EP.20 [ห้ามยุ่ง]

1189 Words
ฉันเผลอกัดปากตัวเองเต็มแรงขณะฟังทุกคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากหนา นั่นคือการขอเป็นแฟนของเขางั้นเหรอ? ไม่สิ… ไม่ใช่หรอก ฉันมั่นใจว่านั่นไม่ใช่การขอเป็นแฟนแน่ ๆ แต่มันเป็นการประกาศสงครามประสาทกลาย ๆ ของโลกิมากกว่า ผู้ชายสวมหน้ากากอย่างเขาน่ะเหรอจะพูดอะไรออกมาตรง ๆ แบบนี้ ไม่มีทาง… ฉันไม่หลงกลเขาง่าย ๆ หรอก! โลกิไม่ได้ชอบฉัน นั่นมันแค่การอยากเอาชนะ เหมือนเด็กน้อยที่ไม่ได้ดั่งใจแล้วก็พาล เขาถึงต้องการให้ฉันเป็นผู้หญิงของเขาไง ไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ เขาถึงวุ่นวายกับฉันไม่ยอมเลิกแบบนี้ “ผู้หญิงของรุ่นพี่งั้นเหรอคะ? รุ่นพี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ” ฉันเดินหนีออกมาโดยไม่สนใจโลกิอีกต่อไป ขืนฉันยังยืนอยู่ต่ออีกสักวินาที ฉันได้อึดอัดตายเพราะสายตาคม ๆ ของเขาแน่! ยัยเฟรย์ที่กำลังยืนรออยู่หน้าประตูทางออกทำท่าอึกอักเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันคว้าแขนมันไว้แล้วพาลากเดินออกมาจากที่นั่นทันที เสียงตะโกนเรียกของพี่ฌอนดังตามหลังมาแว่ว ๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันเร่งฝีเท้ามากขึ้นกว่าเดิม น่ารำคาญชะมัดเลย… ทำไมชีวิตฉันต้องพบเจอกับผู้ชายบ้า ๆ พวกนี้ด้วยละเนี่ย! . . . หลังจากทั้งสองสาวผลุนผลันออกไปจากห้องโถงของชมรม ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีโกเมนยืนเกาหัวเก้อ ๆ ทอดสายตามองตามหลังร่างบอบบางของน้องสาวตัวเองตาละห้อยราวกับลูกหมาหงอยถูกทิ้ง “อะไรง่ะ… ทำไมไม่รอกลับพร้อมพี่ล่ะเฌออออ” ฌอนเบะปากอย่างขัดใจหน่อย ๆ ก่อนหันกลับมาเห็นร่างสูงของเพื่อนรักเดินออกมาจากล็อกที่น้องสาวตัวเองวิ่งออกมาพอดี จากนัยน์ตาลูกหมาถูกทิ้งเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นมัจจุราชไฟลุกพรึ่บในทันที “มึง… ไอ้โลกีย์! ทำไมมึงออกมาจากล็อกนั้นวะ?! หรือว่ามึงเข้าไปทำอะไรองค์หญิงน้อยของกู?!” คนถูกถามไม่ตอบอะไร ทำเพียงปรายตามองว่าที่พี่เขยด้วยสายตาเยาะหยันก่อนเดินล้วงกระเป๋าผิวปากออกจากห้องไปอีกคน ฌอนที่กลายเป็นลูกหมาถูกทิ้งอีกครั้งถึงกับอ้าปากค้างยกนิ้วขึ้นชี้แผ่นหลังกว้าง ๆ ของเพื่อนรักเพื่อนชังด้วยมือสั่น ๆ “หะ เฮ้ย! เดี๋ยวสิเว้ย! คิดจะหนีกูเหรอไอ้เวรนี่! ตอบมาเดี๋ยวนี้นะโว้ยยยย!” เขาวิ่งตามหลังโลกิจนทัน ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าชมรมซึ่งมีนักศึกษากำลังทยอยกันกลับบ้าน ฌอนส่ายสายตามองหาน้องสาวตัวเองที่เพิ่งเดินออกมา เมื่อไม่เจอร่องรอยของเธอเขาก็หันกลับมากระชากปกเสื้อช็อปสีเลือดหมูเข้มของโลกิแรง ๆ แต่ก็ไม่แรงพอที่โลกิจะสะบัดมันไม่หลุด “ทำไรของมึงเนี่ย เสื้อยับหมด” คนถูกกระชากปกเสื้อตวัดตามองคนข้าง ๆ ที่ถลึงตามองเขาอยู่เช่นกัน “กูดิถามมึงอยู่ เดินหนีทำเชี้ยไร?” ฌอนทำหน้าขึงขัง บ่งบอกว่าเขาจริงจังกับสิ่งที่ถามมาก เขารู้จักนิสัยของโลกิดี ดีชนิดที่เรียกได้ว่ารู้ลึกยันสันดานเลยทีเดียว คนอย่างโลกิ ภายนอกมักใส่หน้ากากเทพบุตรผู้แสนดี มีรอยยิ้มอ่อนโยน อบอุ่น แต่ตัวตนที่แท้จริงนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ราวเทวากับซาตานก็ไม่ปาน โลกิจึงจัดอยู่ในประเภทที่ควรอยู่ห่างจากน้องสาวเขามากที่สุด อยู่กันคนละขั้วโลกได้ยิ่งดี “ตกลงยังไง? เมื่อกี้มึงไม่ได้ทำอะไรองค์หญิงน้อยของกูใช่มะ?” “หึ แล้วมึงอยากให้กูทำไรล่ะ?” “ตอบดี ๆ ดิวะ! อย่ากวนตีน! กูจริงจังอยู่นะโว้ย!” ฌอนโวยวายอย่างหัวเสีย ต่างจากโลกิที่ดูอารมณ์ดีจนเกินเหตุ “กูพูดจริงนะมึงไอ้โลกิ มึงก็รู้ว่ากูรักยัยนั่นมาก กูห่วงยิ่งกว่าตัวกูเองอีก เพราะงั้นมึงห้ามยุ่ง” โลกิเดาะลิ้นอย่างไม่สนใจจะรับฟัง จนกระทั่งเดินมาถึงลานจอดรถหน้าคณะวิศวะฯ เขาจึงหยุดเดินแล้วเอี้ยวตัวกลับไปมองฌอนซึ่งเดินตามมาราวกับเป็นวิญญาณตามติดก็ไม่ปาน “มึงอย่าโอเว่อร์นักเลยไอ้ฌอน สักวันน้องสาวมึงก็ต้องมีแฟน จะมาทำตัวเป็นจงอางหวงไข่ไปตลอดชีวิตแบบนี้ไม่ได้” โลกิเปิดปากพูดอย่างจริงจังบ้าง เพื่อแสดงให้ฌอนเห็นว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้มาเล่น ๆ “เออ กูรู้! กูรู้ดีว่าสักวันองค์หญิงน้อยของกูก็ต้องมีแฟน” ฌอนเบะปากเหมือนจะร้องไห้ตอนพูด ในหัวจินตนาการภาพของน้องสาวสุดรักสุดหวงอยู่ในอ้อมแขนผู้ชายคนอื่นนอกจากพ่อและพี่ชายผู้แสนดีอย่างเขา แค่คิดเขาก็อยากจะกระอักเลือดออกมาแล้ว รับไม่ได้สุด ๆ “สักวันยัยนั่นก็ต้องมีผัว เออ… กูหมายถึงก็ต้องแต่งงาน” โลกิเปลี่ยนคำพูดใหม่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนักเมื่อโดนสายตามัจจุราชถลึงใส่ “มึงจะย้ำทำเชี้ยไรไอ้ห่า! กูรู้ดีเว้ย! ไม่ต้องย้ำ! แต่! มึงเข้าใจไหมว่ามันคืออนาคตเว้ย! อนาคตที่มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้!” โลกิกลอกตาใส่คนที่พยายามหลอกตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างฌอน ยอมรับว่าเขากำลังสนใจเฌอแตมอยู่มากก็จริง แต่ก็หนักใจในความซิสค่อนโอเว่อร์ของพี่ชายเธอไม่แพ้กัน “ไม่รู้โว้ย! อนาคตก็คืออนาคต เพราะงั้นเวลานี้กูจะปกป้ององค์หญิงน้อยของกูอย่างสุดชีวิต ไม่ยอมให้ไอ้ลูกหมาตัวไหนมาเข้าใกล้เด็ดขาด!” “ดีนะกูเป็นเสือ” “มึงว่าไงนะ?” เพราะฌอนมัวแต่โวยวายจึงไม่ทันได้ฟังสิ่งที่โลกิพูด พอหันมาถามก็พบกับรอยยิ้มอ่อนไม่น่าไว้ใจส่งมา “ไม่รู้เว้ย! ยังไงก็ตาม มึงห้ามยุ่งกับองค์หญิงของกูเด็ดขาด!” “แล้วถ้ากูจะยุ่ง?” คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างหยั่งเชิง ฌอนชะงักไปเล็กน้อยก่อนชึ้หน้าอาฆาตใส่โลกิ “ก็ข้ามศพกูไปก่อนไงไอ้เวร!!” “เออ งั้นมึงก็รีบ ๆ ตายนะ” โลกิเปิดประตูแล้วแทรกตัวนั่งหลังพวงมาลัยก่อนปิดประตูดังปังโดยไม่ลืมหยิบแว่นมาใส่แล้วกดกระจกรถลงเพื่อเหลือบตาขึ้นมองร่างสูงที่ยังยืนนิ่งอยู่ข้างรถสปอร์ตคันหรูของเขา มุมปากแสยะยิ้มร้ายกาจขนาดที่คนมองอย่างฌอนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ “เพราะว่าตอนนี้…” “…” “กูสนใจองค์หญิงน้อยของมึงมาก ๆ เลยว่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD