12

1182 Words
บทที่ 12 ห้องอาหาร “พี่ใหญ่อยากสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ” เจมีน่าถามพี่ชายหลังจากสั่งอาหารไปประมาณสิบรายการ “ไม่ จูนสั่งอาหารเยอะมาก เราจะกินกันสามคนหมดเหรอ” ภพธรอยากจะถามน้องสาวไปตรง ๆ ว่าได้ชวนสุริษามาด้วยไหม แต่ก็กลัวจะถูกสงสัย จึงแกล้งพูดจาอ้อม ๆ ไปเล็กน้อย “จริง ๆ ก็ชวนคุณแนนไว้เหมือนกันค่ะ แต่เธอติดลูกค้าอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะมาร่วมโต๊ะด้วยได้ไหม” ภพธรพยักหน้ารับช้า ๆ “พูดถึงคุณแนนแล้วพี่ขอตำหนิเราหน่อยเถอะ จูนก็เห็นว่าหน้าเธอช้ำอยู่แบบนั้น ทำไมไม่สั่งให้เธอพักงานสักสองสามวัน ให้หน้าหายดีแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ” “จูนบอกคุณแนนแล้วนะว่าให้หยุดจนกว่าหน้าจะหายดี แต่เธอก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร ถามพี่ปูนดูก็ได้ค่ะ” เจมีน่าร้อนใจ รีบแก้ไขความเข้าใจผิดของพี่ชาย “เห็นแนนเขานิ่ม ๆ แบบนั้นใช่ว่าจะหัวอ่อนนะคุณใหญ่ ดื้อเงียบเลยแหละ” ภาสกรพูดกับพี่เมีย “ผมถึงบอกว่าให้สั่งพักงานไงครับคุณปูน” เขารู้ว่าเธอดื้อดึงก็วันนี้แหละ ดังนั้นพูดดี ๆ คงไม่ได้ผล ต้องสั่งเด็ดขาดถึงจะไม่กล้าหือ “พูดดี ๆ ไม่ฟังก็ต้องขู่กันบ้าง จะได้หลาบจำ” “เอางั้นเลยเหรอครับคุณใหญ่” “ผมคิดว่าควรทำแบบนั้นนะครับ รอยช้ำไม่ใช่น้อย ๆ แล้วต้องทำงานพบปะกับลูกค้าด้วยไม่ใช่เหรอครับ ผมว่ามันไม่เหมาะนะ” “น้องจูนว่าไง เห็นด้วยกับพี่ใหญ่ไหม” ภาสกรหันไปขอความเห็นจากภรรยา ในใจนึกขำพี่เมียที่ทำเป็นวางฟอร์มเอาเรื่องงานมาอ้าง ทั้งที่ใจจริงคงจะเป็นห่วงเธอมากกว่า “ก็ดีนะคะ พี่ปูนสั่งพักงานเธอไปเลย ถือว่าขู่ไปในตัวด้วย คราวหน้าจะได้ไม่กล้าทำอีก จูนเห็นรอยช้ำของคุณแนนแล้วยังขยาดแทนเลยค่ะ นั่นขนาดมีคนเข้าไปเห็นและห้ามไว้นะคะ ถ้าเกิดไม่มีคนเห็นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” “อาจจะหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาลไง” ภพธรเสริมคำพูดน้องสาว “สั่งพักงานเถอะครับ เราทำเพราะหวังดีแต่ก็หวังผลทางอ้อมด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” “โอเค เดี๋ยวผมจะคุยกับเธออีกทีก็แล้วกัน” “คุณแนนมาแล้ว เราหยุดพูดเรื่องนี้กันนะคะ” เจมีน่าบอกกับทุกคนแล้วกวักมือส่งสัญญาณให้หญิงสาว สุริษาส่งยิ้มให้คุณผู้หญิงของเธอแต่ไกล “ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า มัวแต่ติดลมอยู่กับคุณเฉิน” “คุณเฉินพ่อของคุณฟงเหรอคะ” “ใช่ค่ะ ท่านแวะมาชวนไปทานข้าวด้วย พอบอกปัดไปว่ามีนัดกับคุณท่านแล้ว ยังจะขอตามมาร่วมโต๊ะด้วยอีก กว่าจะหาข้ออ้างแยกมาได้นี่เหนื่อยเลยค่ะ ท่านบ่นใหญ่เลยค่ะที่ขอเลื่อนนัดเป็นมื้ออื่น” “แสดงว่าที่ช้านี่เพราะเรื่องส่วนตัว” ทุกคนบนโต๊ะหันไปมองคนพูดที่ไม่น่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และเขาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นคำถาม ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์กลับมา “ไม่ส่วนตัวนะคะ ท่านเป็นคู่ค้าคนสำคัญของคุณท่าน แนนก็ต้องให้การดูแลท่านอย่างดีที่สุด” สุริษาตอบอย่างตรงไปตรงมา “เพิ่งรู้นะว่าทำงานอยู่ฝ่ายต้อนรับ” “ไม่ใช่ค่ะ แนนอยู่ฝ่ายส่งเสริมการตลาด” “อ๋อ” ภรธรลากเสียงยาวพร้อมพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ นึกเคืองอีกฝ่ายที่ทึ่มจนทื่อ เอ๊ะ! หรือว่าเธอแกล้ง ภาสกรสังเกตดูท่าทีของทั้งสองคนอยู่เงียบ ๆ.. ด้วยความที่ทำงานคลุกคลีอยู่กับคนหมู่มากมานาน ผ่านผู้หญิงมาก็น่าจะเป็นร้อย และยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันยิ่งดูง่าย โดยเฉพาะผู้ชายที่กำลังสนใจผู้หญิงสักคน เหมือนอย่างที่ภพธรกำลังเป็นอยู่ตอนนี้ เพราะมันคล้าย ๆ กับตอนที่เห็นเมียรักควงคู่กับเขาตอนที่ยังไม่รู้ความจริงว่าเป็นพี่น้องกันนั่นแหละ “คุณเฉินเป็นคนเจ้าชู้ เราก็ระวัง ๆ ไว้บ้าง อย่าเผลอไปหลงคารมเขาเข้าล่ะ มาดามเฉินโหดนะจะบอกให้” ภาสกรเตือนสุริษาเสียงเรียบ เจตนาให้ภพธรรับรู้และลอบดูท่าทีไปด้วย “พี่ปูนคิดว่าคุณเฉินจะเคลมคุณแนนเหรอคะ” เจมีน่าถามเสียงเครียด สีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาทันที “พี่ไม่รู้ แต่จากนิสัยของเขาและจากที่แนนเล่ามา มันทำให้พี่เป็นห่วง แล้วคนของเราก็ยิ่งซื่อ ๆ อยู่ด้วย พี่กลัวจะไม่ทันคุณเฉินเขา” “ถึงแนนจะซื่อจะบื้อไปบ้าง แต่แนนก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะคะคุณท่าน แนนทราบค่ะว่าคุณเฉินเจ้าชู้ แนนไม่หลงคารมท่านแน่ค่ะ” สุริษายืนยันหนักแน่น สีหน้าจริงจัง “ไม่หลงคารมแต่อาจเผลอใจอ่อนเพราะถูกตามตื๊อก็ได้นะ” ภพธรติง สีหน้าเปื้อนยิ้มนิด ๆ แต่แววตากลับไม่ยิ้มด้วย “แหม ถ้าหล่อ ๆ หนุ่ม ๆ แบบพี่โฉดแนนอาจจะเผลอใจนะคะ แต่รุ่นพ่ออย่างคุณเฉินแนนไม่หลวมตัวหรอกค่ะ” สุริษาตอบกลับอย่างเริงร่า ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกเหน็บ “หึ!” ภพธรเคืองหญิงสาวมากที่พูดจาแบบนั้นออกมา เธอก็ดีแต่พูด เขาให้ท่าไปตั้งหลายท่าเธอยังไม่สนสักนิด สุริษามองเขาหน้ามุ่ย ไม่เข้าใจว่าไอ้เสียงหึที่ออกมาจากลำคอของเขานั้นสื่อถึงอะไร แต่เห็นเขาหันไปสนใจอาหารที่ทยอยออกมาเสิร์ฟจึงเลิกสนใจ เจมีน่าเลิกสนใจพี่ชายและสุริษาชั่วขณะ เมื่ออาหารถูกนำมาเสิร์ฟจนครบ แล้วตักปลาทอดราดน้ำยำทรงเครื่องให้สามี “ของโปรดพี่ปูนค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” ภาสกรส่งยิ้มหวานให้ภรรยา และตักอาหารที่เธอเตรียมให้ใส่ปาก “อร่อยไหมคะ” “สู้ที่ผับไม่ได้ แต่ก็ไม่เลว หนูก็กินบ้างสิ เอาผัดผักไหม” “เอาค่ะ จูนอยากลองปูจ๋าด้วยค่ะพี่ปูนขา” “เดี๋ยวพี่ตักแบ่งให้นะ” ภาสกรตักปูจ๋าใส่จานตัวเอง แล้วตักแบ่งเป็นพอดีคำใส่จานของภรรยา และตักน้ำจิ้มบ๊วยราดให้อีกหน่อย สุริษาแอบมองการเอาใจใส่ต่อกันของคู่สามีภรรยา แล้วเอื้อมศอกไปสะกิดคนข้าง ๆ เห็นเขาหันมามองจึงยื่นหน้าไปใกล้ ๆ “น่ารักดีนะคะ” กระซิบเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD