแกไปใช้หลานมันต่อทำไม " เปี๊ยะ! ลุงวสินถูกตีที่ไหล่ไปหนึ่งที.. โชคดีที่เย็นนี้ไม่มีใครถามหาเหตุผลว่าทำไมเท้าของผมถึงต้องติดพลาสเตอร์เอาไว้ และเพทายก็ได้ฟ้องยายว่าไพรทูรย์ทำเจ้าตัวร้องไห้ เรื่องราวของเราในวันนี้เบยกลายเป็นความลับของเราแค่สองคน.. เพทายลุกขึ้นยกถ้วยจานเอาไปวางไว้ล้างช่วยยายที่หลังบ้าน ส่วนไพรทูรย์ไปหยิบไม้กวาดกับปุ้งเต้ามากวาดเอาเศษอาหารที่หล่นลงบนแคร่ไปทิ้ง.. เมื่อเก็บกวาดเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มเดินไปหยิบสมุดเปล่าที่เด็กหนุ่มวางทิ้งเอาไว้บนโซฟาไม้ขึ้นมาอ่าน.. เนื้อเพลง Never gonna change my love for you ที่เพทายชอบ ถูกเขียนเนื้อเพลงลงไปแล้วครึ่งเพลง เด็กหนุ่มเขียนคำแปลเอาไว้ทีละคำ ทีละประโยค ชายหนุ่มค่อยค่อยอ่านความหมายแต่ละบรรทัด.. แล้วเขาก็ยิ้มออกมา " เพทายตั้งใจกับมันมากจริงจริง.. " ไพรทูรย์พับสมุดลงแล้วภาพถ่ายที่เพทายซ่อนเอาไว้ก็หล่นลงมาบนตักของไพรทูรย์.. เป็นรูปเพทายที่กำลังยิ้มร่า.. ที่ถ่ายโดยไพรทูรย์ " ลืมไปเลย.. เพทายไปแอบเก็บมันมาไว้ตอนไหนนะ.. " ไพรทูรย์รูปเก็บใส่สมุดไว้เช่นเดิมแล้วเดินไปหาเพทายอยู่หลังบ้าน " เพทาย.. " ชายหนุ่มกวักมือเรียกให้เด็กหนุ่มเดินมาหาใกล้ใกล้ เด็กหนุ่มวางจานลงบ่นกะละมังล้างจานแล้วเดินกลับมาไพรทูรย์.. ชายหนุ่มดึงตัวเด็กหนุ่มให้เขยิบมาใกล้ใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหู.. " วันนี้ไปนอนดูดาวบนหลังคากันไหมเพทาย.. "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD