ทัณฑ์เถื่อนเมียบำเรอ บทที่1.จุดเริ่มต้นของความแค้น..

1556 Words
ชายหนุ่มเรียนรู้ ตั้งแต่การทำงานระดับล่างๆ โดยหัวหน้าคนงานเก่าแก่ ลุงคำปันเป็นคนสอนสั่ง ไม่เกี่ยงแม้งานจะหนักจนเหนื่อยแทบขาดใจ เพียงเพราะต้องการรู้วิธีทำ เพื่อไว้ใช้สอนคนงาน เรื่องตีรัน ฟันแทงเป็นเรื่องปกติ เหมือนอาหารที่ต้องกินเข้าไปประทังชีวิต เขาหัวหก ก้นขวิด เดินทางในเส้นทางลูกผู้ชาย จนแกร่งกล้าจวบทุกวันนี้ เหมืองแร่ปิยวาทิน... เป็นแหล่งผลิตแร่ขนาดใหญ่ มีออเดอร์ที่ต้องส่งออก มีรายได้มากมายมหาศาล จนมีแต่คนโลภอยากจะครอบครอง แต่สิงหราชยืนเป็นก้าง จวบจนปัจจุบัน ไม่มีใครกล้ายื่นตีนเข้ามาแกว่ง เพราะหากถูกตอบโต้...มันหมายถึงความฉิบหาย!! เมื่อสิงหราชกัดไม่ปล่อย เขาถูกขนานนามว่าเสือบ้า...เพราะหากสิงหราชกัด เขากัดจมเขี้ยว!! “ผมอยากเก่งได้ครึ่งหนึ่งของพี่” เหมราชไม่ได้ล้อเล่น เขาอยากเก่ง อยากฉลาดเหมือนพี่ชาย แต่เขามันก็เป็นได้แค่ไอ้โง่ เพราะผู้หญิงหัวอ่อนคนเดียวเขายังถูกหล่อนหลอก ไม่คิดว่าใบหน้าหวานๆ ตาซื่อๆ จะถูกฉาบหน้าไว้ด้วยพิษร้ายๆ ของอสรพิษ “แกเป็นแบบฉันได้วะเหม แต่แกต้องลุกขึ้นยืน ไม่ใช่นอนทอดอาลัยอยู่แบบนี้ อีห่านั่นมันไม่สนคนปวกเปียกหรอก!! แกก็ต้องแกร่ง แล้วกลับไปเอาคืน” ในอนุสติของสิงหราช ไม่มีคำว่า ‘แพ้’ ใครดีมา เขาดีตอบ หากใครร้าย...มันจะได้ร้ายตอบนับสิบเท่า หากเพลี่ยงพล้ำ หลงกลคนชั่ว ชายหนุ่มจะถอยไปตั้งหลัก และกลับไปย้อนเกร็ดเอาคืน ให้พังกันไปข้างหนึ่ง สมยานามของสิงหราช คือ ‘สิงห์เถื่อน’ เขากัดไม่ปล่อย ฟัดไม่ยอมถอย หากจะพัง คนๆ นั้นต้องไม่ใช่เขา “เปี๊ยกๆ ไอ้เปี๊ยก พานายเหมไปอาบน้ำ หายาให้กินด้วย อากาศมันเย็น น้ำในบึงก็เย็นฉิบหาย” ฟันของเหมราชกระทับกันดังกึกๆ กักๆ เพราะอากาศช่วงเดือนธันวาคมมันเย็นยะเยือก น้ำในบึงไม่ต้องพูดถึง เหมือนโยนลงไปในบ่อน้ำแข็ง แต่เพราะความหวังดีของสิงหราช เขาอยากปลุกสติของน้องชาย ให้กลับเป็นผู้เป็นคน ไม่ใช่จมอยู่กับความผิดหวัง “ทำเองยังจะบ่น” เด็กชายวัยรุ่นบ่นอุบ เขาก้มหน้าหลบสายตา ‘ก็ใครจะกล้าสู้ตานายสิงห์ คนอะไรตาโหดฉิบหาย’ “กูให้มึงเฝ้านายเหมนะเปี๊ยก มึงเผลออีท่าไหน ปล่อยนายเหมรอดสายตา เกือบไปนะมึง” ชายหนุ่มยังคงบ่น ‘และเด็กหนุ่มวัยรุ่นก็นินทาในใจ นายสิงห์ทำเหมือนผู้หญิงสูงวัย เป็นป้าแก่ๆ บ่นไม่เลิก’ “อย่าให้กูรู้นะเปี๊ยก มึงแอบเล่นเกม...กูจะตัดอินเตอร์เนต ไม่ต้องล่ง ต้องเล่นมันล่ะ” ชายหนุ่มยังตะโกนขู่ ช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อ ต้องจับตามองเหมราชแบบไม่ให้คลาดสายตา เขาอยากจะมาเฝ้าเอง แต่เกรงว่าจะทำให้เหมราชอึดอัดใจเพราะมันเหมือนกดดันน้อง แถมงานในเหมืองก็ยุ่งวุ่นวาย วันๆ แทบจะไม่มีเวลาหายใจ แล้วอย่างนี้...จะมีเมียได้ยังไง อยู่แต่กับฝุ่นผง จนมองเห็นก้อนกรวด ก้อนดินสวยปานนางฟ้า “สัยหมดประจำเดือน...บ่นจัง ขู่ยังกับหมาแม่ลูกอ่อน” เด็กวัยรุ่นปวดตับ เผลอพักตาแปบเดี๋ยว น้องชายนายหวิดดับ... “นายเหม ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมหายาไว้ให้ กินกันหวัดจับ” เปี๊ยกกลายเป็นเบ้เต็มตัว เขาต้องคอยบริการนายหนุ่มทุกเรื่อง แต่เพราะบุญคุณที่สิงหราชมีให้ เปี๊ยกไม่เคยเกี่ยงงอน เขาเต็มใจทำเต็มกำลัง “เปี๊ยก ฉันดูน่าสงสารเหรอ?” เหมราชถามเด็กหนุ่มเสียงอ่อน เขานั่งคอตก ไม่อยากขยับตัวทำอะไรสักอย่าง แม้จะมีสติขึ้นมากกว่าเก่า “เรื่องปกติลวกเพ่...คนอกหักกะเป็นเงี้ยะทั้งนั้นแหละ จนกว่าจะหาคนใหม่มาดามใจได้” เปี๊ยกพูดเหมือนรู้ดี เพราะเด็กสมัยนี้ ล้ำหน้ากว่าเยอะ เมื่อเทคโนโลยี เข้ามาเยือน มีทุกอย่างใน Google อยากรู้อะไร อากู่บอกได้หมด...แม้แต่เรื่องที่ใครๆ ก็คิดว่ามันยาก แต่มักจะมีข้อมูลแฝงไว้ ให้คนทั่วไปสืบค้น ไม่แปลกหรอกหากเด็กจะรู้มากกว่าคนโต “ฉันรักใครไม่ได้อีกแล้ว ฉันรักเค้า” เหมราชเพ้อ ไม่มีใครทำให้เขาสุขฉ่ำได้เท่าเพลาพิลาศ หล่อนอ่อนหวาน เย้ายวน ลีลาของหล่อนตรึงใจ จนเขาหลงละเมอ “อย่าปากๆ นายเหม...เปี๊ยกเห็นมาหลายรายแล้ว เมาหัวทิ่มจะเป็นจะตาย พอเจอคนใหม่ แทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าตอนเมาเพ้ออะไรไว้บ้าง” เปี๊ยกแย้งเสียงหลง หนุ่มๆ ในเหมืองเกือบเป็นบ้าไปหลายคน หลังถูกจำปาแม่หม้ายสุดอึ๋มหักอก แต่พอมีคนงานสาวๆ เข้ามาใหม่ ก็ลืมจำปาเสียสิ้น และหากสาวเจ้าตอบรับ จำปาแทบจะหมดความหมาย “ฉันพูดจริงเปี๊ยก คอยดูสิ เค้าไม่รักฉันก็ช่าง แต่ฉันจะรักเค้าอยู่แบบนี้แหละ” เหมราชฉวยผ้าเช็ดตัวเนื้อนิ่มที่เปี๊ยกส่งให้เกือบเป็นกระชาก เขารักเพลาพิลาศและไม่มีทางเปลี่ยนใจ แม้หล่อนจะทิ้งเขาไปมีคนใหม่ แต่หัวใจรักของเขา จะยึดมั่นเหมือนเดิม...เขามั่นใจ... “เอาที่สบายใจเลยลวกเพ่...” เปี๊ยกยิ้มปากแทบฉีก แบบนี้หากเจอคนถูกใจ รับรองได้...ลืม... พอเหมราชหายลับเข้าไปในห้องน้ำ เปี๊ยกก็รีบเดินออกมานอกห้องนอน เพื่อเตรียมอาหารอุ่นๆ ไว้นายหนุ่มได้กินรองท้อง ก่อนจะกินยากันไข้ “เหมเป็นไงบ้าง...ดีขึ้นไหม?” แต่ก่อนที่เปี๊ยกจะกระโจนลงจากบ้าน สิงหราชร้องถามขึ้นเสียก่อน “เหมือนเดิมนาย เพ้อ...” เปี๊ยกหยุดตอบ ก่อนจะรีบวิ่งตื้อ เขาต้องรีบไปก่อนที่ครัวจะปิด ไม่อย่างนั้น ‘นายเหมได้ซดมาม่าแทนข้าวแน่’ สิงหราชทรุดกายลงนั่ง เขาล้วงซองกระดาษออกมาจากซอกอก ซองที่เขาสั่งให้คนรู้จักรวบรวมข้อมูลของเพลาพิลาศมาให้ เขาอยากรู้จักหล่อน อยากรู้ว่าหล่อนมีดีอะไร ทำไมเหมราชถึงหลงใหลหล่อนนัก แค่ผู้หญิงคนเดียว น้องชายเขายอมทุ่มจนหมดตัว แต่กลับพ่าย กลายเป็นนกปีกหักอยู่ตอนนี้ รูปถ่ายขนาดเท่าฝ่ามือ...ผู้หญิงหนึ่งเดียวในนั้น หล่อนสวยหยาดฟ้า หากแค่มองผ่านๆ แต่เมื่อพิจารณาจริงจัง หล่อนปรุงแต่งจริตจนเย้ายวน แววตามีแต่เล่ห์เพทุบายไม่ต่างอะไรกับอสรพิษ ไม่น่าเฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ วงหน้างดงามนั่น ดูก็รู้ว่าผ่านมีดหมอมาทุกส่วน เพราะสัดส่วนที่จัดวางอยู่บนใบหน้ามันเป๊ะ!! เกิน จนทำให้มั่นใจ หล่อนคือผู้หญิงพลาสติก หามีเนื้อแท้สักกะผีก ทรวดทรงหล่อนเตะตาก็จริง เขาไม่เถียง แต่หุ่นแบบนี้มีให้เกลื่อนบนถนน นมล้ำหน้าพุง เพราะเสริมมาเพื่อเรียกสายตาคนมอง “หึ!! ไอ้ห่าเหมหลงหล่อนได้ยังไงวะ กูแค่มองยังจะอ้วก” สิงหราชอยู่ไกลปืนเที่ยงก็จริง แต่ในดินแดนห่างไกลความเจริญก็ใช่ว่าจะไม่มีช้างเผือก สาวๆ สวยๆ มีเยอะแยะ แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะชื่นชมด้วยสายตา เขาไม่มีเวลาไปตามเกี้ยวพา แต่หากจะปล่อยอารมณ์หนุ่มที่อัดแน่น เขาก็มีสถานที่ส่วนตัว ผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ด้านหลงเพลาพิลาศ หล่อนสวยพิศชวนมองมากกว่า แม้จะเห็นไกลๆ สิงหราชเผลอมองอยู่นานจนเผลอใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้กรอบหน้าหล่อนเล่นๆ จนมาสะดุ้งเมื่อเปี๊ยกวิ่งตึงตังกลับขึ้นมาบนบ้าน “เกือบไม่ทันอะนาย ดีนะป้าฟองเก็บปิ่นโตไว้ให้นายสิงห์ เปี๊ยกเลยหอบมาที่นี่เลย” ปิ่นโตเถ้าใหญ่ มีข้าวสวยร้อนๆ หรือไม่ก็ข้าวนึ่ง แล้วแต่ว่าเมนูวันนั้นคืออะไร “มีแกงเลียงกับผัดเผ็ดไก่ ไม่รู้ว่านายเหมจะกระเดือกลงไหม ป้าฟองทำโคตรเผ็ด” เปี๊ยกบ่นอุบ รสมือของคำฟองเด็ดสะระตี่ แต่คนไม่ชินแทบโจน เมื่อจำนวนพริกที่คำฟองโยนใส่ลงไปในหม้อแกง เวลาผ่านปากแทบไฟลุก “คำพูดคำจาให้มันดีๆ หน่อย เราเป็นเด็กนะเปี๊ยก” สิงหราชแย้งเสียงขุ่น สงสัยเขาจะเป็นกันเองกับเปี๊ยกมากเกินไป จนเด็กหนุ่มพูดจาห่ามๆ ให้ได้ยิน “โทษทีนาย เปี๊ยกจะไม่พูดอีก มันชินปากน่ะ” เปี๊ยกหันมาขอโทษขอโพย มือจัดปิ่นโตมือเป็นระวิง เพราะหากเสร็จภารกิจ เปี๊ยกจะได้มีเวลาเล่นเกมยาว...เมื่อไวไฟพร้อม งานง่ายๆ เฝ้าคนอกหัก มีข้าวกิน ได้ค่าจ้าง อย่างนี้ไอ้เปี๊ยกทำถวายหัว ผัดเผ็ดไก่สีจัดสมกับเป็นฝีมือป้าคำฟอง แกงเลียงอุดมไปด้วยผักสีเขียว...ที่เปี๊ยกมองเห็นแล้วอยากหนี เขาไม่ชอบกินผัก แต่ทำไมนะผู้ใหญ่ถึงชอบบังคับให้กิน...เปี๊ยกรู้ว่าผักมีประโยชน์สารพัน แต่เข้าใจเด็กไหม? มันไม่ใช่แนว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD