02

1290 Words
ข้าวใหม่ปลามัน ของใหม่ย่อมน่าพิสมัยกว่า สัจธรรมข้อนี้ฉันเข้าใจดี แม่พิกุลคือบ่าวคนที่ล่าสุดที่รับใช้คุณพี่ เมื่อต้องจากไปทั้งที่ยังเสพรสสวาทได้ไม่เต็มคราบ ย่อมมีความหมายมาดว่าจะกลับมาสานต่อสิ่งที่คั่งค้างไว้ แม้คืนแรกนั้นคุณพี่จะไม่ได้ค้างเรือนบ่าวของพิกุล (เมื่อบ่าวสาวคนไหนได้รับใช้คุณพี่ และมีแนวโน้มว่าอาจได้รับใช้ไปยาวๆ พวกเจ้าหล่อนจะได้ย้ายไปเรือนบ่าวอีกที่ ซึ่งมีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน สะอาดสะอ้าน ถูกจัดเตรียมไว้เผื่อคุณหลวงไปหา) หลวงอัฐขึ้นมาค้างบนเรือนในกลางดึก แต่ก็ไม่ได้เข้ามาที่ห้องฉันอยู่ดี แช่มมารายงานว่าคุณพี่ไปค้างกับแม่บุหลัน สาวน้อยร้อยชั่งที่แสนจะมีเสน่ห์ ช่างออดอ้อนและเอาอกเอาใจเก่งที่สุด คืนที่สอง คุณพี่ไปค้างกับน้องสารภี นอกจากน้องวิมาลาที่เป็นเมียรอง และคอยช่วยงานในเรือนฉันได้ทุกอย่าง ในบรรดาเมียของคุณพี่ ฉันก็สนิทกับน้องสารภีที่สุดแล้ว ฉันยินดีที่พี่อัฐจะเลือกไปหาน้องสารภีบ้าง หญิงสาวผู้นี้เป็นคนเรียบร้อย สนิมสร้อย พูดน้อยเสียงเบา จะถนัดรับฟังมากกว่า ที่สำคัญคือเอาอกเอาใจคุณพี่ไม่เก่ง สารภีจึงได้ปรนนิบัติคุณพี่น้อยมาก เมื่อเทียบกับเมียคนอื่นๆ ครึ่งปีที่ผ่านมา ฉันคะนึงหาแต่พี่อัฐ จะกินจะนอนก็นึกถึงรอยยิ้มของเขาไว้ แม้รอยยิ้มทั้งหลายนั้น แทบจะไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันเลย ที่ฉันต้องทำเช่นนั้น เพราะเกรงว่าสักวันอาจจะลืมหน้าพี่อัฐไปแล้วจริงๆ “ให้ตั้งสำรับเช้าเลยหรือไม่เจ้าคะคุณสร้อย” เสียงเรียกของแช่มทำให้ฉันได้สติ ‘สร้อย’ คือชื่อของฉัน ที่ผู้คนเรียกย่อมาจาก สร้อยสุดา แต่หามีคำเรียกขานใดไพเราะและมีความหมายสำหรับฉันเท่า ‘แม่สร้อย’ ที่ออกมาจากปากของพี่อัฐ ฉันคือแม่สร้อยของคุณพี่ คือเมียเอกเพียงหนึ่งเดียวของ คุณหลวงอัฐ บดินทรเดชา เป็นเมียที่ถูกต้องตามจารีต ขนบประเพณี เป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วพระนคร และเป็นเมียเพียงคนเดียว ที่มีศักดิ์และสิทธิ์ได้ออกงานคู่เคียงคุณพี่ “ฉันฝากแช่มไปดูให้ทีนะจ๊ะว่าคุณหลวงตื่นหรือยัง ถ้าท่านตื่นแล้ว ก็เตรียมตั้งสำรับได้เลยจ้ะ” แช่มเป็นสาวรับใช้ที่ตามมาจากบ้านเดิมพร้อมฉัน “แล้ววันนี้คุณสร้อยจะไม่รับสำรับเช้าหรือเจ้าคะ” แช่มรู้ใจฉันเสมอ แค่เห็นสีหน้าท่าทางของฉัน กับทิศทางที่ฉันเดินไป จุดหมายก็คือห้องส่วนตัวนั่นเอง แช่มก็รู้แล้วว่าวันนี้ฉันไม่มีอารมณ์แม้จะรับข้าว “สร้อยรู้สึกมึนๆ หัวน่ะแช่ม อยากเข้าไปนอนพักสักครู่” “ตายแล้ว ! แล้วนี่คุณสร้อยปวดมากมั้ยคะ ให้บ่าวสักคนไปรับท่านหมอยา ดีหรือไม่เจ้าคะ” ฉันโบกมือบอกปัดแช่มว่าไม่ต้องทำสิ่งใด ฉันแค่อยากพักผ่อนอยู่เงียบๆ จากทุกสิ่งที่แบกไว้จนหนักอึ้งแทบหายใจไม่ออก ที่สำคัญเลยคือไม่อยากต้องปั้นหน้ายิ้มแย้ม เสแสร้งเป็นคนดี ไม่อิจฉาริษยาเวลาเมียคนอื่นๆ คอยพะเน้าพะนอเอาใจคุณพี่ในวงสำรับ “โถ คุณหนูสร้อยของแช่ม แช่มเตือนก็ไม่เคยจะฟังกันบ้าง งานบ้านงานเรือน ไหว้วานฝากฝังใครได้ก็ทำเถอะค่ะ คุณสร้อยจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่คนเดียว” “ให้คนอื่นทำ สร้อยไม่วางใจ” “ไหนจะรับผิดชอบคนทั้งเรือน ไหนจะต้องปรนนิบัติคุณหลวงอีก บ่าวละกลัวสักวันคุณสร้อยจะทนไม่ไหว เหมือน...” แช่มยั้งปากไว้ ซึ่งดีแล้ว พูดกับฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่หากคุณพี่หรือใครบังเอิญผ่านมาได้ยินเข้า แล้วเอาไปฟ้องจนถึงหูคุณพี่เข้า เรื่องราวคงบานปลาย เพราะเป็นที่รู้กันว่าเรื่องราวของเมียคนก่อนอย่าง คุณพี่ สุรีย์พร เป็นเรื่องต้องห้ามของเรือนหลังนี้ “ยังไงเมียอย่างสร้อย ก็ได้ปรนนิบัติคุณพี่น้อยกว่าคนอื่นอยู่แล้วนี่จ๊ะแช่ม ก็ถือซะว่าให้สร้อยช่วยแบ่งเบาภาระอย่างอื่นของคุณพี่ท่านเถอะ” แช่มรู้ดีว่าในถ้อยคำดูดี น้ำเสียงหวานชื่นหู รอยยิ้มจืดจางของนายสาว แฝงไว้ซึ่งความน้อยเนื้อต่ำใจ ซึ่งใครๆ ก็คงมองออกไม่ยาก นอกจากคุณหลวงที่ไม่เคยมองเห็นมันเลย... แต่ถึงอย่างไร แช่มก็จำเป็นต้องถาม “เอ่อ แล้วไม่ทราบว่าวันนี้คุณหลวงพำนักอยู่ที่ห้องคุณนายคนไหนหรือเจ้าคะ” “ห้องแม่วิมาลาน่ะจ้ะ” “รับหลนเต้าเจี้ยวสักคำนะคะคุณพี่ น้องแนมผักเป็นคำๆ ให้” “ต้มปลาร้าหัวลูกตาลก็เคี้ยวกรุบ รสหวานกำลังดี ทำให้รับข้าวได้มากค่ะคุณพี่” “บุหลันว่าคุณพี่ต้องรับจานนี้เยอะหน่อยนะคะ คืนนี้จะได้คึกคัก” เมียคนสุดท้อง ที่มาทีหลังสุดอย่างบุหลัน บรรจงตักซี่โครงทอดกระเทียมวางไว้ในจาน ข้างข้าวขาวราวดอกมะลิของผัว โดยเน้นกระเทียมเป็นพิเศษ อัฐรับทุกอย่างที่บรรดาเมียๆ ตักมาให้ พอเห็นว่ากับข้าวกับปลาเริ่มล้นจานจนกินไม่ทัน ถึงได้บอกให้ทุกคนพอก่อน “แล้วคุณสร้อยไปไหนซะล่ะแช่ม” ท่านถามหาเมียเอก “เห็นบอกว่าเช้านี้ไม่อยากข้าวปลาน่ะค่ะคุณท่าน” แช่มไม่บอกซะหรอกว่านายสาวบ่นเวียนหัว เดี๋ยวคุณหลวงก็ให้บ่าวไปตามหมอยามาดังเช่นครั้งก่อนๆ คงคิดว่าทำเช่นนี้คุณสร้อยของเธอจะหลงใหลได้ปลื้ม เพราะที่จริงแล้ว คนที่ได้ชื่อว่าเมีย ก็แค่อยากให้ผัวสนใจ ถามไถ่ดูแลเองมากกว่า “แม่สร้อยนี่ยังไง ต่อให้ไม่อยากก็ควรออกมากินสักคำสองคำ ให้พอท้องไม่ว่างก็ยังดี ต่อให้ไม่นึกถึงตัวเองก็น่าจะคิดถึงฉันบ้าง หายไปเช่นนี้ คนจะคิดเอาได้ว่าล้มหมอนนอนเสื่อ ฉันดูแลเมียไม่ดี” “หรือคุณพี่สร้อยจะไม่สบายจริงๆ คะ” สารภีเสนอความคิดเห็น ในบรรดาเมียของคุณหลวง แม่หญิงผู้นี้เรียบร้อย อ่อนหวาน และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นที่สุดแล้ว “แม่สร้อยไม่สบายรึแช่ม” “บ่าวมิรู้ได้ดอกเจ้าค่ะ ถ้าคุณหลวงใคร่รู้ก็คงต้องไปดูด้วยตนเอง บ่าวมันก็แค่คนรับใช้ นายบอกไม่อยากให้ใครรบกวน บ่าวรึจะกล้าเข้าไปยุ่มย่าม” “ฝีปากกล้าตลอดเลยนะแช่ม” อัฐมิได้เอ็ดอะไรแช่มจริงจังนัก เหตุเพราะเห็นกันมานานนม ถึงไม่ใช่บ่าวในเรือนมาแต่ต้น แต่ก็แทบไม่ต่าง “อ้าว คุณพี่อิ่มแล้วหรือคะ” “จ้ะ พวกน้องๆ กินกันไปเลย เดี๋ยวพี่ว่าจะเข้าไปดูแม่สร้อยสักหน่อย ล้มหมอนนอนเสื่อขึ้นมาจริงๆ จะได้รักษาให้เป็นเรื่องเป็นราว แม่สร้อยยิ่งปากแข็งอยู่ด้วย ต้องให้เป็นหนักนั่นแหละ ถึงจะยอมปริปาก” แช่มยิ้มตาม คุณหลวงอัฐก็เป็นแบบนี้เสมอ ต่อให้จะมีเมียมาก คารมคมคายเป็นต่อ แม้มีศรีภรรยาอยู่แล้วถึง ๗ คน ไม่รวมเมียบ่าวที่ได้ขึ้นมารับใช้เป็นครั้งคราว ก็ยังมีแม่หญิงทั่วทั้งพระนครหมายปองในตัวท่านตลอดเวลา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD